ตอนที่แล้วตอนที่ 3 เข้าตำหนักอ๋องอวี้ครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ชายผู้สิ้นหวัง

ตอนที่ 4 พบท่านอ๋องผู้ไร้ค่าเป็นครั้งแรก


ตอนที่ 4 พบท่านอ๋องผู้ไร้ค่าเป็นครั้งแรก

ลั่วหลานเพียงแค่ยกยิ้มอ่อนที่มุมปาก นัยน์ตาสดใสของนางมองไปด้านข้าง “บางทีท่านอาจจะไม่สิ้นพระชนม์ก็ได้ไม่ใช่หรือเพคะ?”

เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ฉางกุ้ยเฟยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจ

“อืม!”

นางยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาที่หางตา

“อาการของเขาเลวร้ายกว่าที่เจ้าคิดไว้มาก แต่ถ้าเจ้าเตรียมใจไว้ล่วงหน้าได้ ข้าก็โล่งใจ ข้าไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่แต่งงานกับเขาในตำหนักนี้ เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องความตายทั้งวัน ข้าจึงมาคุยกับเจ้าเช่นนั้น เพราะข้าเห็นว่าเจ้าเป็นเด็กที่มีเหตุผล หากเจ้าเต็มใจ สามารถแต่งงานได้ในวันพรุ่งนี้เลย”

พรุ่งนี้หรือ?

มันเร็วกว่าที่คิดไว้ แต่นางไม่สนใจ นางได้เข้ามาในตำหนักแล้ว จึงไม่สำคัญว่านางจะได้แต่งงานวันใด

อาสะใภ้กลับบ้านอย่างมีความสุข พร้อมเงินตอบแทนพันตำลึง ส่วนสุ่ยลั่วหลานอาศัยอยู่ในวังหลวง

ภายในชั่วข้ามคืน นางจะกลายเป็นเจ้าสาวของชายที่กำลังจะตาย บางทีนางอาจไม่จำเป็นต้องเข้าห้องเจ้าสาวด้วยซ้ำ

นึกได้ดังนั้น นางก็หยิบกลีบดอกไม้ในอ่างอาบน้ำ แล้วใช้ปากเป่ามันออกไปซ้ำ ๆ นางรู้สึกว่าชีวิตก็เป็นเช่นนี้ เมื่อวันก่อน นางทำงานทั้งวันทั้งคืนที่โรงพยาบาล พอมาวันนี้ นางกำลังจะกลายเป็นพระชายา ที่ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่ก่อนยุคที่นางเคยอาศัยอยู่ตั้งกี่ปี

หลังจากอาบน้ำเสร็จ นางพร้อมจะนอนหลับสบาย เตียงในตำหนักนี้นุ่มสบายมาก แม้แต่ผ้าห่มก็นิ่มไม่ต่างจากผ้าห่มที่นางใช้ห่มในชาติที่แล้ว แต่บาดแผลเก่าบนร่างกายของนาง ยังทำให้รู้สึกเจ็บอยู่นิดหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะครีมหงซวง คืนนี้นางคงนอนไม่หลับ

ทันทีที่แสงยามเช้าส่องเข้ามาในห้อง นางก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง ทันใดนั้นมีเสียงคนเรียกนาง

“พระชายา พระชายา...”

เพียงชั่วข้ามคืน นางกลายเป็นพระชายาแล้วหรือ?

นางลืมตาด้วยความง่วงงุน มองหญิงสาวที่เรียกนาง แล้วถามว่า “มีอันใด?”

“พระชายา ถึงเวลาตื่นแล้วเพคะ วันนี้เป็นวันพิเศษของท่าน ท่านอ๋องกำลังรออยู่เพคะ”

มีความโศกเศร้าในดวงตาของหญิงสาว ลั่วหลานรู้ดีว่าแม้แต่แม่สาวน้อยคนนี้ก็ยังเห็นอกเห็นใจนาง

นางยิ้มแล้วพยักหน้า ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง “เจ้ามีนามว่าอันใด?”

หญิงสาวตอบเสียงเรียบ:

“บ่าวมีนามว่าหรูอี้ ฉางกุ้ยเฟยสั่งบ่าวให้มารับใช้พระชายา จากนี้ไปไม่ว่าพระชายาจะต้องการสิ่งใด สามารถเรียกบ่าวได้ทุกเมื่อเลยเพคะ”

ปรากฏว่าเป็นฉางกุ้ยเฟยที่จัดคนไว้ให้ ดูเหมือนว่าจะยังคงเป็นห่วงนางอยู่บ้าง

แต่ลั่วหลานไม่สนใจ หลังจากที่นางลุกขึ้นจากเตียง นางก็ปล่อยให้หญิงสาวเหล่านี้อาบน้ำแต่งตัวให้นาง

พิธีอภิเษกพระชายาในวันนี้เรียบง่ายเป็นพิเศษ นอกจากผ้าไหมสีแดงสองสามผืนที่ตกแต่งตำหนัก ก็ไม่มีอันใดอื่นอีกแล้ว ไม่มีแม้แต่แขกคนใดเลย นางแอบถอนหายใจในใจ นี่เป็นการเสียเวลาจริง ๆ ท่านอ๋ององค์นี้คงใกล้ตายแล้ว เขาไม่อยากให้ใครมาร่วมแสดงความยินดี แม้แต่บิดาผู้ให้กำเนิดอย่างฮ่องเต้ และมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างฉางกุ้ยเฟยก็ไม่ได้มา

นางไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้าด้วยซ้ำ เพียงแค่สวมชุดแต่งงาน แล้วถูกเหล่าสาวใช้พาไปส่งยังห้องของท่านอ๋อง

ระหว่างทาง ลั่วหลานกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แม้ว่าตำหนักจะใหญ่โตกว้างขวาง แต่มีสมาชิกน้อยมาก ดูเหมือนว่าจะมีคนรับใช้ไม่เยอะเท่าท่านอ๋องหรือขุนนางคนอื่น ๆ

แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนัก คนกำลังจะตาย จะมีคนรับใช้มากมายไปเพื่ออันใด?

ก่อนเข้าประตู หรูอี้เลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดด้วยสีหน้าฝืนยิ้ม:

“พระชายา ฉางกุ้ยเฟยรับสั่งไว้ว่าเมื่อท่านเข้าไปในประตูนี้ ท่านจะไม่มีทางเสียใจ นางจะไม่ปฏิบัติต่อท่านและครอบครัวอย่างเลวร้ายแน่นอนเพคะ”

จากประโยคนี้ ลั่วหลานรู้สึกได้ว่าท่านอ๋องในห้องนั้นต้องไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นหรูอี้คงไม่พูดเช่นนี้ออกมา ดูเหมือนว่าตอนนี้นางไม่มีทางหันหลังกลับแล้ว ต่อให้นางจะเสียใจ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ลั่วหลานเพียงแค่เม้มปาก แล้วคลี่ยิ้มจาง นัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความลึกล้ำที่ไม่มีใครสามารถมองผ่านได้

นางพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่ง แม้ว่าคนที่อยู่ในห้องจะน่าเกลียด และดุร้ายราวกับสัตว์ประหลาด แล้วอย่างไรล่ะ?

นางไม่สนใจหรูอี้อีก ยกมือผลักประตูให้เปิดออก เมื่อนางก้าวเข้าไป ประตูก็ปิดลงทันที ราวกับว่าคนข้างนอกกลัวว่านางจะหนีไปได้

นางไม่ได้มองย้อนกลับไปที่ประตู ที่ขวางกั้นนางออกจากอิสรภาพ แต่กวาดสายตามองห้องแปลก ๆ นี้

การออกแบบห้องโดยรวมค่อนข้างเรียบง่ายและหรูหรา แสงจากหน้าต่างแกะสลักหลายบานส่องลงบนโต๊ะ ทำให้มองเห็นฝุ่นหนาเตอะบนโต๊ะได้ชัดเจน แม้ว่าจะมีกลิ่นไม้จันทน์จาง ๆ อยู่ในห้อง แต่ก็ถูกกลบด้วยกลิ่นอื่นจนเกือบหมด

หลังจากก้าวเข้าไปได้ไม่กี่ก้าว เตียงขนาดใหญ่ที่ถูกแกะสลักเป็นลวดลายอันวิจิตรงดงาม พลันปรากฏในสายตา เตียงนั้นค่อนข้างเลอะเทอะไปด้วยคราบสกปรก คนบนเตียงนอนนิ่งเงียบราวกับศพ น่าจะไม่สังเกตเห็นว่านางเข้ามาแล้ว

ลั่วหลานกลั้นใจเดินเข้าไป เมื่อนางอยู่ห่างจากเตียงในระยะที่เหมาะสม นางก็ถอนสายบัวทำความเคารพ

“ท่านอ๋อง ข้าคือสุ่ยลั่วหลาน พระชายาของท่านเพคะ”

ไม่มีเสียง ไม่มีคำตอบ ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ

จู่ ๆ นางก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ชีวิตนางคงไม่รันทดถึงเพียงนั้นใช่หรือไม่? หลังจากแต่งงานแล้ว ท่านอ๋ององค์นี้ก็ตายเลยหรือ?

นางนึกได้เช่นนั้นก็กัดริมฝีปากแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ที่วิตกกังวล จากนั้นค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเตียง

เมื่อเห็นคนบนเตียงชัดเจน นางก็ต้องปิดปากด้วยความตกใจทันที

ยังเรียกว่าคนได้หรือไม่? ใบหน้าของเขาซีดเผือด มีบาดแผลที่ใบหน้าซีกซ้าย เปลือกตาปิดสนิท ร่างกายผ่ายผอมมากเสียจนเห็นกระดูกปูดโปน แม้จะยังได้ยินเสียงหายใจอันแผ่วเบา แต่เขาก็ไม่ต่างจากคนตาย

อาการของท่านอ๋องแย่กว่าที่นางคิดไว้มาก นางสูดหายใจเข้า แล้วเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา:

“ท่านอ๋อง...”

ยังไม่มีการตอบสนอง แต่นางรู้สึกได้ว่านิ้วของท่านอ๋องขยับ ดูเหมือนว่าเขาจะยังมีสติอยู่

นางเข้าไปใกล้อีกสองสามก้าว ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นแปลก ๆ โชยออกมา มันคือกลิ่นอุจจาระของมนุษย์ใช่หรือไม่?

นางขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ แล้วค่อย ๆ เปิดผ้าห่มผ้าที่คลุมร่างเขาไว้ จากนั้นนางก็ได้รู้ว่าร่างกายส่วนล่างของเขาเปลือยเปล่า ใต้ร่างมีแต่สิ่งสกปรก ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือเนื้อต้นขาของเขาเปื่อยเน่า

เมื่อเห็นทั้งหมดนี้ นางก็รีบเดินไปที่ประตู เมื่อนางเปิดประตูแล้วเห็นหรูอี้กับเหล่าสาวใช้ ทันใดนั้นความโกรธของนางก็ปะทุขึ้น นางถามด้วยน้ำเสียงเข้มงวด

“คนดูแลอยู่ที่ใด? เหตุใดไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เขา? เหตุใดไม่ทำความสะอาดให้เขา?”

เหล่าสาวใช้ทุกคนรีบก้มหน้าลง ปิดปากเงียบ หรูอี้ก้าวออกมาข้างหน้า แล้วตอบว่า:

“กราบทูลพระชายา คนเหล่านี้เป็นสาวใช้เพียงกลุ่มเดียวในตำหนัก พวกนางมีหน้าที่ทำความสะอาดลานด้านนอกเท่านั้น ไม่สะดวกที่จะรับใช้ท่านอ๋องอย่างใกล้ชิด จึงต้องเชิญพระชายามา นับจากนี้เป็นต้นไป ท่านอ๋องอยู่ในความดูแลของพระชายาเพคะ”

ลั่วหลานมองนางด้วยความประหลาดใจ นางขมวดคิ้วชี้หน้าตัวเอง แล้วถามว่า

“เจ้าบอกว่า... ให้ข้ารับใช้ท่านอ๋องหรือ? แล้วสาวใช้อย่างพวกเจ้าทำอันใด? ให้ข้าอภิเษกเข้ามาเป็นพระชายาหรือเป็นสาวใช้กันแน่?”

หรูอี้ถอนหายใจเบา ๆ แล้วตอบด้วยเสียงเย็นชา:

“บ่าวเคยบอกแล้วว่าให้ท่านเตรียมจิตใจให้พร้อม หากอาการของท่านอ๋องไม่เลวร้ายนัก คนคงแย่งกันอภิเษกเข้ามาเป็นพระชายาในตำหนักท่านอ๋องไปแล้ว ท่านจะได้เป็นได้อย่างไร? พูดตามความจริงคือฉางกุ้ยเฟยเองก็ทราบดี ว่าท่านอ๋องมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ได้มีการรับสั่งให้จัดเตรียมงานศพของท่านอ๋องแล้ว ดังนั้นก็ขอให้พระชายาโชคดีเพคะ”

หลังจากทิ้งถ้อยคำนี้ไว้ หรูอี้ก็โบกมือให้พวกสาวใช้รอบตัวออกไป สาวใช้เหล่านั้นมองลั่วหลานด้วยสายตาเวทนา จากนั้นก้มหน้าเดินจากไปเงียบ ๆ

..........................................................................................