ตอนที่แล้วCh18 – ห้างสรรพสินค้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCh20 – แผนการของลู่เซี่ย

Ch19 – ซื้อของ


Ch19 – ซื้อของ

หลังจากซื้อของทั้งหมดแล้ว เธอก็ใช้ตั๋วอุตสาหกรรมไปจนเกือบหมด

ความจริงเธอยังอยากซื้อเตากับหม้อด้วย เธอคิดว่าเธออาจจะสามารถทำอาหารกินเองหลังจากไปอยู่ที่ชนบทแล้ว แต่ในเมื่อเธอมีตั๋วอุตสาหกรรมไม่พอ เธอจึงจดเอาไว้ก่อน มันไม่ใช่เรื่องรีบร้อนอยู่แล้ว ไว้ค่อยไปหาซื้อตอนไปถึงชนบทก็ได้

ส่วนของชิ้นใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้ตั๋ว เธอไม่ได้ซื้อสักชิ้น เธออยากได้นาฬิกาข้อมือ เพราะมันไม่สะดวกเมื่อไม่รู้เวลา ไว้พรุ่งนี้เธอค่อยถามจินหลิงดู

ตั๋วขนมกับตั๋วน้ำตาลถูกใช้จนหมด เธอใช้ตั๋วแลกซื้อเค้กถั่วเขียวกับลูกอมกระต่ายขาว เพราะเธอไม่จำเป็นต้องกังวลว่ามันจะหมดอายุเมื่อเก็บไว้ในช่องว่าง

หลังจากนั้นเธอก็ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสบู่, ยาสีฟัน, และผ้าเช็ดตัว

เมื่อเธอใช้ตั๋วที่มีอยู่ไปจนเกือบหมด ลู่เซี่ยก็ตัดสินใจกลับออกไปพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยข้าวของ

ถึงจะยังมีของอีกหลายอย่างที่เธอต้องการซื้อ แต่เธอไม่มีตั๋วเหลืออยู่แล้ว เธอจึงได้แต่รอดูต่อไปในอนาคต

แต่พอเธอกำลังเดินลงบันไดไป เธอก็เดินผ่านเคาท์เตอร์เครื่องสำอางจึงได้ซื้อครีมสโนว์มาหลายกระปุก เธอไม่ได้ซื้อครีมที่แพงกว่านั้น เพราะแค่ครีมสโนว์ก็ถือเป็นของมีราคาในยุคนี้แล้ว คนธรรมดาทั่วไปยังไม่สามารถซื้อแม้กระทั่งออยล์ทาหน้า

เธอตั้งใจจะใช้ครีมสโนว์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในช่วงหน้าหนาว ถึงเธอจะรู้ว่า การดื่มน้ำแร่วิเศษจะช่วยให้ผิวของเธอชุ่มชื้นอยู่แล้ว แต่หน้าหนาวของทางตะวันออกเฉียงเหนือนั้นรุนแรงและหนาวมาก ถ้าเธอไม่ระวังผิวของเธอก็อาจแตกแห้งได้ เธอจึงอยากระวังเอาไว้ก่อน

สุดท้ายเธอหันไปเห็นเครื่องสำอางที่มีเฉพาะในยุคนี้ มีทั้งดินสอเขียนคิ้ว, ครีมหน้าขาว, แปรงแต่งหน้า, ที่ทาตา, ที่ปัดขนตา, และลิปสติก เธอไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน แต่เธอก็ยังซื้อไว้เพื่อเป็นของที่ระลึก

ตอนนี้เธอแบกของไม่ไหวแล้ว ลู่เซี่ยจึงหยุดซื้อของและเดินออกจากห้างไป

หลังออกมาแล้ว เธอก็หาที่ที่ไม่มีคนและเก็บของทั้งหมดไว้ในช่องว่าง

มันไม่มีกล้องวงจรปิดในยุคนี้ ซึ่งสะดวกกว่ามากเมื่อเทียบกับปี 2021 มันช่วยลดปัญหาให้เธอได้มาก

เมื่อลู่เซี่ยกลับมาถึงบ้าน มันก็เป็นเวลาเดียวกับเมื่อวาน

ครั้งนี้ ครอบครัวไม่ได้ถามว่าเธอไปไหนมาตลอดทั้งวัน พวกเขารู้ดีว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไรมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้แล้ว พวกเขาจึงปล่อยให้เธอได้ทำตามใจ

แต่ในระหว่างมื้ออาหาร แม่ลู่คิดว่าผ่านมาสองวันเธอก็คงไม่โกรธแล้ว เธอจึงพูดขึ้นมาว่า

“เสี่ยวเซี่ย ลูกกำลังจะไปชนบทในอีกไม่กี่วันแล้ว แม่รู้ว่าครั้งนี้เราผิดต่อลูก แม่จะให้ผ้าห่มลูกสองผืนจากสี่ผืนที่เตรียมไว้สำหรับเป็นสินเจ้าสาว แม่ได้ยินว่าหน้าหนาวของทางนั้นหนาวมาก ลูกจะได้เอาผ้าห่มไปใช้ห่มกันหนาว แม่จะยกให้ลูกหมด ส่วนของน้องสาวลูก แม่ค่อยหาให้ใหม่ทีหลัง”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลู่เซี่ยก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ เธอรู้เรื่องผ้าห่มสินเจ้าสาวอยู่ก่อนแล้ว แม่ลู่เตรียมเอาไว้มานานหลายปีเพื่อมอบให้ลู่ชุนเป็นสินเจ้าสาว และพวกเขาก็ยังเคยพูดถึงเรื่องนี้ในบ้านหลายครั้งแล้ว

เธอไม่คิดว่า ครั้งนี้แม่ของเธอจะยอมยกผ้าห่มให้ถึงสองผืน ดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์แอบแฝง พอเห็นว่าลู่ชุนไม่ได้พูดอะไรมาก เธอก็รู้ได้ทันทีว่าพี่สาวของเธอรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้ว

เมื่อเป็นแบบนี้ลู่เซี่ยก็เข้าใจได้ทันที มันต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องงานแน่ ไม่อย่างนั้นถ้าเธอใช้ของของลู่ชุนเมื่อไหร่ อีกฝ่ายก็อาจบ้าคลั่งขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

เมื่อแม่ลู่พูดจบและเห็นว่าลู่เซี่ยก้มหน้าก้มตาโดยไม่ตอบโต้อะไรเลย เธอจึงคิดว่าอีกฝ่ายอายที่จะแสดงสีหน้าดีใจให้เห็น เธอจึงพูดต่อว่า “สองวันหลังจากนี้ ลูกก็ควรอยู่แต่บ้านไม่ต้องออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้ว ใช้โอกาสนี้ไปที่โรงงานผลิตหลอดไฟ แล้วทำเรื่องโอนงานให้พี่สาวของลูกซะ จะได้ไม่ต้องมารีบร้อนกันทีหลัง”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ลู่เซี่ยก็ก้มหน้าและอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ แม่ของเธอทนรอไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่เธอคิดวิธีรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว

เธอเงยหน้ามองแม่ลู่และพูดเสียงเบาคล้ายเจ้าของร่างเดิม “มันจะเหมาะเหรอคะ ถ้าหนูยกงานที่โรงงานให้คนอื่นทั้งที่ยังไม่ทันได้ไปรายงานตัวเลย?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด