ตอนที่แล้วCh6 – รูปร่างหน้าตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCh8 – วางแผนสำหรับอนาคต

Ch7 – สัมผัสประสบการณ์ในยุค 70


Ch7 – สัมผัสประสบการณ์ในยุค 70

ลู่เซี่ยมองไปรอบๆบ้าน

บ้านของพวกเขาไม่ได้ใหญ่มาก มีขนาดประมาณ 50 ตารางเมตรเท่านั้น มันเป็นบ้านที่ได้รับการจัดสรรจากโรงงาน และพนักงานโรงงานทอผ้าต่างก็อาศัยรวมกันอยู่ที่นี่ มันเป็น “ตึกสี่เหลี่ยม” ธรรมดาตึกหนึ่ง ครอบครัวของลู่เซี่ยอาศัยอยู่ที่ชั้นสอง ถึงจะมีพื้นที่เพียง 50 ตารางเมตร แต่มันก็นับว่าดีมากแล้ว

มันไม่มีพื้นที่สำหรับส่วนรวมมากนัก มีแค่ 50 ตารางเมตรเท่านั้น

แต่บ้านลู่มีลูกมาก บ้านที่อยู่รวมกันหกคนจึงดูคับแคบไปถนัดตา

ตัวบ้านมีสองห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น ห้องหนึ่งเป็นของพ่อแม่ และอีกห้องเป็นของลูกสาวสามคนนอนรวมกัน ส่วนห้องนั่งเล่นถูกแบ่งส่วนหนึ่งให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของลูกชายคนเล็ก

ถึงมันจะดูไม่เป็นธรรมกับลูกชายคนเล็กที่พวกเขารักใคร่ แต่พ่อลู่และแม่ลู่ต่างก็รู้ว่า สักวันลูกสาวแต่ละคนก็จะทยอยแต่งงานออกไป และห้องนอนของพวกเธอก็จะกลายเป็นของลูกชายพวกเขา ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจึงจัดห้องแบบนี้ไปก่อน

ภายในห้องนั่งเล่นจึงเหลือพื้นที่อยู่เล็กน้อย ซึ่งมีโต๊ะตัวหนึ่งตั้งอยู่เพื่อใช้เป็นที่สำหรับทานอาหารของบ้าน

ส่วนห้องครัวกับห้องน้ำอยู่ด้านนอก ทุกชั้นล้วนมีครัวอยู่ทางซ้ายและห้องน้ำอยู่ทางขวาของบันได นี่เป็นรูปแบบปกติของตึกที่อยู่อาศัยในยุคนั้น

ทุกครั้งที่พวกเขาต้องการใช้ห้องน้ำหรือทำอาหาร พวกเขาก็มักจะพบเจอกับเพื่อนบ้าน ถ้าหากบางคนทำอะไรอร่อยๆที่บ้าน ทั้งชั้นก็จะรู้กันหมด พวกเขาจึงแทบไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย

ดังนั้น ในหลายบ้านจึงมีเตาเล็กๆของตัวเอง เพื่อที่พวกเขาจะได้ทำอาหารง่ายๆกินกันเอง

หลังจากสำรวจรูปแบบของตัวบ้านแล้ว ลู่เซี่ยก็สังเกตเห็นว่ามีอาหารเหลือไว้สำหรับเธออยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น

นี่ถือเป็นครั้งแรก!

พวกเขาอาจจะพยายามชดเชยเล็กๆน้อยๆ ด้วยการปฏิบัติกับเธอดีขึ้น เพื่อที่เธอจะได้ยินยอมยกงานให้กับลู่ชุนและเดินทางไปชนบทอย่างยินดี

ลู่เซี่ยรู้สึกว่ามันน่าตลก พวกเขาคงไม่คิดว่า แค่ทำแบบนี้แล้วเธอจะยอมรับชะตากรรมและเดินทางไปชนบทอย่างเชื่อฟัง พวกเขาคิดมากเกินไปแล้ว รอดูต่อไปเถอะ

แต่ลู่เซี่ยก็ไม่คิดเกรงใจเช่นกัน เธอนั่งลงและกินอาหารตรงหน้าทันที อาหารรสชาติไม่เลวและพวกเขายังทำไข่ตุ๋นให้เธอเป็นพิเศษ เธอจึงไม่เกรงใจและเธอก็หิวแล้วด้วย เธอจึงกินอาหารจนหมด

จากนั้นเธอก็กลับไปที่ห้องและค้นเงินของเจ้าของร่างเดิมที่มีอยู่แค่ 63เฟิน เธอเก็บเงินไว้กับตัวและออกไปจากบ้าน

หลังเดินออกมาจากบ้าน ลู่เซี่ยก็เลียนแบบพฤติกรรมของเจ้าของร่างเดิม โดยการก้มหน้าและเดินเร็วๆ เมื่อเธอเห็นใครก็จะยิ้มให้อายๆ

คนที่เห็นต่างก็แสดงความสงสารผ่านทางสายตา เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เธอต้องไปชนบทได้กระจายไปทั่วแล้ว

แต่พวกเขาอาจจะไม่รู้เรื่องงานของเธอ พวกเขาอาจคิดแค่ว่า ครอบครัวของเธอต้องการเก็บลูกสาวคนโตไว้และเลือกให้ลูกสาวคนรองไปชนบทแทน

ลู่เซี่ยแกล้งทำเป็นไม่เห็นสายตาสงสารของพวกเขา เธอเดินออกไปจากส่วนที่อยู่อาศัยและเดินไปตามถนนสายหนึ่งของกรุงปักกิ่งในยุค70

การที่เธอเพิ่งมาอยู่ในยุคนี้และพบเจอเรื่องวุ่นวายที่เจ้าของร่างเดิมทิ้งไว้ให้ ทำให้ลู่เซี่ยรู้สึกตั้งรับไม่ทันและต้องการเวลาไล่เรียงเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่จะคิดหาหนทางต่อไป

เมื่อเธอได้มาเดินอยู่บนถนนของกรุงปักกิ่งในยุค70 ลู่เซี่ยจึงมองดูตึกโดยรอบและไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ เธอจึงตระหนักได้ว่า ต่อจากนี้เป็นต้นไปตนเองต้องอาศัยอยู่ในยุคสมัยนี้

หลังจากนั้น เธอก็เห็นรถเมล์จอดอยู่ริมถนนจึงเดินไปจ่ายเงินหนึ่งเฟินแล้วขึ้นไปนั่งบนรถ

ตอนนี้บนรถเมล์ไม่ได้มีคนเยอะ เธอจึงเลือกที่นั่งข้างหน้าต่างเพื่อรับลมและสัมผัสกับบรรยากาศที่ต่างไปจากปี 2021 เธอหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ไร้มลพิษเข้าปอดและเฝ้ารอชีวิตใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

เมื่อได้ยินประกาศว่าถึงป้ายสวนสาธารณะเป่ยห่าย ลู่เซี่ยก็ลงจากรถ

เธอคิดจะไปหาที่นั่งเล่นและคิดถึงเรื่องที่จะทำต่อไปอย่างรอบคอบ เพราะเธอไม่สามารถทำตัวตามสบายเมื่ออยู่ที่บ้านได้

เมื่อมาถึงสวนสาธารณะแล้ว เธอก็หาม้านั่งข้างทะเลสาบ และนั่งมองต้นไม้ที่เขียวขจีกับทะเลสาบที่ส่องประกายระยิบระยับ ลู่เซี่ยรู้สึกสบายใจขึ้นมาก

เธอจึงเริ่มค่อยๆคิดถึงหนทางต่อไปในอนาคตข้างหน้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด