Ch2 – งาน
Ch2 – งาน
ถึงแม้ว่าลู่เซี่ยจะอ่อนกว่าลู่ชุนพี่สาวของเธอแค่หนึ่งปี แต่เธอกลับรู้ความตั้งแต่อายุยังน้อย และไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเรียนเก่งอีกด้วย
ลู่ชุนสอบเข้าชั้นมัธยมปลายไม่ผ่านและไม่อยากไปชนบท เธอจึงดึงดันเรียนซ้ำชั้นอีกหนึ่งปี และด้วยความบังเอิญทำให้เธอได้เรียนอยู่ชั้นเดียวกับเจ้าของร่างเดิม เพื่อให้ลู่ชุนสามารถสอบเข้าชั้นมัธยมปลายได้ เจ้าของร่างเดิมจึงต้องช่วยติวให้เธอ
และเจ้าของร่างเดิมก็มีความสามารถนั้น เธอช่วยให้ลู่ชุนสอบเข้าชั้นมัธยมปลายได้
ส่วนเจ้าของร่างเดิม เธอเป็นคนเรียนดีอยู่แล้วจึงสามารถสอบเข้าชั้นมัธยมปลายได้อย่างง่ายดาย เดิมทีครอบครัวของเธอไม่ต้องการให้เธอเรียนต่อ และต้องการให้เธอหางานทำแต่เนิ่นๆเพื่อช่วยเหลือรายจ่ายของครอบครัว
แต่ในเมื่อลู่ชุนต้องเรียนซ้ำชั้นและเจ้าของเดิมก็คือคนที่ช่วยให้เธอเข้าชั้นมัธยมปลายได้ มันคงไม่เป็นธรรมหากไม่ยอมให้เธอเรียนด้วย
และนั่นก็ทำให้เจ้าของร่างเดิมและพี่สาวคนโตได้เข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งสองก็เรียนจบชั้นมัธยมปลาย
หลังจากจบชั้นมัธยมปลาย พวกเขาก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันหางาน หากไม่มีงานพวกเขาก็ต้องถูกเรียกตัวและถูกส่งไปเป็นปัญญาชนทำงานในชนบท
แต่ในเวลานี้การหางานไม่ใช่เรื่องง่าย หลายๆโรงงานไม่รับคนเพิ่ม ดังนั้น โอกาสได้งานจึงเป็นไปได้ยากมาก
ทางสำนักงานท้องที่ได้มาเตือนให้พวกเขาตัดสินใจหลายครั้งแล้ว ตามกฎนั้นแต่ละครอบครัวต้องส่งลูกหนึ่งคนไปทำงานที่ชนบท
ลู่ชุนไม่ต้องการไปชนบท เธอจึงวิ่งวุ่นหางานตามโรงงานไปทั่ว พ่อแม่ของลู่เซี่ยก็ช่วยหางานโดยการถามจากญาติพี่น้องของตน
ส่วนลู่เซี่ย พวกเขาไม่ได้สนใจเธออยู่แล้ว พวกเขาอาจจะลืมหรือไม่ก็ไม่คิดใส่ใจ
แต่เจ้าของร่างเดิมเป็นเด็กเรียนดีและเป็นที่ชื่นชอบของครูหลายคน ดังนั้น เมื่อเรียนจบเธอจึงได้รู้ข่าวจากครูว่า โรงงานผลิตหลอดไฟกำลังรับคนอยู่ แต่พวกเขารับคนจำนวนน้อยข่าวจึงไม่ได้แพร่กระจายออกไป
เจ้าของร่างเดิมดีใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่เธอไม่ได้บอกให้คนที่บ้านรู้
ถึงเธอจะมีนิสัยเก็บตัวแต่เธอก็ไม่ได้โง่ ตรงกันข้าม เธอฉลาดมาก เธอรู้ว่าถ้าบอกเรื่องนี้กับคนที่บ้าน เธออาจไม่ได้ไปเพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับพี่สาวคนโตของเธอมาก
และเธอไม่อยากทิ้งโอกาสนี้ไป เธอจึงเก็บเรื่องนี้ไว้และแอบไปสอบเมื่อถึงเวลา
หลังจากที่เธอได้รับข่าวว่าตัวเองได้รับเข้าทำงานที่โรงงานผลิตหลอดไฟ เธอจึงบอกเรื่องนี้กับครอบครัวอย่างยินดี
แล้วบ้านก็ราวกับระเบิดลง!
ลู่ชุนกรีดร้องร่ำไห้ ส่วนพ่อแม่ของลู่เซี่ยก็ผิดหวังในตัวเธอ ดุด่าว่าเธอเห็นแก่ตัว, ไร้หัวใจ, และคิดถึงแต่ตัวเอง
ส่วนพี่น้องอีกสองคนที่เพิ่งจบชั้นมัธยมต้นก็มองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเฉยชา
เจ้าของร่างเดิมไม่คิดว่าพวกเขาจะมีท่าทีแบบนี้ เธอหางานได้ด้วยตัวเอง ทั้งที่เป็นเรื่องดี แต่ทำไมพวกเขาถึงต้องไม่พอใจด้วย?
หรือเพราะพี่สาวของเธอไม่ได้งาน? แล้วเธอไม่ใช่ลูกสาวของพวกเขาเหรอ?
ในท้ายที่สุด เรื่องก็จบไม่สวย พ่อของลู่เซี่ยกลับห้องตัวเอง ส่วนแม่ของลู่เซี่ยก็เข้าไปปลอบพี่สาวของเธอ
ไม่มีใครยินดีกับเธอเลยสักคน
หลังจากที่ได้รับการปฏิบัติแบบนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่หัวใจของเจ้าของร่างเดิมรู้สึกเย็นเยียบ...
แต่หลังจากที่หัวใจของเธอได้รับความบอบช้ำซ้ำๆ เธอก็เริ่มชินชากับมัน ถึงยังไงเธอก็ได้งานแล้ว เธอก็แค่ใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปเท่านั้น
เธอตัดสินใจที่จะไม่สนใจความรู้สึกของคนในครอบครัวอีกต่อไป ปล่อยให้พวกเขาทำทุกอย่างตามต้องการ ขอแค่ไม่กระทบกับเธอก็พอ
แต่เจ้าของร่างเดิมไม่คิดว่าเธอจะมองโลกในแง่ดีเกินไป
เจ้าของร่างเดิมไม่คิดว่า แม่กับพี่สาวของเธอจะแอบลงชื่อให้เธอไปชนบทในฐานะ “ปัญญาชน”
กว่าที่เธอจะรู้เรื่อง เอกสารการส่งตัวก็ถูกประกาศออกมาเรียบร้อยและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก
ในตอนที่เจ้าของร่างเดิมรู้เรื่องเมื่อวานนี้ ก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาด และเรื่องยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อแม่ของลู่เซี่ยทำเป็นปลอบโยนและบอกให้เธอยอมรับมัน
เธอจะยอมรับได้อย่างไร? แม่ของเธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าการถูกส่งไปชนบทหมายความว่ายังไง?
ในหลายปีที่ผ่านมา มีปัญญาชนกลับมาเยี่ยมบ้านของพวกเขาอยู่บ้าง เด็กสาวหลายคนที่ถูกส่งไปชนบท เมื่อกลับมาพวกเธอล้วนเปลี่ยนไปจนคนแทบจำไม่ได้!