ตอนที่แล้วตอนที่ 1 ค่ำคืนอันแสนธรรมดาและอบอุ่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 อารยธรรมของ ฮั่นเจีนง,ซิ่นลู่,ฮั่นไห่

ตอนที่ 2 เก็บตัวเกินกว่าจะพูดคุยกับพ่อแม่


ขณะที่ชี่หยานล็อคประตูห้องอย่างพิถีพิถัน เขาไม่รู้ว่ามีโคลนจางๆจากรองเท้าตัวเองเปื้อนพื้น มือซึ่งอยู่ใต้เสื้อกันฝนที่มองไม่เห็น ถูกกำแน่นจนเล็บจิกผิวหนังบนฝ่ามือ ลมหายใจเริ่มไม่สม่ำเสมอและเร็วขึ้น เป็นหลักฐานทางกายภาพถึงความสับสนวุ่นวายภายใน สื่อมวลชนต่างขนานนามเขาว่า'ฆาตกรในคืนฝนตกซึ่งเป็นชื่อเล่นที่โดนใจเขามาก โดยสื่อถึงแก่นแท้ของความหวาดกลัวที่เขาได้รับแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นส่วนผสมของความโหดร้าย ความบ้าคลั่งและความกลัวที่เย็นเยียบจนถึงกระดูก

เขาครุ่นคิดกับความคิดที่ค่อนข้างวิปริตว่า 'ฉันจะตอบแทนความเมตตาของแกยังไงดี' ด้วยความรู้สึกประชดที่บิดเบี้ยว

ขณะที่ตั้งใจเพ่งสังเกตเกาหมิงจากด้านหลัง ดวงตาขาวของของชี่หยานเกิดเส้นเลือดฝอยไปทั่ว เส้นเลือดทั้งหมดมาบรรจบกันเหมือนแม่น้ำแห่งเลือด ภาพที่เห็นนั้นกระตุ้นให้เกิดความปรารถนาซาดิสม์ที่จะล่าเหยื่อที่อ่อนแอ่ เพื่อทำลายจิตวิญญาณและความสุขของคนๆนั้น จากนั้นจึงบดขยี้ความบริสุทธิ์นั้นให้กลายเป็นดินอย่างแท้จริง

"หมอนี่คงโดนเลี้ยงเหมือนนกในกรง ถึงได้มีนิสัยแบบนี้" ชี่หยานรำพึงพร้อมกับเยาะเย้ย 'พ่อแม่ของแกคงเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสินะ เป็นเหมือนดอกไม้ในเรือนกระจก โดยไม่สนใจธรรมชาติที่แท้จริงอันโหดร้ายเลย'

ในขณะที่ยังคงคลุมเสื้อกันฝน ใบหน้าของชี่หยานเริ่มบิดเบี้ยวดื่มด่ำกับจินตนาการที่บิดเบี้ยวยิ่งกว่า ว่าเขาจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเกาหมิงได้อย่างไร

"คุณคงจะหิวมากแน่ๆ" เกาหมิงพูด พร้อมเสนออาหารที่เขาเตรียมไว้พร้อมกับ'ส่วนผสมที่พิเศษ'และรินน้ำแก้วนึงให้แขก "วันนี้เป็นวันเกิดของผม ผมเลยทำอาหารมากกว่าปกติ มีเค้กด้วยนะ" เขาเสนอเค้กซึ่งเป็นของขวัญจากพ่อแม่ที่'ไม่ธรรมดา'ของเขาเอง ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อในการแบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆในชีวิต

ชี่หยานปฏิเสธ "ไม่จำเป็น" เพื่อหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทิ้งหลักฐานทางนิติเวชถ้าไม่ระมัดระวังมากพอ "หืม?ไม่ใช่ว่ามีคนเรียกคุณอยู่ จากทางห้องนั้นหรอ" เขาสอบถามเกาหมิงอย่างเป็นกันเอง

"อ้อ พ่อแม่ของผมเองก็อยู่ที่นี่" เกาหมิงตอบ รอยยิ้มของเขาเจือด้วยความเศร้า "พวกเขาค่อนข้างป่วยติดเตียงและไม่สามารถดูแลตัวเองได้"

"คุณไม่จำเป็นต้องไปพบพวกเขาเหรอ?" ชี่หยานเร่งเร้า โดยจินตนาการว่าเกาหมิงเป็นเพียงศพที่ไร้ชีวิต "ทำไมไม่ไปดูหน่อยล่ะว่าพวกเขาต้องการอะไร”

เกาหมิงยอมรับนิสัยสันโดษของตัวเองด้วยการถอนหายใจ 'ไม่เคยต้องคุยกับใครมากขนาดนี้มาก่อนเลย' และเริ่มเดินไปทางห้องนอน อาการเดินกะโผลกกะเผลกของเขาเด่นอย่างเห็นได้ชัด "พวกเขากำลังป่วยเป็นโรคแปลกๆ และต้องการความสงบ"

เสียงน่าขนลุกที่ดังมาจากห้องนอนก็ดังไปถึงหูของชี่หยานเช่นกัน หลังจากเกาหมิงมาถึงหน้าประตู เขาเริ่มสังเกตความไม่เป็นธรรมชาติ แสงดูเหมือนจะโค้งงอ อุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับห้องนั่งเล่น

ขณะที่เกาหมิงเปิดประตูและก้าวเข้าไปข้างใน ชี่หยานซึ่งขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นมองเข้าไปด้านใน

ความมืดในห้องนอนดูเหมือนจะจางลง แยกออกเป็นเงามืดและแสงสลัวๆ ที่เข้าใจได้ยาก

เมื่อความครุมเครือพบกับความมืดมน ใบหน้าที่แปลกประหลาดและรูปร่างที่บิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้น! บางสิ่งที่ปลอมตัวเป็นพ่อแม่ของเกาหมิงจู่ๆ ก็เริ่มบ้าคลั่งเมื่อเห็น'ลูกชาย'ของพวกเขาอีกครั้งและรีบวิ่งไปที่ประตูด้วยความวุ่นวายและบ้าคลั่ง!

ฉากที่ดูน่ากลัวจนน่าตกใจ ชี่หยานรู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่รัดคอเขาแน่น เขาคาดหวังว่าจะพบแค่คนแก่ป่วยๆสองคนอยู่บนเตียงเท่านั้น!

เขางถอยกลับด้วยความสยดสยองโดยสัญชาตญาณ สายตาของเขาตระหนักถึงบางอย่าง เกาหมิงกำลังยกแจกันอันใหญ่โตขึ้นมา จิตใจของ ชี่หยาน ย้อนกลับไปภาพก่อนหน้านี้ที่คิดว่าเกาหมิงเป็นเพียงแค่คนเก็บตัว

จากนั้นก็มีเสียงแตกดังขึ้น "เคร้ง!" ความตกใจอันรุนแรงนี้เกิดขึ้นทันทีด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อของชี่หยาน

ห้องอยู่ในความระส่ำระสาย เศษกระเบื้องกระจัดกระจายราวกับกระดาษโปรย ในขณะที่เศษแหลมคมทิ้งรอยอันโหดร้ายไว้บนใบหน้าของชี่หยาน เลือดไหลอาบแก้มของเขา ประสาทสัมผัสสั่นไหว ห้องเหมือนจะหมุนอย่างควบคุมไม่ได้ ขณะที่เขาทรุดตัวลงกับพื้น ทุกอย่างเริ่มมืดมัว เกาหมิงเจ้าภาพ'ผู้เมตตา'ได้แสดงความกังวลโดยการเท'น้ำ'หนึ่งถ้วยลงในคอของเขาอย่างแรง ลำดับเหตุการณ์ดำเนินไปด้วยความแม่นยำและราบรื่นราวกับได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

"คุณควรจะเลือกยาอัมพาตมากกว่านะ จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด" เกาหมิงแสดงความคิดเห็นโดยนั่งยองๆอยู่ข้างๆชี่ยานที่ไร้ความสามารถ "แต่คุณดันเลือกที่จะประสพกับอัมพาตทางร่างกายแทน" เขาเสริมอย่างมั่นใจหรืออาจจะแค่เยาะเย้ย "อย่ากังวล ในไม่ช้าคุณจะไม่รู้สึกอะไรเลย"

เมื่อได้ยินคำพูดอันเยือกเย็นของเกาหมิง ความหวาดกลัวอันลึกซึ้งจุดประกายภายในแววตาของชี่หยาน ความตื่นตระหนกแล่นไปทั่วร่างกาย ในขณะที่ตระหนักได้ว่าเขาไม่รู้เลยว่าเกาหมิงตั้งใจจะทำอะไรต่อไป

ดวงตากรอกไปมาอย่างบ้าคลั่ง มองเห็น'พ่อแม่'ที่ถูกมัดและปิดปากอย่างแปลกประหลาด ซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วห้อง จากนั้นจ้องมองไปที่ใบหน้าอันสงบนิ่งอย่างน่าขนลุกของเกาหมิง ความหวาดกลัวของเขาก็ยิ่งทวีขึ้น

'ไอ้หมอนี่มันเป็นใคร?'

เกาหมิงซึ่งเป็นตัวแทนของความอาฆาตได้แสดงลักษณะทั้งหมดตามแบบฉบับของฆาตกรโรคจิต เขาเป็นคนเย็นชาและซับซ้อน ฉลาดแกมโกงและเต็มไปด้วยอันตรายและวิธีการก่ออาชญากรรมไม่เพียงแต่พิถีพิถันเท่านั้น แต่ยังซับซ้อนอย่างร้ายกาจอีกด้วย

"คุณดูเกลียดผมมากขนาดนั้นเลย ดวงตาของคุณเต็มไปด้วยความอาฆาตทีเดียว" เกาหมิงรำพึงดังๆ

จากนั้นนำมือกดลงบนหลังของชี่หยาน จับผมของเขาและบังคับศีรษะให้หันหน้าไปทางห้องนอน "ก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์ ตอบผมมาหน่อยสิ" เกาหมิงถาม "คุณเห็นร่างในห้องนอนไหม"

เมื่อถูกครอบงำด้วยความกลัวอย่างท่วมท้น ชี่หยานก็กลัวเกินกว่าจะอธิบายอะไรได้ ศีรษะสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด จิตใจของเขาสั่นอย่างรุนแรงและผลของยาก็ออกฤทธิ์อย่างเห็นได้ชัด

ราวกับว่าชี่หยานได้รับผลกระทบจากวิกฤติที่เกิดขึ้น กำลังเดินโซเซบนขอบเหวอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย ไม่อาจจะตัดสินใจอะไรได้

"ดูจากปฏิกิริยาของคุณ คุณคงจะเห็นพวกมันสินะ" เกาหมิงอนุมานในขณะที่เขามัดแขนขาของชี่หยานอย่างแน่นหนา "ผมคงไม่ได้คิดไปเองสินะ เกมได้กลายเป็นความจริง แปลกประหลาดแหะ"

เงาที่ค้างคาอยู่ภายในห้องนอนสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว ส่วน'พ่อแม่'ที่หลอกหลอนเริ่มหลอมรวมกับความมืดราวกับว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ แต่กลับออกมาได้ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง

เมื่ออุณหภูมิในห้องเริ่มกลับมาปกติ ลมหายใจเริ่มช้าลง เกาหมิงตั้งข้อสังเกตว่า 'ดูเหมือนเกมของเราจะเป็นสื่อที่เชื่อมต่อโลกจริงกับโลกของ'พ่อแม่'แปลกประหลาดพวกนั้น หลังจากที่ผ่านเกม เรื่องราวทั้งหมดควรจะกลับสู่สภาพปกติ แต่ถ้าหากปล่อยไว้และไม่ได้รับการแก้ไข เรื่องราวสยองขวัญพวกนี้อาจจะแพร่ขยายต่อไปจนผสานเข้ากับความเป็นจริงจนแยกไม่ออกหรือเปล่านะ?'

ตอนนี้ห้องนอนส่วนใหญ่เริ่มสว่างด้วยแสงปกติ'พ่อแม่'ที่ถูกกักขังอยู่ในมุมแห่งความมืดที่ค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆ แต่แล้ว'แม่'คนหนึ่งหลุดจากโซ่ตรวน!

การจ้องมองของเธอเต็มไปด้วยความรักอันบิดเบี้ยว เธอลากเงาด้านหลังที่กำลังพลุ่งพล่านไปทางเกาหมิง!

เกาหมิงรู้สึกประหลาดใจจึงตัดสินใจถอยออกเพียงเสี้ยววินาที อย่างไรก็ตามชี่หยานยังคงติดอยู่และไม่สามารถขยับตัวได้ ถูกทิ้งให้เผชิญกับการโจมตีที่น่ากลัวเพียงลำพัง

ในช่วงสุดท้ายของการหายตัวไปของ'แม่'ชี่หยานถูกดึงเข้าไปในเงามืดพร้อมกับเธอ เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดสะเทือนดังก้องไปทั่วอากาศ บอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้อันน่าสยดสยองที่เธอดึงบางสิ่งออกมาจากตัวชี่หยาน

เมื่อนาฬิกาบอกเวลา 04:44 น. ห้องนอนก็ดูราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เกาหมิงเดินเข้ามาและถูมือไปมา พบว่าห้องดูเหมือนไม่เคยเจอเหตุการณ์แปลกใดๆ ราวกับว่าพ่อแม่พวกนั้นไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แม้แต่เค้กและเทียนที่พวกเขานำมาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งที่เหลืออยู่คือชี่หยานที่กำลังนอนอยู่ในความมึนงง

ดวงตาชี่หยานปราศจากประกายแห่งชีวิต ชวนให้นึกถึงการจ้องมองที่ว่างเปล่าของผู้ป่วยที่อยู่ในสภาพผัก ราวกับว่าวิญญาณของเขาถูกดูดออกไปจากรางกาย

ในตำแหน่งที่แม่หายตัวไป เกาหมิงสะดุดกับภาพถ่ายขาวดำดูราวกับภาพมรณกรรมน่าขนลุกสองใบ เกาหมิงไตร่ตรองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นรางวัลแห่งชัยชนะในรูปแบบที่บิดเบี้ยวสำหรับการเอาชนะเกมหรือไม่

ภาพถ่ายเหล่านี้ดูเก่าและขาด สัมพัสพื้นผิวที่ไม่คุ้นเคยซึ่งบ่งบอกถึงอายุที่มากพอควร

ภาพถ่ายใบแรกเป็นรูปที่เกาหมิงนั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารกำลังเพลิดเพลินกับเค้ก โดยมีพ่อแม่จำนวนมากกำลังโอบล้อม สิ่งที่แปลกต่อมาในภาพถ่าย ทุกๆอย่างรวมถึงเค้ก เฟอร์นิเจอร์ และพ่อแม่จำนวนมากกลับปรากฏเป็นสีขาวดำ ยกเว้นตัวเกาหมิงที่เป็นภาพสีเต็มตัว

ด้านหลังภาพถ่ายที่บิดเบี้ยวนี้ มีรอยเขียนเด็กเล่นที่เปียกโชกไปด้วยคราบเลือด ทำให้เกิดภาพที่ไม่มั่นคง

รอยเขียนนั้นกล่าวว่า'ลูกที่รักของฉัน'ในที่สุดคุณก็อายุครบ 18ปี ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ตั้งแต่นี้ไป ขอประกาศให้คุณเป็นเจ้าของคนใหม่ ซึ่งมีกุญแจไขบ้านของครอบครัว บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ระหว่างการมีอยู่และไม่มีอยู่ ซ่อยอยู่ลึกที่สุดของฝันร้าย ใกล้จุดความเป็นจริง แต่ก็เชื่อมต่อกับส่วนมืดมนที่สุดของหัวใจทุกดวง

ข้อความระบุรายละเอียดว่าในฐานะหัวหน้าครอบครัว คุณสามารถเลือกที่จะช่วยสมาชิกครอบครัวแต่ละคน รักพวกเขาเท่าๆกัน เอาเปรียบพวกเขา หรือแม้แต่ทรมานพวกเขาในรูปแบบที่บิดเบี้ยวก็ได้

คุณมีอิสรภาพอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เราต้องการจากคุณมีเพียงล่อลวงผู้คนให้เข้ามาเล่นเกมมากขึ้นหลังตะวันตกดิน พลังงานที่พวกเขาจะปล่อยออกมาจะสามารถหล่อเลี้ยงเรื่องเล่าในข่าวลือต่อไปได้

เกาหมิงหยิบภาพถ่ายขาวดำใบที่สองขึ้นมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้านหน้าของภาพถ่ายคือใบหน้าที่หวาดกลัวของชี่หยาน ดูเหมือนว่าจะเป็นภาพถ่ายมรณกรรมของเขา ที่ด้านหลังของภาพถ่ายยังมีคำแปลกๆเขียนอยู่ด้วย

ข้อความระบุว่า'ภาพถ่ายครอบครัว'เป็นสัญลักษณ์ที่มีเพียงผู้ที่จมอยู่กับความเป็นจริง ผู้ที่ใกล้จะตาย ผู้ที่โหยหาความตาย ติดอยู่ในฝันร้าย ทนทุกข์ทรมานทางจิต หรือแบกภาระบาปร้ายแรงเท่านั้นที่จะค้นพบหนทางมาที่แห่งนี้เพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว โดนเสนอทางเลือกที่มากกว่าความตาย

คนส่วนใหญ่ที่ค้นพบหนทางมายังที่แห่งนี้ต้องเสียใจกับการเลือกของพวกเขา โดยหวังว่าพวกเขาจะเลือกความเรียบง่ายแห่งอย่างความตายแทน

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด