ตอนที่แล้วบทที่ 14 หยาง (ชี่) 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 แบะ แบะ แบะ แบะ แบะ

บทที่ 15: ตกตะลึง


จินอันนึกถึงบางสิ่งที่ผู้เฒ่า ผู้แก่ เคยกล่าวไว้

เขาบอกว่า

คนที่ตายโดยเปล่าประโยชน์ ตายอย่างอนาถ หรือตายอย่างไม่ยุติธรรม

หลังความตายจะมีลมหายใจแห่งความโศกเศร้า ขุ่นเคือง อาฆาตรแค่น ติดอยู่ในลำคอ

หากลมหายใจนี้ไม่หายไป

ศพมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นวิญญาณชั่วร้าย

ต่อมา เนื่องจากมีผู้ไม่รู้หนังสือจำนวนมากในสมัยโบราณ ผู้คนในยุคนั้นจึงอาศัยการถ่ายทอดด้วยวาจาเพื่อบันทึกเรื่องเล่า คำว่าภัยพิบัติและความขุ่นเคืองค่อนข้างคล้ายกันในภาษาพูด

ดังนั้น มันจึงค่อยๆ แพร่กระจายในเวลาต่อมา หมายความว่ามีลมหายใจคับแค้นติดในลำคอหลังความตาย

จินอัน ไม่มีเวลาคิดอย่างถี่ถ้วน...

"แล้วพบกันใหม่เจ้าค่ะ"!

หลังลมหายใจออกจากลำคอจากร่างของ หยางซิงเอ๋อ

จริงๆ แล้วมีไอจางๆ ลอยออกจากร่างของ หยางซิงเอ๋อ

เงานั้นโค้งคำนับในอากาศ ดูเหมือนจะโค้งคำนับต่อจินอันจากระยะไกล จากนั้นก็หายลับไป

มีเพียงจินอันเท่านั้นที่สามารถเห็นเหตุการณ์นี้

ไม่มีใครมองเห็นมัน

แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา เขาได้คลี่คลาย "คดีฆาตกรรมของเซียนอัสนี" และได้เห็นเหตุการณ์เดียวกันกับศพของหลี่ไซ่เหลียงหลังจากที่เขาแก้ต่างให้กับการตายของหลี่ไซ่เหลียง

ด้วยไอจางๆ บนร่างของ หยางซิงเอ๋อ เธอโค้งคำนับ จินอัน

จินอันซึ่งเคยฝึกฝนเทคนิคลัทธิเต๋า จู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงวิถีเต๋าโดยไม่คาดคิด

จู่ๆ เขาก็เข้าใจ!

นี่คือร่างอวตารของคุณธรรมหยินแห่งสวรรค์!

ความคิดแวบหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของจินอัน แล้วเขาก็ใช้เทคนิคสัมผัสปราณที่เขาเพิ่งเรียนรู้จาก "บันทึกแห่งกวงผิง" ที่ศึกษาเมื่อคืนอย่างรวดเร็ว

“ผู้ที่มีคุณธรรมหยิน(เชิงลบ) จะได้รับผลรางวัลหยาง(เชิงบวก) และผู้ที่มีคุณธรรมหยินจะมีชื่อเสียงที่ดี” - "ฮ่วยหนานจื่อ บทเรียนแห่งมนุษย์"

ความดีงาม!

ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นนักพรตลัทธิเต๋าหรือพระสงฆ์ของศาสนาพุธ และพระจากศาสนา พวกเขาก็ล่วนให้ความสำคัญกับคุณธรรมหยินของตัวเองเป็นอย่างมาก

เพราะคุณธรรมหยินเกี่ยวข้องกับเหตุและผลกรรม

ทุกคนย่อมมีเหตุและผล

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทุกคนถึงมีคุณธรรมหยิน

คุณธรรมหยินเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาของมนุษย์ทั่วๆ ไป มีเพียงผู้บำเพ็ญตนวิถีเต๋าและศาสนาพุทธเท่านั้นที่มองเห็นได้ ซึ่งมีวิธีการเฉพาะของตนเอง

เขาเห็นส่วนหนึ่งของปราณลึกลับสีเหลืองที่มีหมอกลึกลับของบุญและคุณธรรม ซึ่งเห็นได้โดยเทคนิคสัมผัสปราณของจินอัน

จินอันตระหนักรู้ถึงบางสิ่ง ธรรมหยิน: 258 แต้ม !

เขาแก้ต่างความเข้าใจผิดให้ของหลี่ไช่เหลียง และได้รับคุณธรรมหยิน 100 แต้ม

เขาคลายความคับข้องใจของ หยางซิงเอ๋อ และได้รับคุณธรรมหยิน 100 แต้ม

ส่วนที่เหลือคือคุณธรรมหยินที่สะสมมาก่อนหน้านี้ของจินอัน

ตอนที่จินอันเห็นคุณธรรมหยิน เส้นทางแห่งวิถีเต๋าอันยิ่งใหญ่และเสียงแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ดังขึ้นในใจของจินอันราวกับสายฟ้า: "ผนึกจักรพรรดิ!"

ฉากลึกลับนี้ทำให้จินอันตกตะลึง

แต่ไม่มีใครได้ยินเลย

ในตอนนี้ ผู้คนที่เฝ้าดูอยู่รอบๆ ต่างก็ตื่นเต้น ที่มีทั้ง "คดีฆาตกรรมของเซียนอัสนี" และ "คดีผีพราย" ชาวเทศมณฑลฉางต่างปรบมือให้กับจินอัน

นั่นคือสิ่งที่ผู้คนต้องการ

ทุกคนมองเขาด้วยความนับถือและความเคารพ

“แม่ แม่ ข้าอยากแต่งงานกับคนแบบคุณชายจินอัน!”

มีเด็กผู้หญิงที่เป็นคนแก่แดดอายุ 5 หรือ 6 ขวบ อยู่ในฝูงชน ตะโกนออกมา

คำพูดของเด็กคนนั้น ทำให้พวกผู้ใหญ่หัวเราะออกมา

ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ทางการทั้งสองซึ่งหลังจากคุมตัว จางมู่หรง ที่ดูซีดเซียวและพ่อแม่ของเขาแล้ว ก็เข้ามาหา จินอัน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและพวกเขาก็โค้งคำนับเพื่อกล่าวขอบคุณจินอัน

“คนรู้ว่าผีน่ากลัว ผีก็รู้ว่าจิตใจคนมีพิษสง โลกนี้ช่างโชคดีที่มีคุณชายจินอัน”

นี่เป็นการประเมินบุคคลที่สูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจินอันทำให้คนอื่นเชื่อใจได้จริงๆ ในครั้งนี้

"ขอรับ?"

“!”

คำเยินยอที่พูดออกมาของทั้งสองคนนี้ทำให้จินอันมึนงง

ขณะเดียวกัน จินอันเหลือบไปเห็นเรือนร่างอันคุ้นเคยของหญิงสาวผู้สง่างามที่เดินถือกระบี่ท่องรอบโลกท่ามกลางฝูงชนข้างนอกบ้านหมอ เธอก็คือลูกสาวของผู้พิพากษาเทศมณฑลจาง

จู่ๆ ในตอนนั้นลูกสาวของผู้พิพากษามณฑลจาง ก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้กับบ้านหมอและเห็นกระบวนการคลี่คลายคดีของจินอัน

อีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อยไปทางจินอัน

จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไป

จินอันกล่าวคำอำลาเจ้าหน้าที่ทางการทั้งสองคนและบอกว่ามีเรื่องด่วนอยู่ในขณะนี้ จากนั้นเขาก็กุมมือและกล่าวคำสุภาพเล็กน้อยกับชาวบ้านที่อยู่รอบๆ ตัวเขา แล้วรีบตามเรือนร่างเพรียวสวยขาเหยียดตรงไปในทันที

“เอ่อ คือ...”

จินอันอยากจะทักทาย แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่าเขายังไม่รู้ชื่อของอีกฝ่าย

เขาอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่งเพราะไม่รู้ว่าจะเรียกเธอว่าอะไร

จางหลิงหยุน กำลังเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่านแล้วหยุดอยู่หน้าพ่อค้าขายเกี๊ยว เรือนรูปอันงดงามของเธอกำลังหยิบกระเป๋าเงินอันบอบบางออกมาเพื่อที่จะจ่ายเงิน

ในตอนนี้ ดวงอาทิตย์ถูกบดบัง และมีคนยืนอยู่ข้างๆ จางหลิงหยุน

จินอันเป็นฝ่ายริเริ่มประจบจางหลิงหยุนและจ่ายเงินให้เธอ

เกี๊ยวมีราคาไม่แพง ไม่ถึง 5 เหวิน พ่อค้ายื่นเกี๊ยวที่พันด้วยเชือกฟางและใบบัวไปที่มือของจินอันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

ในสมัยโบราณ ผู้คนจำเป็นต้องแพ็คของเมื่อไปจับจ่าย โดยมักจะเตรียมกล่องอาหาร ตะกร้าไม้ไผ่ ถุงผ้า ไห่ เชือกฟาง ฯลฯ ไว้ล่วงหน้า แน่นอนว่ายังมีใบบัวธรรมชาติบริสุทธิ์ไร้ต้นทุนจำหน่ายแทนการบรรจุห่อด้วย

ยกตัวอย่างในละคร พ่อค้าแต่งกายด้วยผ้าลินิน ขายซาลาเปาสองสามลูก แต่กลับฟุ่มเฟือยห่อด้วยกระดาษน้ำมันเพราะคนเขียนบทปัญญาอ่อนและไม่เข้มงวด

กระดาษมีราคาแพงในสมัยโบราณ

พ่อค้าที่ขายซาลาเปาเนื้อห่อด้วยกระดาษน้ำมัน ซึ่งมันก็เหมือนกับพ่อค้าที่ขายหม้อไฟรสเผ็ดแล้วบรรจุในถุง หลุยวิสตอง มันคงสะดุดจาเกินไป

“คุณชายจินอัน ท่านต้องอะไรจากข้างั้นหรือ?”

จางหลิงหยุน เป็นคนฉลาด เธอเหลือบมองไปที่ จินอัน ด้วยสายตาที่เป็นดั่งฤดูใบไม้ร่วงของเธอมันกำลังจะแทงทะลุหัวใจของชายคนนั้น ความคิดของ จินอัน ถูกเปิดเผยออกมา ทำให้เขาเขินอายทันที

“จริงๆ แล้ว ที่ข้ามีเรื่องจะขอ เอ่อ…แต่ข้ายังไม่รู้ว่าจะเรียกเจ้าว่าอย่างไรเลย?”

“จางหลิงหยุน” หญิงสาวที่ถือกระบี่ สายตาเย็นชาและพูดน้อย กล่าว

“ข้าได้ยินมาว่า แม่นางหลิงหยุน ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยมาตั้งแต่เด็ก และได้ฝึกฝนศิลปะยุทธภายใต้ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเพื่อเสริมสร้างร่างกายของเจ้า แม่นางหลิงหยุน มีความรู้มากกว่าข้า                                             ข้าสงสัยว่าแม่นางหลิงหยุนเคย  ได้ยินมาบ้างหรือไม่ ว่าจะซื้อหายาอายุวัฒนะของลัทธิเต๋าได้ที่ใด? หรือวิธีการทำอายุวัฒนะของลัทธิเต๋าก็ได้?”

จางหลิงหยุนส่ายหัวเบาๆ : "ผู้คนจากลัทธิเต๋าไม่เคยอยู่ร่วมกับชาวยุทธ"

ดูเหมือนว่าคดีที่ไม่เป็นธรรมที่ จินอัน เพิ่งคลี่คลาย จะทำให้ จางหลิงหยุน มีความประทับใจที่ดีต่อ จินอัน เด็กสาวเย็นชาอายุ 16 หรือ 17 คนนี้ ไม่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามของ จินอัน

จินอันดูผิดหวัง

แต่เขาก็ไม่อยากพลาดโอกาสในการติดต่อกับคนของยุทธตักร ดังนั้น จินอัน ที่มีอารมณ์คิดบวก ก็กลับคืนความตั้งใจมาอย่างรวดเร็วแล้วถามคำถามอีกครั้ง: "ข้าสงสัยว่าแม่นางหลิงหยุนรู้หรือไม่                                                ว่าจะหาซื้อตำรายุทธได้จากที่ไหนบ้าง?

“เช่นทักษะดาบ ทักษะกระบี่ หรือทักษะมนต์ถาคาอะไรก็ได้”

ความคิดของจินอันนั้นเรียบง่าย

พืนป่าอันกว้างใหญ่

ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่

อย่าแขวนคอตัวเองไว้บนต้นไม้*

*( อย่าแขวนคอตัวเองไว้บนต้นไม้ หมายถึง อย่ายึดติดกับวิธีใดวิธีหนึ่ง จงมีความยืดหยุ่น แขวนบนต้นไม้ อุปมาความดื้อรั้น ทนทุกข์ ยึดติดเพียงคนๆ เดียวหรือหนทางเดียว ไม่ปล่อยวาง และไม่ใช้วิธีการอื่น หรือเลือกเส้นทางใหม่ๆ )

ตอนนี้ความเร็วในการฝึกฝน "คัมภีร์อู๋ซัง" นั้นช้าเกินไป และเขาได้ตามหายาอายุวัฒนะของลัทธิเต๋าโดยเปล่าประโยชน์ เขาสามารถเรียนรู้วิธีการช่วยเหลือตัวเองเพิ่มเติมได้ก่อนก็เท่านั้น เพื่อไม่ให้ต้องตายในโลกอันแปลกประหลาดและน่ากลัวใบนี้โดยไม่มีพลังที่จะปกป้องตัวเองได้

…เงาที่โดดเดี่ยวบนผืนน้ำอันเย็นยะเยือก สหายเก่าแห่งแม่น้ำและทะเลสาบ เหตุใดเราถึงต้องพบพานกันมาก่อน?

"ในจิตใจของบุรุษทุกคนมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นจอมยุทธ ที่จะท่องทั่วโลกไปด้วยดาบ และมีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถสังหารผู้อื่นได้ แต่ไม่มีใครสามารถฆ่าข้าได้"! (เอาจากในหนัง)

จางหลิงหยุน: "ข้าขอถามคุณชายจินอันได้หรือไม่ ว่าทำไมจู่ๆ ท่านถึงคิดจะเรียนศิลปะยุทธ?"

“พูดตามตรงนะ คุณชายจินอันแก่เกินไป และก็พลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ศิลปะยุทธไปแล้ว”

“คงเป็นเรื่องยากที่จะมีความสำเร็จในภายภาคหน้า”

“แม้จะผ่านการฝึกฝนอย่างหนักเป็นสิบๆ ปี…”

“แต่มันก็แค่สามารถฆ่าโจรธรรมดาได้มากที่สุดห้าหรือหกคนในเวลาเดียวกัน”

จินอันนิ่งเงียบในตอนแรก จากนั้นสายตาของเขาก็ดูเหมือนจะทะลุผ่านท้องฟ้าอันห่างไกล และเขาก็พึมพำด้วยเสียงต่ำ: "...ฉันแค่อยากจะหาทางกลับบ้านเท่านั้นเอง"

ในตลาดที่คึกคักและมีชีวิตชีวา แผ่นหลังของจินอันโดดเดี่ยวมากจนดูเหมือนเขากำลังนอนหงายอยู่

ทันทีที่จินอันกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เขาเริ่มศึกษาเสียงแห่งวิถีเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่ดังกึกก้องในใจของเขา ที่เกิดขึ้นที่บ้านหมอว่ามันคืออะไร?

“ผนึกจักรพรรดิ!”

จินอันรับรู้สัมผัสเสียงแห่งวิถีเต๋าอันยิ่งใหญ่และเริ่มพูดคุยกับตัวเองในใจ

แต่หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง กลับไม่มีอะไรปรากฏขึ้นมา

จินอันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง คราวนี้เขาเพ่งสายตาและมองดูวัตถุสมุนไพรบำรุงเลือดและเติมพลังที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ผนึกจักรพรรดิ!”

เขารับรู้สัมผัสเสียงแห่งวิถีเต๋าอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง กระแสน้ำแห่งเต๋าห่อหุ้มวัตถุดิบยาบนโต๊ะ  และแล้วกลิ่นหอมอันเข้มข้นของวัตถุดิบยาก็ล้นออกมารุนแรง จนไม่สามารถปกปิดทั่วทั้งห้องได้

นี่คือผลของยาที่เสริมแล้วงั้นเหรอ?

จินอัน ตะลึง!

(จบบท)

หากอ่านแล้วชอบ สามารถคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้นะครับ หรือติติง เรื่องการคำที่ใช้เพราะผู้แปลก็เป็นมือใหม่ในวงการนิยายครับ ขอบคุณครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด