ตอนที่แล้วChapter 868 จะให้อีกฝ่ายเกลียดข้าเลยรึ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 870 ได้รับการยอมรับ

Chapter 869 ตะลึงงัน


นิกายใด ๆ ในทวีปชิงหยุนนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีรากวิญญาณชั้นสูงทั้งหมดได้.

ทว่านิกายนิรันดรกับสามารถทำได้ ขอเพียงมีแต้มสนับสนุนเพียงพอก็สามารถแลกเปลี่ยนสินค้า น้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ เพิ่มพรสวรรค์ของศิษย์ให้เป็นระดับสูง โดยค่อย ๆ เปลี่ยนทีละคนสองคน สุดท้ายแล้วก็จะสามารถสร้างศิษย์ที่มีรากวิญญาณระดับสูงได้ทั้งหมด.

ซูเซียวโม่ที่เป็นสายลับแฝงตัวเขามานั้น เขาที่อ้างตัวเองมีรากวิญญาณระดับกลาง.

ดังนั้นการที่เขาเรียนรู้ท่าเท้าก้าวเงาเก้าเคลื่อนคล้อยได้นั้น ย่อมทำให้เหล่าคนระดับสูงสงสัย เพราะไม่มีทางที่รากวิญญาณระดับกลางจะศึกษาฝึกฝนได้ถึงระดับนี้ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้.

“นี่มัน....”เหอจงหยิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.

ท่าเท้าก้าวเงา เก้าเคลื่อนคล้อยเขาเคยศึกษาหลายเดือนอยู่เหมือนกัน ทว่ากับรู้สึกว่าท่าเท้านี้ด้อยกว่าท่าเท้าอื่น ๆ ทำให้เขาเลิกล้ม ไม่ต้องการเสียเวลาฝึก.

ตอนนี้ ขณะที่เห็นอีกฝ่ายใช้ออกมา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ศึกษา ยังสำเร็จขั้นกำเนิดเงา นี่ต้องเป็นขั้นสุดยอดอย่างแน่นอน!

“ฟู่ ฟู่-”

ในเวลานั้น เสียงที่เผาผลาญที่ดังขึ้นมาทันที.

ฝ่ามือเพลิงที่โจมตีมาจากด้านข้างด้วยความเร็ว ทำให้หัวใจของเหอจงหยิงเต้นไปมาโครมคราม“ไม่ได้การ........”

“ตูมมมมม!”

“กึก ครืนนนนนนนนนน!”

ร่างของเหอจงหยิงที่ถูกปะทะลากครูดออกไปสองสามก้าว.

ขณะที่ยืนยั้งเท้าได้ ก็จ้องมองไปยังหมัดขวาของซูเซียวโม่ที่มีเปลวเพลิงลุกโชน ต้องอุทานด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ “ฝ่ามือเพลิงแผดเผาหกกระบวน!”

“ฟิ้ว!”

ซูเซียวโม่ที่ไม่เอ่ยกล่าวอะไร ด้วยท่าเท้าก้าวเงาเก้าเคลื่อนคล้อยที่ปรากฏตัวพล่านไปทั่วสนาม และฝ่ามือเพลิงแผดเผาหกกระบวนที่ลอบโจมตีอีกฝ่ายเป็นระยะ ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้เป็นจุด ๆ ขึ้นทั่วทั้งสนาม.

เหล่าศิษย์ที่ชมอยู่เวลานี้ถึงกับอ้าปากค้างกลายเป็นโง่งมไปเลย.

ซูเซียวโม่และเหอจงหยิงที่ท้าประลองกันเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว พวกเขาทุกคนแทบจะเชื่อว่าอีกฝ่ายคงถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย ต้องไม่ลืมว่าโกวเซิ่งไม่มีอันดับอะไร.

ทว่าในเวลานี้ โกวเซิ่งไม่เพียงแต่สามารถใช้ฝ่ามือเพลิงแผดเผาหกกระบวนและท่าเท้าก้าวเงาเก้าเคลื่อนคล้อยที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ จนทำให้พวกเขาตื่นตะลึงอ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน.

รวมทั้งซุนหยิงชวนและเซี่ยซุยอวิ๋น แม้กระทั่งเหล่าคนระดับสูงนิกายไท่เสวียนเซิ่งด้วย.

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

“ตูมมมม!”

“ตูมมมมม!”

บนลานยุทธ ซูเซียวโม่ที่ใช้ท่าเท้าที่คล่องแคล่วเคลื่อนไปทั่วสนาม และคอยหาจุดอ่อนใช้ฝ่ามือเพลิงแผดเผาหกกระบวนโจมตีทีเผลอเป็นระยะ ๆ.

การต่อสู้รูปแบบนี้ แม้นว่าจะไม่ค่อยสง่างามนัก ทว่ากับเหมาะที่จะใช้ต่อกรกับคนที่มีพลังมากกว่าเป็นอย่างมาก.

ทว่า.

เป็นความจริงที่เหอจงหยิงที่ชะงักเสียกระบวนไปเลย!

ในเวลานี้เขาไม่สามารถที่จะโจมตีอีกฝ่ายได้เลย ทำได้แค่ตั้งรับถอยทีละก้าว ๆ จนแทบจะตกเวทีไปแล้ว.

“อาวุโสสาม!”

อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยด้วยความประหลาดใจ“โกวเซิ่งมีระดับบรรพชนยุทธ์แล้ว!”

ถึงจะสำเร็จวิชาขั้นสุดทั้งสองวิชา ซูเซียวโม่ก็ยังนับว่ายากที่จะเอาชนะเหอจิงหยิงระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายได้ ดังนั้นจึงต้องปล่อยพลังบ่มเพาะบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายออกมา.

“เดือนที่แล้วเขาเพิ่งตัดผ่านไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์ หนึ่งเดือนถัดมากับอยู่ในระดับบรรพชนยุทธ์แล้ว เจ้าเด็กนี่จงใจซ่อนพลังบ่มเพาะเอาไว้อย่างงั้นรึ?”อาวุโสอีกคนที่สงสัย.

กล่าวในมุมมองปรกติ ไม่ใช่ของคนระดับสูง ทุกคนย่อมต้องเชื่อว่าซูเซียวโม่ซ่อนพลังบ่มเพาะเอาไว้.

“ข้าก็คิดเช่นนั้น.”อาวุโสสามคาดเดา.

อาวุโสซุนเอ่ย “บุตรของข้าได้เก็บสะสมศิลาวิญญาณธรรมชาติหลายร้อยก้อนเอาไว้ก่อนมอบให้เจ้าเด็กนั่น การที่เขามีพลังบ่มเพาะที่ก้าวกระโดด จนมีพลังบ่มเพาะบรรพชนยุทธ์ก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร.”

“ซุยอวิ๋นก็มอบ 50 ศิลาวิญญาณธรรมชาติให้เขาเช่นกัน.”อาวุโสเซี่ยเอ่ย.

ได้ยินคำพูดของทั้งสอง เหล่าอาวุโสที่เดิมที สงสัยก็สลายหายไปทันที.

อีกคนที่เอ่ยออกมา“ไม่แปลกใจเลยว่าเจ้าเด็กนั่นตัดผ่านมาถึงระดับบรรพชนยุทธ์ได้ แท้จริงก็มีทรัพยากรมากมายเช่นนี้.”

ดูเหมือนว่าความพยายามจะไม่สูญเปล่า แม้นว่าจะทำให้เหล่าอาวุโสตื่นตะลึง ทว่าก็ไม่ได้มากเท่ากับก่อนหน้านี้ ด้วยศิลาวิญญาณธรรมชาติที่ซุนหยิงชวนและเซี่ยซุยอวิ๋นมอบให้ ย่อมไม่ทำให้ใครสงสัยพบพิรุธได้.

แน่นอน.

เขารู้ว่าหลังจากผลการประลองครั้งนี้ เขาจะต้องถูกตรวจสอบรากวิญญาณอีกแน่ ดังนั้นจึงได้โจมตีเหอจงหยิงและคิดในใจ“ควรจะแสดงระดับใดออกมากัน?”

ระดับศักดิ์สิทธิ์เฉิดฉายเกินไปไม่สามารถเผยออกมาได้ แม้แต่ในนิกายใหญ่ ตระกูลใหญ่ ยังยากจะพบเห็น แน่นอนว่าย่อมต้องถูกสงสัยเป็นแน่.

“ส่วนระดับสูงก็ธรรมดาไป.”

ซูเซียวโม่ที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะตัดสินใจหนักแน่น “เอาเป็นระดับสุดยอดก็แล้วกัน.”

รากวิญญาณระดับสุดยอด ในนิกายระดับสองและสาม แม้นว่าจะถือว่าค่อนข้างสูง ทว่าในนิกายระดับหนึ่งก็ธรรมดาทั่วไป.

“ตูมมมมม!”

ซูเซียวโม่ที่คอยหาจุดอ่อน พร้อมกับโจมตีด้วยฝ่ามือเพลิงแผดเผาหกกระบวนท่าไปยังด้านหลังของเหอจงหยิง.

“......”

เหล่าศิษย์ผู้ชมที่มุมปากกระตุก.

หลายคนที่คิดว่าศิษย์พี่เหอคงจัดการโกวเซิ่งได้เพียงไม่ถึง 10 กระบวนท่า ท้ายที่สุดทั้งสองที่ปะทะกันไปกว่า 30 กระบวนท่าด้วย หนำซ้ำยังเป็นอีกฝ่ายที่โจมตีแต่เพียงฝ่ายเดียว.

“น่ารังเกียจ!”

เหอจงหยิงที่แววตาเผยประกายเย็นชา ก่อนที่จะยืนอย่างมั่นคง.

เขาที่ถูกโจมตีไม่หยุดจนอยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก เรื่องนี้ไม่สามารถยอมรับได้!

“ฟู่ ฟู่!”

หมัดทั้งสองที่กำแน่นทันที ก่อนที่จะปะทุพลังวิญญาณออกมา!

เขาที่โกรธสุด ๆ!

แน่นอนว่าเขาจะต้องสวนการโจมตีออกไปอย่างแน่นอน.

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น ขณะที่ซูเซียวโม่อ้อมไปด้านหลัง ขณะเตรียมใช้ฝ่ามือเพลิงแผดเผาหกระบวน เหอจงหยิงที่เตรียมตัวที่จะต้านรับปะทุพลังออกมาขณะอยู่ห่างไกลหลายเมตร.

การที่ปะทุพลังบรรพชนยุทธ์ออกมา ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะปะทะตรง ๆ.

เจ้าคนนี้ นับว่าขยะอย่างแท้จริง.

ไม่ใช่ว่าเหอจงหยิงไร้สามารถ สำหรับนิกายระดับสองและสาม แม้แต่คนที่มีระดับเดียวกันก็ยังยากจะที่สะกดข่มเขาได้.

น่าเสียดาย ต่อหน้าซูเซียวโม่จากนิกายนิรันดร ที่กลั่นร่างกายจนแข็งแกร่ง แม้ว่าจะปะทุพลังบรรพชนยุทธ์ขั้นที่สอง ทว่ากับเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์มากมาย!

“ฟิ้ว!”

ซูเซียวโม่ที่เคลื่อนที่เข้าใกล้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นใช้ฝ่ามือกวาดไอร้อนกระจายไปทั่วเวที.

เขาที่ไม่เปิดโอกาสให้เหอจงหยิงได้ตอบโต้ออกมา ก่อนที่จะขยับออกไปรอบ ๆ.

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

“ตูมมมม!”

ภายใต้ฝุ่นควันและไอร้อนปกปิดลวงตา เหอจงหยิงที่ถอยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะปะทุพลังแต่ไม่รู้จะโจมตีไปทิศใด กล่าวได้ว่าสภาพของเขาค่อนข้างอนาถโดยแท้จริง!

“......”

เหล่าศิษย์สายนอกที่มุมปากกระตุกไปมา.

ไม่สู้สีกันเลย คาดไม่ถึงเลยว่าไม่มีแม้แต่โอกาสได้โจมตีกลับ.

“โอ้วสวรรค์!”

ซุนหยิงชวนที่งงตะลึงไปเลยเหมือนกัน“โกวเซิ่ง...เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลย!”

เซี่ยซุยอวิ๋นที่ลอบคิดในใจ“นี่เขาวางแผนมาดีเตรียมที่จะแสดงความแข็งแกร่ง ให้ทุกคนได้เยินยอตัวเองรึอย่างไร.”

“อ๊าก! อ๊าก---”

“ตูมมมม!”

เหอจงหยิงต้องการจะปะทะด้วยพลัง หากแต่ไม่รู้ทิศ รู้ทางได้แต่คำรามเสียงดัง ก่อนที่จะถูกหมัดของซูเซียวโม่ตะบันเข้าให้ ถอยหลังไปสองสามก้าว เกือบที่จะล่วงหล่นไปนอนกับพื้น.

“คนละชั้น.”อาวุโสคนหนึ่งที่ส่ายหน้าไปมา.

การต่อสู้ที่เห็นได้ชัดเจน แม้นว่าซูเซียวโม่จะมีพลังบ่มเพาะน้อยกว่าเหอจงหยิงมาก ทว่าประสบการณ์ต่อสู้กับอยู่กัน คนล่ะระดับกันเลย.

“น่าประหลาดใจ.”

“ประหลาดใจจริง ๆ!”

อาวุโสสามที่เผยยิ้มออกมา.

เขาที่เป็นผู้ดูแลศิษย์ใหม่มาหลายปี ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในศิษย์ธรรมดาแบบนี้.

อย่างไรก็ตาม โกวเซิ่งที่สัมผัสได้เช่นกัน เกี่ยวกับพลังบ่มเพาะไม่สูง แต่ประสบการณ์ต่อสู้มากมายนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากไม่มีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงคอยสั่งสอน เขาจำเป็นต้องคิดแก้ปัญหานี้ด้วยเช่นกัน.

“ตูมมมมม!”

ในเวลานั้น หลังจากต่อยตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็คว่ำหล่นลงเวทีไปกองบนเวที ในเวลานี้ร่างของของเขาที่เจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วร่างเลยทีเดียว.

“ศิษย์พี่เหอ.”

ซูเซียวโม่ที่ยืนอยู่บนเวที ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า“ท่านให้ข้าชนะแล้ว.”

“การต่อสู้แรก.”อาวุโสสามที่ประกาศออกมาทันที“โกวเซิ่งชนะ เหอจงหยิงตกรอบ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด