Chapter 870 ได้รับการยอมรับ
ซูเซียวโม่ที่เอาชนะเหอจงหยิงอย่างคาดไม่ถึง.
หลังจากที่อาวุโสสามประกาศ รอบ ๆ กับกลายเป็นเงียบงันไปในทันที แม้แต่เข็มหล่น คงจะได้ยินอย่างชัดเจนเช่นกัน.
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ในเวลาต่อมาซุนหยิงชวนที่หัวเราะออกมาด้วยความสะใจ“ศิษย์น้องโกวแข็งแกร่งมาก.”
เขาและซูเซียวโม่ที่สนิทกันสุด ๆ การที่อีกฝ่ายเหอจงหยิงได้ เขาให้เขาตื่นเต้นดีใจจนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา!
“ร้ายกาจ!”
“แท้จริงแล้วศิษย์น้องโกวก็แข็งแกร่งขนาดนี้นะเอง!”
“พวกเราประเมินเขาต่ำไปแล้ว!”
พวกเขาคิดว่าเหอจงหยิงจะต้องชนะ ตอนนี้ราวกับถูกตบหน้าคืนอย่างแรง ตอนนี้ทำให้มีหลายคนที่เริ่มมองซูเซียวโม่อย่างชื่นชม.
การที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้ แน่นอนว่าย่อมต้องได้รับความเคารพจากผู้ฝึกยุทธ์ด้วยกัน.
แน่นอน.
ว่านี่เพียงแค่เห็นภายนอก.
ศิษย์หลายคนต่างก็คิดในใจว่าทำไมโกวเซิ่งสามารถเอาชนะเหอจงหยิงได้!
ทำไม?
แน่นอนว่ามันคงเกี่ยวข้องกับทรัพยากรและความพยายาม!
“พรึด!”
เหอจงหยิงที่ตอนนี้นอนกระอักโลหิตอยู่ ไม่สามารถแบกรับความอับอายที่พ่ายแพ้กับศิษย์เพิ่งเข้ามาใหม่ได้ ตกรอบแรกการทดสอบศิษย์สายนอก ครั้งนี้!
“หมายเลข 12 ขึ้นเวที!”อาวุโสสามที่ตะโกนออกมา.
ผลงานของซูเซียวโม่นั้น แม้นว่าจะทำให้เขาต้องประหลาดใจอย่างมาก ทว่าการทดสอบศิษย์สายนอกก็ยังต้องดำเนินต่อไป.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้นการแข่งขันที่ดำเนินต่อไป.
ทุกคนที่กลับมาสู่การทดสอบศิษย์สายนอกต่อไป.
ส่วนผู้ชนะ.
เช่นซูเซียวโม่ก็จำเป็นต้องรอผู้ชนะที่จะผ่านเข้ามา.
......
“ตูมมมม!”
“ศิษย์พี่ฉิน ท่านให้ข้าชนะแล้ว!”
บนสนาม ซูเซียวโม่ที่ยกมือประสานไปด้านหน้า.
ด้านล่างเวลานี้ ศิษย์แซ่ฉินที่ถูกถีบหล่นเวที ยกมือประสาน“ศิษย์น้องทรงพลังนัก ศิษย์พี่ยอมแพ้ทั้งกายและใจ.”
การที่สามารถชนะเหอจงหยิงได้ การที่ผ่านรอบสองไปอีกไม่มีใครประหลาดใจแต่อย่างใด แม้แต่คาดว่าซูเซียวโม่คือคนที่จะได้รับชนะเลิศมากที่สุดด้วยซ้ำ.
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ดูเรียบง่ายกว่างานประลองของนิกายนิรันดรมาก.
จากนั้นไม่นาน การทดสอบศิษย์สายนอกก็มาถึงรอบชนะเลิศ.
ทว่าซูเซียวโม่กับเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่าย ๆ คว้าชัยชนะเลิศการทดสอบศิษย์สายนอกปีนี้ไป.
“ง่ายไปแล้ว!”
“ไม่ทันให้รู้สึกตื่นเต้นเลย!
ศิษย์หลายคนพูดไม่ออก.
พวกเขาคิดว่า การทดสอบศิษย์สายนอกครั้งนี้ คงมีเพียงการต่อสู้ของซูเซียวโม่และเหอจงหยิง นั่นต่างหากถึงควรจะเรียกว่ารอบชนะเลิศ.
“ผู้ชนะทดสอบศิษย์สายนอกปีนี้ โกวเซิ่ง ได้รับ 500 แต้มสมนาคุณ และได้รับ 20 ศิลาวิญญาณธรรมชาติ.”
อาวุโสสามที่ประกาศเสียงดัง ก่อนที่จะกล่าวออกมาเบา ๆ “ตามข้ามายังห้องโถงด้วย.”
“ครับ!”
ซูเซียวโม่ที่ลอบคิดในใจ“ผลของการโดดเด่นวันนี้ คงต้องถูกจับตามองเป็นธรรมดา.”
......
ภายในห้องโถง.
ซูเซียวโม่ที่ยืนตรงดิ่ง.
อาวุโสหลายคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า ส่งจิตสัมผัสตรวจสอบไปทั่วร่างของเขาราวกับจะชำแหละออกมาเป็นส่วน ๆ.
น่าเสียดาย ศาสตร์ปิดพลัง วิชาจากพิภพเบื้องบน ไม่มีทางที่พวกเขาจะเห็นอะไรได้.
“เสี่ยวโม่.”
อาวุโสสามเอ่ย “มีอะไรจะบอกเหล่าฟู่และคนอื่น ๆหรือไม่?”
“เรียนอาวุโส!”
ซูเซียวโม่เอ่ยอย่างภาคภูมิ “ศิษย์มีนามว่าซูจินถังอาศัยอยู่ที่คลองซูเจี่ยจังหวัดหนานหวง ครั้งหนึ่งพบกับเหล่าเหรินจุนเทียนและถูกรับเป็นศิษย์ จึงได้ติดตามบ่มเพาะวิชาอยู่หลายปี!”
ในเวลานี้ แน่นอนว่าไม่สามารถปกปิดความจริงเอาไว้ได้.
เขาที่เอ่ยกล่าวออกมาเอง ทำให้เหล่าอาวุโสพยักหน้ารับ.
“ตาเฒ่าจุนเทียน.”
อาวุโสสามสีคางไปมา เอ่ยออกไปว่า“ไม่เคยได้ยินมาก่อน.”
“เรียนอาวุโส!”
ซูเซียวโม่เอ่ย “อาจารย์นั้นน้อยครั้งนักจะก้าวสู่ยุทธภพ เขาชื่นชอบท่องเที่ยวและชื่นชมธรรมชาติมากกว่า.”
“แท้จริงเป็นชาวยุทธ์เร้นกายนี่เอง.”
เหล่าชาวยุทธ์ที่ไม่ชอบเผยตัวออกมาในทวีปชิงหยุนมีอยู่ไม่น้อย และที่มีชื่อเสียงเองก็มีหลายคน.
คนที่มีชื่อที่สุด คงเป็นตาเฒ่าไท่เสวียน.
ที่เป็นยอดฝีมือที่สามารถตัดผ่านมิติก้าวขึ้นสู่พิภพเบื้องบนได้ แม้แต่ยังทิ้งวิชาระดับเหนือเทวะไว้สองวิชา จนมาเป็นนิกายไท่เสวียนเซิ่งในปัจจุบัน.
“แล้ว ก่อนที่เจ้าจะเข้าร่วมนิกายเจ้ามีระดับบรรพชนยุทธ์แล้วรึ?”
“เรียนอาวุโส ศิษย์เพิ่งตัดผ่านระดับได้เมื่อเดือนที่แล้ว โชคดีที่ได้ศิลาวิญญาณจากนิกายตลอดจนจากศิษย์พี่ซุนและศิษย์พี่เซี่ยมอบให้!”
“ในเวลาสั้น ๆ ถึงจะมีทรัพยากรมากมายก็ตามก็ตัดผ่านระดับบรรพชนยุทธ์ได้ แม้แต่รากวิญญาณระดับสูงก็ยากจะทำได้.”
“เข้ามานี้.”
อาวุโสนำลูกแก้วทรงกลมออกมา “ยื่นมือออกมา.”
ซูเซียวโม่รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการทดสอบรากวิญญาณ ดังนั้นจึงได้ก้าวออกไป ยื่นมือออกไปด้านหน้ารับลูกแก้วนั่นไว้ พร้อมกับโคจรศาสตร์ปิดพลังระงับรากวิญญาณตัวเองด้วย.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลาต่อมา ลูกแก้วดังกล่าวที่ส่องประกายแสงสีแดง.
อาวุโสคนหนึ่งเอ่ย “แท้จริงก็มีรากวิญญาณระดับสุดยอดนี่เอง.”
เหล่าอาวุโสคนอื่น ๆ ที่กล่าวกระซิบกันไปมา.
ซูเซียวโม่ที่ลอบถอนหายใจ“ศาสตร์ปิดพลังที่เจ้านิกายมอบให้ สามารถระงับรากวิญญาณได้จริง ๆ!”
“การที่มีรากวิญญาณระดับสุดยอด บวกกับศิลาวิญญาณมากมายพร้อมกับพยายามอย่างหนัก ในเวลาอันสั้นตัดผ่านมายังระดับบรรพชนได้ก็นับเป็นเรื่องธรรมดา.”
อาวุโสหลายคนที่สรุป และเข้าใจเรื่องความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายที่เพิ่มขึ้นมาได้.
“เจ้าเด็กคนนี้.”
อาวุโสสามเผยยิ้มออกมา“เจ้าซ่อนได้ลึกมาจริง ๆ.”
“เอิ่ม....”ซูเซียวโม่ที่ยกมือขึ้นเกาศีรษะเอ่ยออกมาว่า“ก่อนที่จะลงเขานั้น อาจารย์ของข้าได้เตือนอยู่เสมอ ต้องถ่อมเนื้อถ่อมตน อย่าโดดเด่นไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาหา.”
อาวุโสที่เผยยิ้ม.
การที่อาจารย์เป็นคนสมถะปกปิดตัวตน การที่สอนเช่นนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผล.
“ออกไปได้แล้ว.”
อาวุโสสามโบกมือ.
“ครับ!”
ซูเซียวโม่ที่ถอยออกไป หลังจากที่กลับที่พัก ก็ยกน้ำชาขึ้นซดรวดเดียวพลางถอยหายใจยาว.
ภายในห้องโถง เหล่ากลุ่มอาวุโสระดับสูงนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ที่ตรวจสอบเขาอย่างเข้มข้น จนทำให้เขารู้สึกหวั่นใจว่าจะเผยตอบคำถามเผยพิรุธอะไรออกมาหรือไม่?
“ครั้งนี้ทดสอบรากวิญญาณ ต่อไปคงจะสืบสถานะของข้าอีกเป็นแน่ หวังว่าจะไม่พบพิรุธอะไรเข้านะ.”ซูเซียวโม่ที่คิดในใจ.
เป็นความจริง.
เหล่าอาวุโสที่ยังคงหารือเกี่ยวกับเรื่องซูเซียวโม่ นอกจากนี้ยังออกคำสั่งให้สืบเรื่องซูจินถังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้.
เป็นความจริงที่พวกเขาสงสัยว่าจะเป็นสายลับหรือไม่?
เกี่ยวกับคนที่มีพรสวรรค์ระดับสุดยอด เหล่านิกายหลักการที่สืบภูมิหลังของพวกเขาเป็นไปตามขั้นตอนเหมือน ๆ กัน.
ไฉนเลยจะเหมือนกับนิกายนิรันดรล่ะ.
ที่ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสายลับ ไม่จำเป็นต้องสืบภูมิหลังใด ๆ เลยเพราะมีระบบคอยคัดกรองและจัดการสายลับอยู่แล้ว.
สายข่าวของนิกายไท่เสวียนเซิ่งนับว่าทำงานได้เร็วมาก.
เพียงไม่กี่วันก็พบข่าวของซูจินถัง เป็นดังที่ซูเซียวโม่เอ่ยจริง.
ซูจินถังนั้นเป็นคนคลองซูเจี่ย จังหวัดหนานหวงจริง นอกจากนี้ยังมีรากวิญญาณระดับสุดยอดอีก ทว่าได้ออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบแล้ว.
แล้วตัวจริงนะรึ?
อยู่ในนิกายนิรันดรไงล่ะ.
ส่วนเรื่องตาเฒ่าจุนเทียนนั้น นิกายไท่เสวียนเซิ่งไม่สามารถสืบเบาะแสใด ๆ ได้เลย.
“ทุกท่าน.”
อาวุโสสาม“ซูจินถังมีรากวิญญาณไม่เลว และดูเหมือนว่าจะมีที่มาที่ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เหล่าฟูคิดว่าเขาคู่ควรที่จะสนับสนุน.”
“เป็นคนที่เข้ากับคนอื่น ๆ ได้ง่าย ไม่ใช่คนชอบอวดตัวเองด้วย ถือว่าเป็นต้นกล้าที่ดี.”อาวุโสซุนที่กล่าวเสริม.
ขอเพียงว่ามีโอกาส เขาก็จะเอ่ยชมซูเซียวโม่ต่อหน้าอาวุโสคนอื่น ๆ ทันที ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายนั้นสนิทกับบุตรชายของเขา.
อาวุโสเซี่ยเอ่ย “ควรให้โอกาสแก่เขา.”
อาวุโสสองคนที่สนับสนุน คนอื่น ๆ ก็ไม่ขัดข้อง ดังนั้นอาวุโสสามที่ครุ่นคิด ก่อนที่จะประกาศออกมาว่า“เช่นนั้นให้ซูจินถังอยู่ในรายชื่อของสมาชิกหอศึกษาพิเศษ.”
หอศึกษาพิเศษนั้นเป็นแผนกพิเศษของนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ศิษย์ที่ได้เข้าร่วมล้วนแต่เป็นคนที่มีศักยภาพสูง และทุกคนจะได้รับทรัพยากรฝึกฝนมากกว่าปรกติ และหลังจากนี้ หากแสดงผลงานได้ดี จะสามารถกลายเป็นศิษย์สายในได้อย่างไม่มีปัญหา.
“เจ้านิกาย.”
ขณะที่ซุนหยิงชวนนำเรื่องมาบอกซูเซียวโม่ ว่าเขาได้กลายเป็นหนึ่งคนหอศึกษาพิเศษ เขาที่คิดในใจ“ศิษย์ได้รับความเชื่อใจจากคนระดับสูงแล้ว ก้าวถัดไปคือการเป็นศิษย์สายใน หรือแม้แต่ศิษย์หลัก!”
จุนซ่างเซียวในนิกายนิรันดร หลังจากได้รับข้อมูลจากลี่ลั่วฉิว เขาที่นั่งไขว่ห้างพิงหลังสบาย พลางเผยยิ้มออกมา“ศิษย์รักของข้า รอให้ทุกอย่างสุกงอม เปิ่นจั้วหวังให้เจ้าเป็นคนสำคัญระดับสูงของนิกายไท่เสวียนเซิ่งให้ได้.”