Chapter 865 คนที่ศิษย์พี่เกลียด คือศัตรูของข้า
หลังจากที่สังหารราชาวายุปิศาจเสร็จแล้ว ซูเซียวโม่และเซี่ยซุยอวิ๋นก็กลับนิกายไท่เสวียนเซิ่ง.
หลังจากส่งภารกิจรับรางวัล เซี่ยซุยอวิ๋นก็นำเม็ดยาตลอดจนตั๋วเวลา เข้าค่ายกลพลังวิญญาณมาให้ซูเซียวโม่ “ทำไมไม่ถาม รางวัลของเจ้าล่ะ.”
“เอิ่ม.”
ซูเซียวโม่ที่รับรางวัลมา พร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณศิษย์พี่.”
เขายังคงแสดงอย่างถ่อมตนต่อหน้าเซี่ย แสดงเป็นคนทั่วไปในนิกาย ไม่ให้ใครเห็นความผิดปรกติใด ๆ.
เฮ้อ.
นับเป็นสุดยอดทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ.
“หลังจากนี้ อยู่กับซุนหยิงชวนให้มันน้อยหน่อย.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย“หากว่ามีภารกิจอะไร ข้าจะมาเรียกเจ้าไปทำด้วย.”
“อืม!”
ซูเซียวโม่ที่พยักหน้ารับ.
“อา ใช่.”
ก่อนที่เซี่ยซุยอวิ๋นจะจากไป ราวกับนึกอะไรขึ้นได้จึงหันกลับมา“อีกไม่นานก็จะมีการตรวจสอบประเมินศิษย์สายนอก หวังว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จ มีอาวุโสให้ความสนใจเป็นพิเศษ.”
“เรื่องนี้...ข้าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้.”ซูเซียวโม่เอ่ย.
จากนั้น.
เขาที่คิดจะปิดด่านบ่มเพาะ.
เพราะเขามีแต้มสมนาคุณไม่น้อย เป็นรางวัลจากภารกิจ หากว่าเขาไม่บ่มเพาะแล้วพลังเพิ่มขึ้นจะเป็นที่สงสัยได้.
ช่วงระหว่างนี้.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ปรากฏตัวขึ้นเป็นระยะ แล้วพาเขาไปทำภารกิจ.
ซูเซียวโม่รู้ดี หลังจากเหตุการณ์เทือกเขาหยินแล้ว สตรีผู้นี้ได้คอยช่วยเหลือเขาให้ได้รับทรัพยากรฝึกฝนอย่างชัดเจน.
“โกวเซิ่ง เร็ว ๆ นี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะใกล้ชิดกับเซี่ยซุยอวิ๋น พวกเจ้ามีความสัมพันธ์กันอย่างงั้นรึ?”
ขณะเดินทางไปยังโรงอาหาร ซุนหยิงชวนที่เอ่ยถามเสียงเบา.
ไม่ใช่แค่ซุนหยิงชวน เหล่าศิษย์สายนอกต่างก็พูดคุยกันเรื่องนี้ ต้องไม่ลืมว่าศิษย์พี่เซี่ยนั้นเป็นสตรีที่เย็นชาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ทว่ากับไปพบหาซูเซียวโม่ด้วยตัวเองบ่อยครั้ง ไม่มีใครที่จะมองไม่เห็น.
“ข้าและศิษย์พี่เซี่ยนั้นไม่ได้มีอะไรกัน เป็นเพียงแค่คนทำภารกิจร่วมกันเท่านั้น.”ซูเซียวโม่ที่เร่งรีบปฏิเสธ.
เขารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก.
เพราะว่าเซี่ยซุยอวิ๋นนั้นช่วยเขาอย่างชัดเจน จนทำให้เกิดการนินทาอย่างช่วยไม่ได้.
นอกจากนี้ หญิงงาม ย่อมมีคนมากมายสนใจจับตามอง การที่เขาและนางใกล้ชิดกัน ย่อมสร้างความขุ่นข้องและนำปัญหามาให้เป็นแน่.
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ.
ขณะเดินมายังโรงอาหาร ก็มีใครบางคนที่ถือดาบใหญ่ ร่างกายสูงกำยำ หน้าตาหล่อเหลามาขวางทางของเขาเอาไว้ เอ่ยออกมาเล็กน้อย“ไอ้หนู ข้าขอเตือนเจ้า จงอยู่ห่างจากศิษย์น้องเซี่ยซะ.”
บุรุษผู้นี้มีนามว่าเหอจงหยิง.
เขาคือศิษย์สายนอกที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อเริ่มการแข่งขันปลายปี เขาน่าจะเป็นคนที่จะได้เป็นศิษย์สายในมากที่สุด.
นิกายไท่เสวียนเซิ่ง ศิษย์สายนอกมีจำนวนมาก และยังมีการแบ่งออกเป็นขั้น ๆ อีกด้วย.
ซูเซียวโม่ ซุนหยิงชวนตลอดจนเซี่ยซุยอวิ๋นนั้นอยู่ในศิษย์ใหม่เหมือน ๆ กัน จากนั้นก็จะเป็นศิษย์เก่าขั้นต้นและขั้นปลาย.
กล่าวให้ถูกต้อง.
มีการแบ่งระดับออกเป็นสามส่วนนั่นเอง.
กล่าวได้ว่าศิษย์สายนอกนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ซูเซียวโม่อยู่ในเกรดหนึ่ง ส่วนเหอจงหยิงนั้นเป็นศิษย์เก่าขั้นปลายถือเป็นเกรดสามนั่นเอง.
“เจ้าคนแซ่เหอ.”
ซุนหยิงชวนที่ก้าวเข้ามา เงยหน้ากล่าวออกมาว่า“เจ้าขู่ใคร?”
เหอจงหยิงหาได้สนใจบุตรของอาวุโสซุน ทว่าจ้องมองไปยังซูเซียวโม่เขม็งก่อนที่จะจากไป.
“ศิษย์พี่เหอชื่นชมศิษย์น้องเซี่ยมาเนิ่นนานแล้ว การที่เห็นศิษย์น้องเซี่ยไปสนิทกับคนอื่น ๆ จะต้องเกิดเรื่องเร็ว ๆ นี้แน่.”
ในโรงอาหาร ศิษย์สายนอกที่กล่าวซุบซิบนินทาเสียงเบา.
“โกวเซิ่ง.”
ซุนหยิงชวนที่ตบไปที่ไหล่ของซูเซียวโม่เอ่ยออกมาว่า“อย่าได้กลัว มีศิษย์พี่อยู่ เจ้าคนนั้นไม่กล้าข่มเหงรังแกเจ้าแน่นอน!”
“ขอบคุณศิษย์พี่.”
ซูเซียวโม่ที่ถือจานข้ามานั่งที่โต๊ะแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเห็นเซี่ยซุยอวิ๋นถือจานข้าวมานั่งตรงข้ามเขาอย่างไม่แยแสใคร ๆ ภายในใจของเขาแทบทรุด“นี่นางตั้งใจนี่นา อ๊าก!”
......
“ตาเฒ่าจุนเทียน?”
นิกายนิรันดร จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบาบนที่นั่ง“นี่คือสถานะใหม่ของข้ารึ?”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ยเสียงเบา “ซูเซียวที่ได้ใกล้ชิดกับเซี่ยซุยอวิ๋น หลานสาวอาวุโสเซี่ย ดังนั้นจึงทำให้ศิษย์พี่ในนิกายเขม่น จึงได้สอบถามเจ้านิกายมาว่าควรทำอย่างไร.”
“กล่าวได้ว่าหากต้องยืนเด่นในนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ก็ต้องโดดเด่น ยืนหยัดด้วยพลังของตัวเอง.”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเล็กน้อย“บอกเซียวโม่ ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว จงเผยความแข็งแกร่ง ให้คนระดับสูงให้ความสำคัญไปเลย.”
เริ่มต้นแผนการของซูเซียวโม่คือไม่โดดเด่นให้คนอื่นต้องสงสัย ค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปช้า ๆ เป็นขั้นเป็นตอน.
“อืม.”
ลี่ลั่วฉิวที่ถอยออกไป เพื่อไปแจ้งข่าว.
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา“ยิ่งศิษย์ที่เข้าร่วมนิกายไท่เสวียนเซิ่งมีความสามารถสูง จะยิ่งถูกจับตาหรือไม่?”
เขาที่เคาะนิ้วไปบนโต๊ะเบา ๆ“ไว้จบเรื่องพิภพสงครามแล้ว เปิ่นจั้วควรจะแสดงตัวในฐานะตาเฒ่าจุนเทียน เพื่อที่จะให้เซียวโม่น่าเชื่อถือมากขึ้น ให้ดูได้รับความไว้วางใจมากขึ้นก็แล้วกัน.”
ระบบเอ่ย“โฮสน์ให้ซูเซียวโม่ยกระดับสูงขึ้น เพียงเพื่อแค่ให้ได้ข่าวเรื่องของลู่เชียนเชียนและฟางหลิงยวีเท่านั้นรึ?”
“หากศิษย์ของข้ามีความสามารถแฝงอยู่นิกายใหญ่ได้อย่างมั่นคง ที่จริงก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
......
นิกายไท่เสวียนเซิ่ง.
หลังจากที่ซูเซียวโม่รับสารจากถางจู่ลี่แล้ว ก็ลอบครุ่นคิดในใจ“ถึงเวลาที่จะเผยความสามารถแล้วรึ?”
ทว่าเขาเองก็ต้องการเหมือนกัน.
ไม่ถึงกับต้องตัดผ่านระดับไปถึงกษัตริย์ยุทธ์ เพียงแค่ได้ทุบตีเหอจงหยิงก็พอแล้ว.
แล้วจะทุบตีเขาอย่างไร.
จะก้าวไปอย่างไร ไม่ให้คนจับสังเกตุหรือสงสัยได้.
“ไปยังหอตำรา เพื่อแลกเปลี่ยนทักษะยุทธ์ด้วยแต้มสมนาคุณ”
ซูเซียวโม่ที่ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะก้าวตรงไปยังหอตำราทันที หลังจากที่พินิจเขาก็เลือกท่าเท้าและวิชาหมัด พร้อมกับนำมาแลกเปลี่ยน.
“เจ้าเด็กนี่มี 500 แต้มสนนาคุณ กับมาแลกเปลี่ยนทักษะที่ยากที่สุดสองวิชาอย่างงั้นรึ?”
อาวุโสหอตำราที่เห็นเขาเลือกสองวิชาระดับสูงที่ยากจะศึกษา ทำให้แววตาเผยความประหลาดใจขึ้นมาทันที.
หลังจากกลับมายังที่พัก ซูเซียวโม่ก็เริ่มศึกษาในทันที.
ด้วยตัวเขานั้นมีรากวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังบ่มเพาะระดับกษัตริย์ยุทธ์ การจะทำความเข้าใจทักษะระดับสูงนั้นง่ายดายยิ่งนัก.
“ไป.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ตะโกนเรียกเขาเสียงดังจากด้านนอก “ไปทำภารกิจกัน.”
“ตกลง ศิษย์พี่.”
ซูเซียวโม่ที่ลุกขึ้น ก้าวออกไป ตามนางไปทันที การทำภารกิจนั้นจะยิ่งทำให้เขาได้รับทรัพยากรยุทธ์มากขึ้นและทำให้ตัวเขาเติบโตยิ่งขึ้นเช่นกัน.
“เหอจงหยิงเป็นศิษย์สายนอกที่มีสิทธิ์ที่จะเป็นศิษย์สายในมากที่สุด.”
ระหว่างทาง เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย “หากเจ้าเอาชนะเขาได้ แน่นอนว่าจะต้องได้รับความสำคัญแน่.”
ซูเซียวโม่ที่มุมปากกระตุก “เจ้าเรียกข้ามาทำภารกิจด้วยวันนี้ จงใจทำเพื่อสิ่งนี้รึ?”
“ข้าต้องการช่วยทำฝันให้เป็นจริง.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่หยุด จากนั้นก็จ้องมองเขา.
เป็นความจริงว่าสายตาของนางที่ดูตรงไปตรงมา นางจงใจทำ สร้างปัญหาให้กับเขาจริง ๆ.
แม้นว่าจะไม่รู้ว่ามีเจตนาใดซ่อนอยู่ ทว่าซูเซียวโม่ก็รู้ดีว่าหากเอาชนะเหอจงหยิงได้ แน่นอนว่าย่อมต้องได้รับการยอมรับจากผู้อื่น.
“.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ส่งแหวนมิติมา เอ่ยออกมาว่า“ด้านในมีศิลาวิญญาณธรรมชาติ 50 ก้อน.”
“เรื่องนี้....”ซูเซียวโม่ถึงกับตะลึงงัน.
50 ศิลาวิญญาณธรรมชาติ สำหรับศิษย์สายนอกนิกายไท่เสวียนเซิ่งแล้วต้องใช้เวลาหลายปียังไม่รู้ว่าจะเก็บได้หรือไม่?
“ไม่ต้องเอ่ยอะไร.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย“ที่จริงข้าไม่ค่อยชอบหน้าเหอจงหยิงมานานแล้ว.”
ซูเซียวโม่ที่เข้าใจทันที.
เจ้าคนนี้คอยเกาะแกะเกี้ยวพาน นางมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงจงใจเข้ามาใกล้ชิดเขา เพื่อเป็นไม้กันหมานี่เอง.
ซูเซียวโม่เผยยิ้ม“คนที่ศิษย์พี่ไม่ชอบหน้า ก็คือศัตรูของข้า ศิษย์พี่เกลียดคนทั้งโลก ข้าก็จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเช่นกัน.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่จ้องมองพลางสะดุ้ง กล่าวเสียงเบา“ซื่อบื้อ.”