Chapter 863 ระมัดระวังเหมือนเข็ม
เป็นความจริง เซี่ยซุยอวิ๋นที่เข้าไปด้านใน นอกจากราชาหมาป่า ยังมีสัตว์ร้ายระดับสูงอีกสี่ตน ทันใดนั้นนางก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว.
นางต้องการจะถอยกลับ.
ทว่าได้แค่คิดพริบตาเดียวก็ถูกล้อมกรอบเอาไว้.
“ราชาหมาป่ายังไม่สามารถจัดการได้ ยังมีผู้ช่วยอีกสี่ตัวด้วย.”ซูเซียวโม่ที่ลอบคิดในใจ“สตรีผู้นี้นำปัญหามาแล้ว.”
ช่วยรึ?
เอาล่ะ เฝ้ามองดูก่อนแล้วกัน.
ซูเซียวโม่ที่ยังคงตั้งสมาธิฮ้อตะบึงล่อหมาป่าลิ่วล่อหลายร้อยตัวออกไปไกล.
กับเหตุกาณ์นี้.
เขายังไม่คิดที่จะเผยพลังระดับกษัตริย์ยุทธ์ออกมา.
เขายังต้องแสดงเป็นคนอ่อนแออยู่ ทว่าเหล่าสัตว์ร้ายเพียงระดับศิษย์ยุทธ์ก็หาได้อยู่ในสายตาของเขา.
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
การต่อสู้ในป่าลึกที่ดังขึ้น ห้วงอากาศที่หนาวเย็นแผ่ออกไปรอบ ๆ อย่างรุนแรง.
พลังวิญญาณของเซี่ยซุยอวิ๋นที่แผ่กระจายเพื่อเตรียมถอยหนีออกมา เพราะว่าอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า ไม่มีทางที่นางจะรับมือไหว ดังนั้นจึงต้องเร่งรีบถอยหนี.
เป็นดั่งที่ซูเซียวโม่คิด.
นับประสาอะไรแค่นางคนเดียว ต่อให้นำศิษย์มาเพิ่มอีกหลายคนก็ยังนับว่าเป็นปัญหา.
“ประมาทแล้ว!”
“จะต้องหนีออกไปให้เร็วที่สุด.”
นางที่หลบการโจมตีจากสัตว์หลายตนที่โจมตีพร้อมกัน.
อย่างไรก็ตาม ราชาหมาป่าวายุปิศาจที่ราวกับรู้ความคิดของนาง มันได้คำราม ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาสองตนที่ขวางทางเอาไว้.
“น่ารังเกียจ!”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ทำได้แค่ต้องเข้าต่อสู้.
“พรึด ซี่!”
ต่อสู้ไปได้ครู่หนึ่ง แขนข้างหนึ่งของนางถูกกงเล็บหมาป่าวายุปิศาจตะปบเข้าให้.
ซูเซียวโม่ที่กำลังล่อหมาป่าอยู่ เห็นนางได้รับบาดเจ็บ ลอบคิดในใจ“หากไม่ช่วยนาง นางตายแหงม ๆ.”
แล้วจะช่วยอย่างไร?
นั่นล่ะปัญหาใหญ่.
“พรึด ซี่ พรึด ซี่!”
โลหิตที่สาดกระจาย ก่อนที่นางจะล้มลง.
ที่ด้านหลังของเซี่ยซุยหยุนก็ถูกกงเล็บของราชาหมาป่าวายุปิศาจทิ้งรอยแผลไว้ ตอนนี้อยู่ในสภาพเสียเปรียบอย่างหนัก!
“เฮ้อ.”
ซูเซียวโม่ที่หยุด ฝ่ามือที่รวมพลังวิญญาณเอาไว้.
เซี่ยซุยอวิ๋นนั้นเป็นหลานสาวของอาวุโสเซี่ย เพื่อที่จะแฝงอย่างสงบ ย่อมไม่สามารถปล่อยให้นางตายไปได้ ทว่าเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือตรง ๆ ได้ ทำได้แค่ลอบช่วยเหลือเท่านั้น.
“เฮ้อ.”
“เป็นสตรีที่เป็นปัญหาจริง ๆ.”
ซูเซียวโม่ที่เหวี่ยงแขนสะบัดออกไป พลังวิญญาณที่รวมตัวกันที่ฝ่ามือ
ด้วยความแข็งแกร่งระดับกษัตริย์ยุทธ์ การลอบโจมตีออกไป จากด้านนอกหลายร้อยจั้ง ย่อมสามารถทำให้ราชาหมาป่าวายุปิศาจได้รับบาดเจ็บแน่นอน.
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ซูเซียวโม่เตรียมลงมือ ขณะเซี่ยซุยอวิ๋นอยู่ในภาวะคับขัน ดวงตาของนางก็ส่องประกาย ร่างกายของนางที่แผ่ไอเย็นที่หนักหน่วงออกมา หมุนวนกวาดม้วนออกไปรอบ ๆ!
“แช่แข็งพันลี้!”
“ฟู่ ฟู่ ----”
อากาศหนาวเย็นที่พัดวนออกไป แช่แข็งทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆชั้นแล้วชั้นเล่า.
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
ราชาหมาป่าวายุปิศาจและสี่หมาป่าผู้ช่วย ไม่มีเวลาให้หลีกหนี ทันใดนั้นก็ถูกแช่แข็ง กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งห้าตนทันที.
“วิ้ง วิ้ง”
ซูเซียวโม่ที่สลายพลังไป เผยท่าทางประหลาดใจ“สตรีผู้นี้เหมือนว่าจะซ่อนไพ่ตายเอาไว้อยู่.”
“.”
“ก่อนหน้านี้ไม่ยอมใช้ มาใช้ตอนนี้เกรงว่า..........”
“พรึด!”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่พ่นโลหิตคำโต ใบหน้าขาวซีด ดูเหมือนว่าจะได้รับบาดเจ็บหนัก.
ช่วงระยะแช่แข็งนั้นมีจำกัด ทำให้นางหายใจหอบ พยุงร่างหลบหนีออกมา.
“ตายแล้ว ตายละหว่า.....”
ขณะนางหลบออกมา เห็นซูเซียวโม่ที่วิ่งลิ้นห้อยตะโกนออกมาเสียงดัง.
“หนี!”
เซี่ยซุยอวิ๋นตะโกนออกไปเสียงดัง.
จากนั้น นางที่ก้าวออกได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องล้มคว่ำไปเพราะว่าได้รับบาดเจ็บหนัก.
“ศิษย์พี่เซี่ย!”
ซูเซียวโม่ที่ปาดเหงื่อวิ่งเข้าหา ”ท่านได้รับบาดเจ็บ.
กล่าวจบ ก็อุ้มเซี่ยซุยอวิ๋น ที่เวลานี้ร้องโหวกเหวกวิ่งออกมาด้านนอกอย่างรวดเร็ว.
......
“ฟู่ ......ฟู่ ฟู่ ......”
ออกมาด้านนอกพื้นที่ป่า ซูเซียวโม่ที่หยุดลง พร้อมกับหายใจหอบหนัก ขาทั้งสองข้างที่สั่นระริกด้วยความเหนื่อย.
เป็นการแสดงที่สมจริงเป็นอย่างมาก!
“กอดพอรึยัง?”เซี่ยซุยอวิ๋นแค่นเสียงเย็นชา.
“เอิ่ม......”
ซูเซียวโม่ที่เร่งรีบวางนางลง พร้อมกับกล่าวตะกุกตะกัก“ศิษย์.....ศิษย์พี่เซี่ย สถานการณ์วิกฤติ ข้า....ข้า.....”
“รู้แล้ว เงียบ.”เซี่ยซุยอวิ๋นที่กล่าวเสียงอ่อนแรง.
ซูเซียวโม่เร่งรีบปิดปากทันที.
“โบ้ว!”
“โบ้ว!”
ในเวลาเดียวกัน ที่เทือกเขาหยินได้ยินเสียงของหมาป่าหอนดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่ามันกำลังจะไล่พวกเขามา.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ขมวดคิ้ว เอ่ยออกมาว่า“ไป!”
“ตกลง!”
ซูเซียวโม่ที่วิ่งนำออกไป ทิ้งนางเอาไว้.
เจ้าคนนี้.....
เซี่ยซุยอวิ๋นขบริมฝีปาก เอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก “กลับมา นำข้าไปด้วย!”
“ó ó ó!”
ซูเซียวโม่ที่วิ่งกับมา ก่อนที่จะประครองแขนนางวิ่ง ท้ายที่สุดนางก็ต้องพ่นโลหิตออกมา.
“อั๊ก!”
“ศิษย์พี่เซี่ย ท่านกระอั๊กโลหิต!”
“....อย่าพูดอะไรไร้สาระ ยังไม่รีบอุ้มข้าวิ่งไปอีก!”
“ตกลง!”
......
เวลากลางคืน.
ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ซูเซียวโม่ที่จุดไฟขึ้นผิง.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่นั่งสมาธิหลับตาอยู่ที่ไกลออกไป ร่างกายของนางที่ปกคลุมไปด้วยไอน้ำแข็ง คล้ายกับกำลังรักษาตนอยู่.
ผ่านไปนานเหมือนกัน.
เมื่ออาการคงที่ นางก็ลืมตาขึ้น.
ใบหน้าของนางที่ยังคงซีดเซียว ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บนั้นควบคุมให้อยู่ในภาวะทรงตัวชั่วคราว.
“เฮ้อ.”
เซี่ยซุยอวิ๋นถอนหายใจ “หากมีเม็ดยาแก่นน้ำแข็งชำระจิตคงจะดี.”
“.”
ซูเซียวโม่ที่ยื่นขวดยาให้กับนาง.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่จ้องมองเขา เอ่ยด้วยท่าทางตกใจ“นี่เจ้าไม่ได้ใช้มันหรอกรึ?”
“เม็ดยาล้ำค่าเช่นนี้ ข้าไม่กล้าใช้หรอก.”ซูเซียวโม่ที่เผยยิ้มแบบโง่ ๆ ออกมา.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่รับขวดยามา ก่อนที่จะนำมันขึ้นมากิน พร้อมกับโคจรวิชาบ่มเพาะ เริ่มฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ.
ซูเซียวโม่ที่นั่งอยู่ห่าง ๆ สีคางไปมาจ้องมองนาง ลอบครุ่นคิดในใจ“เพราะว่ามีกายาน้ำแข็ง บ่มเพาะวิชาธาตุน้ำแข็ง เลยทำให้เย็นชาอย่างงั้นรึ?”
“หืม?”
ในเวลาไม่นาน จิตสัมผัสของเขาที่ปล่อยออกไป พบว่าราชาหมาป่าวายุทมิฬได้นำฝูงหมาป่าเข้ามาใกล้ถ้ำแล้ว.
พวกแมงหวี่แมงวันนี้ น่ารำคาญจริง ๆ.
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ราชาหมาป่าวายุทมิฬที่ดมกลิ่นอยู่ห่างจากถ้ำราว ๆ สิบลี้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเย็นชาดังขึ้นในหูของมัน“ไสหัวไปจากเทือกเขาหยินซะ.”
กึก!
ในเวลานั้น ทันทีที่ได้ยินเสียง แววตาของมันที่ตื่นตะลึง พร้อมกับสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของมันจากเทือกเขาหยินไปทันที.
แม้นว่าจะไม่ได้เห็นเจ้าของเสียง ทว่าบอกได้ว่า อีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย.
ไม่สามารถยั่วยุ.
ไม่สามารถยั่วยุได้อย่างแน่นอน!
......
เช้าวันถัดมา.
ภายใต้เม็ดยาแก่นน้ำแข็งชำระจิต อาการบาดเจ็บของเซี่ยซุยอวิ๋นทุเลาลง ทว่ายังคงยากจะโคจรใช้พลังวิญญาณได้ดี.
ดูเหมือนว่าทักษะที่ใช้แช่แข็งหมาป่าครั้งนั้นจะมีผลข้างเคียงไม่น้อย.
“ศิษย์พี่เซี่ย.”
ซูเซียวโม่ที่วิ่งออกไปด้านนอก พร้อมกับนำใบบัวห่อพับตักน้ำใสสะอาดกลับมา เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“นี่คือน้ำพุใสอร่อยมาก ท่านชิมดู?”
“ข้าไม่กระหาย.”เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ยออกมาเล็กน้อย.
“โอ้ว.”
ซูเซียวโม่ที่เงยหน้าขึ้นพร้อมกับยกมันข้นดื่มเอง ลอบคิดในใจ“เป็นดั่งความจริงที่เหล่าเหว่ยเอ่ย สตรีเช่นนี้จะต้องรักษาระยะห่างเอาไว้.”
“เมื่อวาน.”
เซี่ยซุยอวิ๋นจ้องมองไปยังเขา แววตาเป็นประกาย พร้อมกับเอ่ยเป็นนัย“เจ้าวิ่งเร็วมาก.”
ภายในใจซูเซียวโม่ที่สะดุดกึก.
แม้นว่าเขาจะแสดงได้ดีเป็นอย่างมาก ทว่าสถานการณ์เมื่อวานค่อนข้างเป็นปัญหา เขาถึงได้กอดนางวิ่งหนีออกมา และวิ่งเร็วเป็นอย่างมากจริง ๆ.
ถึงนางจะบาดเจ็บ ทว่ากับตระหนักเรื่องนี้ได้.
เป็นความจริง.
ความระมัดระหวังของสตรีช่างเหมือนกับเข็มแหลม!
ซูเซียวโม่และเซี่ยซุยอวิ๋นที่จ้องมองกันและกัน.
เขาที่เป็นสายลับที่มากความสามารถ จะสถานการณ์ใหนย่อมต้องสงบใจให้นิ่ง.
เขายกมือขึ้นเกาศีรษะเอ่ยออกมาว่า“ข้านั้นมีพรสวรรค์ไม่ดีนัก ตั้งแต่เด็กอาศัยอยู่ในป่าเขาจึงได้วิ่งเร็ว.”
เซี่ยซุยอวิ๋นที่จ้องเขาเขม็ง ก่อนที่จะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เจ้าโกหก.”