Chapter 862 สถานะการณ์เปลี่ยนไป
หลังจากเรื่องที่เทือกเขาหยุนหลิงจบลง ซูเซียวโม่ที่ได้รับการยอมรับจากอาวุโส เนื่องจากเป็นคนที่ใจกล้าหาญไม่หวาดกลัวความตาย ก้าวออกไปถ่วงเวลาให้พรรคพวก มีอยู่น้อยมาก.
แม้แต่ซุนหยิงชวนที่ก่อนหน้านี้เห็นอีกฝ่ายเป็นเพียงคนใช้ส่วนตัว ตอนนี้ได้เห็นเขาเป็นเหมือนกับคู่หูไปแล้ว.
และหลังจากที่ซูเซียวโม่หายดีเขาที่ลอบมอบตำราหายากให้กับเขาอีกด้วย.
“ศิษย์น้อง นี่คือเพลงกระบี่จิวฮัว 12 กระบวน เจ้านำไปบ่มเพาะเถิด แต่อย่าบอกใครเด็ดขาดว่าข้ามอบให้กับเจ้า!”
“ขอบคุณศิษย์พี่ซุน!”
ซุนหยิงหยางที่เผยยิ้ม“อย่าพูดขอบคุณราวกับเป็นคนนอกเลย!”
“เอิ่ม.”
ซูเซียวโม่ที่เผยยิ้ม.
“ข้าพบภารกิจที่ได้แต้มง่าย ๆ พรุ่งนี้พวกเราไปทำด้วยกันใหม.”
“ตกลง!”
ไม่เพียงแค่ซุนหยิงชวนที่เปลี่ยนทัศนะคติต่อซูเซียวโม่.
ในเวลานี้ยังเห็นเป็นพวกเดียวกัน แม้แต่เห็นอยู่ไกลยังต้องเข้ามาทักทาย ต่างแต่ก่อนที่แทบไม่เห็นหัว.
ซูเซียวโม่ที่ได้รับการยอมรับจากเหล่าอาวุโสและศิษย์หลายคน ทว่าก็มีหลายคนที่เห็นเขาใช้แผนการดูมีเล่ห์เหลี่ยม ดังนั้นจึงมีบางกลุ่มที่ไม่พอใจเช่นกัน.
ทว่าหลังจากเรื่องที่เทือกเขาหยุนหลิงแล้ว จะอย่างไรก็คงไม่มีใครโต้แย้งว่าเขานั้นมีความกล้าหาญและฉลาด.
“แม้นว่าถางจู่จื่อจะแสดงได้ห่วยมาก ทว่า....ยังไงก็ออกมาดี”ซูเซียวโม่ที่ครุ่นคิดในใจ.
กล่าวได้ว่า เขาสามารถยืนได้อย่างมั่นคงในฐานะศิษย์สายนอกแล้ว.
ตอนนี้เพียงแค่เผยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งออกมาช้า ๆ การจะได้เป็นศิษย์สายในก็ไม่น่าจะมีปัญหา.
นิกายไท่เสวียนเซิ่งนับเป็นนิกายใหญ่ การเติบโตใช่ว่าจะขึ้นอยู่กับความดีความชอบหรือเส้นสายเพียงอย่างเดียว ทว่าต้องขึ้นกับความแข็งแกร่งของตัวเองด้วย.
“ไม่สามารถที่จะก้าวยาวได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกสงสัยจากคนระดับสูง.”
“เฮ้อ.”
ซูเซียวโม่ที่นวดกระหมัด ลอบคิดในใจ“เส้นทางสายลับของข้าช่างหนักหนาจริง ๆ.”
“เฮ้.”
ในเวลาต่อมา เขาที่ได้ยินเสียงดังผ่านเข้ามา.
ซูเซียวโม่ที่หันหน้าจดจ้องมองไปยังเซี่ยซุยอวิ๋นใต้ต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่งเอ่ยออกมาว่า“รู้สึก?”
สตรีผู้นี้มีอายุ 18-19 ปี แม้นว่าจะบอกไม่ได้ว่างดงามล่มเมือง ทว่าก็ถือว่าน่ามองทีเดียว ทว่าใบหน้าของนางกับประดับไปด้วยความเย็นชาอยู่ตลอดเวลา เผยท่าทางสูงส่งไม่สุงสิงกับใคร.
“สตรีถึงแม้นว่าภายนอกจะเย็นชา ทว่าหากเจ้ารุกเข้าไปพูดคุยด้วยก่อน ภายในใจก็จะคล้อยตามและเปิดใจให้กับเจ้าเอง.”เสียงของเหล่าเหว่ยที่ดังก้องในหูของเขา.
“แล้วข้าจะเข้าไปพูดคุยกับนางอย่างไรเล่า?”
“อย่าได้พร่ำคำพูดน้ำเน่ากับสตรีเช่นนี้ เพราะว่าจะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม เจ้าควรจะรักษาระยะห่าง เฝ้าดูห่าง ๆ สร้างสถานะการณ์ให้นางขยับเข้าหาต่างหาก!”
ซูเซียวโม่ที่ครุ่นคิดไปกับคำพูดของเหล่าเหว่ย ก่อนที่จะก้าวเข้ามายกมือประสาน“ขอบคุณศิษย์พี่ ที่มอบเม็ดยาแก่นน้ำแข็งชำระจิตให้ ทำให้บาดแผลข้าหายดีเร็วขึ้น.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ซุนหยิงชวนคนนี้ไม่ได้คิดที่จะก้าวเดินไปบนวิถียุทธ์อย่างจริงจัง หากต้องการคิดถึงอนาคตตัวเองก็อย่าได้ไล่ตามเขามากนัก.”
จากนั้น นางก็หันหลังก้าวเดินจากไป.
ซูเซี่ยโม่ที่ลอบคิดในใจ“ข้าต้องการไล่ตามเจ้าต่างหาก แต่มันยากไปหน่อย.”
ที่กล่าวว่ายากเพราะว่ามันเป็นเรื่องของบุรุษและสตรี ซ้ำนางยังเป็นหลานอาวุโสคนหนึ่ง และเขายังเป็นสายลับที่แฝงตัวเข้ามาอีกด้วย.
“โกวเซิ่ง.”
ซุนหยิงชวนที่ปรากฏขึ้นมาด้านหลัง พร้อมกับยกมือตบไปที่ไหล่“ข้าสังเกตุมาก่อนหน้านี้แล้ว เซี่ยซุยอวิ๋นและเจ้าพูดอะไรกันอย่างงั้นรึ?”
“เอิ่ม.....”
ซูเซียวโม่เอ่ย “ถามอาการบาดเจ็บของข้า.”
“ฮึ ฮึ.”
ซุนหยิงชวนเอ่ย“สตรีที่เย็นชาเช่นนั้น คาดไม่ถึงว่าจะเป็นห่วงศิษย์น้อง มันแปลกประหลาดจริง ๆ เหลือเชื่อ....”เขาหยุดและเอ่ย“หรือว่านางสนใจเจ้ากัน?”
“ศิษย์พี่ซุนท่านอย่าล้อเล่น.”
ซูเซียวโม่เอ่ย “ข้าเป็นคนชาติกำเนิดต่ำต้อย พรสวรรค์ไม่สูง ศิษย์พี่เซี่ยที่เป็นดั่งธิดาที่สวรรค์เลือก จะมาชอบข้าได้อย่างไร.”
“อย่ามองตัวเองต่ำเกินไป.”
ซุนหยิงชวนตบไปที่บ่า เอ่ยออกมาว่า“ไป พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ.”
......
โรงอาหารของนิกายไท่เสวียนเซิ่งนั้นใหญ่กว่านิกายนิรันดรมาก.
ทว่าอาหารนั้นกับไม่ถูกปากซูเซียวโม่เลยแม้แต่น้อย เขาที่ต้องกล้ำกลืน แม้แต่ ต้องแสดงว่าอร่อยอีกด้วย.
“คิดถึงอาหารของตู้ตู้อีกแล้ว.”
ซูเซียวโม่ที่ถือจานอาหารไปนั่งอย่างไร้อารมณ์.
ขณะที่จะกินอาหาร ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือบ พบว่าที่ตรงข้ามนั้นเป็นเซี่ยซุยอวิ๋นนั่งอยู่.
“เฮ้.”
ซุนหยิงชวนที่ถือจานอาหารมา เอ่ยออกไปวา“นั่นมันที่ของข้า เจ้ามานั่งที่นี่ได้อย่างไร.”
“พอใจ.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ยกล่าวออกมาเล็กน้อย.
“เจ้า......ก็ได้ บุรุษที่ดี ไม่โต้เถียงกับสตรีให้เสียเกียรติ!”
ซุนหยิงชวนที่นั่งถัดออกไป กล่าวในใจ“นางกินอาหารคนเดียวตลอด ไฉนเลยวันนี้มานั่งตรงข้ามกับโกวเซิ่งกัน?”
“กับสตรีเช่นนี้ อย่าได้พร่ำคำพูดน้ำเน่ากับสตรีเช่นนี้ เพราะว่าจะได้ผลรับตรงกันข้าม เจ้าควรจะรักษาระยะห่าง เฝ้าดูห่าง ๆ สร้างสถานะการณ์ให้นางขยับเข้าหาต่างหาก……”
ซูเซียวโม่ที่คิดถึงคำพูดของเหล่าเหว่ย ดังนั้นจึงก้มหน้าก้มตากินอาหาร ไม่ได้จ้องมองไปยังเซี่ยซุยอวิ๋น ไม่เอ่ยอะไรออกมา.
เหล่าเหว่ย!
แล้วตอนนี้ต้องทำอย่างไรล่ะ!
“ข้าพบภารกิจบางอย่าง กินเสร็จแล้วช่วยไปด้วยกัน.”เซี่ยซุยอวิ๋นที่เริ่มเอ่ยปาก.
ซุนหยิงชวนแทบสำลักข้าวออกมา.
เขาเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ผู้หญิงคนนี้ไม่สุงสิงกับใคร คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนเอ่ยปากเองที่จะให้โกวเซิ่งออกไปทำภารกิจด้วย!
ซูเซียวโม่ที่เกาศีรษะไปมา“ศิษย์พี่เซี่ย ข้าและศิษย์พี่ซุน กินข้าเสร็จก็จะไปบ่มเพาะที่ค่ายกลพลังวิญญาณดังนั้น.....”
“ต้องไป.”เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย.
“เรื่องนี้....”
ซูเซียวโม่ที่จ้องมองไปยังซุนหยิงชวน ขณะอีกฝ่ายเอ่ยออกมาว่า“ศิษย์พี่เซี่ยน้อยครั้งนักที่จะขอให้คนอื่นช่วย เจ้าควรเห็นแก่หน้านาง.”
นางขอรึ?
นางสั่งต่างหากเล่า!
“ตกลง.”
ซูเซียวโม่เอ่ย“กินเสร็จแล้วค่อยไป.”
กล่าวจบ เขาที่ยกตะเกียบกินอาหารต่อ.
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย “เจ้าเกาศีรษะเมื่อกี้ รังแคหล่นลงในชามแล้ว.”
“เอิ่ม......”
ซูเซียวโม่ที่ใบหน้าเหรอหรา.
......
เทือกเขาหยิน.
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ในเวลานี้ ซูเซียวโม่ ที่ตามหลังเซี่ยซุยอวิ๋น ทั้งสองที่เดินทางโดยไม่พูดอะไรกันเลยแม้แต่น้อย.
“ศิษย์พี่.”
และในท้ายที่สุดซูเซียวโม่ที่ทนไม่ไหวก็เลยเอ่ยถามออกมา“เป็นภารกิจอะไรอย่างงั้นรึ?”
“ทำลายราชาหมาป่าวายุปิศาจ.”
“ห๋า?”
ซูเซียวโม่ที่ดวงตาเบิกกว้าง “สัตว์ร้ายเทียบเท่าบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ข้าจะไปเอาชนะได้อย่างไร.”
“เจ้าเพียงแค่ไปล่อฝูงหมาป่าลิ่วล่อให้ออกไปเท่านั้น จากนั้นข้าจะจัดการเอง”เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย.
“......”
ซูเซียวโม่ที่เกลือกตามองบน.
นึกว่ามีใจให้ สตรีผู้นี้ถึงได้เรียกเขามาทำภารกิจด้วย แท้จริงแล้วกับให้เขามาเป็นเหยื่อล่อหมาป่าออกไป นี่เอง.
“โบ้ว!”
“โบ้ว!”
ในเวลานั้น ในป่าที่ทึบมืดได้ยินเสียงหมาป่าที่ดังโหยหวนขึ้นมาทันที.
“ตึก ตึก ตึก!”
หมาป่าผู้นำที่แผ่ความหนาวเย็นออกมา สายตาที่เต็มไปด้วยความมืดมนดุร้าย.
“ไป.”
เซี่ยซุนอวิ๋นเอ่ย“ไปล่อพวกมันมา.”
“......”
แม้นว่าซูเซียวโม้รู้สึกแทบทรุดไปกับที่ ทว่าก็วิ่งออกไปด้านหน้า ล่อพวกหมาป่า“เจ้าฝูงแมงหวี่ มาจับข้าสิ.”
“โบ้ว!”
“โบ้ว!”
ในเวลานั้นหมาป่าหลายร้อยตัวที่บ้าคลั่งวิ่งไล่ในทันที.
“มารดาเถอะ!”
ซูเซียวโม่ที่วิ่งฝุ่นปลิวทันที.
แม้นว่าจะแสดงท่าทางไม่ยินยอม ทว่าขาของเขาก็ก้าวไปไม่หยุด เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว!
“เคร้ง!”
ในเวลานั้น เซี่ยซุยอวิ๋นที่นำกระบี่ยาวสามฉื่อออกมา พุ่งเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน หาราชาหมาป่าวายุปิศาจ.
“สตรีผู้นี้จะเร่งรีบไปแล้ว!”
ซูเซียวโม่ถึงกับพูดไม่ออก ยังคงวิ่งหนีเหล่าฝูงหมาป่าต่อไป.
เขาที่ส่งจิตสัมผัสออกไปด้านใน พบว่า ที่นั่นไม่ได้มีแค่ราชาหมาป่าวายุทมิฬ ยังมีหมาป่าที่มีระดับบรรพชนยุทธ์อีกหลายตัว ดูเหมือนว่าจากเรื่องง่ายจะกลายเป็นเรื่องยากเข้าแล้ว!