ตอนที่แล้วChapter 818 หากไม่สำเร็จก็จะไม่ได้รับการสืบทอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 820 น้ำ น้ำ น้ำ

Chapter 819 แรงงานมีด?


ในทวีปชิงหยุนนั้นไม่มีเพลิงเทพแม่ครัว ขณะที่หลิวหวานซีใช้มันออกมา ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันคือเพลิงชนิดใด.

สิ่งนี้ไม่สำคัญ.

สิ่งสำคัญที่สุด หลังจากเพลิงเทพแม่ครัวปรากฏ เพลิงของผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่น ๆ ยกเว้นเพลิงจื่อหยินของเฉียนซ่งเป้า ล้วนแต่หรี่แสงและดับลง!

“ไม่ใช่เพลิงธรรมดาแล้ว!”

“ไม่คาดคิดเลยว่าในยุคสมัยนี้จะมีเพลิงที่แข็งแกร่งกว่าเพลิงจื่อหยิน!”

“สายน้อยนั่นไม่ธรรมดา!”

กรรมการทั้งสิบที่พูดคุยอุทานออกมาทันที.

แม้นว่าระดับของรสชาติอาหารจะไม่ได้ตัดสินที่ระดับของเปลวเพลิง ทว่าคนที่มีเพลิงที่ทรงพลังกว่าย่อมทำอาหารได้ง่ายกว่าคนที่มีเพลิงระดับต่ำ.

“ในจังหวัดซีเหนียนหยางข้าเคยไปดูการแข่งขัน ไม่ได้ยินว่าเด็กสาวคนนี้ใช้เพลิงที่ทรงพลังขนาดนี้ออกมา แม้แต่ในการแข่งขัน นางยังใช้ไฟจากฟืนเพลิงระดับต่ำสุดด้วยซ้ำ.”

“บางทีคู่ต่อสู้อ่อนแอเกินไป จึงไม่จำเป็นต้องใช้.”

“หากเป็นเช่นนั้น สตรีผู้นี้คงจะสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเราได้อย่างแน่นอน.”

สายตาที่จับจ้องมองมายังหลิวหว่านซี นางตระหนักได้ว่าเพลิงเทพแม่ครัวของนางนั้น สะกดข่มคนอื่น ๆ ดังนั้นจึงเร่งรีบเก็บกลิ่นอายเอาไว้.

“ฟู่ ฟู่!”

ไม่มีอำนาจสะกดข่ม เพลิงของผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ที่ค่อย ๆ กับมาเป็นปรกติ.

ทว่าด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนเวลานี้กลายเป็นจริงจังมากขึ้น.

ตั้งแต่แรกแล้ว พวกเขาไม่เห็นหลิวหว่านซีอยู่ในสายตาเลย ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายคือ ผู้ชนะเลิศจากจังหวัดที่ห่างไกล จังหวัดซีเหนียนหยางนั่นเอง.

ทว่าเมื่อนางปลดปล่อยเพลิงเทพอาหารออกมา อำนาจสะกดข่มเพลิงพวกเขากับดับไป พวกเขาก็ตระหนักได้ว่า นางคือศัตรูที่ร้ายกาจที่เป็นตัวเก็งชนะในทันที!

“แม่นางหลิว.”

หลังจากเฉียนซ่งเป้าควบคุมเปลวเพลิงตัวเองให้เป็นปรกติได้ ก็กล่าวด้วยความประหลาดใจ“ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะมีเพลิงที่แข็งแกร่งขนาดนี้.”

“มัวแต่พูดคุย.”

หลิวหว่านซีเอ่ย “จะทำอาหารสุดความสามารถได้อย่างไร.”

“ตกลง.”

ซ่งเฉียนเป้าที่หุบปาก ทว่าเปลวเพลิงที่ราวกับมีชีวิตยังคงลุกโชนอยู่ เขาได้นำเนื้อหนึ่งจิน และวัตถุดิบอีกหลายอย่างออกมาจากตระกร้า.

“เคร้ง!”

ในเวลาต่อมา เสียงคมมีดออกจากฝักก็ดังขึ้น.

ผู้เข้าร่วมแข่งขันอีกคนที่เตรียมวัตถุดิบ เป็นหลินเยาที่ชักมีดสีดำที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา ขณะที่มือของเขาขยับ.

พลังวิญญาณที่แผ่ออกมา ก่อนที่วัตถุดิบจะถูกโยนขึ้นไป!

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

ริ้วแสงมีดที่ขยับ กวาดออกไป.

“เป็นทักษะมีดที่รวดเร็วยิ่งนัก!”

กษัตริย์ดาบคนหนึ่งที่ขมวดคิ้ว“เพียงเสี้ยวลมหายใจก็ฟันออกไปหลายร้อยครั้ง!”

“156 ครั้ง.”

จุนซ่างเซียวที่สามารถนับจำนวนได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับหมดคำจะพูด “ไม่ฝึกวิถีดาบไปเลยล่ะ แล้วทำไมมาเป็นพ่อครัวกัน.”

ระบบเอ่ย “ทุกคนย่อมมีเส้นทางเป็นของตัวเอง.”

“มันก็ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่สนับสนุนความคิดดังกล่าว.

ต้องไม่ลืมว่าเขาถูกส่งมายังต่างโลกอย่างไม่ได้ขอ อย่างน้อยก็ขอให้มีราชันย์ยุทธ์สตรีผู้งดงามให้ซบไหล่เป็นร่มเงาในยุทธภพแห่งนี้ก็ยังดี ทว่าเขากับต้องเป็นเจ้านิกายที่ต้องยืนขึ้นด้วยลำแข้ง.

เฮ้อ.

ชีวิตข้าใครกำหนด.

ระบบเอ่ย “คิดอะไรเพ้อเจ้อ!”

......

“ฟิ้ว!”

มีดของหลินเหยาที่คืนกลับสู่ฝัก วัตถุดิบที่ถูกหันราบเรียบเสมอกันหล่นลงบนจานรอง!

“แข็งแกร่ง!”

“ควรค่าแล้วที่เป็นศิษย์ของกษัตริย์ดาบ!”

“หากใช้สังหารผู้คนจะน่ากลัวขนาดใหน!”

ทักษะใช้มีดของหลินเยาหั่นวัตถุดิบ ทำให้ทุกคนต้องอุทานออกมา

อย่างไรก็ตาม.

ในนิกายนิรันดร หม่าหยงหนิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าโรงอาหาร เผยแววตาเหยียดหยัน ชักมีดของเขาออกมาเช่นกัน.

แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะมอบดาบทะลวงเมฆาให้กับเขาแล้ว ทว่ามีดทำครัวของเขาก็ยังใช้อยู่ เพราะว่าเขายังมีหน้าที่หั่นผักอยู่นั่นเอง.

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าหม่าหยงหนิงนั้นไม่ค่อยได้ต่อสู้ ทว่าทุก ๆ วันเขาต้องใช้มีดหั่นผักไม่เคยหยุด จนฝีมือทักษะมีดของเขานั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการหั่นผักถึงขั้นเชี่ยวชาญแล้ว.

ทักษะมีหลินเหยา ในสายตาของเขาหาได้มีอะไร ต่อหน้าเขาที่ต้องหั่นผักทำอาหารให้กับศิษย์หลายหมื่นคน จะเอามาเทียบกันได้อย่างไร.

“เหล่าหม่า.”

โอวหยางจุนเอ่ย “ยืนอยู่นั่นล่ะ ยังไม่รีบเตรียมอาหารเที่ยงอีก.”

“อืม.”

หม่าหยงหนิงที่ก้าวเข้าครัวไปในทันที.

เขาที่สวมผ้ากันเปื้อน ขณะชามน้ำด้านข้าง มือหนึ่งถือมีด พร้อมกับขยับ “ยอดฝีมือที่แท้จริงไม่โอ้อวด ทว่าแสดงมันออกมาเมื่อถึงเวลา.”

“ฟิ้ว!”

“ทะเลทรายกว้างใหญ่ควันตรงเป็นสาย!”

“ฟิ้ว!”

“ทรายเหลืองทะยานปลิวไสว!”

“......”

มีดของเขาที่ตัดผ่านอากาศ เป็นริ้วแสงระยิบระยับ.

ทว่าในเวลาต่อมา วัตถุดิบบนโต๊ะที่ถูกหั่นออกเป็นส่วน ๆอย่างสมบูรณ์แบบในทันที.

แม้นว่าเหล่าหม่าจะไม่มีทักษะที่ฉูดฉาดเช่นนั้น ทว่าฝีมือของเขาที่แสดงออกมานั้น กับเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์.

“หืม?”

ในเวลานั้นโอหยางจุนที่ส่ายหน้าออกมา ตะโกนออกไปว่า“เหล่าหม่า ทำไมยังไม่ไปอีก?”

“ไปใหน”

“หอยา.”

“เฉือนนิ้วตัวเอง?”

หม่าหยงหนิงก้าวเข้าไปในหอยาไม่พูดไม่จา.

เขาที่มัวแต่มองจอ จนทำให้มีดบาดมือของเขาไปด้วย.

ฝีมือ.

ฝีมือจริง ๆ!

......

กลับมายังการแข่งขันเทพอาหารอีกครั้ง.

หลังจากที่หลินเหยาเผยทักษะมีดออกมา เหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่น หาได้สนใจ เห็นชัดเจนว่ามันไม่ได้ส่งผลอะไรกับพวกเขา.

ทักษะมีดก็เป็นเพียงทักษะช่วยอย่างหนึ่งเท่านั้น.

ความแข็งแกร่งที่แท้จริง คือการทำอาหารต่างหาก!

“เตรียมอาหาร?”

หลิวหวานซีที่ครุ่นคิด ภายในใจที่ปรากฏสูตรอาหารจีนหลายอย่าง.

มี!

สาวน้อยที่เตรียมเต้าหูและผักอีกหลายอย่างไว้เป็นวัตถุดิบจานรอง จากนั้นนางก็เริ่มเฉือนเกาะสลักอย่างจริงจัง.

แน่นอนว่าทักษะการหั่นของนางด้อยกว่าหลินเยา ทว่าความระเอียดและประณีตของนางนั้นย่อมเหนือกว่า.

กับสิ่งที่หลิวหว่านซีทำนั้นไม่ได้ทำให้เจ้านิกายผิดหวังแม้แต่น้อย.

จุนซ่างเซียวที่รู้ความสามารถของศิษย์ดี รู้ว่านางกำลังทำอะไรทำให้ได้แต่ส่ายหน้าไปมา“ผู้เข้าแข่งขันที่สามารถแข่งกับนางได้นับว่าโชคดีและก็โชคร้ายด้วย.”

โชคดี คือได้เห็นทักษะทำอาหารที่ยอดเยี่ยมแปลกใหม่ โชคร้ายคือความสามารถของนางนั้น ยากที่คนอื่นจะเทียบได้.

ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ที่ยุ่งเกินกว่าจะมองเห็น มีเพียงเฉียนซ่งเป้าที่ลอบมองมายังหลิวหว่านซีเป็นระยะๆ.

การแข่งขันเทพอาหารครั้งนี้ เขาหาได้สนใจคนอื่น มีเพียงสตรีผู้นี้คนเดียวที่ทำให้เขากดดัน.

ระหว่างร่วมเดินทางมาเขาได้กินข้าวผัดและปลาหลี่ฮื้อผัดเปรี้ยวหวาน.

เฉียนซ่งเป้าถึงจะเป็นศิษย์ของเทพอาหาร ทว่าเขาก็ได้รับสืบทอดความสามารถชิมอาหารมาจากบิดาของตัวเองด้วย อาหารที่มีรสชาติยอดเยี่ยมเช่นนั้น แม้แต่ก่อนหน้านี้ อาหารของอาจารย์ยังไม่สามารถเทียบได้.

เหตุผล ที่เขาไม่ได้เอ่ยสถานะจริงของเขาออกไป ทว่าใช้ชื่อบิดาของเขาออกไปเพราะต้องการใช้สถานะหัวหน้ากรรมการผู้ตัดสินนั่นเอง.

กล่าวให้ถูกต้อง.

หลังจากที่เฉียนซ่งเป้าได้กินข้าวผัดและปลาหลี่ฮื้อผัดเปี้ยวหวาน เขาก็รู้สึกตัวเองด้อยกว่า เขาไม่สามารถที่จะเข้าใจได้เลยว่าเด็กหญิงผู้นี้อายุไม่มาก มีความสามารถในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้อย่างไร?

ฝีมือของหลิวหว่านซี กล่าวได้ว่ามีพรสวรรค์ตั้งแต่ต้น ก่อนที่นางจะเข้านิกายนิรันดรซะอีก.

และที่น่ากลัวที่สุด เมื่อคนที่มีพรสวรรค์จริงจังได้รับตำราอาหารชั้นยอด บอกได้เลยว่าราวกับเสือติดปีก ที่คนทั่วไปจะเทียบได้.

เฉียนซ่งเป้าที่ระงับอารมณ์ ก่อนที่จะเริ่มทำอาหารของตัวเอง.

เวลาที่ผ่านไปช้า ๆ.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม.

อาหารของหลายคนที่ถูกวางไว้ด้านหน้า พร้อมกับกรรมการเตรียมให้คะแนนแล้ว.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เฝ้ามองหน้าจอ แม้นว่าจะไม่ได้รับกลิ่น ทว่าก็ตระหนักได้ถึงภาพของอาหารที่ดูน่ากิน!

ต้องกลืนน้ำลายลงคอ!

ไม่มีใครที่จะอดทน ไม่ให้มีน้ำลายไหลออกมาได้!

เพราะว่าหลิวหวานซีที่อยู่ที่มุม อาหารของนางที่ทำเสร็จแล้วเช่นกัน ทว่ามันมีฝาครอบเอาไว้อยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร.

“เชิญกรรมการประเมินให้คะแนน!”หวงจินต้วนเอ่ย.

“เชิญ!”

กรรมการทั้งสิบที่เป็นนักชิมระดับปรมาจารย์อาหารถูกนำมาเสิร์ฟ ขณะเริ่มชิม แต่ละคนก็เริ่มให้คะแนน.

“หม่าเทียนเฉิง คะแนนรวม 79 แต้ม ตกรอบ!”

“ผู้ชนะเลิศจังหวัดเป่ยโม่ ตกรอบแรกแล้ว!”

“ทำไม! ทำไมล่ะ!”

หม่าเทียนเฉิงที่ไม่เข้าใจเข้าไปสอบถามเหล่ากรรมการ.

ชายชราคนหนึ่งที่ดูเหมือนปราชญ์ที่เจนโลกเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ช่วงเวลาหนึ่งความร้อนของเจ้าไม่พอ ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปเล็กน้อย.”

“.....”

ทุกคนที่มุมปากกระตุก.

ดูเหมือนว่าเหล่ากรรมการ ไม่เพียงแค่ลิ้นของพวกเขาจะรับรสได้ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่น ๆ ปากของพวกเขายังร้ายกาจอีกด้วย.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด