ตอนที่แล้วChapter 817 ศิษย์เทพอาหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 819 แรงงานมีด?

Chapter 818 หากไม่สำเร็จก็จะไม่ได้รับการสืบทอด


สถานะของเจ้าคนนี้ทำให้จุนซ่างเซียวคาดไม่ถึง แท้จริงแล้วคนที่เขาช่วยไว้เป็นศิษย์เทพอาหารซ่งเป้า!

แล้ว.

เฉียนปู่โตวนั่นล่ะ?

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเล็กน้อย รู้ว่าอีกฝ่ายต้องปกปิดตัวเองนั้น เพราะมีเหตุผล.

ผู้สืบทอดเทพอาหาร มานอนหมดสติเพราะหิวอยู่กลางถนน เรื่องเช่นนี้ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้.

หรือว่าเจ้าคนนี้ จงใจเข้ามาหยั่งเชิงหลิวหว่านซีอย่างจงใจอย่างงั้นรึ?

“ไม่ใช่ ไม่ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นบีบขมับไปมา “สมองของข้ากำลังสับสน จะต้องใจเย็นลงหน่อย.”

หากว่าเจ้าคนนั้นจงใจเข้ามาหา แล้วทำไมถึงได้มอบเงินและศิลาวิญญาณให้ล่ะ?

และอีกอย่าง แล้วทำไมต้องแกล้งปลอมตัวเป็นเฉียนปูโตว?

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกสมองโล่งไปเหมือนกัน ดูเหมือนว่ายิ่งคิดก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผล เจ้าคนนี้มีอะไรผิดปกติไปจนหมด.

ระบบที่ราวกับรู้สึกยินดีกับโชคร้ายของคนอื่น“เห็นโฮสน์เสียเปรียบคนอื่น ทำให้ข้ารู้สึกพอใจยิ่งนัก.”

“ไปให้พ้น!”

......

ภายในสนาม.

ขณะผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของซ่งเป้าดวงตาเบิกกว้างไปตาม ๆ กัน.

เขาที่เป็นตัวเก็งงานประลองเทพอาหาร กับบอกว่ายากจะชนะสตรีผู้นี้ได้อย่างงั้นรึ?!

พูดจริงรึ?

หรือว่ากล่าวถ่อมตัว?

ทว่า จากสายตาแล้ว เห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจัง.

หลิวหว่านซีที่เต็มไปด้วยความสงสัย“เจ้าไม่ได้ชื่อ.....เฉียนปูโตวหรอกรึ? แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นซ่งเป้า?”

“ข้าขอบอกความจริงกับแม่นางหลิว.”

ซ่งเป้าที่เกาศีรษะไปมา “ข้ามีสกุลว่าเฉียน นามซ่งเป้า ส่วนเฉียนปูโตวนั้นคือบิดาของข้า.”

“เขาให้ข้าไปเป็นศิษย์เทพอาหาร มีเพียงแค่สำเร็จการศึกษาได้เท่านั้นถึงจะใช้ชื่อตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นข้าก็จะไม่สามารถกลับบ้านสืบทอดธุรกิจได้.”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”หลิวหว่านซีเข้าใจทันที.

จิตสัมผัสของจุนซ่างเซียวก็ได้ยินคำพูดดังกล่าว ทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที รู้สึกแทบทรุดในใจเช่นกัน “ต้องการให้บุตรชายเป็นพ่อครัว หากไม่สำเร็จก็จะไม่ได้รับการสืบทอด เฉียนปูโตวช่างเป็นคนที่ยากจะพบเห็นได้จริง ๆ.”

“ฟิ้ว!”

เฉียนซ่งเป้าเอ่ย “นี่คือความลับของข้า อย่าไปบอกคนอื่นนะ.”

ผู้เข้าร่วมแข่งขัน“.......”

คนทั่วแผ่นดิน“...........”

ในเวลานี้พวกเราควรจะร่วมมือกับเขา แกล้งเป็นไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?

......

“แท้จริงแล้ว ซ่งเป้าก็คือเฉียนซ่งเป้า!”

“ประมุขเฉียน แม้นว่าจะมีภารยาและอนุอีกจำนวนมาก ทว่ากับไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องบุตรของเขาเลย!”

“คิดไม่ถึงเลยว่าสถานะของศิษย์เทพอาหารจะไม่ธรรมดา คาดไม่ถึงว่าจะมีบิดาเช่นนี้!”

“ข้าได้ยินมาว่าประมุขเฉียนนั้นชื่นชอบการกินและชิมอาหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ แม้แต่แลกด้วยศิลาวิญญาณก็ไม่มีปัญหา.”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก “ดูเหมือนว่าเขาจะเหมือนกับบิดาเป็นอย่างมาก.”

“เคยได้ยินมาว่าตอนเด็ก ๆ บุตรชายของเขานั้นขี้เกียจมาก กล่าวได้ว่าไม่แม้แต่จับตะเกียบจนอายุถึงเจ็ดปี กระทั่งอาหารก็ยังต้องให้คนรับใช้ป้อนให้.”

“กับคนที่เกียจคร้านเช่นนี้ กับเป็นศิษย์เทพอาหาร ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ!”

“ใช่แล้วประมุขเฉียนจ่ายไปมหาศาล เพื่อให้บุตรชายได้เป็นศิษย์เทพอาหาร.”

“แต่เขาก็ร่ำรวยมหาศาลจริง ๆ!”

ทุกคนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

อย่างไรก็ตาม พวกเขาที่สงสัยในฝีมือทำอาหารของเฉียนซ่งเป้าเหมือนกัน.

เงินที่ซื้อสถานะศิษย์เทพอาหาร ทว่าความร่ำรวยนั้นยากที่จะซื้อฝีมือทำอาหารได้.

ผู้เข้าแข่งขันเองก็แอบคิด.

เมื่อคิดเช่นนี้ขึ้นมา ทำให้หลายคนลอบคิดในใจ“เจ้าคนนี้มีบิดาซื้อสถานะให้ ทำไมพวกเขาต้องหวาดกลัวกัน.”

และคำพูดทีเอ่ยกับหลิวหว่านซีนั้น พวกเขาหาได้สนใจเช่นกัน.

แม้แต่บางคนที่เชื่อว่า เจ้าคนนั้นไร้ซึ่งฝีมือ ไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องหวาดกลัวและหลบเลี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “จงใจให้คนอื่นประมาทอย่างงั้นรึ?”

“แล้วทำไมเจ้าต้องใช้ชื่อบิดาของเจ้าปลอมตัวด้วยล่ะ?”หลิวหว่านซีเอ่ยถาม.

เฉียนซ่งเป้าเผยยิ้ม “เพราะมันสนุก.”

“......”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.

บุตรชายปลอมเป็นบิดา เพราะว่ามันสนุก ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำอย่างแน่นอน.

“ดี.”

หลิวหว่านซีไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไป.

แม้นว่านางจะประหลาดใจสถานะของเฉียนซ่งเป้า ทว่าในเมื่อเข้าร่วมมการแข่งขัน ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งกัน.

“แม่นางหลิว.”

เฉียนซ่งเป้าเอ่ย “ชุดของเจ้าไม่เลว.”

หลิวหว่านซีที่กล่าวอย่างภาคภูมิ “นี่คือชุดวิถีแม่ครัวของบรรพชนรุ่นก่อนของนิกายส่งต่อมา!”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

แววตาของเฉียนซ่งเป้าที่เผยความเคารพออกมา“แม่นางหลิว ข้าขอถามได้ไหมว่าบรรพชนแม่ครัวผู้ทรงเกียรติของท่านมีนามว่าอะไร?”

“เรื่องนี้....”

จุนซ่างเซียวส่งเสียงผ่านวิญญาณแจ้งหลิวหว่านซี“บรรพชนวิถีอาหารรุ่นเก่าของนิกายมีนามว่า อี้หยิน.”

“อี้หยิน.”

“อี้หยินอย่างงั้นรึ?”

เฉียนซ่งเป้าที่ลอบคิดในใจ”ไม่เคยได้ยินอาจารย์เอ่ยถึงคนผู้นี้เลย.

ไม่ได้ยินย่อมถูกแล้ว เพราะว่าอี้หยินก็คือแม่ครัวที่โลกเดิมของจุนซ่างเซียว เป็นคนที่มีชื่อเสียงของราชวงศ์ต้าซ่าง เป็นนักพรตเต๋า ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน.

หวงจินต้วนประกาศเสียงดัง“การแข่งขันเทพอาหารครั้งที่ 50  ขอให้ผู้เข้าแข่งขันประจำที่ เลือกครัวของตัวเองได้เลย!”

“ท้ายที่สุดก็เริ่มสักที!”

ขณะที่ทุกคนกำลังตั้งใจจับจ้องนั้น ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนเป็นโฆษณาทันที.

บัดซบ!

นี่มันบ้าอะไรนี่!

......

“ฟิ้ว!”

หลังจากโฆษณาจบลง ภาพสนามการแข่งขันก็คืนกลับมาเช่นเดิม.

120 ผู้เข้าร่วมแข่งขันประจำที่แล้ว และกรรมการประเมินอาหารสิบคนก็นั่งประจำที่เช่นกัน.

เหล่ากรรมการล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นนักชิมชั้นยอดกันทั้งนั้น.

หลิวหว่านซีที่เลือกครัวมุมหนึ่ง หากไม่สังเกตุให้ดีก็ยากจะหาพบ และห่างออกไปกับเป็นเฉียนซ่งเป้า.

กล่าวตามตรง เจ้าคนนี้เหมือนว่าจะจงใจมาอยู่ใกล้ ๆ.

“แม่นางหลิว.”

เขากล่าวเสียงเบา “ในรอบแรกง่าย ๆ สบาย ๆ หากเจ้าทำผัดเปรี้ยวหวานปลาหลี่ฮือ จะต้องเข้ารอบอย่างไม่มีปัญหา.”

หลิวหว่านซีไม่ได้เอ่ยอะไร นางที่เริ่มเตรียมการทันที.

การแข่งขันเทพอาหารครั้งนี้นางเป็นตัวแทนของนิกายนิรันดร แน่นอนว่านางไม่กล้าที่จะประมาทเด็ดขาด.

เฉียนซ่งเป้าก็เริ่มเตรียมอาหารเช่นกัน.

“ฟิ้ว!”

มือของเขาที่ขยับอย่างเกียจคร้าน แต่กับคล่องแคล่ว.

“ฝีมือ!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ฝีมือจริง ๆ!”

“การประลองอาหารรอบแรกนั้น สามารถทำอะไรได้อย่างอิสระ!”

หวงจินต้วนเอ่ย เสียงดัง “ผู้เข้าร่วมการแข่งขันมีเวลาหนึ่งชั่วยาม คนที่ได้ 80 คะแนนก็จะได้เข้าสู่รอบต่อไป.”

“กรรมการสิบคนมีคนล่ะ 10 คะแนน ต้องได้ 80 แต้มถึงได้เข้ารอบต่อไป หมายความว่าจะต้องได้คะแนนแปดคะแนนในแต่ละคนจึงจะเข้ารอบ งานประลองเทพอาหารยากจริง ๆ!”

ทุกคนที่อุทานเสียงดัง.

“เริ่มได้!”หวงจินต้วนตะโกน.

“ฟู่ ฟู่!”

กล่าวจบ เหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่สร้างเปลวเพลิงขึ้นมาทันที ความร้อนที่แผ่ออกไปรอบ ๆ สนามการแข่งขัน.

“งานแข่งขันเทพอาหาร ทุกคนต่างก็สามารถควบคุมธาตุเพลิงด้วยกันทั้งนั้น!”

“เพลิงเหล่านี้ ไม่ได้นำไปใช้ต่อสู้ แต่เอาไว้ทำอาหาร.”

“เอ๊ะ? ศิษย์นิกายนิรันดร์และศิษย์เทพอาหารไม่ลงมืออย่างงั้นรึ? ไม่เห็นทั้งสองขยับเลย?”

สตรีเพียงคนเดียวที่เข้าร่วม และศิษย์เทพอาหารเพียงคนเดียว ดังนั้นหลิวหว่านซีและซ่งเฉียนเป้าย่อมเป็นที่จับตามองของทุกคนเป็นธรรมดา.

“แม่นางหลิว.”

เฉียนซ่งเป้าเผยยิ้ม “ข้าจะเริ่มแล้ว.”

“ฟิ้ว!”

ระหว่างที่กล่าว.เขาที่ขยับมือปล่อยเพลิงสีม่วงออกมา ก่อรูปขึ้นที่ด้านหน้าทันที.

“เพลิงจื่อหยิน(ม่วงปกปิด)!”

“ได้ยินมาว่ามันคือเพลิงทำอาหารที่แข็งแกร่งที่สุด!”

“ศิษย์เทพอาหารดูเหมือนว่าจะเป็นอัจฉริยะ แม้นว่าจะไม่ได้ใช้เงินซื้อก็ตาม!”

“ฟู่ ฟู่ ---”

ความร้อนของเพลิงจื่อหยินนั้นรุนแรงไม่น้อย เทียบกับเพลิงที่คนอื่นปลดปล่อยออกมาราวกับนกกระเรียนกับลูกเจี๊ยบทันที!

“ฟู่!”

หลิวหว่านซีที่พ่นลมหายใจยาว ก่อนที่จะมองไปยังจุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มให้กับนาง พร้อมกับส่งเสียงผ่านวิญญาณ “สาวน้อย จงเชื่อมั่นในตัวเอง!”

“อืม!”

หลิวหว่านซีที่ยกมือยื่นไปด้านหน้า ดวงตาเป็นประกายแวววับ.

“วูซซซซซ!”

อักขระที่ซ่อนอยู่ในผิวหนักตัวอักษร“เตา”ก็ปรากฏขึ้นมาทันที.

“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม---”

เพลิงเทพแม่ครัว ในเวลานั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า มันลุกโชน แผ่ความร้อนออกไปทั่วสนามการแข่งขัน!

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

เปลวเพลิงที่รุนแรงสะกดข่ม เพลิงที่อ่อนแอ ที่หรี่ลงและมอดดับไปในทันที.

เหล่าผู้แข็งขันหลายคนที่ตกใจ ใบหน้าเปลี่ยนสีไปเหมือน ๆ กัน.

พวกเขาที่รู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงพยัคฆ์มังกรคำรามออกมาจากเพลิงแม่ครัว จิตใจของพวกเขาสั่นไหวแม้แต่อุทานออกมา“นี่มัน....เพลิงอะไรกัน!”

เฉียนซ่งเป้าที่อยู่ใกล้ที่สุด ใบหน้าเปลี่ยนสีไปเหมือนกัน.

แม้แต่เขาก็ยังยากจะควบคุมเพลิงจื่อหยินได้ เปลวเพลิงก็พร้อมจะดับลงทุกเมื่อ“เพลิงของข้าที่ราวกับจะยอมแพ้ เพลิงนั่นคือเพลิงทำอาหารที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน!”

ทันทีที่หลิวหว่านซีปลดปล่อยเพลิงเทพอาหารออกมา เปลวเพลิงของทุกคนในสนามที่ราวกับจะมอดดับ เหมือนกับเจอเพลิงที่แข็งแกร่งกว่า จนไม่กล้าทาบรัศมี!

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ยักไหล่ขึ้นเบา ๆ เอยออกไปว่า“สยายล่ะ ไม่มีใครขัดขวางได้.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด