ตอนที่แล้วChapter 819 แรงงานมีด?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 821 รอบชนะเลิศ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ

Chapter 820 น้ำ น้ำ น้ำ


หากการแข่งขันทำอาหารระดับจังหวัด ถึงแม้ว่าจะมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ก็จะได้รับการให้อภัย.

ยกตัวอย่างอาหารที่หม่าเทียนเฉิงทำนั้น อย่างน้อยควรจะได้คะแนน 90 แต้ม ทว่ากับได้เพียงแค่ 79 แต้ม แม้ว่าจะขาดเพียงแต้มเดียว ก็ทำให้เขาตกรอบได้.

กรรมการทั้งสิบที่เปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ แม้นว่าผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ยากจะตบตาพวกเขาได้.

“ข้าไม่ยอมรับ!”

“ข้าไม่ยอมรับ....”

หม่าเทียนเฉิงถูกยอดฝีมือสองคนลากออกไป ทว่าปากของเขายังคงร้องลั่น ดวงตาที่เอ่อล้นด้วยน้ำตา.

หลังจากที่เขาชนะเลิศงานประลองระดับจังหวัด เขาก็ฝึกฝนอย่างหนัก หวังจะประสบความสำเร็จในการประลองเทพอาหาร เพียงเพราะความผิดพลาดเล็กน้อย กับทำให้ความพยายามทั้งหมดหายไป เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน.

เหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่น ๆ เห็นหม่าเทียนเฉิงถูกลากออกไป ภายในใจไม่ได้รู้สึกยินดีกับความโชคร้ายของคนอื่นแต่อย่างใด แม้แต่บางคน ยังรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา บางทีคนต่อไปที่จะตกรอบอาจเป็นพวกเขา.

กรรมการสิบคนหลังจากที่ได้ชิมอาหารอีกจาน ดูเหมือนว่าจานที่สองจะได้เพียงแค่ 76 คะแนนเท่านั้น.

“มากเกินไปแล้ว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เขาสามารถบอกกลิ่นของอาหารได้ด้วยจิตสัมผัส คาดว่าอาหารจานเมื่อกี้นี้ไม่เลวทีเดียว ท้ายที่สุดกับไม่ผ่านมาตรฐานด้วยซ้ำ

คนเราใช่ว่าจะสมบูรณ์แบบได้อย่างร้อยเปอเซ็น ความผิดพลาดเล็กน้อย ใครเล่าที่จะตั้งใจ การที่ตัดสินแม่นยำขนาดนี้ดูไร้เหตุผลไปหน่อย.

ถังเหรินเอ่ย”เจ้านิกายจุนไม่ได้ดูการแข่งขันเทพอาหารครั้งก่อน กรรมการเฉียนปู่โตว คนที่ผ่านรอบแรกไปนั้น แทบจะนับคนได้.

“จริงรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

ผ่านเพียงไม่กี่คน ร้ายแรงขนาดนั้นเลยรึ?

ระบบเอ่ย “เป็นเรื่องปรกติของการแข่งขัน.”

“รสชาติเค็มไปหน่อย ล้มเหลว.”

“การหั่นหัวไชเท้าที่ไร้ระเบียบ ไม่เท่ากัน ไร้ซึ่งความสวยงาม ล้มเหลว.”

“รสชาติไม่เลว หั่นไม่เลว ทว่าหน้าตาของเจ้าไม่ทำให้อยากอาหารเลย ขาดความสะอาด ล้มเหลว.”

“......”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วแผ่นดินมุมปากกระตุกไปมา.

รสชาติไม่ดี ถูกกำจัดออกไปหมด.

หั่นไม่ได้เรื่องก็ถูกกำจัดออก.

ตกรอบคนแล้วคนเล่า แม้แต่หน้าตาไม่ดียังถูกกำจัดออก บัดซบนี้มันแข่งขันทำอาหาร หรือประกวดหน้าตากันแน่?!

ในการตัดสินทำอาหารนั้น เรื่องแรกอาหารต้องอร่อยประณีต คนทำดูสะอาดเรียบร้อย มีเครื่องเคียงประกอบอาหารทำให้เลิศหรู.

บอกได้เลยว่าไม่เพียงแค่อาหารต้องอร่อย ทว่าทั้งผู้ทำและอาหารต้องโดดเด่นด้วย.

“ตกรอบ!”

“ตกรอบ!”

ผู้เข้าแข่งขัน 20 คนแรก ไม่มีใครได้เกิน 80 คะแนนเลย ตกรอบทั้งหมด แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ แม้แต่อุทานออกมาเสียงดัง“นี่ต้องมีเบื้องหลังแน่  จะต้องมีแผนการซ่อนอยู่เบื้องหลังแน่!”

“ข้าคิดว่าคน 120 คน น่าจะผ่านรอบแรกครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ ผ่านสัก 20 คนก็ดีแล้ว!”

“20 อย่างงั้นรึ? ข้าคิดว่ามันยังยากอยู่ดี!”

“กรรมการกลุ่มนี้ ไม่คิดจะให้ใครผ่านไปเลยอย่างงั้นรึ?”

เหล่าคนดูที่เวลานี้ต่างก็เฝ้าดูว่ามีใครจะผ่านเข้ารอบได้ หรือว่าอาหารทุกจานจะไม่ผ่านกันหมดเลยอย่างงั้นรึ?

เหล่ายอดฝีมืออาหาร อาหารของเขาถึงแม้นว่าจะผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็ถูกตัดสินว่าไม่ผ่าน!

“เข้มงวดเกินไปแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้ชม แทบจะอดทนไม่ได้ กรรมการทั้งสิบคนนี้กำลังจะทำแผนการของเขาพังลง.

โอ้วสวรรค์.

งานโฆษณาของข้า เจอกรรมการที่เข้างวดขนาดนี้ เกรงว่าการแข่งขันคงจบลงอย่างรวดเร็ว.

......

หลังจากตกรอบไปแล้วสี่สิบคน ท้ายที่สุดก็มีคนที่ได้ 81 แต้ม ผ่านเข้ารอบสอง.

การที่ส่งคนกลับบ้าน ตกรอบแรกมากมายเช่นนี้ อธิบายได้ว่างานประลองเทพอาหารนั้นเข้มงวดอย่างที่สุด กล่าวได้ว่านี่คือการแข่งขันวิถีอาหารที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปแห่งนี้แล้ว.

“ไม่เลว ไม่เลว.”

ท้ายที่สุดก็ถึงคราวของหลินเยา กรรมการทั้งสิบที่พยักหน้าให้ ก่อนที่เขาจะได้คะแนนถึง 91 แต้ม.

ผ่านไปรอบสองอีกคน.

เหล่าผู้ชมที่ราวกับตระหนักได้ว่า คนที่ผ่านเข้าไปในรอบถัดไป ล้วนแต่เป็นศิษย์ของผู้ชนะเลิศงานเทพอาหารมาก่อนทั้งนั้น.

หากว่าไม่มีพื้นเพที่ยิ่งใหญ่ กล่าวได้ว่าจะต้องเป็นเพียงหินรองเท้าจริง ๆ.

ที่จริงไม่ได้มีแผนการอะไรวางไว้แต่อย่างใด ทว่าคนที่เคยได้ชัยชนะเลิศนั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริง และศิษย์ของพวกเขาย่อมต้องฝึกฝนตามแนวทางที่พวกเขามีประสบการณ์จนทำให้มีความสามารถอย่างแท้จริง.

การตัดสินยังคงดำเนินต่อไป.

การประเมินผ่านไปแล้ว 100 คน คนที่เข้ารอบต่อไปมีเพียงแค่ 8 คน.

“ศิษย์ของเทพอาหารเองก็คงไม่มีปัญหา หากว่าเขาตกรอบ คงไม่มีใครได้เข้ารอบอีกแล้ว!”

“เด็กสาวที่มีนามว่าหลิวหว่านซี เองก็ไม่น่าจะมีปัญหา.”

ทุกคนรอคอยอย่างใจเย็น.

“ล้มเหลว ล้มเหลว ล้มเหลว......”

กรรมการทั้งสิบที่คัดคนสิบกว่าคนตกรอบอีกครั้ง.

“สหายน้อย.”

ชายชราที่เหมือนกับปราชญ์มายืนอยู่ที่ด้านหน้าเฉียนซ่งเป้า พร้อมกับเผยยิ้มออกมา “อาหารของเจ้า คงเป็นเนื้อวัวย่างรมควันสินะ ในอดีตเทพอาหารก็เคยทำเช่นกัน โชคดีที่เหล่าฟู่ได้ชิม ไม่รู้ว่าจะเทียบกันได้หรือไม่?”

เหล่ากรรมการที่ก้าวเข้ามาพร้อมกัน.

พวกเขาที่ยังไม่ชิม ทว่ากำลังประเมินสีของอาหารก่อน พร้อมกับพยักหน้าพร้อม ๆ กัน.

“ทุกท่าน เชิญ.”

ชายชราที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อวัวขึ้นมา พร้อมกับใส่เข้าปาก ก่อนที่จะชะงัก “รสชาตินี้!”

“คู่ควรที่เป็นผู้สืบทอดเทพอาหาร!”

กรรมการแต่ละคนต่างก็เอ่ยชม พร้อมกับแสดงคะแนน คาดไม่ถึงเลยว่าจะให้ 10 คะแนนกันทุกคน!

“เนื้อวัวย่างรมควันของเฉียนซ่งเป้า ได้รับคะแนนเต็ม!”หวงจินต้วนที่ประกาศเสียงดัง.

“โอ้วสวรรค์! การประเมินที่เข้มงวด คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้คะแนนเต็มสมบูรณ์ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”

เหล่าผู้ชมที่จ้องมองหน้าจอดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

“ร้ายกาจจริง ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เขาที่เห็นเฉียนซ่งเป้ามีความรู้เรื่องอาหารที่ไม่ธรรมดาก็ตระหนักได้แล้ว่ามีความสามารถหลากหลาย การที่ได้คะแนนเต็มในรอบแรก ยืนยันได้แล้วว่าสายตาของเขานั้นมองคนไม่ผิด!

ระบบ“......”

คนผู้นี้ จะชมคนอื่น หรือว่าตัวเองกัน?

“ศิษย์ในนิกายที่นับว่ายิ่งมีมากขึ้น ทำให้ตู้ตู้ทำงานหนักมาก หากดึงเจ้าเด็กนี้เข้าไปเป็นพ่อครัวหมายเลยสอง ก็ถือว่าไม่เลว.”

ดวงตาของจุนซ่างเซียวที่เป็นประกายขึ้นมาช้า ๆ.

ในเวลานั้นเฉียนซ่งเป้าที่รู้สึกขนลุกตั้งชัน ขณะกล่าวในใจ“สังหรณ์ใจไม่ดีเลย!”

“สาวน้อย.”

กรรมการทั้งสิงที่มาหยุดที่หน้าหลิวหวานซี เผยยิ้มอาหาร “อาหารของเจ้าชื่ออะไร?”

“เต้าหู้ผัดซอสเสฉวน”หลิวหว่านซีเอ่ย.

“หืม?”

ทุกคนที่จ้องมองหน้ากันด้วยท่าทางงงงวย เห็นชัดเจนว่าไม่เคยได้ยินชื่ออาหารนี้ในทวีปชิงหยุนมาก่อน.

“มันมีคุณสมบัติอย่างไร?”ชายชราที่เหมือนปราชญ์ที่เผยยิ้มออกมา.

นอกจากเฉียนซ่งเป้า และเหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่น ๆ ที่สีหน้าจริงจัง จดจ้องมองหลิวหว่านซี รู้สึกจริงจังขึ้นมาในทันที.

“เรื่องนี้....”

หลิวหว่านซีที่เกาศีรษะไปมา เอ่ยออกมาว่า.“หลัก ๆ คือเผ็ดนรก.”

“เปิดฝาครอบ?”

“ตกลง.”

ชายชราที่สะบัดมือเล็กน้อย พลังวิญญาณที่แผ่ออกไปรอบ ๆ ขณะเขาก้าวเข้าไปที่ด้านหน้าโต๊ะ.

ในเวลานั้น บนค่ายกลสะท้อน เต้าหู้ผัดซอสเสฉวนปรากฏขึ้น อาหารที่เป็นเป็นสีขาวและแดง โดยมีต้นหอมซอยโรยอยู่ด้านบน.

“ลักษณ์พิเศษของเต้าหู้ผัดซอสเสฉวนนั้นเผ็ดร้อนแรง”จุนซ่างเซียวเอ่ย “สาวน้อยคนนี้ทำอาหารที่ร้อนแรงขนาดนี้ตั้งแต่แรก เกรงว่าคงจะเล่นแรงไม่น้อย.”

“ภาพลักษณ์อาหารไม่เลว.”

กรรมการทั้งสิบที่พยักหน้าให้กัน.

“ทุกท่าน เชิญ.”

ชายชราที่หยิบตะเกียบขึ้น หลิวหว่านซีกล่าวเตือน “จะต้องเตรียมน้ำเอาไว้ให้พอ เพราะว่ามันเผ็ดเล็กน้อย.”

“เฮ้ เฮ้.”

กรรมการคนดังกล่าวเผยยิ้ม “เหล่าฟู่นั้นกินอาหารเผ็ดมามากมาย หากไม่เผ็ดก็จะไม่มีความสุข.”

เขาที่คีบเต้าหู้ขึ้นมา รูปลักษณ์ของมันดูระเอียดประณีตเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังนุ่มลื่นยืดหยุ่น น่าประหลาดใจจริง.”

อาหารเข้าปาก แล้วเคี้ยว.

กรรมการหลาย ๆ คนที่ชิมแทบจะพร้อม ๆ กัน.

ในเวลานั้นสายตาของพวกเขาที่หยุดนิ่ง จากนั้นใบหน้ากลายเป็นสีแดง หน้าผากหลั่งเหงื่อนที่เย็นยะเยือบออกมา.

ความเผ็ดที่ไม่เพียงแค่ใบหน้าทว่ามันลามไปทั่วร่างกาย อวัยวะทั้งห้า ที่ร้อนขึ้นแทบจะในทันที.

“เผ็ด ร้อนมาก!”

“ฮา ฮู-”

“ฮา ฮู----”

“ฟิ้ว!”

แทบจะในทันที พวกเขาที่เร่งรีบหาน้ำขึ้นมากรอกเข้าปาก รู้สึกราวกับว่าร่างกายจะเผาไหม้ไปแล้ว!

ไม่ว่าจะเป็นกรรมการต่างก็วิ่งหาน้ำ รู้สึกร้อนไปทั่วร่างกาย.

“น้ำ น้ำ!”

-

หมาโผโต้วฝุ(麻婆豆腐 mápódòufu)หรือ เต้าหู้ผัดซอสเสฉวน

เมนูอาหารชนิดนี้มีชื่อเรียกที่หลากหลายไปตามการแปลของร้านอาหารแต่ละร้าน เช่น เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน เต้าหู้หม่าผ่อ เต้าหู้มาโบ เต้าหู้หม่าฝ่อ เต้าหู้หม่าล่า เป็นต้น ซึ่งรสชาติของอาหารก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการประยุกต์รสชาติของพ่อครัวในแต่ละร้านเพื่อให้ถูกปากนักชิมชาวไทย แต่รสชาติที่แท้จริงของหมาโผโต้วฝุอันเป็นอาหารขึ้นชื่อของมณฑลเสฉวนนั้น ต้องมีความหมาล่า กล่าวคือต้องมีรสเผ็ดและชาจากพริกและฮวาเจียวนั่นเอง

หมาโผโต้วฝุถือเป็นอาหารบ้านๆ ทั่วไป(家常菜 jiāchángcài)ที่แม่บ้านทุกบ้านจะต้องทำเป็น (คล้ายๆ เมนูผัดกะเพราบ้านเรา) และสามารถหากินได้ง่ายตามร้านอาหารทั่วไป ดังนั้นหากได้ไปเมืองจีน ขอให้ลองสั่งเมนูนี้มาลิ้มลอง จะต้องถูกใจคอหมาล่าอย่างแน่นอน แต่มีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อวัว เพราะเนื้อสัตว์ที่ใช้สำหรับปรุงอาหารนี้มักเป็นเนื้อวัวสับหรือบางร้านอาจใช้เนื้อวัวสับและเนื้อหมูสับผสมกันอย่างละครึ่งๆ

สำหรับชื่อเมนูอาหาร หมาโผโต้วฝุ(麻婆豆腐 mápódòufu)นั้น

麻 (má หมา) หมายถึง รอยแผลจากการเป็นฝีดาษ

婆 (pó โผ) หมายถึง หญิงสูงวัย

豆腐 (dòufu โต้วฝุ) หมายถึง เต้าหู้

ดังนั้น 麻婆豆腐 mápódòufu จึงแปลรวมๆ ได้ว่า เต้าหู้ป้าหน้าปรุ โดยมีที่มาอยู่ว่า มีชายเจ้าของร้านอาหารคนหนึ่งเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ทำให้ภรรยาของเขาผู้ซึ่งมีรอยแผลจากการเป็นฝีดาษเต็มใบหน้าจำต้องหาทางเลี้ยงชีพตนต่อไป นางจึงตัดสินใจผัดเต้าหู้ขาย ลูกค้าที่ได้กินเต้าหู้ผัดของนางต่างก็ติดใจในรสชาติ จึงพากันเรียกเต้าหู้ของนางว่า หมาโผโต้วฝุ(麻婆豆腐 mápódòufu)หรือเต้าหู้ป้าหน้าปรุนั่นเอง

https://web.facebook.com/chineseforeating/posts/924692231003529/?_rdc=1&_rdr

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด