ตอนที่แล้วChapter 802 พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 804 อดทนต่อความล้มเหลว แล้วลุกขึ้นมายืนใหม่

Chapter 803 ศัตรูในทางแคบ


วิชาบ่มเพาะที่เผ่าวิญญาณมอบให้ ทำให้ไต่ลู่ดูดซับพลังงานมากมายตลอดการเดินทางมายังจังหวัดเป่ยโม่ เวลานี้พลังบ่มเพาะเขาเพิ่มขึ้นไม่น้อย เวลานี้เขาเริ่มมีความหวังเต็มเปี่ยม.

โดยเฉพาะคิดถึงการต่อสู้กับเย่ซิงเฉินที่ถูกกระทืบมาสองครั้ง ยิ่งทำให้เขาโกรธเกรี้ยวราวมากมายราวจะทะลวงชั้นฟ้า หวังที่จะพลิกนิกายนิรันดร กระทืบอีกฝ่ายให้จมเท้าให้ได้.

“ข้าจะทำให้นิกายของพวกมันกลายเป็นซากปรักหักพัง.”

เผ่าวิญญาณกล่าวปลอบใจ“เมื่อไหร่ที่เจ้าได้รับสายโลหิตกลืนกิน จะทำให้พลังบ่มเพราะของเจ้าพุ่งทะยาน ในสวรรค์และปฐพีนี้จะไม่มีใครข่มเหงเจ้าได้อีกครั้ง.”

ใจเย็น ใจเย็นเข้าไว้!

ไต่ลู่ระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ ท้ายที่สุดก็เดินทางมาถึงทะเลทรายเหลือง.

แต่มีสิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก ทันทีที่เขามาถึง บนศิลาก้อนใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป เขาได้เห็นชายคนหนึ่งที่เขาเกลียดเข้ากระดูกอยู่ด้านหน้า!

เป็นเขา!

เย่ซิงเฉิน!

การที่มาพบอีกฝ่ายที่นี่ ช่างเป็นศัตรูในทางแคบจริง ๆ!

“ฟู่!”

ในเวลานั้น ความโกรธเกรี้ยวของไต่ลู่ไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป ราวกับภูเขาไฟที่ระเบิดออกมา โดยเฉพาะการถูกอีกฝั่งกระทืบมาสองครั้งแล้ว ดวงตาของเขาที่แดงซ่านขึ้นมาทันที.

“เจ้าคนนี้....ดูคุ้น ๆ.”เย่ซิงเฉินที่กล่าวเสียงเบา.

ไต่ลู่ได้ยินคำพูดดังกล่าว แทบกระอักโลหิตออกมา!

ทั้งที่เจ้ากระทืบข้ามาสองครั้งแล้ว คาดไม่ถึงจะจำไม่ได้? หรือกว่าวได้ว่า ตัวเขา ไม่อยู่ในสายตาอีกฝ่ายเลยรึ?

ชายหมวกเขียว สำหรับราชันย์รัตติกาลแล้ว ก็ไม่ต่างจากขยะ ในเมื่อเป็นขยะ มีอะไรต้องให้จดจำ.

“หืม?”

จุนซ่างเซียวที่มองออกไป สีคางไปมา “ความจริงก็ดูคุ้น ๆ อยู่เล็กน้อย.”

“พรูดดด!”

ไต่ลู่ที่ไม่สามารถทนได้อีก พ่นโลหิตออกมา.

ในอดีตเขาถูกอีกฝ่ายเหยียบใบหน้า ไม่คาดคิดเลยว่าจะจำเขาไม่ได้!

“กึก!”

ไต่ลู่ที่ก้าวมายืนอยู่ห่างกับทั้งสองราว ๆ สิบจั้ง ก่อนที่จะถอดชุดดำ พร้อมกับนำหมวกเขียวออกมาใส่ กล่าวด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง “ตอนนี้จำได้แล้วรึยัง?”

จุนซ่างเซียวที่คิดได้ทันทีตบหน้าผากดังฉาด “เจ้านี่เอง คนที่ลวนลามศิษย์หญิงใหญ่เปิ่นจั้ว!”

ไต่ลู่คำราม “บิดาไม่ได้ลวนลามเว้ย!”

ระหว่างเส้นทางไปยังงานชุมนุมรับศิษย์ร้อยสำนัก แม้นว่าเขาจะต้องอุทานออกมาเสียงดังกับความงดงามของลู่เชียนเชียน ทว่าเพียงแค่พูดออกมาไม่กี่คำ ยังไม่ได้คิดจะทำอะไร ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ กับถูกอีกฝ่ายกระทืบจนเจ็บระบมไปทั่วร่างแล้ว.

“เปิ่นจั้ว จำได้ว่าเจ้าเข้าร่วมนิกายเซิ่งชวนแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่จังหวัดเป่ยโม่ล่ะ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“ชิ.”

ไต่ลู่กล่าวอย่างภาคภูมิ “นิกายขยะ ไม่มีคุณสมบัติคู่ควรกับข้า.”

ในเมื่อเขามีพลังกลืนกินแล้ว เขาก็ไม่ใช่ชายหมวกเขียวคนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้เขาที่เต็มเปี่ยมด้วยความทะเยอทะยาน ต้องเป็นคนอื่นที่ต้องหมอบเข้ามาหาเขา.

“เห็นแก่คนที่เคยเป็นสหายเก่ากัน เจ้ารีบไปจากที่นี่ซะ อย่าได้รบกวนเปิ่นจั้วจัดการธุระที่นี่.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

แม้นว่าไต่ลู่จะไม่พอใจเขาเป็นอย่างมาก ทว่าเวลานี้เขาอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นปลาย ในสายตาของเขา อีกฝ่ายเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปไม่มีค่าให้ใส่ใจ.

ไต่ลู่ที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว อีกฝ่ายที่กำลังดูแคลนตัวเอง ดังนั้นจึงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที “จุนซ่างเซียวตอนนี้ข้าไม่ใช่คนที่เหมือนกับมดปลวกให้เจ้าได้เหยียบย่ำอีกต่อไปแล้ว!”

จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มออกมา “ต้องการพูดอะไร?”

“ฟิ้ว!”

ไต่ลู่ที่ชี้นิ้วไปด้านหน้า กล่าวอย่างภาคภูมิ “บิดาจะสู้กับเจ้า!”

แม้นว่าเขาจะเกลียดเย่ซิงเฉิน ทว่าก็เกลียดจุนซ่างเซียวไม่แพ้กัน ในเมื่อทั้งสองอยู่ที่นี่แล้ว ก็ถึงเวลาทวงหนี้กับเจ้านิกายนิรันดรไปพร้อมกันเลย.

ชายหมวกเขียวที่เวลานี้ใจกล้าเต็มไปด้วยความอหังการเป็นอย่างมาก.

คาดไม่ถึงเลยว่าถึงกับกล้าท้าทายจุนซ่างเซียวด้วยตัวเอง!

“เจ้าหนู!”

เผ่าวิญญาณแทบทรุดเอ่ยออกมาว่า“ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา อย่าได้หาเรื่องใส่ตัว!”

ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ไม่ฟัง!

ข้าจะสู้กับมันในวันนี้ จะทวงแค้นในอดีต ทวงหนี้ที่อีกฝ่ายทำลายสำนักหลิงชวนไป.

กับสิ่งที่เกิดขึ้น ฝั่งผู้ร้ายย่อมเป็นฝั่งชายหมวกเขียว ทว่าด้วยความสัมพันธ์ที่มีต่อสำนักหลิงชวน เป็นเรื่องปรกติที่เขาต้องล้างแค้น.

ดังนั้น.

ถึงจะเป็นตัวร้ายก็ย่อมต้องมีจุดยืนเป็นของตน.

“ต้องการสู้กับเปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ตกใจ “เอาจริงอย่างงั้นรึ?”

เห็นอีกฝ่ายที่แสดงท่าทางดูแคลนตัวเองเป็นอย่างมาก ทำให้ไต่ลู่โกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเดิม “กล้าสู้.......”

“ตูมมมม---”

เสียงระเบิดดังกึกก้อง หน้าของเขาที่สะบัด ร่างที่พุ่งกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร.

เย่ซิงเฉินที่แค่นเสียงเย็นชา “เพียงแค่ขยะมีคุณสมบัติใดท้าทายเจ้านิกาย.”

ไต่ลู่ที่ลุกขึ้นยืนมือหนึ่งกุมใบหน้า “เจ้าลอบโจมตีข้า นี่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”

ถึงเขาจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าภายในใจก็ตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.

ทั้งที่ยืนอยู่ห่างกันไม่น้อย แม้แต่จิตสัมผัสของเขาก็ไม่สามารถจับความเร็วอีกฝ่ายได้.

แน่นอนจุนซ่างเซียว หาได้สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย.

“เจ้าหนู.”

เผ่าวิญญาณเอ่ยอย่างจริงจัง “ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า อย่าว่าแต่สู้กับจุนซ่างเซียวเลย แม้แต่เย่ซิงเฉินเจ้าก็ไม่ชนะ!”

การโจมตีเมื่อครู่นี้ เขาพอจะคาดเดาพลังของอีกฝ่ายได้แล้ว.

แม้นว่าไต่ลู่จะบ่มเพาะวิชากลืนกิน ยกระดับพลังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทว่าตอนนี้ ก็เป็นได้แค่เพียงกระสอบทรายให้อีกฝ่ายเท่านั้น.

“เป็นไปไม่ได้!”

ไต่ลู่คำรามในใจ “เจ้าไม่ได้บอกว่าหากข้าเจอมันอีกครั้ง จะสามารถกระทืบให้อีกฝ่ายอยู่แทบเท้าข้าได้ไม่ใช่รึ?!”

“ข้าเคยพูดแบบนั้น.”

เผ่าวิญญาณที่กล่าวพลางถอนหายใจ “ทว่าเย่ซิงเฉินเติบโตเร็วเกินไป เหนือกว่าความเร็วของผู้ฝึกยุทธ์ในทวีปชิงหยุนที่ควรจะเป็น ไปมาก!”

“ขยะ.”

เย่ซิงเฉินที่ยืนอยู่ไกลออกมา กล่าวด้วยท่าทางทนไม่ไหว “รีบไสหัวไปซะ.”

“น่ารังเกียจ!”

ไต่ลู่ที่เผยแววตาโกรธเกรี้ยว.

เผ่าวิญญาณที่กล่าวปลอบ “ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา รีบถอยก่อน.”

“ถอยอย่างงั้นรึ?”

ไต่ลู่หัวเราะขึ้นมาทันที หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เวลานี้เขาปาดโลหิตจากปาก จ้องมองไปยังเย่ซิงเฉิน “ฟังให้ชัด บิดาไม่ใช่ขยะ!”

“ฟิ้ว!”

ความโกรธเกรี้ยวที่มากล้น หมัดขวาของเขาที่อาบไปด้วยพลังวิญญาณพุ่งไปด้านหน้า!

“ตูมมมม-”

อย่างไรก็ตามยังไม่ได้โจมตีด้วยซ้ำ เย่ซิงเฉินก็มาปรากฏที่ด้านหน้า ที่หน้าอกเกิดเสียงดัง ความรู้สึกที่เจ็บปวดปรากฏขึ้นมาทันที.

“ตูมมมม-”

“พรึด โครม!”

ไต่ลู่ลอยกระเด็นออกมาหลายสิบจั้ง หน้าอกเป็นลอยขนาดใหญ่.

“กึก!”

เย่ซิงเฉินที่ก้าวมาอยู่ด้านหน้าของเขา ยืนอยู่ด้วยท่าทางสูงส่ง“ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นขยะ ไม่กล้ายอมรับ เพราะว่าเจ้าคือโคตรขยะไงล่ะ.”

“กึก ซี่!”

ไต่ลู่ที่อดทนต่อความเจ็บปวด กำหมัดแน่น.

“ฟู่ ฟู่--”

พริบตานั้น ดวงตาของเขาที่กลายเป็นสีเขียว ในเวลานี้ฝ่ามือของเขาปลดปล่อยพลังสีเขียวออกมาอย่างบ้าคลั่ง.

ข้าไม่สามารถชนะเจ้าแล้วอย่างไร.

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะดูดพลังของมัน.....

“ฟิ้ว!”

เย่ซิงเฉินที่ก้าวเข้ามาใกล้ มือของเขาที่คว้าไปยังข้อเท้าอีกฝ่าย ก่อนที่จะจับยกขึ้น ฟาดไปทางซ้ายขวาเหมือนกับอ้าวอู๋ซ่วง.

ตูมมม!ตูมมม!ตูมมม!

หลังจากฟาดอย่างรุนแรง เวลานี้ไต่ลู่ที่ได้รับบาดเจ็บหนัก พลังกลืนกินของเขา กับไร้ผล บางทีอาจเพราะว่าเย่ซิงเฉินน่าเกรงขามเกินไป ทำให้ไม่สามารถดูดพลังอีกฝ่ายได้เลย.

“ซิงเฉิน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “อย่ารบกวนศิษย์น้องของเจ้า.”

“ทราบแล้ว.”

เย่ซิงเฉินที่หยุดลง ก่อนที่จะโยนไต่ลู่ที่หมดสติลอยออกไปไกล.

“ขยะ.”

“ลงถังไปซะ.”

“พรึด โครม!”

ไต่ลู่ที่บาดเจ็บหนักลอยคลุกฝุ่น เกลือกกลิ้งไปบนทะเลทราย.

ในวันนี้ เขาถูกเย่ซิงเฉินกระทืบเป็นครั้งที่สามแล้ว.

“เฮ้อ.”

เผ่าวิญญาณที่ได้แต่ถอยหายใจ “ข้ามาอยู่ในร่างเจ้าโง่นี้ได้อย่างไรกัน?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด