ตอนที่แล้วChapter 803 ศัตรูในทางแคบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 805 ข้าวผัดแห่งความเศร้า

Chapter 804 อดทนต่อความล้มเหลว แล้วลุกขึ้นมายืนใหม่


ครั้งที่สามแล้วที่ไต่ลู่ถูกเย่ซิงเฉินกระทืบ จนหมดสติไป.

ถึงแม้นว่าเขาจะได้เคล็ดวิชาบ่มเพาะกลืนกินมาแล้ว พลังบ่มเพาะที่ยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ทว่าท้ายที่สุดกับพ่ายแพ้ ไม่แม้แต่โต้กลับไปได้สักกระบวนด้วยซ้ำ!

กล่าวให้ถูกต้อง.

การถูกยำครั้งนี้ แย่ยิ่งกว่าครั้งที่สองสะอีก.

ไม่ใช่เพราะไต่ลู่ไม่แข็งแกร่ง ทว่าความเร็วและพลังของเย่ซิงเฉินนั้นกับเพิ่มมากกว่าเขาเป็นอย่างมาก.

หนำซ้ำ.

เวลานี้เขามีกายาชีพจรวิญญาณ ตลอดจนใช้เม็ดยารวมวิญญาณ ศิลาวิญญาณธรรมชาติไปจนถึงค่ายกลรวมวิญญาณระดับสูง มีรึที่อีกฝ่ายจะเทียบได้..

ชายหมวกเขียวที่เวลานี้ถูกเย่ซิงเฉินกระทืบจมเท้า ไม่มีโอกาสที่จะพลิกกลับได้เลย.

เผ่าวิญญาณกล่าวออกมาด้วยความสงสัย “ในทวีปชิงหยุนที่มีพลังวิญญาณลดลงมากมายอย่างชัดเจน ทำไมกับมีนิกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มีผู้เยาว์ที่เติบโตรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”

“ไม่ใช่ว่าหากอีกฝ่ายเติบโตรวดเร็วขนาดนี้ ถึงข้าจะฝึกฝนเจ้าเด็กนี่ไปเท่าไหร่ ถึงจะสามารถควบคุมได้ แต่ก็ไม่สามารถหาประโยชน์ได้แน่นอน.”

“ไม่ได้ ไม่ได้การแล้ว!”

เผ่าวิญญาณกล่าวอย่างมั่นคง“ข้าจะต้องกลับดินแดนวิญญาณให้เร็วที่สุด เพื่อฟื้นฟูวิญญาณที่เสียหายของข้า จากนั้นก็ควบคุมเจ้าเด็กนี้ ดูดซับพลังจากผู้คนให้มาก แล้วค่อยไปกำจัดพวกมัน!”

การที่เขานำไต่ลู่เดินทางมายังจังหวัดเป่ยโม่ เป็นความจริงว่าไม่ได้ต้องการมอบสายโลหิตกลืนกินให้แต่อย่างใด หากแต่เขาหาโอกาสกลับไปพิภพของตัวเอง กลับไปตั้งหลักค่อยคืนกลับมาอีกครั้ง.

แผนการของเผ่าวิญญาณนั้นค่อยข้างเป็นไปอย่างราบรื่น.

ทว่ามนุษย์ที่เขาเกาะอยู่นั้นกับโง่จนเกินไป เห็นชัดเจนว่าสู้เย่ซิงเฉินไม่ได้ แต่กับดื้อด้านวิ่งเข้าไปให้อีกฝ่ายให้ถูกทุบ.

เผ่าวิญญาณที่เอ่ยกล่าวด้วยความละเหี่ยใจ“เจ้ามนุษย์นี้เชื่อถือไม่ได้เลย ข้าจะต้องกลับไปให้เร็วที่สุด.”

“ฟู่!”

ในเวลาต่อมา ไต่ลู่ที่ได้สติ มุดขึ้นมาจากทรายที่ทับถม เกลือกกลิ้งไปมาบนพื้นพร้อมกับหายใจหอบ ๆ.

เขาที่ก้าวไปถึงระดับกษัตริย์ยุทธ์ มีวิชาบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง ทว่าทำไมยังไม่สามารถชนะเย่ซิงเฉินได้ แม้แต่ถูกอีกฝ่ายทุบเป็นหมาตายอีกแล้ว!

“เจ้าหนู.”

เผ่าวิญญาณที่กล่าวปลอบ “ความผิดถือว่าเป็นบทเรียน ให้เรียนรู้เพื่อเติบโตแล้วกลับขึ้นมายืนใหม่ เจ้าจะสามารถกลายมาเป็นผู้ชนะได้ในที่สุด.”

“ไม่ผิด!”

ไต่ลู่ที่กำหมัดแน่น “ข้าจะต้องแบกรับความล้มเหลว ก่อนที่จะฟื้นคืนกลับมา!”

......

“เจ้านิกาย!”

ทะเลทรายเหลือง หลังจากซ่างกวนซินเหยาศึกษาค่ายกลผ่านมาสองชั่วยาม ก็ลืมตาขึ้น“ศิษย์ควบคุมค่ายกลที่อาวุโสราชันย์ค่ายกลวางไว้เรียบร้อยแล้ว.”

“เห็นอุโมงค์มิติหรือไม่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ซ่างกวนซินเหยาที่ใช้จิตสัมผัสขับเคลื่อน ห้วงมิติที่สั่นไหวเล็กน้อย และปรากฏม่านพลังขึ้นมา พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“เจ้านิกาย ท่านสามารถเข้าไปในค่ายกลได้ในตอนนี้.”

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวผ่านเข้าไปด้านใน.

เย่ซิงเฉินและซ่างกวนซินเหยาที่ก้าวตามเข้าไป.

หลังจากที่ทั้งสามเข้าไป ม่านพลังก็ซ่อนตัวหายไปในทันที.

ภายในค่ายกล ปรากฏช่องมิติที่ส่องประกายแสงวับวาว ที่ตรงกลางนั้นมีรอยแตกเล็ก ๆ แน่นอนว่ามีลวดลายค่ายกลมากมายปกคลุมอยู่ เป็นเหมือนกับตราผนึกจากโบราณกาล.

“เจ้านิกาย.”

ซ่างกวนซินเหยาเอ่ย “รอยแตกนี้น่าจะเป็นช่องว่างอุโมงค์มิติที่อาวุโสราชันย์ค่ายกลเอ่ย.”

จุนซ่างเซียวที่ยืนเด่น สีคางไปมา “เผ่าวิญญาณ ในเมื่อเดินทางมายังทวีปชิงหยุนที่นี่ พวกเราก็น่าจะไปยังดินแดนของพวกมันที่นี่ได้เช่นกัน.”

“ไม่ผิด.”

ระบบเอ่ย “ช่องทางมิติที่เชื่อมต่อกันนี้ น่าจะเกิดขึ้นจากฝีมือของแมลงมิติ.”

“แมลงมิติ?”จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางสงสัย.

ระบบอธิบาย “แมลงมิตินั้นมีเผ่าพันธุ์พิเศษที่สามารถมีชีวิตรอดในจักรวาลได้ สามารถเชื่อมต่อมิติไปยังสถานที่ต่าง ๆ มันสามารถสร้างอุโมงค์ขุดมิติไปมายังดินแดนต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ.”

“ร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ระบบเอ่ย “เกี่ยวกับบันทึกที่มีในทวีปชิงหยุน แมลงมิติระดับสูงนั้นสามารถขุดอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างพิภพระดับสูงและพิภพระดับต่ำได้เลย.”

“เย้ดเข้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ยอดเยี่ยมไปแล้ว!”

“แน่นอน.”

ระบบเอ่ย “หากเชื่อมต่อมิติระหว่างพิภพระดับต่ำและพิภพระดับสูงด้วยแมลงมิติแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสามารถไปได้ ทว่าจะถูกกำหนดให้เป็นพวกที่เข้าดินแดนอย่างผิดกฎหมาย แตกต่างจากการฉีกมิติขึ้นไปด้วยพลังตัวเองถึงจะเป็นการเข้าไปอย่างถูกต้อง.”

“โอ้ว.”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า“ดูเหมือนว่าเผ่าวิญญาณที่ผ่านมายังทวีปชิงหยุนนั้น คงใช้แมลงวิญญาณเชื่อมต่อที่นี่สินะ.”

“ก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึ?”ระบบเอ่ย.

“ซินเหยา.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิดผนึกได้หรือไม่?”

ซ่างกวนซินเหยาเอ่ย “เจ้านิกาย หากว่าเปิดผนึก เมื่อช่องทางเปิดแล้ว เผ่าวิญญาณอาจจะใช้โอกาสนี้รุกเข้ามาก็ได้.”

“ใช่”

จุนซ่างเซียวไม่ได้คิดจะทำลายผนึกแต่อย่างใด.

ต้องไม่ลืมว่าการเดินทางมายังจังหวัดเป่ยโม่ครั้งนี้ เป้าหมายเพื่อมายืนยันช่องมิติ ในเมื่อพบแล้ว ก็ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจไปแล้ว.

“วูซซซ!”

“วูซซซ!”

ในเวลาต่อมา บนลวดลายค่ายกลที่เวลานี้ดูเหมือนว่าจะสั่นไปมาเล็กน้อย.

“เจ้านิกาย!”

ซ่างกวนซินเหยาเอ่ย “มีพลังบางอย่างจากด้านในพยายามทำลายผนึกเข้ามา.”

ช่องมิตินี้เชื่อมกับโลกอื่น ไม่ต้องบอกเลยว่า เป็นเผ่าวิญญาณที่พยายามผ่านเข้ามา และหากเข้ามาได้แน่นอนว่าจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน.

“ราชันย์ค่ายกลกล่าวถูกต้อง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เผ่าวิญญาณยังไม่ตัดใจที่จะบุกทวีปชิงหยุน.”

ซ่างกวนซินเหยาที่ขมวดคิ้วไปมา “เจ้านิกาย ผนึกแม้นว่าจะยังต้านได้ ทว่าอีกไม่นานอาจจะพังทลายลงก็ได้.”

“สามารถเสริมกำลังได้หรือไม่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ซ่างกวนซินเหยาครุ่นคิดเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“ไม่น่าจะมีปัญหา.”

“งั้นก็เสริมกำลัง.”

“รับทราบ!”

ซ่างกวนซินเหยาที่เริ่มเตรียมค่ายกลทันที แน่นอนว่าเป็นค่ายกลที่ยาก ทว่าด้วยเทคนิคที่ได้รับมาจากราชันย์ค่ายกล ทำให้นางสามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

หลังจากผ่านไปสองสามชั่วยาม ค่ายกลที่ซับซ้อน รอยแตกร้าวทั้งหมดก็หายไป การเสริมพลังที่แน่นหนา พลังค่ายกลที่อ่อนแรงตอนนี้หายไปอย่างสมบูรณ์.

“เจ้านิกาย.”

ซ่างกวนซินเหยาเอ่ย “หลังจากเสริมกำลังแล้ว คงไม่มีใครกล้าทะลวงมันอย่างน้อยก็ 500-600 ปีล่ะ.”

ดวงวิญญาณของราชันย์ค่ายกลบนสวรรค์ คงจะต้องขอบคุณนางอย่างแน่นอน.

การที่นางได้รับกายาค่ายกลมา นับว่าเหมาะสมไม่น้อย.

ที่จริงค่ายกลที่มีมาแต่โบราณ มันจะค่อย ๆ อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ การที่เผ่าพันธ์จากโลกอื่นจะบุกมา แน่นอนว่ายังมีความเป็นไปได้สูง.

ตอนนี้ได้ทำให้แข็งแกร่งขึ้น ก็เท่ากับสามารถระงับอันตรายได้ชั่วคราว อย่างน้อยก็มั่นคงไปหลายร้อยปี.

“ดูเหมือนว่าค่ายกลปิดแยกเองก็เก่ามาแล้ว เจ้ายกระดับมันอีกครั้ง จะได้ไม่มีใครบังเอิญเข้ามาเจอมันได้โดยบังเอิญ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“อืม.”

ซ่างกวนซินเหยาที่เริ่มยกระดับค่ายกลปิดแยกในทันที.

ผ่านไปครึ่งวัน ค่ายกลปิดแยกก็ถูกยกระดับไปอีกขึ้น และมีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมซะอีก.

“เอาล่ะ.”

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาว่า“กลับนิกายกัน.”

จากนั้น ทั้งสามก็เดินทางออกจากดินแดนทะเลทรายเหลือง ออกจากจังหวัดเป่ยโม่ทันที.

หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว ไต่ลู่ที่ก้าวเดินตรงมายังพื้นที่ค่ายกล เป็นสถานที่จุนซ่างเซียวและศิษย์มาก่อนหน้านี้ ขณะที่เขาถอนหายใจยาว.

“ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายค่ายกลที่นี่ ขอเพียงแค่ทะลายมัน เจ้าก็จะได้รับสายโลหิตกลืนกิน เมื่อเวลานั้นมาถึงต่อให้เป็นราชันย์ยุทธ์ก็ไม่ใช่คู่มือ”เสียงของเผ่าวิญญาณดังขึ้น.

ไต่ลู่ที่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาในทันที.

ในเวลานี้ เขาไม่ได้สนใจที่จะกระทืบราชันย์ยุทธ์อะไร เพียงแค่หวังที่จะเอาคืนเย่ซิงเฉินและนิกายนิรันดรก็เท่านั้น.

“ฟู่ ฟู่!”

กลิ่นอายที่หลอมรวมกับร่างไต่ลู่ จากนั้นได้แผ่ออกมาสานเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ปกคลุมพื้นที่ค่ายกลทั้งหมด ก่อนที่จะพยายามทะลวงค่ายกลเข้าไป.

“ไม่ใช่สิ!”

ในเวลานั้น เผ่าวิญญาณที่ตื่นตกใจขึ้นมาทันที “ค่ายกลมันแข็งแกร่งเกินไปหรือไม่ ข้าไม่สามารถทะลวงผ่านเข้าไปได้เลย!”

“น่ารังเกียจ!”

ในเวลานั้นเขาที่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที “เป็นฝีมือจุนซ่างเซียวอย่างแน่นอน!”

ไต่ลู่แทบทรุดลงกับที่ “หมายความว่า เจ้าไม่สามารถทะลวงค่ายกลได้ ข้าก็ไม่สามารถได้รับสายโลหิตกลืนกินอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ผิด.”

“อ๊าก!”

ไต่ลู่ที่ยืนอยู่บนทะเลทรายเหลือง ความโกรธเกรี้ยวที่มากล้นจนต้องคำรามลั่นไปทั่วทะเลทราย.

......

ในเวลานี้ค่ายกลปิดกั้นช่องมิติได้ถูกเสริมกำลังแล้ว ไม่มีใครสามารถทะลวงได้ เผ่าต่างพิภพเองก็ไม่สามารถบุกมาได้.

ดังนั้น จุนซ่างเซียวก็ได้ช่วยโลกแห่งนี้เอาไว้แล้ว.

แน่นอน เขาไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเช่นนี้ ทว่าหลังจากกลับมาคุ่นคิด เพื่อที่จะให้ตัวเองและนิกายแข็งแกร่งขึ้น หากว่าเผ่าวิญญาณรุกรานในตอนนี้ คงเกิดปัญหาวุ่นวายเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงต้องหยุดเอาไว้ก่อน...ไม่ได้คิดจะเป็นวีรบุรุษช่วยปวงประชาใด ๆ ทั้งสิ้น!

“ราชันย์ค่ายกล.”

จุนซ่างเซียวที่ยกยิ้มที่มุมปาก“ช่องมิติที่เจ้าผนึกตอนนี้ถูกเสริมกำลังเรียบร้อยแล้ว.”

เผ่าพันธุ์วิญญาณ ไม่มีทางที่จะรุกมาได้ในยุคนี้อย่างแน่นอน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด