ตอนที่แล้วChapter 7: วางมันบนหัวโล้นๆของฉันเลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 9: ค่าธรรมเนียมอันน่าเหลือเชื่อ

Chapter 8: เงินคงทำให้ตาฉันบอดไปแล้ว


Chapter 8: เงินคงทำให้ตาฉันบอดไปแล้ว

ผู้คนที่มารวมตัวกันต่างก็ตื่นตระหนก!

บ้างตกตะลึง บ้างอิจฉา

ทำไม...ทำไมเราไม่มาตั้งแผงขายของแบบนี้บ้างนะ

พวกเขาเห็นจงหยิงเสวี่ยยืนเงียบๆ ข้างเจียงหนาน!

ในทางกลับกัน เซี่ยเหยาก็ยืนอยู่ข้างหลังเจียงหนานพร้อมกับล็อคคอ.. อย่างแน่น...

ท่าทางนั้นช่างดูเตะตาเล็กน้อย แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจเลย!

เซี่ยเหยากระพริบตาและพูดด้วยน้ำเสียงเขินอาย “อะแฮ่ม..พี่น้อง เชิญเข้ามาชม ราคาถูกๆ ทั้งนั้นเลยค่า”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจียงหนานก็ตัวสั่น...

เทพธิดาที่สูงส่งและดุร้ายเช่นนี้กำลังใช้เสียงสองในการพูด...

แม้ว่าเจียงหนานพยายามจะสงบใจ แต่เขาก็ยังต้านทานสิ่งนี้ไม่ได้!

“ทำไมคุณถึงตัวสั่นล่ะ”

“ไม่... มันหนาว มันหนาว!”

[จากความแค้นของเซี่ยเหยา คะแนน +333! ]

หนาวหรอ ในหน้าร้อนน่ะหรอ โกหกหน้าไม่อาย!

แม้ว่าจงหยิงเสวี่ยจะเขินอายเล็กน้อย แต่เพื่อช่วยเจียงหนานขายสินค้า เธอก็ตะโกนด้วย

ในที่สุดฉากดังกล่าวก็ปรากฏขึ้น

ความงามทั้งสองช่วยให้เจียงหนานขายสินค้าออกไปได้อย่างรวดเร็ว

เขาเพียงนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กแข็งทื่อ

เขาไม่กล้าขยับในตอนแรก... และจากนั้นเขาก็ไม่อยากไปไหน

เพราะผู้เห็นเหตุการณ์ต่างลุกฮือทันทีและรีบเขามาซื้อสินค้า!

ตราบใดที่พวกเขาสามารถมองดูความงามทั้งสองนี้ในระยะใกล้เช่นนี้ได้..

มันก็คุ้มค่า!

พี่ใหญ่รีบวิ่งเข้ามา "หลบไป! สิบหยวนสำหรับกางเกงชั้นในของคุณใช่ไหม เอามาสิบตัวเลย!"

“อะไรนะ สิบตัว เอาไปทำไมวะนั่น ใส่เองหรอ”

“สิบตัว! ตายก็ยังใส่ไม่หมดเลยมั้ง ถึงใส่เองก็ใส่ไม่หมดหรอก”

“เหลือไว้ให้เราบ้าง!”

เจียงหนาน "อย่าหยุดพี่ใหญ่คนนี้สิ ฉันจะให้ขายให้ก็ได้แต่คุณต้องซื้อน้ำแร่ของฉันด้วยนะ!"

[จากความแค้นของหวังเทีย คะแนน +285! ]

[จากความแค้นของหลิวซวน คะแนน + 666! ]

[จากความแค้นของจงหยิงเสวี่ย คะแนน +111! ]

สินค้าหมดภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที และน้ำแร่โบราณของชาวนาที่เหลืออีกเก้าขวดก็ขายหมดเช่นกัน...

เจียงหนานรู้สึกยินดีแต่ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย

เขาตะโกนมาตั้งนาน แต่กลับไม่ได้ผลอะไร

ทว่าดูสาวสวยสองคนนี้สิ

ช่างเหมาะกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขายแผงลอยริมถนน

พวกเธอดูดีจริงๆ...

เขาเก็บแผงลอยและโยนผ้าปูลงในมิติอื่น กระทั่งโยนจักรยานเข้าไปด้วย

“เอาล่ะ! ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้ฉันจะเลี้ยงเอง!”

เจียงหนานอารมณ์ดี

คราวนี้ถึงคราวของเซี่ยเหยาที่ต้องตกตะลึง เธอพูดด้วยความประหลาดใจ "คุณมีพลังอวกาศเหรอ"

แม้แต่จงหยิงเสวี่ยก็ยังตกตะลึง พลังอวกาศ?

มีผู้ใช้พลังอวกาศเพียงไม่ถึงสิบคนในโลก!

เจียงหนานยักไหล่ “ทำไมล่ะ”

“คุณเป็นผู้ปลุกพลังอวกาศ แต่คุณกลับมัวแต่มาตั้งแผงลอยแบบนี้เนี่ยนะ” เซี่ยเหยาขึ้นเสียงของเธอ

“แล้วไงล่ะ คุณรู้สึกว่าการส่งของเหมาะกับฉันมากกว่าเหรอ”

เซี่ยเหยา "..."

[จากความไม่พอใจของเซี่ยเหยา คะแนน + 666!]

“เห้อ ฉันจะไม่โกหกนะ พรสวรรค์ของฉันคือเกรด E เท่านั้นแหละ ฉันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร!”

“ระบบอวกาศนี้ช่วยอะไรฉันมากไม่ได้หรอก ฉันปล้นธนาคารไม่ได้ แต่ฉันก็ต้องกินต้องใช้!”

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเหยาไม่ฟังแต่เริ่มคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง

จงหยิงเสวี่ยสัมผัสศีรษะล้านของเขาและปลอบใจเขา “ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่ข้างๆ คุณเอง!”

ทั้งสามคนมาถึงสี่แยกตลาดกลางคืน เมื่อเจียงหนานเห็นรถเบนซ์ เขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

เซี่ยเหยารวยมาก เธอขับ G-Class ไปไหนมาไหนหลังเลิกเลยงั้นหรอ เวอร์ไปแล้ว

เจียงหนานอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารและจบหยิงเสวี่ยอยู่ที่เบาะหลัง เขาจ้องมองที่เซียเหยาที่กำลังขับรถอยู่

เซี่ยเหยารู้สึกสับสน “คุณมองอะไร ฉันอายุ 18 ปีและฉันมีใบขับขี่…”

เจียงหนานขยี้ตา "ฉันดูเหมือนจะสายตาสั้น เงินคงทำให้ตาฉันบอดไปแล้ว!"

[จากความหงุดหงิดของเซี่ยเหยา คะแนน +666!]

"..."

"คุณต้องการกินอะไร"

“ไปกินเสียบไม้กันเถอะ! ร้านข้างทางแถวนี้ของอร่อยเยอะนะ”

“เราไปที่ไหนดี เสี่ยวเสวี่ย”

“ฉันจะฟังเจียงหนาน!”

เครื่องยนต์ของรถส่งเสียงคำราม และกลุ่มคนที่สัญจรไปมาในตลาดกลางคืนต่างอิจฉา ด้วยภูมิหลังของคุณ คุณกล้าดียังไงมาตั้งแผงขายของริมถนนแบบนี้!

นี่ไม่ใช่การขโมยธุรกิจของพวกเขาเหรอ

ส่วนเจียงหนานก็ไม่รู้ว่าวิดีโอสั้น ๆ ของการขายของของเขาโดยทุบอิฐแดงที่หัวของเขาถูกส่งไปยังเว่ยป๋อโดยชาวเน็ตที่กระตือรือร้นอีกครั้ง!

ความนิยมของมันเพิ่มสูงขึ้นจนแซงหน้าคลิปที่แล้ว!

แผงขายอาหารริมถนนเซียะเหมิน

“เอวย่าง เอ็นตุ๋น...”

“อย่าใส่พริกนะ พี่สาวฉันไม่กินเผ็ด!”

จงหยิงเสวี่ยยิ้ม "คุณยังจำได้!"

เจียงหนานกล่าวว่า "ฉันมีความจำดีไง ลืมแล้วหรอ!"

เซี่ยเหยามองไปที่เจียงหนานและจงหยิงเสวี่ยและทำหน้าบูดบึ้ง

[จากความหงุดหงินเซี่ยเหยา คะแนน + 3 + 3 + 3... ]

จริงๆ ด้วย

เซี่ยเหยาต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ

เขาต้องระวัง

เจียงหนาน “พี่สาว ตอนนี้คุณเรียนอยู่ที่ไหนหรอ”

"โรงเรียนจิตวิญญาณซงเจียง เซี่ยเหยาอยู่ห้องเดียวกับฉัน! พวกเราอยู่ปีสามแล้ว..."

เจียงหนานตกตะลึง “ซงเจียงหรอ การแข่งขันที่นั่นได้ข่าวว่าโหดมากเลยนี่”

โรงเรียนมัธยมจิตวิญญาณซงเจียง เป็นโรงเรียนมัธยมแห่งเดียวในเมืองเจียงที่เต็มไปด้วยผู้ปลุกพลัง มีอุปกรณ์ครบครันและมีคณาจารย์ที่แข็งแกร่ง!

ทุกปี พวกเขาจะติดสามอันดับแรกในการแข่งขันโรงเรียนประจำจังหวัดเสมอ

เซี่ยเหยาหัวเราะเบา ๆ "การแข่งขันหรอ มันไม่มีอยู่จริงหรอก"

"พี่สาวของคุณเป็นผู้ปลุกพลังไฟระดับบรอนซ์ 9 ดาวการแข่งขันน่ะมี แต่ไม่ใช่กับเธอ และพลังอสูรระดับบรอนซ์ 7 ดาวของฉัน ไม่มีใครกล้าแข่งกับเรา"

"ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้สารเลวลู่ว ฉันคง..."

“เสี่ยวเหยา พอเถอะ!” จงหยิงเสวี่ยขมวดคิ้ว

เซี่ยเหยาปิดปากของเธออย่างไม่เต็มใจ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "เราให้เจียงหนานเข้าร่วมทีมไม่ได้เหรอ"

“เขามีพลังอวกาศเขาจะทำให้เราได้เปรียบในการควบคุมพื้นที่”

จงหยิงเสวี่ยส่ายหัว “ฉันแก้ปัญหาเองได้”

เซี่ยเหยา "คุณจะแก้ปัญหายังไง เขายังเคยแอบให้ยาคุณด้วย ถ้าฉันไม่อยู่ที่นั่นคุณจะทำยังไง"

“เสี่ยวเหยา”

เซี่ยเหยากัดฟันด้วยความเกลียดชัง แต่เธอก็ทำได้เพียงยอมแพ้และกินของเสียบไม้เท่านั้น!

เจียงหนานไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เขาพูดว่า "พี่สาวของฉันก็ดื้อแบบนี้แหละ มา มา มา กินกันเถอะ!"

“พี่เซี่ยเหยา เรามาเพิ่มกันเป็นเพื่อนกันเถอะ?”

เจียงหนานมอบรหัส QR ของเขาให้เธอดู

เซี่ยเหยาซึ่งกำลังสับสนเล็กน้อยจึงเพิ่มเพื่อนไปแบบงงงวย

ท้ายที่สุดเจียงหนานก็แอบส่งข้อความไป

“พี่สาวเซี่ยเหยา ถ้าว่างเมื่อไหร่บอกได้นะครับ”

เซี่ยเหยาหมดความหงุดหงิดจากเรื่องในหัวก่อนหน้าทันที!

ขายาวใต้โต๊ะเตะไปที่เข่าของเจียงหนานเบา ๆ

ถึงแม้เขาปากหมา แต่ก็ดูเหมือนเขาเป็นเด็กดี..

“มาพี่สาว จะได้ติดต่อกันง่าย!”

...

“ครอบครัวจงเป็นยังไงบ้าง พวกเขาโอเคมั้ย”

จงหยิงเสวี่ยยิ้ม “พ่อแม่ของของฉันไม่เลวเลย แม้ว่านายท่านจงจะเข้มงวดนิดหน่อย แต่ก็เพื่อประโยชน์ของฉัน…”

“แล้วคุณล่ะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณเป็นยังไงบ้าง”

เจียงหนานเกาหัว "ฉันเหรอ มันเป็นแบบนี้แหละ"

“ฉันย้ายออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนอายุ 16 และเช่าบ้าน ฉันเคยทำร้านเสียบไม้หน้ามหาวิทยาลัย  เคยขายบะหมี่เย็น และทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ สุดท้ายก็ตั้งแผงลอยเพื่อหาเงินนี่แหละ”

“ฉันกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งแรกของเมืองเจียง…”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทั้งสองสาวก็ทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป

เขาอายุเพียง 16 ปี ทำงานนอกเวลาเพื่อหาเลี้ยงชีพ มันช่างน่าสงสาร

แต่ความยากลำบากทั้งหมดก็ดูไม่เท่าไหร่เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาที่ยังคงสดใสอยู่..

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด