Chapter 2: รัวแบบหยุดไม่ได้
Chapter 2: รัวแบบหยุดไม่ได้
“แก.. รนหาหาที่ตายซะแล้ว” ท่าทางของหวังลินดุร้ายขึ้น
แฟนสาวของเขายังอยู่ที่นั่น เขาจะทนปล่อยให้ตัวเองดูน่าสมเพชได้อย่างไร
เมื่อได้รับการปลุกพลังประเภทความแข็งแกร่งแล้ว หวังหลินก็ได้รับระดับการบ่มเพาะถึงระดับบรอนซ์เมื่อนานมาแล้ว
เขาจะไม่สามารถรับมือกับระดับแบล็คไอรอนเช่นเจียงหนานได้อย่างไร
ดังนั้นเขาจึงอดทนต่อความเจ็บปวดและชกออกไปอีกครั้ง
"ตุ้บ!"
ทว่า.. หมัดอันแสนภาคภูมินี้ของเขาก็ถูกคว้าโดยมือของเจียงหนานซึ่งกำเอาไว้อย่างแน่นหนา และถูกบีบอย่างแรง
“อ๊ะ! เจ็บ เจ็บ เจ็บ!”
หวังลินกรีดร้อง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
เขาเริ่มสงสัยในชีวิต
ฉันเป็นผู้ปลุกพลังประเภทความแข็งแกร่ง ฉันจะถูกบดขยี้โดยคนระดับนี้ได้ยังไงกัน
เด็กคนนี้ก็เป็นผู้ปลุกพลังประเภทความแข็งแกร่งด้วยเหมือนกันงั้นหรอ
แข็งแกร่งมาก เขาไม่ใช่ผู้ปลุกพลังประเภทอวกาศเหรอกหรอ
[จากความไม่พอใจของหวังลิน คะแนน + 888!]
ข้อความแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในใจของเจียงหนาน
ดวงตาของเจียงหนานสว่างขึ้นทันที
หลังจากหลอมรวมกับระบบแล้ว เขาก็เข้าใจการทำงานพื้นฐานอย่างคร่าว ๆ
วงล้อเสี่ยงโชคถูกจะถูกสุ่มด้วยการใช้คะแนนความไม่พอใจ!
การจับรางวัลแต่ละครั้งต้องใช้คะแนน 10,000 คะแนน
การสุ่มจับรางวัลสิบครั้งติดต่อกันหมายถึงการใช้ 100,000 คะแนน
ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะได้รับคะแนนความไม่พอใจครบจำนวนนั้นได้อย่างไร
แต่เมื่อคิดทบทวนมันก็ดูง่ายมาก มันไม่ได้ยากแต่อย่างใดที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกไม่พอใจเขา!
ระบบนี้จะเรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกในทางที่ผิดหรือเปล่านะ
ในขณะนี้เจียงหนานมองไปที่หวังลินด้วยสายตาที่แปลก ๆ
ราวกับว่าเขากำลังมองดูไก่ไข่ทองคำตัวใหญ่
เจียงหนานบิดกำปั้นของหวังลินแล้วผลักเขาลงไปที่พื้น จากนั้นจึงนั่งบนตัวเขา
หมัดซ้าย
ผั้วะ!
"โอ๊ย!"
[จากความไม่พอใจของหวังลิน คะแนน + 666]
หมัดขวา
ผั๊วะ!
"โอ๊ย!"
[จากความไม่พอใจของหวังลิน คะแนน + 686]
...
หมัดของเจียงหนานเริ่มซัดกระหน่ำราวกับสายฝน ผั้วะ ผั้วะ ผั้วะ เสียงอันทารุนดังต่อเนื่องราวไม่มีวันสิ้นสุด เพียงมองดูคะแนนของความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขแล้ว!
เหมือนกับการได้กินของอร่อย ๆ ที่หยุดไม่ได้เลย
หลังแต่หลังจากต่อยได้สักพักเขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอใจเขา เขาจึงหยิบเก้าอี้ตัวเล็กขึ้นมาแล้วทุบไปที่หน้าของหวังลิน
[จากความไม่พอใจของหวังลิน คะแนน + 999! ]
ว้าว ดูเหมือนจะได้ผลกว่าการใช้หมัดด้วยแหะ
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อมุงดูเหตุการณ์ และหลายคนก็ใช้โทรศัพท์มือถือในการบันทึก
“ชายหัวโล้นคนนี้ดุร้ายเกินไป! เขายังเด็ก เขาจะไม่เดือดร้อนอะไรใช่ไหม?”
“มันไม่มากไปหน่อยเหรอ ดูคนที่ถูกเขาทุบสิ หน้าบวมไปหมดแล้ว…”
“มากเกินไปเหรอ แต่ฉันเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นถึงกับเตะแผงขายของของน้องชายคนนี้กระเด็นและดูถูกพวกเราเหล่าคนขายของเชียวนะ เธอบอกว่าเราเป็นเพียงคนขายของริมถนนเหม็นๆ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายหัวโล้นคนนี้ ใครจะกู้ศักดิ์ศรีให้เราได้อีก”
“พวกเขาสมควรโดนแล้ว เราตั้งแผงขายของริมถนนเพื่อรองรับเสียงเรียกร้องของผู้คนประเทศเชียวนะ!”
หลี่มู่เหยียนยืนอยู่กับที่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูก
หวังลินมีความแข็งแกร่งระดับบรอนซ์ 3 ดาว และเขาก็เป็นผู้ปลุกพลังประเภทความแข็งแกร่ง
เขาจะถูกโจมตีด้วยคนจากระดับแบล็คไอรอนอย่างเจียงหนานได้ยังไง
เขาคลั่งไปแล้วหรอ
โดยปกติแล้วเจียงหนานค่อนข้างจะเป็นคนไม่สู้คน...
“อย่าตีฉันนะ ถ้าตีอีกฉันจะแจ้งตำรวจ!”
[จากความไม่พอใจของหลี่มู่เหยียน คะแนน + 888]
มือของเจียงหนานหยุดชั่วคราวและมองไปที่หวังลินที่ถูกทุบจนยับเยิน
ใบหน้าบวมเป่งของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา เขาถูกทุบตีจนน้ำตาไหลเลยจริงหรอ
“..ก็ได้ แต่ว่าคุณทำลายข้าวของของฉันพังเละไปหมดแล้ว ฉันจะขายมันต่อได้ยังไงเล่า คุณต้องรับผิดชอบ!”
ศักดิ์ศรีของหวังลินพังทลายลง เขาถูกนักเรียนมัธยมปลายทำร้ายจนหมดทางสู้จริงๆ หรอ...
"ระ..ราคาเท่าไหร่" เขาถามอย่างอ่อนแรง
“อันละสิบหยวน!”
“อะไรนะ ตอนแรกมันสี่หยวนไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ปล้นเงินฉันไปเลยเล่า”
เจียงหนานขมวดคิ้ว "แล้วคุณคิดว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ"
หวังลิน "..."
[จากความไม่พอใจของหวังลิน คะแนน + 666]
มันมีทั้งหมดราวสองร้อยชิ้นและรวมเป็นเงินมากกว่าสองพันหยวน!
หวังลินนั้นไม่ได้ต้องการจะซื้อ แต่ถ้าเขาไม่ซื้อ วันนี้เขาคงออกไปไม่ได้เป็นแน่...
หลี่มู่เหยียนรีบช่วยหวังลินที่ถูกทุบตีเป็นหัวหมูอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างไม่พอใจว่า "พรุ่งนี้แกจะถูกไล่ออกจากการทดสอบรายเดือนแน่!"
"ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป อย่าคิดว่าจะได้อยู่ในชั้นเรียนอย่างสงบสุขเลย"
เจียงหนานไม่ได้ฟังสิ่งที่เธอพูดเลย เขาโบกมือ...
"ขอบคุณมากครับคุณลูกค้า โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ"
[จากความไม่พอใจของหวังลิน คะแนน + 999!]
มีคนมุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ได้เงินมาแล้วเจียงหนานจึงไม่จำเป็นต้องอยู่อีกต่อไป
เขารีบม้วนผ้าแล้วโยนลงบนเบาะหลังของจักรยาน และหนีบเก้าอี้ตัวเล็กไว้ใต้รักแร้ของเขา
เจียงหนานกำลังปั่นจักรยาน ฟีนิกซ์ 28 ของเขาอย่างอารมณ์ดีและฮัมเพลงเล็กน้อย
"จักรยานขี่ไปล้อหลุด~ ขี่ไปโซ่หลุด จักรยานหัวรวย~ ใครซื้อมาว้า~"
..
พรุ่งนี้เป็นการทดสอบรายเดือนของชั้นเรียนต่อสู้จิตวิญญาณระดับมัธยมปลายแห่งแรกของเมืองเจียง แต่เจียงหนานนั้นถูกตราหน้าว่าเป็นขยะมาก่อนแล้วเพราะความสามารถของเขา
นับตั้งแต่เขาปลุกความสามารถด้านอวกาศของเขาขึ้นมาและกลายเป็นนักสู้จิตวิญญาณหนึ่งในล้าน แต่เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้อยู่เพียงระดับแบล็คไอรอนสามดาวเพียงเท่านั้น
นักเรียนคนอื่นๆ ในชั้นเรียนต่างอยู่ในจุดสูงสุดของระดับแบล็คไอรอน และบางคนถึงกับก้าวไปสู่ระดับบรอนซ์แล้ว
ถ้าเขาไม่ทะลุไปถึงระดับแบล็คไอรอน 5 ดาวในการทดสอบรายเดือนในครั้งนี้ เขาจะถูกเตะกลับไปสู่ชั้นเรียนปกติ
เนื่องจากโรงเรียนไม่มีการแจกจ่ายลูกปัดวิญญาณเพื่อฝึกฝนอีกต่อไป ความแข็งแกร่งของเขาจึงหยุดอยู่เพียงเท่านี้...
เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ประตูซากปรักหักพังวิญญาณหลายแห่งปรากฏขึ้นทั่วโลก และพลังงานวิญญาณที่พุ่งออกมาจากประตูเหล่านั้นทำให้โลกเข้าสู่ยุคของการฟื้นฟูพลังงานทางจิตวิญญาณ
ในเวลาเดียวกัน สัตว์วิญญาณจำนวนมากต่างก็เข้าจู่โจมสังคมมนุษย์
ส่วนเหล่ามนุษย์ก็สามารถปลุกความสามารถของตนได้เนื่องจากการฟื้นตัวของพลังงานทางจิตวิญญาณ!
หลังจากประสบความวุ่นวายในช่วงแรกและจ่ายด้วยราคาอันแสนสาหัส พวกเราก็สามารถแลกมันมากับยุคที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรืองในปัจจุบันนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ปลุกพลังนั้น ความสามารถของพวกเขาส่งผลกระทบต่อสังคมมนุษย์เป็นอย่างมาก ดังนั้นนโยบายและกฏทุกประเภทที่มุ่งเป้าไปที่นักรบจิตวิญญาณหรือเหล่าผู้ปลุกพลังจึงค่อย ๆ สมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อย ๆ
มีการจัดตั้งวิทยาลัยนักสู้จิตวิญญาณในทุกมณฑลและเมืองสำคัญ ๆ ในประเทศ และการแบ่งชั้นเรียนการต่อสู้วิญญาณในโรงเรียนก็เป็นหนึ่งในนโยบายเหล่านี้
เจียงหนานโชคดีพอที่จะกลายเป็นผู้ปลุกพลัง ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นความสามารถประเภทอวกาศที่หายากที่สุด
อย่างไรก็ตาม มันยังทำให้เขามีพรสวรรค์ที่ไร้ค่าที่สุดอีกด้วย
นั่นคือเหตุผลที่เขาเริ่มตั้งแผงลอยริมถนน
ในตอนแรก เจียงหนานคิดว่าเขาจะถูกไล่ออก เป็นการคงเป็นการดีที่ได้เป็นคนธรรมดา
แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาในการเลี้ยงตัวเองโดยใช้มือและเท้าของเขาเอง
อย่างไรก็ตาม "ระบบแผงลอยที่แข็งแกร่งที่สุด" ที่เขาได้รับโดยบังเอิญทำให้จิตใจของเจียงหนานเริ่มตื่นตัวอีกครั้ง
“ฉันหวังว่าผลไม้ชำระวิญญาณอะไรนี่จะมีประโยชน์นะ”
ขณะที่เจียงหนานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกเย็นสบายที่หัวของเขา...
..เขาลืมไปแล้วว่าเขาหัวล้าน
ยาพลังอะไรนั่นมันเหมือนเป็นกับดัก
“ระบบ อะไรคือการบอกแค่ข้อดีเล่า ทำไม่ไม่บอกผลข้างเคียงด้วยห้ะ ปกติมันต้องแนะนำผลข้างเคียงให้ครบด้วยไม่ใช่เหรอ”
[โปรดอย่าสนใจรายละเอียดเหล่านี้ ]
“แล้วผลไม้ชำระวิญญาณล่ะ” เจียงหนานถาม
ตามที่อ่านแล้ว ผลไม้ชำระวิญญาณจะไม่มีผลข้างเคียงใช่ไหม..
เห้อทำไมฉันถึงต้องคิดมากขนาดนี้กันนะ กลับบ้านแล้วลองให้จบๆ ดีกว่า!
หลังจากปั่นมานานกว่าครึ่งชั่วโมง เขาก็มาถึงซอยเล็กๆ แห่งหนึ่งในเขตชานเมืองของเมืองเจียง
มีแผงขายบาร์บีคิวอยู่ที่ทางเข้าซอย มันเป็นธุรกิจกำลังเฟื่องฟูและมีลูกค้าจำนวนมาก เมื่อเห็นผู้คนกำลังเอร็ดอร่อยท้องของเจียงหนานก็คำรามออกมา
คุณป้าที่ถือจานทักทาย "เสี่ยวหนาน เพิ่งปิดร้านมาหรอ หิวไหม มาเถอะ ป้าโจวจะทำบะหมี่ให้กินนะ!"
เจียหนานยิ้มและพูดว่า "ไม่จำเป็นป้าโจว ฉันกินข้าวข้างนอกมาแล้ว เดี๋ยวฉันจะค่าเช่าให้เลยนะ ขอโทษที่ค้างมาหลายวันนะครับ!"
ป้าโจวรับค่าเช่า “อืม มันไม่ง่ายเลยที่จะอยู่คนเดียว ต้องตั้งแผงขายของริมถนนระหว่างเรียนด้วย…”
“ว่าแต่ว่านะ”
“ครับ??”
“ทำไมถึงโกนหัวล่ะ เครียดหรือประชดชีวิตอะไรหรือเปล่า”
เจียงหนาน "..."
"เอ่อ.. ผมว่าหน้าร้อนนี้มันร้อนมาก ๆ เลยน่ะสิครับฮ่าฮ่า..."
“อ้อ อย่างนั้นหรอ..”
"..ฉันล่ะตามความคิดเด็กสมัยนี้ไม่ทันเลย ฮุฮุฮุ!”
“ฮ่า ฮ่า..”
หลังจากพูดคุยกันด้วยความสุภาพอีกเล็กน้อย เจียงหนานก็รีบกลับบ้านของ เขาต้องการดูว่าผลชำระวิญญาณที่เขาได้มานั้นจะมีประโยชน์หรือไม่!
Facebook Page : sigmundtranslate.fb