ตอนที่แล้วบทที่ 43 : หมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬ  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45: ดุจอสูรและปีศาจ

บทที่ 44: สังหารหมู่โจรและยึดทรัพย์


บทที่ 44: สังหารหมู่โจรและยึดทรัพย์

ผู้ที่พังประตูเข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลู่หยุน, เสี่ยวเฉินและหัวหน้าหวัง

“ห้ะ?” เมื่อเห็นทั้งสามคน หัวใจของหัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความสงสัย มือหนาและล่ำสันของเขาเอื้อมไปจับกระบี่ยาวที่อยู่ข้างๆ โดยทันที

หัวหน้าหมู่บ้านไม่รู้จักลู่หยุนและเสี่ยวเฉิน แต่เขาก็คุ้นเคยกับหัวหน้าหวังเป็นอย่างดี พวกเขาเคยเผชิญหน้ากันอยู่หลายครั้งในอดีต

อย่างไรก็ตาม หลังจากเห็นว่าพวกเขามีกันแค่สามคนเท่านั้นและไม่มีใครตามมาอีก หัวหน้าหมู่บ้านก็ดูโล่งใจมากขึ้น

สำหรับเขาแล้ว ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหวังก็ยังด้อยกว่าเขาอยู่เล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น นี่คืออาณาเขตของเขา ไม่ใช่เมืองที่หัวหน้าหวังจะมีลูกน้องมาคอยช่วยเหลือเขา ด้วยเหตุนี้เอง หัวหน้าหมู่บ้านจึงไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรหัวหน้าหวังเลย

สำหรับลู่หยุนและเสี่ยวเฉิน เขาก็เพียงมองว่าพวกเขาเป็นเด็กน้อยที่ยังไม่โตเต็มที่

“หัวหน้าหวัง ไม่เจอกันนานเลยนะ ทำไมจู่ๆ วันนี้เจ้าถึงมาเยี่ยมข้าที่หมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬได้ล่ะ?” หัวหน้าหมู่บ้านมองไปที่หัวหน้าหวัง ดวงตาของเขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความโกรธ น้ำเสียงของเขาไม่ได้เป็นมิตร แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ได้โจมตีโดยทันที

พูดตามตรง การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหัวหน้าหวังก็ทำให้เขาไม่ทันระวัง

นอกจากนี้ หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังไม่รู้ว่าหัวหน้าหวังสามารถแทรกซึมเข้ามาในหมู่บ้านโดยไม่ถูกตรวจพบได้อย่างไร แม้ว่าการป้องกันของหมู่บ้านจะหละหลวม แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับทหารยามโดยไม่ส่งสัญญาณเตือนใดๆ ได้

นอกจากนี้ เขาก็ยังไม่รู้ว่าคนที่มากับหัวหน้าหวังอีกสองคนนั้นเป็นใคร และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาไม่ดำเนินการโดยทันที

“นั่นคือหัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬ ซ่งซิง เขาอยู่ในขอบเขตเส้นลมปราณขั้นปลายมาเป็นเวลานานแล้วและมีความแข็งแกร่งที่ดุร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ คนส่วนใหญ่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!” หัวหน้าหวังกระซิบกับลู่หยุนและเสี่ยวเฉินโดยไม่สนใจสายตาที่มุ่งร้ายของพวกโจร

“นี่คือตัวหัวหน้าของพวกมันสินะ?”

ในขณะที่พูด ลู่หยุนก็เดินเข้าไปหาหัวหน้าหมู่บ้านทีละก้าว

ซ่งซิงไม่ได้สนใจลู่หยุนมากนัก อีกฝ่ายดูจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มกะโหลกกะลาเท่านั้น

“เจ้ารู้จักมันไหม?” ซ่งซิงมองไปที่ที่ปรึกษาของเขาเองซึ่งก็ดูงุนงงไม่แพ้กัน

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงกล้ามารุกรานหัวหน้าหมู่บ้านของเรา!” โจรคนหนึ่งยืนขึ้นและตะโกนเสียงดัง

“ฮึ่ม!”

ลู่หยุนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา สายตาเย็นชาของเขาจ้องมองไปที่โจร ทันใดนั้น เจตนาฆ่าอันท่วมท้นก็ปรากฎขึ้น

โจรไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคนทั่วไปมากนัก และเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถต้านทานเจตนาฆ่าเช่นนั้นได้ สีหน้าของเขาซีดจางลงในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ และเขาก็ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างแรง

ฉากนี้ทำให้ทุกคนในห้องโถงถึงกับพูดไม่ออก นั่นรวมถึงซ่งซิงที่ลืมไปชั่วขณะว่าลู่หยุนกำลังเดินเข้ามาหาเขาอยู่

ฉวิ้ง!

กระบี่ยาวบนหลังของลู่หยุนถูกชักออกมาและฟันเข้าที่ศีรษะของซ่งซิงอย่างดุเดือด

ในที่สุดเมื่อซ่งซิงได้สติกลับคืนมา เขาก็เห็นแสงกระบี่อันเฉียบคมเฉือนเข้ามาหาเขาแล้ว

“ไร้สาระ!”

ซ่งซิงที่ตื่นตระหนกละทิ้งการดูถูกก่อนหน้านี้ลงไปโดยทันที เขาคว้ากระบี่ข้างๆ ตัวและสกัดกั้นการโจมตีที่พุ่งเข้ามา

ลู่หยุนจับกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้าง และถ่ายทอดความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาไปที่ด้ามกระบี่ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้เปิดใช้งานออร่าหยางของเขาจนถึงขีดสุดและใส่พวกมันลงไปเคลือบกระบี่ของเขา

ซ่งซิงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ซึ่งมากด้วยประสบการณ์การต่อสู้ เขาได้ผ่านสถานการณ์เสี่ยงตายมาแล้วมากมาย ดังนั้นแล้วแม้ว่าการโจมตีของลู่หยุนจะทำให้เขาตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาปลดปล่อยพลังปราณแท้ของเขาออกมาโดยทันที

ปัง!

ในขณะที่กระบี่ปะทะกัน เสียงโลหะปะทะกันที่น่าตกใจก็ดังก้องขึ้นในขณะที่คลื่นพลังปราณแท้อันทรงพลังกระจายตัวออกไป มันทำให้เสื้อผ้าของชายทั้งสองกระพืออย่างรุนแรง

เมื่อพวกเขาทั้งสองได้ปะทะกันอย่างจริงจัง พลังที่แท้จริงของซ่งซิงก็ถูกเปิดเผยออกมา เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตเส้นลมปราณ!

แม้ว่าเขาจะสามารถต้านทานการโจมตีของลู่หยุนได้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องล่าถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ทำให้เก้าอี้หนังเสือที่อยู่ข้างหลังเขาแตกออกเป็นชิ้นๆ

เหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างไม่คาดคิดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปชั่วขณะ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปก็ยิ่งน่าประหลาดใจมากขึ้นไปอีก

ไม่สิ มันจะถูกต้องกว่าถ้าบอกว่าบางคนไม่มีโอกาสแปลกใจด้วยซ้ำ

ในเวลาเดียวกันกับที่ลู่หยุนเคลื่อนไหว เสี่ยวเฉินก็ได้เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน

เขาชักดาบออกมาอย่างรวดเร็วและแสงดาบก็กวาดไปในอากาศราวกับริ้วแสงสีขาว มันพุ่งทะลุอากาศและตัดผ่าเหล่าโจรที่กำลังตกตะลึงตัวขาดเป็นสองท่อน

เมื่อแสงดาบหายไปและความมืดกลับคืนมา โจรกว่าสิบคนก็ได้ล้มลงไปนอนกองกับพื้น

“พวกเจ้า!” หัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬตบฝุ่นบนร่างกายของเขาและกัดฟันแน่น ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่พวกเขาทั้งคู่อย่างน่ากลัว

ลู่หยุนมองลงไปที่กระบี่ยาวในมือของเขาซึ่งตอนนี้มีรอยแตกที่มองเห็นได้ชัดปรากฎขึ้น เขาส่ายหัวเล็กน้อย

กระบี่ยาวนี้คือสิ่งที่เขาได้รับมาจากสถาบันศึกษาวรยุทธ์ และแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาวุธคุณภาพสูง แต่ก็ยังมีมูลค่าอย่างน้อยๆ หลายพันตำลึง

แต่กระนั้น ในตอนนี้มันก็เกือบจะถูกทำลายลงหลังจากการปะทะกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งนี่ก็ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างหดหู่ใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจ้องมองไปที่กระบี่ของหัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬ ประกายแสงอันเย็นชาบนใบกระบี่ก็ได้ดึงดูดความสนใจของเขา

ช่างเป็นกระบี่ที่ดีจริงๆ!

เก้าอี้หนังเสือ เสื้อคลุมหนังเสือและตอนนี้ก็มากระบี่หัวเสือ พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นของมีคุณภาพ!

ความปรารถนาที่จะฆ่าและปล้นสะดมอีกฝ่ายผุดขึ้นมาในใจของเขาโดยทันที

“กระบี่ของเจ้า! ข้าขอเถอะ!”

ลู่หยุนคำรามออกมาในขณะที่กระบี่ในมือของเขาถูกปกคลุมไปด้วยออร่าหยาง กระบี่เล่มนี้เปล่งแสงแวววาวออกมาในขณะที่เขาพุ่งเข้าใส่หัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬที่เพิ่งสติ

คราวนี้ เขาเปิดใช้งานเส้นลมปราณทั้งแปดของเขาอย่างเต็มที่ และออร่าหยางในจุดตันเถียนของเขาก็ระเบิดพลังออกมา

“ฮึ่ม เด็กเหลือขออย่างเจ้ารึคิดจะแย่งกระบี่ข้า!”

หัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬหัวเราะเยาะ แขนของเขาปูดโปนไปด้วยกล้ามเนื้อ พลังปราณในร่างกายของเขาระเบิดออกมาจนถึงขีดสุด

เคล้ง!

กระบี่ทั้งสองปะทะกัน และทันใดนั้นอาวุธของลู่หยุนก็แตกออกเป็นสองส่วน มันเหลือเพียงกระบี่ครึ่งล่างในมือของเขาเท่านั้น

ถึงอย่างนั้น ออร่าหยางอันทรงพลังก็ยังส่งให้ซ่งซิง หัวหน้าหมู่บ้านพยัคฆ์ทมิฬกระเด็นกลับมาด้วย เขาปะทะเข้ากับโจรที่กำลังหลบหนีอยู่และทำให้พวกเขาล้มลงไปนอนกองกับพื้น

การหักของกระบี่ทำลู่หยุนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

เขายังคงจับด้ามที่หักอยู่และเหวี่ยงกระบี่ครึ่งล่างลงใส่ศัตรูของเขา

แม้ว่าซ่งซิงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในและไอออกมาเป็นเลือด แต่ร่างกายของเขาก็ยังขยับเล็กน้อยโดยสัญชาตญาณในขณะที่เขายกกระบี่ขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีที่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง

ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังช้าเกินไป กระบี่ครึ่งเล่มได้ฟาดลงไปที่เอวของเขาและส่งผลให้เลือดกระเซ็นไปทุกทิศทุกทาง

“เอวข้า!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด