บทที่ 25 : ธนูเหล็ก (1)
บทที่ 25 : ธนูเหล็ก (1)
หนึ่งเดือนต่อมา
ลมหนาวจากทางเหนือทวีความรุนแรงมากขึ้น เกล็ดหิมะลอยไปมาระหว่างสวรรค์และปฐพี และด้านในของภูเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของหิมะขาว
ในขณะนี้ ร่างหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาจากระยะไกล เขาเหยียบลงบนชั้นหิมะหนา แต่น่าประหลาดใจที่เขาไม่ได้จมลงไป มันมีเพียงรอยเท้าบางๆ เท่านั้นที่เหลือทิ้งไว้อยู่บนพื้นผิวหิมะ
“กำลังภายในนี้มีความพิเศษมากจริงๆ ฉันเพิ่งฝึกมันมาได้แค่เดือนเดียว แต่ความสามารถทางกายภาพของฉันก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลแล้ว”
ลู่หยวนวิ่งและมองย้อนกลับไปที่รอยเท้าของเขา เขารู้สึกพึงพอใจมาก “บางที เมื่อฉันเปิดเส้นลมปราณครบสิบสองเส้นเมื่อไหร่ การเดินบนหิมะโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ก็อาจจะเป็นไปได้”
แม้ว่าฝ่ามือเมฆาจะไม่ได้เกี่ยวข้องการเทคนิคการเคลื่อนไหวต่างๆ แต่ก็ต้องบอกว่ากำลังภายในนั้นเป็นเหมือนยาครอบจักรวาล
เมื่อใดก็ตามที่กำลังภายในของเราพัฒนาขึ้นจนไปถึงจุดหนึ่ง ความสามารถทางกายภาพของเราก็จะพัฒนาขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นในตอนนี้ ลู่หยวนเทกำลังภายในของเขาลงไปที่เท้าของเขา และนั่นก็ทำให้ความแข็งแกร่งของเท้าของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ไม่เพียงแต่ความเร็วในการวิ่งของเขาจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่เขายังสามารถควบคุมแรงที่กดลงบนพื้นได้ดีขึ้นอีกด้วย
ในขณะนี้ เมื่อเหยียบลงบนพื้นหิมะ น้ำหนักของร่างกายเขาก็ได้ลดลงเหลือเพียงประมาณสิบถึงสิบห้ากิโลกรัมเท่านั้น
“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าจอมยุทธ์สามารถเดินบนกำแพงและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ยังไง ด้วยกำลังภายในที่เป็นยาครอบจักรวาล แม้ว่านิวตันจะกระโดดออกมาจากโลงศพ แต่เขาก็ต้องถูกหาว่าโกหก”
ลู่หยวนคิดในใจ แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่สิ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกนี้มีนิวตันอยู่ไหม และในโลกที่ต่างกัน รากฐานที่ต่างกัน แรงโน้มถ่วงจะยังมีผลกับจอมยุทธ์มากแค่ไหน?”
เนื่องจากเขาได้ฝึกฝนกำลังภายในแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้เห็นถึงความสามารถของกำลังภายในแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงไม่อาจจะจินตนาการได้ว่ามันจะยังสามารถใช้ทำอะไรได้อีก
หากมีวรยุทธ์และกำลังภายในอยู่บนโลกนี้ งั้นแล้วมันจะเป็นไปได้ไหมที่โลกนี้จะมีกฎเต๋าและวิชาเซียนอยู่ด้วย?
แม้ว่าวรยุทธ์จะยอดเยี่ยม แต่ความรู้สึกของการได้เป็นเซียนผู้อยู่เหนือสวรรค์และปฐพีก็น่าดึงดูดยิ่งกว่า
อย่างไรก็ตาม ความคาดฝันเหล่านี้ก็ถูกระงับไว้ในใจของลู่หยวนอย่างรวดเร็ว
เพราะในขณะนี้ เขายังไม่เชี่ยวชาญวรยุทธ์เลยด้วยซ้ำ แบบนั้นแล้วกับวิชาเซียนชั้นสูงแบบนั้นจะไปเหลืออะไร?
“เอาเถอะ ตอนนี้ฉันมาถึงแล้ว”
ในขณะที่กำลังคิด ลู่หยวนก็ได้วิ่งมาจนถึงหน้ากำแพงที่มีน้ำแข็งและหิมะปกคลุมอยู่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข “หลังจากไล่ตามแกมาสามวัน ในที่สุดฉันก็พบแกแล้ว!”
จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกและกดลงบนกำแพงที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะเบาๆ
ด้วยแรงผลักเพียงเล็กน้อย กำแพงหิมะขนาดใหญ่ก็พังทลายลง มันเผยให้เห็นทางเข้าถ้ำที่อยู่ตรงหน้าเขา
หวิว~
ทันทีที่ทางเข้าถ้ำถูกเปิดออก เสียงลมหวีดหวิวก็ดังขึ้นตามโดยทันที
“ฉันต้องรีบลงมือก่อนที่มันจะรู้ตัว”
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นในขณะที่เขาถูกลมพัด เขาเหลือบมองเข้าไปในถ้ำแล้วรีบวิ่งเข้าไป
หลังจากอยู่บนภูเขามานานกว่าหนึ่งเดือน เขาก็ได้พัฒนาเทคนิคการตรวจหาถ้ำสัตว์ขึ้นมา
การเคลื่อนไหวของเขาว่องไวและรวดเร็ว และภายในไม่กี่ลมหายใจ เขาก็วิ่งเข้าไปจนถึงส่วนลึกของถ้ำ
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ลู่หยวนก็เห็นเสือดาวกำลังนอนหมอบอยู่บนกองซากสัตว์ตรงกลางถ้ำ
ทันใดนั้นลมพายุก็ถูกพัดเข้ามาในถ้ำ มันทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว เสือดาวที่หลับอยู่เองก็ถูกกระตุ้น เปลือกตาของมันสั่น และร่างกายของมันก็บิดเหยียดราวกับว่ามันกำลังจะตื่น
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ลู่หยวนก็ไม่ลังเลเลย เขาง้างสายรั้งธนูและเล็งไปที่เปลือกตาของเสือดาว
พร้อมกับเสียง 'ฟิ้ว' ลูกธนูอันแหลมคมก็พุ่งทะลุเจาะเปลือกตาและฝังตัวลงในเบ้าตาของมันโดยทันที
“โครกก!!!”
ความเจ็บปวดที่พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้เสือดาวลืมตาตื่นขึ้นโดยทันที
มันคำรามออกมาและกระโจนขึ้นจากพื้น ดวงตาอีกข้างที่ยังเปิดอยู่มองไปยังร่างที่พร่ามัวตรงหน้ามัน จากนั้นมันก็รีบวิ่งไปข้างหน้าทันทีโดยไม่ลังเล
ด้วยระยะห่างที่สั้นกว่าสิบเมตร เสือดาวจึงใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวก่อนที่มันจะพุ่งมาถึงตรงหน้าของชายหนุ่ม
ในความคิดของมัน ภายในเวลาไม่ถึงวินาที มันก็จะสามารถฆ่าชายหนุ่มตรงหน้าได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตา มันก็ตระหนักได้ว่ามันคิดผิด
เมื่อเสือดาวสะดุ้งตื่น ลู่หยวนก็ได้เตรียมลูกธนูลูกที่สองเอาไว้รอแล้ว
และในขณะที่มันกำลังจะพุ่งเข้าหาเขา เขาก็ได้ก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน มือของเขาก็ปล่อยสายรั้งธนูไปแล้วลูกธนูลูกที่สองก็พุ่งออกมา
แน่นอนว่าทักษะยิงธนูขั้นสมบูรณ์นั้นแม่นยำและทรงพลังมากในระยะใกล้เช่นนี้
ด้วยเหตุนี้เอง การกระโดดเข้ามาใกล้ของเสือดาวจึงเป็นเหมือนกับการจงใจวิ่งเข้ามารับลูกธนู และแล้วดวงตาอีกข้างที่ยังเหลืออยู่ก็ถูกลูกธนูปักลงไป
ตุ้บ!
ในเวลาเพียงสามลมหายใจ จากเสือดาวที่กำลังนอนหลับจำศีลอยู่ มันก็ได้กลับกลายเป็นเสือดาวที่กำลังนอนกองอยู่กับพื้นเพราะอาการบาดเจ็บสาหัสแทน
ลูกธนูทั้งสองลูกที่ปักอยู่บนหัวของมันยังคงสั่นไปมาเล็กน้อย
“โครกก…”
เสียงคำรามอันเจ็บปวดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน มันก็ยังค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน
ไม่นาน เสียงครวญครางก็เงียบดับลง...
หลังจากยิงลูกธนูออกไปแล้ว ลู่หยวนก็ยืนเฝ้าดูฉากนี้อย่างเย็นชาและคิดในใจว่า ' ธนูไม้ของฉันยังอ่อนแอเกินไป มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับธนูของทหารในกองทัพ’