ตอนที่แล้วบทที่ 23: ซื้อยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 : ธนูเหล็ก (1)

บทที่ 24: กำเนิดปราณภายใน


บทที่ 24: กำเนิดปราณภายใน

โจวเจ๋อเป็นหมอที่ดีและเป็นคนดีด้วย

เมื่อมองดูท่าทางที่ยุ่งวุ่นวายของเขา ลู่หยวนก็คิดอย่างเงียบๆ จิตใจของเขาล่องลอยไป

มณฑลต้าหยูเป็นสถานที่เล็กๆ มันมีร้ายยาเพียงแห่งเดียวในเมือง ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานที่เดียวที่เขาจะสามารถหาซื้อสมุนไพรได้

โชคดีที่หมอโจวเป็นแพทย์ และด้วยประสบการณ์ที่สืบทอดต่อกันมาของเขา เขาจึงมีรายได้มากมายจากการรักษาผู้ป่วยทั่วทั้งมณฑล และไม่ต้องกังวลเรื่องการหาเลี้ยงชีพ

ด้วยเหตุนี้เอง สำหรับการฝึกฝนวรยุทธ์ การฆ่าและการต่อสู้ งานที่ท้าทายและอันตรายเช่นนี้ เขาจึงไม่ได้สนใจเลย

หลังจากได้โต้ตอบกันหลายครั้ง ลู่หยวนก็เชื่อใจหมอโจวมากและไม่กังวลว่าเขาสงสัยในการฝึกฝนวรยุทธ์ของเขา

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขาซื้อสมุนไพรไปเพื่อฝึกวรยุทธ์

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เขามอบให้อีกฝ่ายก็คือใบสั่งยา มันไม่ใช่ตำราวรยุทธ์และสิ่งที่เดาได้จากสมุนไพรอย่างมากที่สุดก็คือเขากำลังฝึกวรยุทธ์เท่านั้น

“ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะสนใจตำราวรยุทธ์ที่นายพรานฝึก? พวกเขาคงจะแค่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินมัน” ลู่หยวนคิด

สำหรับนายพรานเช่นเขาที่พยายามเปลี่ยนชะตากรรมของเขาด้วยการฝึกวรยุทธ์ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกตาสำหรับใครเลย

บางทีสิ่งเดียวที่แปลกก็คือการที่นายพรานคนนี้ยังสามารถหาเงินมาซื้อสมุนไพรได้ก็เท่านั้น

ในขณะที่ลู่หยวนกำลังคิดอย่างไร้จุดหมาย หมอโจวก็เตรียมยาไว้แล้ว เขาวางสมุนไพรหลายชิ้นไว้บนเคาน์เตอร์แล้วสะบัดลูกคิด “ตามกฎเก่าๆ ของพวกนี้มีราคาห้าตำลึง”

“แพงมาก”

เมื่อได้ยินราคานี้ ปากของลู่หยุนก็กระตุก ขณะที่ล้วงเงินเข้าไปในกระเป๋า เขาก็พูดว่า “ท่านลดให้ข้าอีกหน่อยไม่ได้หรอ?”

หมอโจวมองเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ร้านของฉันก็เล็กแค่นี้ เราไม่มีส่วนลดให้หรอก หากเจ้าคิดว่ามันแพง ทำไมเจ้าไม่เลิกฝึกวรยุทธ์แทนล่ะ? ด้วยวิธีนี้ เจ้าก็จะไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายมากนักและไม่ต้องบ่นเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย”

หมอโจวยังคงกังวลแทนลู่หยวนที่อยากจะฝึกวรยุทธ์ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงให้คำแนะนำทางอ้อมผ่านการหยอกล้อ

ลู่หยวนนิ่งเงียบไปโดยทันที

เขาหยิบเงินออกมาอย่างจำใจ เงินสองตำลึงที่ได้มาใหม่ยังไม่ทันได้เติมเต็มถุงเงินของเขาเลย แต่ตอนนี้พวกมันก็ได้หายไปแล้ว

“การฝึกฝนวรยุทธ์ต้องใช้เงินมากจริงๆ!”

ลู่หยวนวางสมุนไพรลงในตะกร้าและเดินออกจากร้านขายยา เขามองไปที่แสงแดดอันสดใสด้านนอก ดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าดูเหมือนกับเหรียญทองแดงขนาดใหญ่ในสายตาเขา

เงินออมของเขาลดลงอย่างต่อเนื่อง และเงินออมของเขาก็จวนจะหมดลงแล้ว

เขาเริ่มยากจนลงเรื่อยๆ และเขาก็เกือบจะมองเห็นวันที่เขาจะไม่มีเงินเหลือและต้องนอนข้างถนนแล้ว

“ไม่ ถึงฉันเงินหมดและต้องขายบ้าน แต่ฉันก็ยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตบนภูเขาได้ ฉันจะไม่จบลงที่ข้างถนน!” ลู่หยวนรีบส่ายหัวแล้วเดินไปที่ประตูเมือง

ครั้งนี้เขาไม่ได้ไปทานอาหารในร้านอาหารเพื่อประหยัดเงินมากขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงวันที่เขาจะล้มละลาย

แล้วเขาจะทำยังไงถ้าเขาหิว?

เขาได้เตรียมข้าวปั้นเนื้อรมควันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

มันเป็นระยะทางที่ยาวไกลระหว่างเมืองมณฑลกับเมืองหยางเหมย ระยะทางรวมนั้นไกลนับ 30 กิโลได้ ดังนั้นลู่หยวนจึงเพิ่งกลับมาถึงบ้านตอนใกล้ค่ำเท่านั้น

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขาก็วางสมุนไพรไว้ในห้องนอน ในช่องที่ซ่อนอยู่ใต้เตียง พร้อมด้วยเงินที่ติดตัวอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้ำค่ามาก และเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้มันถูกขโมยไปได้

หลังจากล็อคกล่องสีทองใบเล็กแล้ว ลู่หยวนก็ไปที่ห้องครัว เขาปรุงอาหารตามปกติ

และโดยใช้ประโยชน์จากเวลาทำอาหาร เขาไปที่ลานบ้านและฝึกวรยุทธ์เพื่อเรียกเหงื่อ

หลังจากอาบน้ำสองสามถังและทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ลู่หยวนก็กลับไปที่ห้องนอนของเขาและนั่งขัดสมาธิบนเตียงของเขา เขาไม่ได้นอนลงแต่จมดิ่งกับความคิดและเริ่มใคร่ครวญ

“สิ่งที่เรียกว่ากำลังภายในตามในหนังสือบอกแล้วคือการหลอมรวมของจิตวิญญาณและแก่นแท้โลหิตภายในร่างกาย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก มันมีจริงและจับต้องไม่ได้ มีแก่นแท้แต่ไม่มีแก่นสาร”

“ดังนั้นแล้วบางคนจึงเรียกมันว่า 'ปราณ'”

เมื่อวิญญาณและเลือดหลอมรวมกัน พวกมันจะก่อตัวเป็น 'ปราณ'; แก่นแท้ ปราณและวิญญาณเป็นสมบัติสามประการในร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นแล้วผู้ที่ฝึกกำลังภายในเมื่อกำลังภายในเพิ่มขึ้น ร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเขาจึงจะอุดมสมบูรณ์ขึ้นด้วย ขณะเดียวกัน เมื่อกำลังภายในลดลง ร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเขาก็จะอ่อนแอลงด้วย

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในโลกยุทธ์ บางคนจึงป่วยและอ่อนแอหลังจากสูญเสียกำลังภายในไป

ลู่หยวนคุ้นเคยกับคำว่าปราณดีอยู่แล้ว และขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน ทุกคำและวลีก็ดูจะแจ่มแจ้งชัดเจนอยู่ในใจของเขา

“ดังนั้นแล้วกุญแจสำคัญในการฝึกพลังปราณภายในคือการหลอมรวมจิตวิญญาณเข้ากับร่างกายและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งจนกลายเป็น 'ปราณ' ในที่สุด”

“และวิธีการนี้ก็คือเทคนิคการฝึกฝนกำลังภายใน”

ลู่หยวนกำลังนึกถึงทักษะวิญญาณซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเคยเห็นมานับพันครั้งแล้ว

“ทักษะวิญญาณของฝ่ามือเมฆาเกิดจากการสังเกตความหมายของเมฆและน้ำแล้วขยายความมันจากจุดนั้น”

“ดังนั้นเมื่อใช้เทคนิคนี้เพื่อสัมผัสถึงแก่นแท้ภายในร่างกาย สิ่งสำคัญคือต้องเคลื่อนไหวให้เหมือนกับเมฆที่ล่องลอยและน้ำที่ไหลริน”

ลองนึกภาพจิตวิญญาณเป็นเหมือนเมฆที่ฟุ้งกระจายไปทั่วร่างกาย

ลองนึกภาพแก่นแท้โลหิตเป็นเหมือนแม่น้ำที่ไหลผ่านเส้นลมปราณต่างๆ

เมื่อเมฆและแม่น้ำหลอมรวมกัน พลังปราณภายในก็จะถูกปลดปล่อยออกมา”

ท่ามกลางความว่างเปล่า ลู่หยวนทำจิตใจให้แจ่มแจ้งและเริ่มจินตนาการถึงการก่อกำเนิดปราณ

จิตวิญญาณที่เป็นดั่งเมฆรวมตัวกันและลอยไปตามลม

ในขณะเดียวกัน ภายในร่างกาย แก่นแท้โลหิตที่ได้รับการบำรุงมานานกว่าหนึ่งปีตอนนี้ดูเหมือนจะไหลเหมือนลำธารในหลอดเลือดภายใต้การนำทางของความคิดของเขา

เสียงเลือดไหลเวียน ความรู้สึกของการไหล และแม้กระทั่งวิญญาณที่ลอยอยู่ในตัวเขา ทั้งหมดนี้กำลังค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น!

ทิวทัศน์ที่ไม่อาจรับรู้ได้มาก่อนปรากฏขึ้นในใจของเขา!

ราวกับแว่นขยายที่กำลังฉายสถานที่ที่เมฆและแม่น้ำเคลื่อนตัดกัน

เลือดยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง และเมฆวิญญาณก็ลอยอยู่เหนือมัน พวกมันเคลื่อนตัวไปตามเส้นลมปราณพร้อมๆ กัน

เมฆบางส่วนที่ขับเคลื่อนไปพร้อมกับชีพจรค่อยๆ หลุดออกจากความว่างเปล่าและไหลรวมเข้าสู่หลอดเลือดก่อนจะผสานเข้ากับเลือด

บู้มมม!!

การระเบิดที่ดูเหมือนจะมีอยู่เพียงในจิตวิญญาณเท่านั้นปะทุขึ้น พลังที่ดูเหมือนลวงตาแต่จับต้องได้ปรากฏขึ้นในเส้นลมปราณของลู่หยวน

ปราณภายในได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!!

หลังจากศึกษาทักษะวิญญาณมาหนึ่งปี ในที่สุดเขาก็สร้างปราณภายในขึ้นมาได้สำเร็จ!

...

สามวันต่อมา

บนถนนของเมืองหยางเหมย

พร้อมกับตะกร้าบนหลังและมีดกับธนูในมือ ลู่หยวนก็พร้อมที่จะไปล่าสัตว์บนภูเขาแล้ว

แม้ว่าตอนนี้หิมะจะยังตกและสัตว์ส่วนใหญ่บนภูเขาก็ยังไม่ตื่นจากจำศีล แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหากเขาไปหาพวกมันที่ถ้ำ เขาจะไม่เจอพวกมัน

“แต่เดิม การหาถ้ำหรือที่อยู่ของพวกสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างกระต่ายนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก”

“แต่สำหรับสัตว์นักล่าขนาดใหญ่อย่างสุนัขจิ้งจอก หมาป่า เสือและเสือดาวแล้ว รังของพวกมันก็หาง่ายกว่ามาก ถึงอย่างนั้น ความยากในการล่าเองก็สูงขึ้นมากด้วยเช่นกัน”

ในขณะที่เดิน ลู่หยวนก็คิดว่า “แต่ตอนนี้ฉันได้ฝึกฝนปราณภายในเรียบร้อยแล้ว และทั้งความแข็งแกร่งและความเร็วของฉันก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งมันก็แข็งแกร่งขึ้นเกือบๆ จะสองเท่า”

“ตอนนี้ ฉันคิดว่าฉันน่าจะสามารถสู้กับเสือหรือหมีป่าแบบตัวๆ ได้แล้ว”

“แต่เพื่อความปลอดภัย ตอนนี้ฉันจะยังไม่ไปยุ่งกับพวกมันก็แล้วกัน”

หลังจากฝึกฝนปราณภายในแล้ว ร่างกายของเขาก็พัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

ด้วยเหตุนี้เอง เพื่อจะรักษาระดับพลังนี้ไว้ เขาจึงต้องหาพลังงานมาเติมแต่งร่างกายของเขาให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

และในความเป็นจริงแล้ว ความอยากอาหารของลู่หยวนก็ได้เพิ่มขึ้นโดยทันทีหลังจากที่เขาฝึกเสร็จ

ปริมาณอาหารที่เขาเคยกินก่อนหน้านี้ไม่สามารถเติมเต็มความต้องการในปัจจุบันของเขาได้อีกต่อไป

ในตอนนี้ เนื้อสัตว์หนึ่งถึงสองโลและข้าวหนึ่งโลก็นับเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาแล้ว

นอกจากนี้ ด้วยการบริโภคสมุนไพรบำรุงต่างๆ ในแต่ละวัน ค่าใช้จ่ายรายวันของเขาจึงไหลราวกับน้ำตามไปด้วย

ตามการประมาณอย่างคร่าวๆ แล้ว เขาก็จะต้องหาเงินให้ได้อย่างน้อยสิบตำลึงต่อเดือน ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของเขา และเขาก็จะจนลงเรื่อยๆ

ดังนั้นแล้วเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงต้องใช้พละกำลังที่เพิ่มขึ้นมาให้เกิดประโยชน์

แต่เพราะอยู่ในช่วงกลางฤดูหนาวเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปหารายได้จากการล่าสัตว์พิเศษๆ บนภูเขา....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด