ตอนที่แล้วบทที่ 25 : ธนูเหล็ก (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 : ขายหนังสัตว์

บทที่ 26 : ธนูเหล็ก (2)


บทที่ 26 : ธนูเหล็ก (2)

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน มีเพียงธนูหินหรือธนูเหล็กเท่านั้นที่จะสามารถแสดงพลังของเขาออกมาได้อย่างเต็มที่

เมื่อเขาเข้ามาในภูเขาในช่วงนี้ การล่าสัตว์อย่างต่อเนื่องของเขาก็ค่อยๆ ยืนยันเรื่องนี้ นอกจากนี้ เขาก็ยังค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่เขาถนัดมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งนั่นก็คือการยิงธนู

แท้จริงแล้ว แม้ว่าเขาจะฝึกฝนวรยุทธ์แล้ว แต่สำหรับลู่หยวนแล้ว สิ่งที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้เลยจริงๆ ก็คือทักษะยิงธนู

ไม่มีเหตุผลอื่น

และแม้ว่าฝ่ามือเมฆาจะสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาขึ้นมาได้และมีกระบวนท่าที่ครอบคลุมทั้งรุกและรับ

แต่วิธีการเหล่านั้นก็ยังไม่เพียงพอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าที่ดุร้าย

ประมาณครึ่งเดือนที่แล้ว ลู่หยวนเคยพยายามลองใช้วรยุทธ์ของเขาเพื่อจัดการกับเสือดาวที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว

แต่กระนั้นในการเผชิญหน้าครั้งแรก แม้ว่าพลังฝ่ามือของเขาจะน่าทึ่งและความเร็วของเขาจะรวดเร็ว แต่เขาก็ยังเกือบจะโดนกรงเล็บอันแหลมคมของเสือดาวโจมตี ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้

ด้วยเหตุนี้เอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาจึงมองว่าการต่อสู้ระยะประชิดนั้นมีความเสี่ยงมากเกินไป

และมันก็สมเหตุสมผลจริงๆ

วรยุทธ์ที่เขามีนั้นเป็นเพียงวิชาฝ่ามือ และแทบจะไม่สามารถใช้ปลิดชีพสิ่งมีชีวิตใดๆ ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้เลย

ด้วยเหตุนี้เอง การเอาวิชายุทธ์เช่นนี้ไปท้าทายนักล่าชั้นนำบนภูเขานั้นจึงแทบจะนับได้ว่าเป็นการเอาชีวิตตัวเองไปทิ้ง

หลังจากนั้น ลู่หยวนก็ละทิ้งความภาคภูมิใจในตัวฝ่ามือเมฆาและหันกลับมาล่าสัตว์อย่างระมัดระวังอีกครั้ง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การล่าสัตว์ทั้งหมดก็ดำเนินไปด้วยการใช้ทักษะยิงธนู

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็นับว่ามหัศจรรย์มาก

เขาสามารถล่าสัตว์ได้อย่างต่อเนื่อง และในบรรดาเหยื่อที่ถูกเขาล่า มันก็มีเสือดาวสองตัว และเสือหนึ่งตัว พวกมันทั้งหมดล้วนถูกฆ่าลงโดยไม่ทันได้เข้าใกล้ “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณทักษะยิงธนูที่ยอดเยี่ยมของฉัน”

ลู่หยวนลูบคันธนูของเขาและรู้สึกภูมิใจมาก

เขามั่นใจว่าด้วยทักษะยิงธนูของเขา ตราบใดที่เขารักษาระยะห่างและอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ เขาก็จะสามารถฆ่าศัตรูได้ และแม้ว่าศัตรูจะมีกันสักสิบคนก็ตาม

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ามือในปัจจุบันจะสามารถทำได้

“เพราะฉะนั้นฉันยังต้องเปลี่ยนเป็นคันธนูที่ดีกว่านี้ ธนูที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการยิงธนูที่ดี” ลู่หยวนสัมผัสคันธนูไม้ที่ค่อนข้างทรุดโทรมของเขา และความปรารถนาของเขาที่จะเปลี่ยนเป็นธนูที่ดีกว่าก็แข็งแกร่งขึ้น

แต่ตอนนี้ เขาก็อยู่บนภูเขาและเรื่องนี้ก็ไม่สามารถเร่งรีบได้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้วางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ดังนั้นเมื่อกลับจากการล่ารอบนี้แล้ว เขาก็สามารถเริ่มปฏิบัติตามแผนได้เลย

เขาเก็บคันธนูกลับไปแล้วหันไปทางเสือดาว เขาดึงลูกธนูออกจากเบ้าตาและหลังจากทำความสะอาดซากของมันเล็กน้อยแล้ว เขาก็เก็บลูกธนูกลับไป

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเหล่านี้และตรวจสอบถ้ำแล้ว ลู่หยวนก็อุ้มเสือดาวขึ้นไว้บนหลังแล้วเดินออกจากถ้ำไปทีละก้าว

หนังเสือดาวมีค่ามากและการขายมันในตลาดก็จะได้เงินอย่างน้อยสิบตำลึง และไม่ต้องพูดถึงเนื้อของมันที่สามารถขายได้อีกหนึ่งถึงสองตำลึงเลย

ตั้งแต่เข้ามาในภูเขา เขาก็ได้รับหนังเสือดาวมาสามตัว หนังเสือหนึ่งตัว และหนังหมาป่าห้าตัว ซึ่งรวมมูลค่าแล้วมีกว่าร้อยตำลึง!

ด้วยการขายสิ่งเหล่านี้ มันก็จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของเขาได้อย่างง่ายดาย

สำหรับเนื้อสัตว์ เขาก็เก็บมันไว้สำหรับตัวเอง

ในตอนที่เขาฝึกวรยุทธ์ช่วงแรก การบริโภคเนื้อสัตว์ต่างๆ ของเขานั้นก็นับเป็นจำนวนมหาศาล ด้วยเหตุนี้เอง แม้ว่าเนื้อเหล่านี้จะดูเหมือนเยอะ แต่มันก็พอสำหรับเลี้ยงท้องเขาได้แค่สามถึงสี่เดือนเท่านั้น

“เอาล่ะ จากการพัฒนาการในช่วงฤดูหนาว หากฉันยังคงฝึกมันต่อไป ปีหน้าฉันก็คงจะมีพัฒนาการที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว”

ภายใต้สายลมและหิมะ ลู่หยวนอุ้มเสือดาวไว้บนหลังและเผชิญหน้ากับแสงแดดที่สาดส่อง เขารู้สึกมีความสุขมาก

....

หนึ่งเดือนต่อมา

ด้านนอกร้านตีเหล็กในเมืองหยางเหมย

ลู่หยวนถือเนื้อแห้งไว้ในมือและมาถึงบ้านของอาจารย์ซุนแต่เช้า

“ลุงหก ท่านอยู่บ้านไหม?”

เขาตะโกนถามจากข้างนอก และหลังจากนั้นไม่นาน ชายร่างกำยำที่มีหนวดเคราเป็นพวงก็เดินออกมา

ชายคนนี้เป็นช่างตีเหล็กในเมือง และเนื่องจากเขาเป็นบุตรชายคนที่หกในครอบครัว ดังนั้นทุกคนจึงมักจะเรียกเขาว่าซุนหก

“ที่แท้ก็ลู่น้อยนี่เอง”

ซุนหกมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าประตูแล้วยิ้มขึ้นทันที “เข้ามาสิ ข้ากำลังอุ่นเหล้าอยู่พอดีเลย เจ้าก็มาดื่มด้วยกันเถอะ”

“ได้เลย” ลู่หยวนเข้ามาแล้วยื่นเนื้อแห้งที่เขานำมาด้วยให้อีกฝ่าย

ซุนหกนำมันไปนึ่งโดยทันที และในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็เสิร์ฟมันเป็นเครื่องเคียงกับแกล้ม

หลังจากที่ทั้งสองดื่มไปได้สักพัก ลู่หยวนก็หยิบยกประเด็นหลักขึ้นมา “ลุงหก เรื่องที่ข้าขอให้ท่านช่วยเมื่อเดือนที่แล้วตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว?”

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ลู่หยวนก็ต้องการจะเปลี่ยนคันธนูใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาทำธนูด้วยตัวเองไม่ได้ เขาจึงต้องหาคนมาช่วย

และคนที่จะช่วยเขาก็คือช่างตีเหล็กเพียงคนเดียวในเมือง ลุงหก

ในยุคนี้ การพกมีด ลูกธนูและธนูไม้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับการพกธนูเหล็กหรือหน้าไม้ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยแล้ว นั่นก็จะถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงซึ่งเทียบเท่ากับการกบฏ

และเมื่อถูกจับได้แล้ว ทั้งครอบครัวของเขาก็จะต้องทนทุกข์ทรมานด้วยผลที่ตามมา

ด้วยเหตุนี้เอง ลู่หยวนจึงรู้ดีว่านี่คงเป็นเรื่องยากที่จะทำสำเร็จได้ และหากไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันก็คงจะไม่มีช่างตีเหล็กคนไหนอยากช่วยอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้เอง ตั้งแต่เมื่อครึ่งปีที่แล้ว เขาจึงเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับช่างตีเหล็กผู้นี้ เขามอบสัตว์ที่เขาล่ามาได้เป็นของขวัญให้กับอีกฝ่ายเป็นครั้งคราว และหลังจากนั้นไม่นาน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ก้าวหน้าไปมากจนกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน

จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว ในที่สุดลู่หยวนก็ใจดีสู้เสือและได้ขอให้อีกฝ่ายช่วยสร้างธนูเหล็กให้กับเขา

แต่ถึงจะพูดไปอย่างนั้น ในตอนนั้นเขาก็ยังกลัวลุงซุนไม่น้อย

เมื่อลู่หยวนเสนอเงินสิบตำลึงเป็นค่าแรงและสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ออกไป ในที่สุดเขาก็ชักชวนลุงซุนได้สำเร็จ

การตีคันธนูเหล็กขึ้นมานั้นไม่ใช่งานง่ายๆ ที่จะทำเสร็จได้ในชั่วข้ามคืน นอกจากนี้ ลุงซุนก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาในการหาวิธีทำ ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงตกลงกันที่จะมารับของภายในหนึ่งเดือน

และแล้วมันก็ถึงเวลารับของ

“มันเรียบร้อยแล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดของลู่หยวน ลุงซุนก็วางแก้วเหล้าลง เขาลุกขึ้นเดินไปที่ห้องด้านหลัง และกลับมาโดยถือกล่องยาวใบหนึ่งไว้ในมือ

เมื่อวางกล่องลงบนโต๊ะ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดว่า “ลองดู ข้าใช้ความพยายามไม่น้อยเลยในการทำสิ่งนี้!”

ลู่หยวนตาเบิกกว้างด้วยความสนใจ

เมื่อเปิดกล่องแล้ว เขาก็เห็นคันธนูยาวสีเข้ม มันยาวประมาณ 1.2 เมตร และกำลังนอนอยู่ข้างในอย่างนิ่งเงียบ

ถัดจากคันธนูยาว มีหัวลูกศรที่เตรียมไว้สิบหัว ซึ่งเมื่อติดไว้กับตัวลูกธนูแล้ว มันก็จะทำให้พลังในการเจาะทำลายของพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เขาหยิบมันขึ้นมาและรู้สึกได้ถึงความเย็นและความหนักของคันธนู แม้จะยังไม่ได้ทดสอบ แต่เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นอาวุธที่ทรงพลัง คนธรรมดาทั่วไปคงไม่เหมาะที่จะใช้มัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากการฝึกฝนวรยุทธ์และร่างกายมาอย่างต่อเนื่องและพัฒนากำลังภายในของเขาขึ้นมา ในแง่หนึ่ง ลู่หยวนจึงเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่ง

“มันยอดเยี่ยมมาก!”

เมื่อสัมผัสคันธนูเหล็ก ลู่หยวนก็จินตนาการได้ถึงตอนที่เขาใช้มัน

แม้ว่าทักษะวรยุทธ์จะทรงพลัง แต่พวกมันส่วนใหญ่ก็ใช้สำหรับโจมตีระยะประชิดได้เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับพลธนู บ่อยครั้งพวกเขาจึงมักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ  และหม่าจื่อชิงก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องนี้

“นี่คือค่าจ้างส่วนที่เหลืออีกห้าตำลึง” ก่อนหน้านี้เขาได้มอบเงินห้าตำลึงเป็นค่าจ้างล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นตอนนี้เมื่อลู่หยวนได้รับสินค้าแล้ว เขาจึงจ่ายยอดคงเหลือทันทีโดยไม่ลังเล

ลุงซุนรับเงินมา และดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นเมื่อเห็นเงินแวววาว อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาจึงเตือนว่า “เสี่ยวลู่ เรามาทำความเข้าใจร่วมกันก่อน”

“เมื่อคุณออกไปจากที่นี่แล้ว เจ้าจะต้องไม่บอกใครว่าข้าเป็นคนสร้างคันธนูนี้ให้กับเจ้า และเจ้าก็ไม่ได้มาหาข้า และข้าก็ไม่ได้รับเงินเจ้า เจ้าเข้าใจไหม?”

เขาไม่ได้บอกว่าห้ามลู่หยวนเอาธนูไปใช้ทำอันตรายใคร

เห็นได้ชัดว่าแค่ธนูไม้นั้นก็เพียงพอสำหรับการล่าสัตว์แล้ว ดังนั้นนายพรานปกติจึงไม่จำเป็นต้องใช้ธนูเหล็กเลย

ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของลู่หยวนนั้นไม่ใช่แค่การล่าสัตว์ แต่มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

“ข้ารู้และสัญญาว่าจะไม่เอาลุงหกเข้ามาเกี่ยวด้วย”

ลู่หยวนพยักหน้า จากนั้นเขาก็ปิดกล่องไม้ หยิบมันขึ้นมาแล้วจากไป

ด้วยธนูเหล็กคันนี้ ในที่สุดเขาก็จะสามารถขายหนังสัตว์อันล้ำค่าที่เขาเก็บเอาไว้อยู่ที่บ้านได้

เดิมทีเขากักตุนสิ่งของมีค่าเหล่านี้ไว้และไม่กล้าที่จะเอาพวกมันไปแลกเปลี่ยนเป็นเงิน

นายพรานไม่สามารถทำธุรกรรมมูลค่าหลายร้อยตำลึงได้ เพราะการเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจากเด็กอวดทองในตลาด

“แต่ด้วยธนูเหล็กคันนี้ ทุกอย่างก็จะแตกต่างออกไป”

ที่บ้าน ลู่หยวนติดหัวธนูไว้ที่หัวลูกธนูทั้งสิบหัวและหยิบธนูเหล็กขึ้นมา เขาง้างสายธนูที่ทำมาจากเอ็นเสือ คันธนูเหล็กโค้งงอเล็กน้อยภายใต้แรงดึงอันมหาศาล

และเมื่อเขาปล่อยนิ้วออกจากสาย...

ดึ้ง!

ด้วยเสียงสั่นเบาๆ ลูกธนูอันแหลมคมก็พุ่งออกไป มันปักลงในกำแพงโคลนโดยทันที ธนูเหล็กสั่นไหว และสายธนูก็เด้งกลับ ภายใต้พลังมหาศาล อากาศดูเหมือนจะสั่นสะเทือนตาม

ธนูนี้สามารถใช้ฆ่าคนได้!

และมันก็สามารถฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ได้ด้วย…

“ธนูดี”

ลู่หยวนหัวเราะเบาๆ เขาพันธนูเหล็กด้วยผ้าแล้วผูกไว้ที่เอวของเขา จากนั้นเขาก็หยิบมีดสั้นขึ้นมา ตรวจดูหนังในตะกร้าก่อนจะค่อยเดินทางออกจากบ้าน

เขาจะออกไปขายของแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด