บทที่ 14
หลี่จิ้งเห็นเคาน์เตอร์รับสมัครอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ มีหลายคนกำลังกรอกแบบฟอร์มหน้าเคาน์เตอร์ และมีคนรออยู่อีกประมาณสิบคน
เมื่อเห็นฉากดังกล่าว หลี่จิ้งก็เลิกคิ้ว
การรับสมัครแผนกผู้ช่วยผู้ตรวจการเปิดรับสมัครอย่างต่อเนื่อง
เพราะงานนี้ยากที่จะมีคนทำระยะยาวได้
เกณฑ์การรับเข้าก็ค่อนข้างต่ำเช่นกัน
การที่จะสมัครเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการได้ต้องมีความแข็งแกร่งขอบเขตที่ 2 ในช่วงต้นเป็นอย่างน้อย
แต่แค่เงื่อนไขนี้ 70% ของคนธรรมดาก็ไม่สามารถทำได้แล้ว
เงินเดือนน้อย งานก็เยอะ
มีไม่กี่คนที่เต็มใจทํางานนี้เป็นระยะยาว
เหมือนที่หลิวซือซือพูดเมื่อวาน คนที่จะเลือกงานนี้ส่วนมากจะเป็นนักศึกษาฝึกงานหรือคนที่เหมือนกับเขาที่ อยากจะเป็นผู้ตรวจการ แต่ไม่ถึงเกณฑ์การรับสมัคร
คนกลุ่มที่หนึ่ง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาฝึกงานก็จะลาออก
กลุ่มที่สอง เมื่อทำงานไประยะเวลาหนึ่งและไม่เห็นอนาคต ก็จะไปหางานอื่นแทน
ในช่วงพลังขอบเขตที่สอง จะหางานที่มีเงินเดือนมากกว่า 20,000 หยวนนั้นง่ายมาก
เมื่อไม่เห็นทางออก ก็ไม่จําเป็นต้องอยู่ต่อ
คนเรามีกี่คนที่จะไม่ชอบเงิน?
ในตอนเช้า มีผู้สมัครหลายคนมารวมตัวกันที่หน้าเคาน์เตอร์ เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้คิดเหมือนกับเขา เมื่อเห็นผู้ช่วยผู้ตรวจการขาดแคลนเลยรีบมาสมัคร
หลี่จิ้งมาที่เคาน์เตอร์รับสมัครโดยไม่คิดอะไรมาก
ที่หน้าเคาน์เตอร์ ผู้ช่วยสาวสวยกําลังยุ่งอยู่กับการกรอกแบบฟอร์ม
เมื่อเหลือบไปเห็นหลี่จิ้งเข้ามา เธอยังคงแตะแป้นพิมพ์ แลัวยิ้มใส่เขาอย่างไร้อารมณ์
"คุณมาที่นี่เพื่อสมัครงานหรือเปล่า"
"ใช่ครับ"
หลี่จิ้งส่งเสียง
ด้วยการตอบรับอย่างมั่นใจ ผู้ช่วยหญิงจึงหยุดพิมพ์และหยิบบางอย่างที่มีหน้าจอข้อมูลฉายออกมา
"โปรดใส่ปราณวิญญาณเล็กน้อยลงในเครื่องวัดปราณวิญญาณอันนี้ ฉันต้องยืนยันพลังของคุณก่อน"
หลี่จิ้งรู้จักเครื่องวัดปราณวิญญาณ
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมันตั้งแต่มาถึงโลกนี้
สิ่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีเดียวที่เชื่อถือได้ในการตรวจสอบพลังในโลกนี้
เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องวัดปราณวิญญาณ
วิธีการปลอมแปลงหรือบิดเบื่อนพลังของตนจะไม่ได้ผล
ไม่สามารถปลอมแปลงและปกปิดได้
เครื่องวัดปราณวิญญาณมีราคาแพงมาก และประกอบด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย
ราคาของเครื่องวัดปราณวิญญาณหนึ่งเครื่องเริ่มต้นที่สองล้านหยวน
เนื่องจากอายุการใช้งานที่จํากัด สิ่งนี้มักจะปรากฏในกระบวนการตรวจสอบของอุตสาหกรรมที่มีข้อกําหนดที่เข้มงวดต่อฐานการบ่มเพาะพลังเท่านั้น ซึ่งยากที่จะพบในชีวิตประจำวัน
หลังจากดูเครื่องวัดปราณวิญญาณแล้ว หลี่จิ้งก็ป้อนพลังวิญญาณเข้าไปในนั้น
พลังวิญญาณของเขาเข้ากันได้ดีกับปราณวิญญาณในโลกนี้ ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องกังวลว่าเครื่องมือปราณวิญญาณจะไม่ตอบสนอง
หลังจากถ่ายพลังวิญญาณหลั่งไหลเข้าไป หน้าจอแสดงผลของเครื่องวัดปราณวิญญาณก็สว่างขึ้น และปรากฏข้อความขึ้นมา
"ขั้นแรกของขอบเขตที่สอง ถึงเกณฑ์"
เมื่อเห็นข้อความนี้ ผู้ช่วยหญิงคนนั้นจึงถาม
"คุณเคยเรียนรู้คาถาอย่างควบคุมอากาศไหม?"
ก่อนที่หลี่จิงจะตอบ เธออธิบาย
“เนื่องจากความจําเป็นในการทำงาน เราจึงต้องการคนที่ฝึกฝนคาถาที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน หากคุณได้เรียนรู้คาถาจำพวกควบคุมลมอากาศและมีความเชี่ยวชาญระดับสำเร็จเล็กน้อยขึ้นไป สามารถเพิ่มคะแนนในการสอบได้ หลังจากผ่านการประเมินแล้ว สามารถเข้าสู่หน่วยพิเศษของแผนกผู้ช่วยผู้ตรวจการของเราได้”
หน่วยพิเศษ?
หลี่จิ้งตกตะลึงเล็กน้อย
คาถาจำพวกควบคุมอากาศเป็นคาถาเสริม
มันมีประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือ บิน
คาถาเหล่านี้ไม่ขัดแย้งกับคาถาควบคุมดาบที่สามารถบินได้เช่นกัน
ท้ายที่สุดคาถาควบคุมดาบต้องพึ่งพาดาบบิน
แม้ว่าคุณจะได้เรียนรู้คาถาควบคุมดาบแล้ว แต่ก็ยังต้องมีคาถาควบคุมอากาศด้วย
มิฉะนั้น ต้องสละพลังโจมตีของดาบ เพื่อเป็นแค่เครื่องมือเดินทางเท่านั้น
อีกอย่าง
ความเร็วของดาบบินเร็วกว่าการบินเองมาก
หลี่จิ้งยังไม่ได้ศึกษาคาถานี้
แต่มีเมื่อแถบสถานะ เขาสามารถเรียนรู้ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารวยแล้ว และคะแนนทักษะของเขาก็มี 6 คะแนนหลังจากจัดการปีศาจปลาเมื่อวาน
ถึงยังไงต้องเรียนอยู่แล้ว งั้นทำไมไม่เรียนรู้ตอนนี้เลยล่ะ?
หากสามารถเพิ่มคะแนนได้ แน่นอนว่าต้องรักษาโอกาสไว้
หน่วยพิเศษที่ผู้ช่วยหญิงได้กล่าวไว้ คิดว่าน่าจะมีอํานาจเช่นเดียวกับผู้ตรวจการ ที่สามารถบินขึ้นฟ้าได้
การที่สามารถบินได้ตามใจนั้นสะดวกอย่างมาก
หน่วยพิเศษนี้ต้องเข้าให้ได้
ผู้ช่วยหญิงคนนั้นเห็นหลี่จิ้งพยักหน้า แสดงว่าเขาได้เรียนรู้คาถาที่เกี่ยวข้อง และหยิบแบบฟอร์มยื่นให้เขา
"คุณกรอกแบบฟอร์มก่อน วันนี้มีคนมาสอบเยอะมาก ฉันจะพาผู้สมัครไปสอบข้อเขียนตอนสิบโมง หลังจากนั้นจะมีการทดสอบทักษะภาคปฏิบัติ ตอนนั้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลที่กรอกในแบบฟอร์มว่าจริงหรือไม่
"โอเค"
หลี่จิ้งรับแบบฟอร์มแล้วไปกรอกข้างๆ
แบบฟอร์มนี้ส่วนใหญ่จะขอข้อมูลส่วนบุคคล ตามด้วยคาถาและความสามารถที่ได้เรียนรู้
หลังจากยืนยันแล้ว หลี่จิ้งก็หยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดเว็บไซต์เซียนเสวียและเลือกสองคาถาควบคุมอากาศที่แพงที่สุดในขอบเขตที่ 2
ยอดเงินในบัญชี: -243000
เมื่อเห็นว่ายอดเงินในบัญชีเหลืออยู่เพียง 4,000 หยวน หลี่จิ้งรู้สึกใจหาย
แต่สิ่งที่ควรต้องใช้ก็ใช้ไปเถอะ
ต้องขอบคุณเฉินอวี่หรานจริงๆที่ให้วิลล่าเขาอยู่โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ไม่งั้นตอนนี้เขาคงลำบาก
หลีกนภาปรากฏขึ้นบนเว็บไซต์ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในหูของเขา
"ค้นพบว่าสามารถเรียนรู้ทักษะติดตัว หลีกนภา ท่านต้องการเรียนรู้หรือไม่"
"เรียนรู้"
"เรียนรู้ทักษะติดตัวหลีกนภาสําเร็จ"
เจ้าของ: หลี่จิ้ง
คะแนนประสบการณ์: 310/747
ระดับ: 8
คะแนนทักษะ: 6
พลังวิญญาณ: 72
อุปกรณ์: ไม่มี
ทักษะติดตัว: ห้วงฉับพลัน, ชุดวิญญาณคุ้มกาย (5/5), หลีกนภา (0/5)
ทักษะการใช้งาน: ฝ่ามือสายฟ้า (5/5)
เมื่อเรียกแถบสถานะมาตรวจสอบ หลี่จิ้งเลือกที่จะเรียนรู้หลีกนภาให้ถึงระดับสมบูรณ์
เพื่อไม่ให้เด่นจนเกินไป ตอนที่เขากรอกแบบฟอร์ม เขากรอกฝ่ามือสายฟ้า ชุดวิญญาณคุ้มกายกับหลีกนภาเป็นระดับความเชี่ยวชาญเล็กน้อยเท่านั้น
เป้าหมายของเขาคือผ่านการประเมินเพื่อเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการ ไม่จําเป็นต้องเด่นเกินไป
หลังจากกรอกแบบฟอร์มแล้ว หลี่จิ้งก็ดูเวลา
เพึ่งจะเก้าโมงตรง
การทดสอบข้อเขียนต้องรออีกหนึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงเวลา
เมื่อคิดว่าเขาต้องรอเป็นชั่วโมง เขาจึงเปิดข่าวในโทรศัพท์ดู
มีเหตุการณ์ปีศาจหลายเหตุการณ์ในเขตเป่ยเฉิง
ภายใต้การรายงานข่าวเกินจริงของสื่อที่ไร้หลักการ ตอนนี้มันกลายเป็นหัวข้อที่ดุเดือดอย่างมากบนอินเทอร์เน็ต
เขาไม่สนใจข่าวลือเหล่านั้นบนอินเทอร์เน็ต หลี่จิ้งมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ปีศาจในสื่อช่องหลักเท่านั้น
ตั้งแต่บ่ายโมงเมื่อวานจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์ปีศาจในเขตเป่ยเฉิง
การรายงานข่าวของสื่อช่องหลักนั้นไม่เหมือนกับสื่อที่เผยแพร่เองที่สนใจแต่การดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยการเขียนไปเรื่อย
อย่างไรก็ตาม ในข่าวต่างๆ เหมือนจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในเขตเป่ยเฉิง เบื้องหลังความสงบนั้น มีความรู้สึกไม่สบายใจจางๆอยู่
หลี่จิ้งไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อเทียบกับแนวโน้มของความคิดเห็นของประชาชนบนอินเทอร์เน็ต เขากังวลเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ปีศาจที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากกว่า
...