ตอนที่แล้วบทที่ 20 : อาวุธต้องสาป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 : ความไว้วางใจ (2)

บทที่ 21 : ความไว้วางใจ สกิลใหม่


บทที่ 21 : ความไว้วางใจ สกิลใหม่

คนที่โผล่เข้ามาคือคังจุนโม

ซังวูกระโดดลุกจากที่นั่งด้วยความดีใจ

แน่นอนว่ามันหมายถึงหมายเลข 1

“คุณตัวแทน คุณมาถึงเร็วจัง”

“ผมเหยียบมาเล็กน้อยน่ะครับ ว่าแต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ? ข้างนอกเสียงดังมากเลย”

ซังวูเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับทหารที่ถือดาบต้องคำสาป

“อ่า... นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังไม่ปล่อยคุณกลับไปงั้นสินะครับ คุณคงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากใช่ไหมครับ?”

“มีแค่รอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นครับ”

ทั้งสองคนคุยกันเรื่องดาบอยู่พักหนึ่ง

จากนั้นคังจุนโมก็อุทานออกมาทันทีเมื่อเขาได้ยินว่าซังวูได้รับดาบขึ้นสนิมมาได้ยังไง

“อะไรนะครับ? คุณล่ามนุษย์ปลาได้หรอครับ?”

“ใช่ครับถูกต้อง มีอะไรรึเปล่าครับ...”

“มันเป็นไปได้ยังไงกันครับ? มนุษย์ปลานั่นเป็นมอนสเตอร์แรงค์ E เลยนะครับ!”

คังจุนโมยังคงอุทานต่อ

“ตั้งแต่คุณเริ่มมาเป็นฮันเตอร์มันก็เพิ่งผ่านมาได้เพียงเดือนเดียวเองนะครับ นี่มัน... น่าทึ่งมาก!”

ดูเหมือนเขาจะประหลาดใจมากกับความเร็วในการเติบโตของซังวู

“ฮ่าฮ่า... แสดงว่าผมค่อนข้างเก่งสินะ”

ซังวูยิ้มอย่างเขินอาย

จากนั้นเขาก็อธิบายเกี่ยวกับดาบขึ้นสนิม

เมื่อคังจุนโมได้ยินว่าผู้คนคงจะบ้าคลั่งถ้าพวกเขาหยิบดาบขึ้นสนิมขึ้นมา เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง

“โอ้พระเจ้า! เราถูกหวยแล้ว!”

“อะไรนะครับ? เราถูกหวยตรงไหนกันครับ?  ผมรู้สึกเหมือนถูกมันสาปซะมากกว่า นอกจากนี้ ดาบนี่ก็ยังขึ้นสนิมอีก”

“มันไม่ใช่แค่การถูกหวยธรรมดาๆ นะครับ แต่มันคือการถูกรางวัลใหญ่เลย ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นไอเทมต้องสาปนะครับ”

ซังวูรู้สึกสับสน

“ไอเทมต้องสาป? แบบนี้แล้วมันดียังไงกันครับ?”

“แน่นอนครับ ถ้าคุณแค่มองดู มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อคำสาปถูกถอนออก มันก็จะกลายเป็นไอเทมที่มีประโยชน์มาก ดีไม่ดี เราอาจขายมันได้ในราคาสูงถึง 300 ล้านวอนเลยนะครับ!”

“ห้ะ... 300 ล้านเลยหรอครับ?”

แม้ว่าซังวูจะสร้างรายได้มากมายจากการล่ากระต่ายเขาเดียวในทุกวันนี้ แต่เงินหลักร้อยล้านก็ยังถือเป็นตัวเลขใหม่ในใจเขา

ด้วยเงิน 300 ล้านวอน คุณก็สามารถซื้อบ้านหลังเล็กๆ ได้

“ใช่แล้วครับ นอกจากนี้ ดาบเล่มนี้ก็ยังน่าจะมีลักษณะพลังของสายเบอร์เซิกเกอร์ด้วย ว่ากันว่าแค่ถือมันไว้ คุณก็จะสามารถเพิ่มค่าสถานะทางกายภาพโดยรวมขึ้นมาได้ เช่นค่าความแข็งแกร่ง ความว่องไว แรงกาย ความอดทน ความทนทานต่อความเจ็บปวด ฯลฯ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะงั้นผมถึงบอกว่ามันยิ่งกว่าการถูกหวยยังไงล่ะครับ ฮ่าๆ ขอแสดงความยินดีด้วยครับคุณฮันเตอร์”

คังจุนโมยิ้มอย่างสดใส

เมื่อเห็นรอยยิ้มแบบนั้น ซังวูก็รู้สึกได้ทันทีว่าความกังวลในใจก่อนหน้านี้ได้หายไปจนหมดแล้ว

“ผมเข้าใจแล้วครับ ฮ่าฮ่าฮ่า ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไรครับ เอาล่ะ เรากลับกันเลยดีไหมครับ?”

ขณะนี้เวลา 05.30 น.

ถึงแม้มันจะยังเช้าอยู่ แต่สมาคมฮันเตอร์ก็เปิดทำงานตลอดเวลา ดัง

“ยังไม่ได้ครับ ผมยังต้องรอป้อมยามด้านนอกตรวจสอบข้อมูลสิทธิ์การเข้าถึงที่ซ้ำซ้อน…”

“เอ่อ เรื่องนั่นหรอครับ? งั้นโปรดรอสักครู่ครับ”

* * *

หลังจากโทรศัพท์หลายสายและสนทนากันเป็นเวลานานกับสิบเอกลี พิลฮวาน คังจุนโมก็สามารถพาหมายเลข 1 ออกมาได้

ก่อนออกเดินทาง จ่าลีพิลฮวานมาหาหมายเลข 1 และบอกว่าเขาขอโทษ

เนื่องจากลักษณะงานของทหาร ดังนั้นมันจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องเข้มงวด

คังจุนโมโทรหาทีมเก็บกู้และใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการเก็บซากมอนสเตอร์ออกมา จากนั้นพวกเขาก็มาถึงโมเทลที่ซังวูอยู่

หลังจากพูดคุยกันสักพัก พวกเขาก็เดินทางกลับโซล

คังจุนโมอ้าปากค้างขณะมองไปที่ซังวูกับหมายเลข 1 สลับกันบนรถ

“ทุกครั้งที่ผมเห็นพวกคุณผมก็ยังแยกพวกคุณไม่ได้เลย แม้แต่ฝาแฝดก็ยังไม่ดูเหมือนกันมากขนาดนี้เลยนะครับ”

“ผมว่าไม่นะครับ ถ้ามองดีๆ ตัวผมจะหล่อกว่าครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”

หลังจากนั้น พวกเขาก็คุยกันเรื่องไอเทมต้องคำสาปต่างๆ จนกระทั่งมาถึงที่หมาย

นี่เป็นสำนักงานของคังจุนโม

คังจุนโมบอกว่าเขามีเรื่องบางอย่างต้องจัดการก่อน ดังนั้นเขาเลยต้องมาที่ห้องทำงานของเขาก่อน

ห้องทำงานของเขาสกปรก มันมีผ้าห่มอยู่บนโซฟา ถ้วยบะหมี่สำเร็จรูปกองพะเนินเป็นภูเขาตรงมุมห้องและส่งกลิ่นเหม็นอับ นี่อาจเป็นเพราะคังจุนโมไปค่อยได้กลับที่พักของเขามากนัก

คังจุนโมรีบเคลียร์พื้นที่และพยายามหาที่นั่ง

“มันอาจโทรมหน่อยนะครับ แต่เชิญนั่งก่อนได้เลย”

“ได้ครับ”

“โปรดรอสักครู่นะครับ”

จากนั้นเขาก็เปิดคอมพิวเตอร์ พิมพ์อะไรบางอย่าง พิมพ์เอกสารแล้วก็นำกลับบ้าน

สิ่งที่เขียนไว้ในเอกสารมีดังนี้:

───────────────

ย่อหน้า 1 [วัตถุประสงค์]

สัญญาฉบับนี้คือเอกสารสัญญารักษาความลับ JM เอเจนซี่ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกแทนว่า “ข”) ซึ่งเป็นบริษัทที่รับผิดชอบและเป็นตัวแทนของ จอง ซังวู (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ก”) จะตกลงกันเพื่อยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันตามเงื่อนไขการรักษาความลับที่ต้องปฏิบัติตาม

ย่อหน้า 2 [ขอบเขต] ฝ่าย ข ไม่สามารถเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับฝ่าย ก ได้ หากต้องการจะเปิดเผยข้อมูล จะต้องได้รับความยินยอมจากฝ่าย ก ก่อน...

• ··

ย่อหน้า 5 [ค่าตอบแทน]...

───────────────

นี่เป็นข้อตกลงการรักษาความลับซึ่งรวมถึงเงื่อนไขที่คังจุนโมจะไม่เปิดเผยข้อมูลของซังวู

ซังวูมองคังจุนโมด้วยความประหลาดใจ

“คุณตัวแทน นี่คืออะไรกันครับ?”

“นี่เป็นข้อตกลงการรักษาความลับที่ระบุว่าผมจะไม่เปิดเผยความลับใดๆ ครับ”

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยครับ...”

“จริงๆ แล้ว ผมก็รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อรู้ว่าคุณล่ามนุษย์ปลาได้ในครั้งนี้ และในตอนที่คุณบอกว่าจะไปล่าในดันเจี้ยนปลาสองขา ผมก็คิดว่าสุดท้ายคุณจะล่าปลาสองขาได้เท่านั้น ผมคิดว่าคุณเป็นแค่ฮันเตอร์แรงค์ F ที่เหนือกว่าปกติเล็กน้อย”

“อย่างไรก็ตาม ผมก็ประเมินคุณต่ำไป ทั้งค่าสภานะ ศักยภาพและความสามารถของคุณฮันเตอร์ ทุกสิ่งล้วนอยู่สูงกว่าคนปกติทั่วไปมาก”

“แต่ทำไมเราถึงต้องทำข้อตกลงเก็บรักษาความลับด้วยล่ะครับ…?”

“นี่ก็เพื่อการได้รับความไว้วางใจจากคุณฮันเตอร์ครับ”

“ความไว้วางใจ?”

ซังวูรู้สึกสับสน

ในที่สุดคังจุนโมก็ตระหนักได้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของซังวูหลังจากเห็นเขาออกล่าในครั้งนี้

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะดูแลซังวูให้เหมาะสมกับที่เป็นเพชรเม็ดงาม

“อาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮันเตอร์คือสกิล นั่นเป็นสาเหตุที่ไม่มีฮันเตอร์คนใดเปิดเผยสกิลของตนออกมาอย่างหมดเปลือก ทันทีที่มันถูกเปิดเผย มันก็จะถูกวิเคราะห์ในทางใดทางหนึ่งและนั่นก็จะเท่ากับว่าจุดอ่อนของคุณได้ถูกเปิดเผย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในการจัดอันดับ มันจึงบอกเพียงสกิลเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกว่าพวกเขาใช้มันยังไง”

“อืม”

สิ่งที่คังจุนโมพูดมานั้นถูกต้อง

ข้อมูลของฮันเตอร์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่นั้นมีเพียงชื่อสกิลเท่านั้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาต่อสู้และใช้สกิลเหล่านั้นอย่างไร

เราสามารถตัดสินพวกเขาได้จากผลการล่าเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง อันที่จริงแล้ว ซังวูจึงไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับร่างโคลนของเขาให้คังจุนโมฟังด้วยเช่นกัน

คังจุนโมรู้เพียงว่าเขามีสกิลร่างโคลนที่สามารถใช้งานทางกายภาพได้

“โปรดให้ความไว้วางใจของคุณฮันเตอร์แก่ผมด้วย และโปรดให้โอกาสผมได้ดูแลคุณฮันเตอร์ด้วย ผมจะทำให้คุณเป็นฮันเตอร์ที่ดีที่สุดให้ได้ ได้โปรดเถอะครับ!”

ทันใดนั้นคังจุนโมก็ลุกขึ้นยืนและก้มศีรษะลงทำมุม 90 องศา

ซังวูผงะไปชั่วขณะเมื่อเห็นฉากนี้ แต่ไม่นานเขาก็ตกอยู่ในความคิดอันลึกซึ้ง

'โอเค ฉันคิดว่าแค่ลมปากก็เพียงพอแล้ว แต่ในเมื่อเขาถึงกับยอมเขียนสัญญาขึ้นมา ดังนั้นถ้าจริงใจขนาดนี้มันก็น่าไว้ใจ และเหนือสิ่งอื่นใดเขาเป็นคนดี'

ข้อสรุปของเขาคือการอยู่ทำงานร่วมกับคังจุนโม

“ได้ครับ ผมเชื่อใจให้คุณเป็นตัวแทนของผม”

ซังวูเซ็นสัญญาโดยทันที

คังจุนโมซึ่งตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียดแล้วยิ้มด้วยความดีใจ

“คุณฮันเตอร์ ขอบคุณสำหรับการเซ็นสัญญาครับ! ตอนนี้ 'ความไว้วางใจ' ระหว่างเราก็แข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้น โปรดทำงานให้หนักขึ้นด้วยนะครับ”

คังจุนโมลุกขึ้นอีกครั้งและยื่นมือออกมาจับ

“ขอความกรุณาด้วยนะครับ”

ซังวูรู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายมากเช่นกัน เขายืนขึ้นและจับมือของคังจุนโมเอาไว้แน่น

มือของพวกเขาประสานกันแน่นราวกับจะไม่มีอะไรมาพรากพวกเขาไปจากกันได้

* * *

วันถัดมา

ทันทีที่คูลดาวน์สกิลกลับมา ซังวูก็ขึ้นรถของคังจุนโมและไปที่ศูนย์ฮันเตอร์

สาเหตุที่พวกเขามากันวันนี้ก็เพื่อยื่นขอสิทธิ์การเข้าถึงซ้ำซ้อน

เมื่อการสาธิตสกิลเริ่มต้นขึ้น มันก็มีเสียงตอบรับอย่างกระตือรือร้นดังมาจากภายในห้องทดสอบ

“ว้าว!”

“หยะ..ใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ...?”

นี่เป็นเพราะร่างโคลนที่ถูกเรียกออกมานั้นเปลือยเปล่า!

จองซังวูและคังจุนโมลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรีบเข้ามาปกปิดร่างที่เปลือยเปล่าของร่างโคลนโดยทันที

อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็สิ้นสุดลงแค่นั้น

ตรงกันข้ามกับความคิดของซังวูที่คิดว่าเพราะสกิลร่างโคลนของเขานั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นมันจึงจะกลายเป็นปัญหาและกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางแน่

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง มันก็ไม่มีใครสนใจฮันเตอร์ที่ชื่อจองซังวูหรือแม้แต่สกิลร่างโคลนของเขาเลย

“อุตสาหกรรมนี้ก็เป็นแบบนี้แหละครับ หน่วยสอดแนมจะไม่ทำงานจนกว่ามันจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริงๆ”

หลังจากสาธิตสกิลแล้ว คังจุนโมก็ได้จัดการขั้นตอนการยื่นเอกสารที่ศูนย์ฮันเตอร์ หลังจากยื่นเอกสารเสร็จ พวกเขาก็ได้รับแจ้งว่าการขออนุญาตจะเสร็จสิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์

ซังวูไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก

‘ฉันชอบเขาจริงๆ มันสะดวกสบายมาก โชคดีที่ฉันเซ็นสัญญากับเขา'

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อกลับมาถึงสำนักงานของคังจุนโม ซังวูจึงคิดว่าเขาจะเปิดเผยข้อมูลสกิลบางส่วนของเขาให้กับอีกฝ่ายทราบ เผื่อว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ใดๆ ได้

“แบ่งปันประสบการณ์หรอครับ?”

“ใช่ครับ เมื่อร่างโคลนของผมฝึกฝน ความสามารถของผมก็จะเพิ่มขึ้น”

“ว้าว...มันน่าทึ่งจริงๆ  แล้วร่างโคลนของคุณสามารถใช้สกิลได้ไหมครับ?”

“สำหรับการใช้สกิล ผมก็เคยลองพยายามให้ร่างโคลนของผมใช้สกิลร่างโคลนมาก่อนแล้วในอดีต แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ผล อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ได้สกิลแฟมิเลียมา ผมก็ยังไม่เคยให้พวกมันลองเลย”

“ถ้าอย่างนั้นเรามาลองทดสอบกันตอนนี้เลยดีไหมครับ?”

ตามความเห็นของคังจุนโม เขาเลยสั่งให้หมายเลข 1 ใช้สกิลแฟมิเลีย

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น

“คุณแน่ใจแล้วหรอครับว่าคุณกำลังใช้สกิลนี้อยู่?”

“เอ่อ... นั่นสิครับ? หมายเลข 1 ตอนนี้นายกำลังใช้สกิลแฟมิเลียอยู่รึเปล่า? ตอบฉันหน่อย”

“ไม่มีเป้าหมายครับนาย”

“อ่า! มาคิดๆ ดูแล้ว ผมก็ลืมเรื่องเป้าหมายไปซะสนิทเลย”

เมื่อคังจุนโมได้ยินแบบนั้น เขาเลยนำแมวตัวหนึ่งมาจากบริเวณใกล้เคียงโดยทันที

เขาบอกว่าเขายืมมันมาจากเพื่อนบ้าน

ซังวูสั่งให้หมายเลข 1 ใช้สกิลแฟมิเลียกับแมวโดยทันที

ตามที่คาดไว้ เขาไม่สามารถยืนยันได้ด้วยตาเปล่าได้ว่าสกิลนี้ถูกใช้แล้วหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงต้องถามหมายเลข 1 อีกครั้ง

“ผมใช้มันไม่ได้ครับนาย”

คำตอบของหมายเลข 1 คือมันไม่สามารถใช้สกิลได้

ซังวูถามเหตุผล

“เพราะมันไม่ใช่สัตว์อสูรหรือสัตว์เลี้ยงที่ทำสัญญาด้วย ดังนั้นมันจึงไม่สามารถใช้สกิลแฟมิเลียได้”

“นั่นสินะ สกิลแฟมิเลียสามารถใช้ได้กับพวกนั้นเท่านั้น”

เขาลองเปลี่ยนไปสั่งให้หมายเลข 1 ใช้สกิลใส่หมายเลข 2 แต่มันก็ทำไม่ได้เพราะหมายเลข 2 ก็ไม่ใช่ทาสของหมายเลข 1 เช่นกัน

'ตามที่คาดไว้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสกิลโทรจิตจึงมีราคาถูก เพราะมันมีการใช้งานที่แคบมากนี่เอง...'

ในท้ายที่สุด การใช้สกิลแฟมิเลียโดยร่างโคลนก็จบลงด้วยความล้มเหลว

อย่างไรก็ตาม มันก็มีความสำเร็จอยู่บ้าง

“ถ้าคุณตัวแทนดูที่ความพยายามของร่างโคลนในการใช้สกิล นั่นก็หมายความว่าร่างโคลนเองก็สามารถใช้สกิลได้ด้วยเช่นกัน”

“เอ่อ คุณฮันเตอร์.. พอคุณพูดมาแล้วมันก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ”

“ในกรณีนี้ เราก็สามารถใช้ร่างโคลนเพื่อฝึกฝนสกิลอื่นๆ ได้”

“สุดยอด! ถ้าอย่างนั้น คุณฮันเตอร์ก็จะไม่จำเป็นต้องฝึกหนักเหมือนกับฮันเตอร์คนอื่นๆ เพื่ออัพเลเวลสกิลน่ะสิครับ!”

คังจุนโมตื่นเต้นและอุทานออกมา

“ใช่แล้ว ต้องขอบคุณคุณตัวแทนจริงๆ นะครับ ผมถึงได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถ้าอย่างนั้น ผมก็เดาว่าผมคงจะต้องไปซื้อสกิลใหม่ๆ มาเพิ่มแล้ว แต่ผมยังจ่ายหนี้สกิลแฟมิเลียยังไม่หมดเลย ผมเกรงว่าผมคงจะต้องรอต่อไปก่อน…”

“ก็ไม่แน่นะครับ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อมันอย่างเดียวก็ได้”

“อะไรนะครับ?”

“คุณสามารถได้รับมันมาผ่านการฝึกฝนก็ได้ ผมเองก็พอรู้วิธีที่จะได้รับสกิลบางอย่างมาบ้างเหมือนกัน”

คังจุนโมเล่าให้ซังวูฟังเกี่ยวกับวิธีการได้รับสกิลที่เขาเรียนรู้มาในขณะที่ยังทำงานอยู่ในกิลด์ฮเยซอง

มันเป็นสกิล 'ตีแรง'

กิลด์ชั้นนำของประเทศจะมีหลักสูตรฝึกอบรมฮันเตอร์เป็นของตนเอง และหนึ่งในหลักสูตรนั้นก็คือวิธีการได้รับสกิลการโจมตี

“วิธีการนั้นง่ายมาก เพียงแค่ 'ใช้พลังทั้งหมด!’ ของคุณ แค่นั้นก็พอแล้วครับ”

“ใช้พลังทั้งหมด?”

“ใช่ครับ จากตอนที่ผมเคยทำงานมา การฝึกก็มักจะเกี่ยวข้องกับการตียางด้วยค้อน”

“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นก็ตรงไปที่ยิมเพื่อทำการทดสอบกันเลยเถอะ”

คังจุนโมและซังวูพาหมายเลข 1 ไปที่ยิมขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบครัน

เมื่อทั้งสามคนเข้าไปโดยซื้อบัตรผ่านวันเดียว คนข้างในยิมก็หันมาให้ความสนใจกับซังวูและหมายเลข 1

“ดูสองคนนั้นสิ.. พวกเขาหน้าตาเหมือนกันจริงๆ”

“พวกเขาเป็นแฝดกันเหรอ?”

“ปกติแล้วแม้แต่ฝาแฝดก็ยังดูแตกต่างกันเลย แต่พวกเขาสองคนนี่ดูเหมือนกันทุกประการเลย”

โดยไม่สนใจผู้คนที่กำลังพูดคุยกัน พวกเขาตรงไปยังจุดที่มียางเส้นใหญ่วางอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของยิม

คนตัวใหญ่รูปร่างแข็งแรงและมีกล้ามเนื้อปูดกำลังฝึกยกยางหรือใช้ค้อนขนาดใหญ่ทุบยางอยู่

“หมายเลข 1 นายเห็นพวกนั้นไหม? ไปฝึกตียางด้วยค้อนแบบที่พวกนั้นทำกันเถอะ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย!”

ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากซังวู หมายเลข 1 ก็ยกค้อนขึ้นและเริ่มทุบค้อนลงบนยางใกล้ๆ อย่างไร้ความปราณี

บั้ก! บั้ก! บั้ก!

“หมายเลข 1 แรงกว่านี้! เร็วขึ้นอีก! ทุบมันให้สุดกำลังเลย!”

เมื่อซังวูสั่งให้หมายเลข 1 เพิ่มแรงขึ้นไปอีก หมายเลข 1 ก็ใส่แรงเข้าไปมากขึ้นแม้ว่าเขาจะหายใจหอบก็ตาม

ในขณะนี้ ร่างของหมายเลข 1 ก็กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับมันกำลังจะระเบิด

“ทุบมันให้สุดกำลัง! ถูกต้อง เอาแบบนั้นแหละ!”

บั้ก! บั้ก! บั้ก!

ทุกคนที่ออกกำลังกายอยู่รอบๆ ต่างก็มองดูฉากนี้ด้วยความสนใจ

“ผู้ชายคนนั้นดูมีกล้ามไม่เยอะเท่าไหร่เลย แต่ถึงงั้นเขาก็ทรงพลังมากเลย”

“ว้าว เห็นทีฉันต้องฝึกหนักบ้างซะแล้ว”

“ฉันเองก็จะแพ้ไม่ได้เหมือนกัน ย้า-!”

“ย้าาา!”

คนเหล่านี้จู่ๆ ก็เริ่มฝึกหนักขึ้น อาจเป็นเพราะพวกเขาถูกกระตุ้นด้วยการเห็นหมายเลข 1 ทุบยาง

ความร้อนแรงติดต่อกันได้ และวันนั้นยิมก็เต็มไปด้วยเสียงครวญครางอันร้อนแรงของลูกผู้ชาย(?)

* * *

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

หมายเลข 1 กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งสกิลโจมตี ขณะเดียวกัน ซังวูกับคังจุนโมก็กำลังคุยกันเรื่องวิธีการใช้ร่างโคลนจนพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน

ในท้ายที่สุด วันนี้พวกเขาก็กลับออกมาจากยิมด้วยความล้มเหลว

“ผมเดาว่าการได้รับสกิลมาคงจะไม่ง่ายแบบที่เราคิดนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่าจะยังไงคุณก็จะได้มันมาแน่ จากเท่าที่ผมรู้มา ฮันเตอร์ปกติก็ใช้เวลาประมาณ 15 วันกว่าจะได้สกิลนี้มา”

“อย่างงั้นหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นผมเองก็ต้องพยายามให้มากขึ้นแล้ว”

“ใช่ครับ และคุณฮันเตอร์ครับ คุณต้องอย่าลืมเรื่องการหายใจมานาด้วยนะครับ ถ้าคุณฝึกร่างโคลนของคุณให้หายใจมานาได้ในภายหลัง การประสานงานของพวกคุณก็จะต้องออกมาน่าทึ่งมากอย่างแน่นอน”

“แน่นอนครับ เดี๋ยวผมก็ต้องไปที่นั่นอีกครั้งแล้ว...”

ซังวูตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ลูกผู้ชายสองคนกับร่างโคลนอีกหนึ่งตัวกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้นเอง

[ สกิลนักแม่นปืนได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว ]

สกิลใหม่ของซังวูได้ถูกเพิ่มเข้ามาแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด