บทที่ 22 : ความไว้วางใจ (2)
บทที่ 22 : ความไว้วางใจ (2)
“เอ่อ คุณตัวแทนครับ.. ผมเพิ่งได้รับสกิลใหม่มา”
“จริงหรอครับ? มันคือสกิลอะไรครับ?”
“มันเรียกว่าสกิลนักแม่นปืนน่ะครับ ผมขอตรวจสอบสักครู่นะครับ”
ซังวูเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมา
───────────────
[ นักแม่นปืน (Lv.1)/ประเภทติดตัว ] : พลังเพิ่มขึ้นเมื่อใช้อาวุธปืน
- ความเร็วในการโหลดกระสุนจะเร็วขึ้นเล็กน้อย
- ความเร็วในการเล็งจะเร็วขึ้นเล็กน้อย
-ความแม่นยำในการเล็งเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- การควบคุมแรงถีบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
───────────────
“ผมตรวจสอบแล้ว มันเป็นสกิลติดตัวที่ช่วยในการยิงปืนครับ”
“โอ้~! นั่นเป็นสกิลที่ดีเลยครับ สกิลติดตัวมีประโยชน์เสมอ และในหมู่ฮันเตอร์ ถ้าคุณต้องการจะใช้ปืน มันก็เป็นสกิลที่คุณต้องมี”
“อย่างงั้นหรอครับ? งั้นก็เยี่ยมไปเลย!”
ซังวูยังคงเป็นฮันเตอร์แรงค์ F
แม้ว่าร่างโคลนของเขาสามารถเอาชนะมนุษย์ปลาซึ่งเป็นมอนสเตอร์แรงค์ E ได้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังเป็นได้เพียง 'คนโง่' ที่มีค่าสถานะน้อยกว่า 1
สำหรับฮันเตอร์ระดับต่ำเช่นนี้ ปืนก็ถือเป็นอาวุธและวิธีการป้องกันตัวที่ดีที่สุด เว้นเสียแต่พวกเขาจะมีสกิลพิเศษใดๆ
“ใช่แล้วครับ นี่มันเยี่ยมมากเลย และสำหรับสกิลนักแม่นปืน เท่าที่ผมพอรู้มา ว่ากันว่าฟังก์ชั่นของมันจะเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อเลเวลสกิลเพิ่มสูงขึ้น และผมก็ยังเคยได้ยินมาด้วยว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนกระสุนปกติให้กลายเป็นกระสุนมานาได้ด้วยนะครับ”
“กระสุนมานาหรอครับ? โอ้พระเจ้า ถ้าอย่างนั้นผมก็จะต้องทำงานหนักเพื่อยกระดับสกิลของผมซะแล้วสิ จากนี้ไป การล่าทั้งหมดจะต้องใช้ปืนเท่านั้น แบบนี้ดีไหมครับ?”
“นั่นเป็นสิ่งที่ดีเลยครับ แต่นั่นก็เป็นทางเลือกของฮันเตอร์ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาในการยกระดับสกิลของพวกเขา ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าคุณจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ในเรื่องสกิลนักแม่นปืนนะครับ หากคุณมุ่งเน้นไปที่สกิลนักแม่นปืน คุณก็จะกลายเป็นฮันเตอร์สายระยะไกล ถึงอย่างนั้น ยิ่งระดับของคุณสูงมากเท่าไร การล่าในปาร์ตี้หรือทำอย่างอื่นก็จะยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องยกระดับสกิลระยะประชิดของคุณให้เพิ่มตามขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกันด้วย เนื่องจากคุณมีร่างโคลนให้ใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงน่าจะง่ายกว่าเดิมเป็นล้านเท่าในการยกระดับสกิลต่างๆ นะครับ”
ซังวูพยักหน้าให้กับคำพูดที่สมเหตุสมผลของคังจุนโม
' ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สิ่งแรกที่ฉันตัดสินใจทำหลังจากได้รับสกิลร่างโคลนคือการมีค่าสถานะที่ดีที่สุดในหมู่ผู้ปลุกพลัง’
‘ ดังนั้นฉันจึงเอาแต่ฝึกฝนเพื่อเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดให้พัฒนาขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน’
‘แน่นอนว่าคนที่ฝึกจริงๆ แล้วก็คือร่างโคลนของฉันเอง’
“นอกจากนี้ ฮันเตอร์ที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งระยะไกลและระยะประชิดได้ด้วยตัวเองนั้นก็มีค่าตัวสูงมาก ดังนั้นโปรดพยายามให้มากขึ้นนะครับคุณฮันเตอร์”
คังจุนโมยิ้มด้วยรอยยิ้มที่มีนัยยะ
' อะไรกัน? รอยยิ้มนั่นทำให้ฉันขนลุกยังไงไม่รู้แหะ”
ซังวูรู้สึกขนลุกเป็นอย่างมาก
* * *
กิลด์อันดับ 1 ของเกาหลี สำนักงานใหญ่กิลด์ฮเยซอง
ในสำนักงานอันมืดมิดที่ทุกคนออกจากงานไปแล้วและไม่มีใครอยู่ที่นั่น จอภาพหนึ่งจอกำลังฉายแสงอยู่เพียงลำพัง
คนที่กำลังมองหน้าจอแสงสีฟ้าอยู่คือชินจินอุค หัวหน้าทีมจู่โจมที่ 1 ของกิลด์ฮเยซอง
เขากำลังเปิดอีเมลล์อ่าน
───────────────
ชื่อเรื่อง: ฮ่าฮ่า
จาก: ลี กีฮุน
ผู้รับ: ปาร์ค ชอลโฮ
ไฟล์แนบ: 20230914.xlsx
หัวข้อ: ไม่มี
───────────────
อีเมลนี้เป็นไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับฮันเตอร์ในประเทศที่ชินจินอุคได้รับมาเป็นประจำจากเจ้าหน้าที่ของสมาคมฮันเตอร์ที่เขาติดสินบน
เขาสามารถขอข้อมูลจากบริษัทข้อมูลได้ แต่คุณภาพนั้นก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจากข้อมูลที่เขาได้รับมาโดยตรงผ่านสมาคมฮันเตอร์ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงเลือกที่จะรับมาจากสมาคมฮันเตอร์โดยตรงเสียมากกว่า
' อีเมลนี้ไม่ได้ส่งมาในชื่อของฉัน และมันก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้'
ชินจินอุคดาวน์โหลดไฟล์และลบอีเมลล์อย่างเคยชิน
จากนั้นเขาก็เปิดไฟล์ที่เพิ่งดาวน์โหลดมา
มันมีข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคนที่มีใบอนุญาตฮันเตอร์ในประเทศและสกิลที่ลงทะเบียนไว้
มีฮันเตอร์ที่ลงทะเบียนแล้วหลายล้านคน
'ยกเว้นผู้ที่เซ็นสัญญาแล้ว...ยกเว้นเด็กเล็กบางคน...'
ชินจินอุคคัดกรองและจัดเรียงข้อมูลที่ได้รับมา
ไม่นานจากนั้น รายชื่อฮันเตอร์แรงค์ F ก็ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอ
“มาดูกันซิว่าครั้งนี้มีใครบ้างที่คุ้มค่าพอให้รับสมัคร”
ใช่แล้ว
ตอนนี้ชินจินอุคกำลังเลือกรายชื่อผู้สมัครอยู่
เนื่องจากเขาได้รับข้อมูลมาผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นเขาจึงต้องลงมือทำงานนี้ด้วยตัวเองแทนที่จะให้แผนกทรัพยากรบุคคลของกิลด์เป็นคนจัดการ
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยของชินจินอุคที่ชอบแก้ไขปัญหาของเขาด้วยตัวเขาเองเท่านั้น
'อัญเชิญค้างคาว ขนเข็ม เรืองแสง...? นี่มันขยะอะไรกันวะเนี่ย ผ่าน... นี่ก็ด้วย...'
───────────────
ชื่อ : จอง ซังวู
อายุ: 21
แรงค์: F
สกิล: ร่างโคลน
───────────────
ข้อมูลของซังวูปรากฎอยู่ที่นั่น
'...สกิลร่างโคลนหรอ?'
ชินจินอุคสนใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
เขาเคยเห็นฮันเตอร์ที่ใช้สกิลร่างโคลนมาก่อน
'...ฉันคิดว่าฉันเคยเห็นมันในทีวีอยู่นะ’
เขาเคยเห็นฮันเตอร์ที่มีสกิลในการอัญเชิญร่างโคลนมายาที่ดูเหมือนเขาทุกประการออกมา
มันเป็นสกิลที่น่าทึ่งที่สามารถสร้างภาพลวงตามากมายออกมาได้
' แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้มีพลังอะไร เพราะงั้นขอผ่าน'
เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าสกิลร่างโคลนนั้นมีพลังเช่นไร ชินจินอุคก็มองข้ามจองซังวูไปโดยทันที
เพียงเท่านี้ ซังวูก็ถูกเขี่ยทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
* * *
ตามคำแนะนำของคังจุนโม ซังวูจึงจัดตารางฝึกซ้อมและตารางการล่าของร่างโคลนของเขา
───────────────
*07:00~11:59
ซังวู: ตื่นขึ้นมา เรียกร่างโคลนออกมาใหม่ (ฝึกสกิลร่างโคลน)
ร่างโคลนที่เรียกออกมาใหม่: การทำร้ายตัวเองเพื่อฝึกพลังฟื้นฟู หลังจากนั้น ไปยิมใกล้บ้านของซังวูและออกกำลังกาย
ร่างโคลนที่ยังไม่ได้ถูกอัญเชิญออกมาใหม่: ทำร้ายตัวเองเพื่อฝึกพลังฟื้นฟูเช่นกัน หลังจากนั้น ไปยิมและฝึกศิลปะการต่อสู้
*12:00~00:00 น
ซังวู: ไปสถาบันหายใจมานา เมื่อถึงเวลา 20.00 น. ฝึกสกิลแฟมิเลียจนกว่าจะหมดแรง
ร่างโคลนทั้งสอง: คังจุนโมมารับพวกมันเพื่อพาไปออกล่า
*00:00~07:00
ซังวู: นอนหลับฝันดี
ร่างโคลน: ฝึกฝนเพื่ออัพเลเวลสกิล
───────────────
กำหนดการที่มีระบบระเบียบนี้ค่อนข้างมั่นคง
คังจุนโมอยากจะให้ซังวูร่วมฝึกด้วย แต่ซังวูก็ยื่นปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
“ถ้าคุณลงไปฝึกด้วย อัตราการเติบโตของคุณก็จะน่าทึ่งมากเลยนะครับ”
“แต่นั่น… ไว้ให้ร่างโคลนของผมทำจะดีกว่านะครับ”
ถึงกระนั้น คังจุนโมก็ดูเหมือนจะยังไม่ยอมแพ้
เมื่อกำหนดตารางเวลาแล้ว การสั่งงานต่างๆ ก็เริ่มกลายเป็นเรื่องง่าย
สิ่งที่เขาต้องทำก็คือตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วพูดกับร่างโคลนของเขาว่า 'ทำซ้ำกำหนดการของเมื่อวาน'
จากนั้น ร่างโคลนก็ทำซ้ำกิจวัตรของเมื่อวาน
แน่นอนว่าบางครั้งก็มีปัญหาเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดกรณีเหล่านั้นขึ้น คังจุนโมก็จะได้รับการติดต่อทันที และคำสั่งก็จะได้รับการแก้ไขเล็กน้อยในแต่ละครั้ง
ด้วยเหตุนี้เอง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องคอยมาจัดการกับร่างโคลนมากนัก ดังนั้นซังวูจึงเริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น
ซึ่งซังวูก็ใช้เวลาว่างไปกับการเที่ยวเล่นซะเป็นส่วนใหญ่
เนื่องจากเขาไม่ได้เล่นเกมแล้วในปัจจุบัน เขาจึงหันไปสนุกสนานกับการพบปะเพื่อนฝูง การเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน และประสบการณ์การหายใจมานา(?) หรือแม้กระทั่งการล่าผ่านร่างโคลนโดยใช้สกิลแฟมิเลีย
...
ในเวลานี้ ซังวูกำลังเล่นเกมอย่างสนุกสนานกับเพื่อนวิศวกรคอมพิวเตอร์รวมถึงคยองโดด้วย
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มมืด ซังวูก็ออกจากห้องคอมและเข้าไปในร้านอาหารใกล้ๆ กับเพื่อนๆ ของเขา
ขณะที่เขากำลังรออาหารที่สั่ง คยองโดก็พูดอะไรบางอย่างขึ้นมา
“ซังวู ช่วงนี้นายยังตั้งใจเรียนอยู่ไหม?”
“ฉันหรอ? ทำไมถามฉันแบบนั้น?”
“เอ่อ.. ก็พอฉันมองไปที่นายทีไร นายก็จะเอาแต่จีบผู้หญิงคนนั้นทางโทรศัพท์หรือไม่ก็เอาแต่งีบหลับ”
ซังวูมองย้อนกลับไปในความทรงจำของเขาก่อนหน้านี้
1. หลังจากตื่นนอนตอนเช้าและเดินเล่นออกกำลังกายแล้ว ฉันก็เรียกร่างโคลนของฉันอีกครั้ง ออกคำสั่งเล็กน้อยและเดินมาที่มหาวิทยาลัยให้ทันเวลาเข้าเรียน
2. ระหว่างเรียน เมื่อฮายอนส่งข้อความหาฉันในช่วงพัก ฉันก็จะตอบและคุยกับเธอเล่น เมื่อฮายอนกลับไปเรียน เขาก็เข้าเรียนและใช้สกิลแฟมิเลียเพื่อดูว่าร่างโคลนของเขากำลังทำอะไรอยู่
3. เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน เขาก็ไปกินข้าว
4. เมื่อเลิกเรียนก็ไปที่ห้องคอมหรือไปร้องคาราโอเกะ
5. วันไหนที่ไม่ได้มีสอนฮายอนต่อ เขาก็จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนหรือออกไปดื่มกัน
ซังวูพยักหน้าเงียบๆ โดยเอามือลุบคางไปมา
“อืม… ฉันเดาว่าช่วงนี้ฉันคงจะขี้เกียจไปหน่อยจริงๆ แหละ”
“ขี้เกียจไปหน่อยหรอ? พูดมาได้ไง? นายมันขี้เกียจจะตาย!”
“ถูกต้อง นายควรจะตั้งใจเรียนนะซังวู ไม่งั้นเกรดนายออกมาแย่แน่”
หัวข้อเกรดที่นักศึกษาต่างหวาดกลัวได้ผุดขึ้นมาแล้ว แต่กระนั้นซังวูก็กลับไม่ได้รู้สึกสั่นสะท้านแต่อย่างใด
เพราะอะไรน่ะหรอ? นี่เป็นเพราะการเป็นฮันเตอร์สามารถทำกำไรให้กับเขาได้อย่างน่าทึ่งยังไงล่ะ!!!
“ฉันว่าสิ่งที่ฉันต้องทำก็คือเรียนให้ได้เกรดพอใช้ได้และสำเร็จการศึกษาไปให้ได้ก็พอแล้ว”
“เอ๊ะ? นายไม่ได้อยากเป็นโปรแกรมเมอร์หรอ?”
“เอ่อ.. ฉันยังไม่ได้บอกนายหรอ? จริงๆ แล้วฉันเป็นฮันเตอร์”
คำสารภาพของซังวูเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
เมื่อพูดจบ ความเงียบก็เข้าปกคลุมร้านอาหาร
และหลังจากนั้นไม่นาน
“ไอ้ปัญญาอ่อน! ถ้านายเป็นฮันเตอร์ ฉันก็คงจะเป็นฮันเตอร์แรงค์ S แล้ว!”
“ส่วนฉันก็เป็นมังกร”
“ส่วนฉันคือจักรพรรดิหยก”
“พวกแกต่างหากปัญญาอ่อน!”
ไม่มีใครเชื่อเขา
ซังวูหัวเราะเบาๆ
จากนั้นเขาก็ยักไหล่แล้วตอบ
“จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่พี่ชายคนนี้จะมีอนาคตที่มั่นคงรออยู่อย่างแน่นอน”
“เฮ้ ดูความมั่นใจของนายสิ”
“พยาบาลคิมครับ คนไข้รายนี้ขาดยามานานแค่ไหนแล้วครับ?”
“หนึ่งสัปดาห์แล้วครับหมอ”
พวกเขากินข้าว, หัวเราะและพูดคุยกัน และซังวูก็เป็นคนจ่ายเงิน
จากนั้นเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันที่หน้าร้านอาหาร
เนื่องจากคยองโดและซังวูต้องกลับบ้านทางเดียวกัน พวกเขาจึงกลับไปด้วยกัน
ในเวลานั้นเอง คยองโดก็เปิดปากของเขา
“เฮ้ นายเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“หื้ม? เริ่มอะไร?”
“ก็ฮันเตอร์ไง”
ดูเหมือนว่าคยองโดจะเชื่อคำพูดของซังวู
“อ่า ก็เกือบหนึ่งเดือนแล้ว”
“แล้วแรงค์ไหนแล้ว?”
“เริ่มมามันก็ต้องแรงค์ F อยู่แล้วสิ”
จากนั้นคยองโดก็วางแขนของเขาลงบนไหล่ของซังวูแล้วพูดว่า
“เฮ้ เมื่อนายโกหก ดวงตาของนายจะมองไปทางซ้ายบนเสมอ ฉันคนนี้รู้จักนายมาหลายปีแล้ว และครั้งนี้ฉันก็รู้ว่านายพูดจริง”
“โอ้~ ฉันตกใจนิดหน่อยนะเนี่ย”
“ไอ้ห่วยนี่ ทุกวันนี้ฉันสังเกตเห็นนะว่านายเป็นคนจ่ายค่าอาหารทั้งหมด ฉันเดาว่านายคงทำเงินได้แล้วใช่ไหม”
“ฮ่าฮ่า ฉันจะโชว์อะไรให้นายดู รอเดี๋ยวนะ”
ซังวูเปิดสมาร์ทโฟนของเขาอย่างตื่นเต้นและเปิดแอพธนาคาร
[ ยอดคงเหลือ: 27,516,830 วอน]
ยอดคงเหลืออยู่ที่ 27 ล้านวอน
ซังวูโชว์สมาร์ทโฟนของเขาให้คยองโดดู
“ทาดา~ ฉันมี 27 ล้าน นายอิจฉาฉันไหมล่ะ?”
“...30 ล้านวอน? นี่คืออะไร?”
“ห้ะ? นายเอา 30 ล้านวอนมาจากไหน?”
ซังวูมองสมาร์ทโฟนของเขาอีกครั้งหลังจากได้ยินคำพูดของคยองโด
จากนั้นหน้าต่างป๊อปอัปการแจ้งเตือนใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนสมาร์ทโฟน
[ 30,134,570 วอนถูกโอนเข้ามาจาก JM เอเจนซี่ ]