ตอนที่แล้วบทที่ 68 : พรมแดนไร้เขต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 70: ทุกสิ่งสามารถมองเห็นได้

บทที่ 69: อุจิวะ โอบิโตะ คือใคร?


บทที่ 69: อุจิวะ โอบิโตะ คือใคร?

“คุไนอยู่ในมือเธอแล้ว และเจ้าหมอนี้ก็อยู่ในมือของฉันด้วย ในฐานะอาจารย์ ฉันจะให้คำแนะนำเธอแล้วกัน” ซาโตรุมองดูซาสึเกะอย่างเฉยเมย และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "การยืมมือของคนอื่นเพื่อเติมเต็มความฝันของเธอ สุดท้ายมันก็จะทำให้เธอกลับกลายเป็นเพียงคนไร้ความสามารถไปตลอดชีวิต"

“ถ้าเธอแก้แค้นสำเร็จก่อนที่จะแข็งแกร่งขึ้นเอง มันจะมีสิ่งใดเหลือในชีวิตของเธออีก?”

“ฉันจะเสนอทางเลือกให้เธอแล้ว เธอสามารถเลือกทางเดินได้เลยว่าจะเดินไปทางไหน” ซาโตรุกล่าว

เขาสามารถจัดการอิทาจิได้ในทันที

แต่ถ้าซาสึเกะยืมมือของเขาเพื่อแก้แค้น แล้วจุดมุงหมายชีวิตของซาสึเกะจะมีอะไรเหลืออยู่อีก?

สูญเสียแรงจูงใจที่จะแข็งแกร่งขึ้น สูญเสียความหมายของการมีชีวิตอยู่

เขาจะกลับไปเป็นดั่งตัวตนของเขาคนเดิมในอดีต

“อาจารย์ซาโตรุ ได้โปรดมอบความแข็งแกร่งให้ผมด้วย ผมจะแข็งแกร่งขึ้นให้ได้” ซาสึเกะปล่อยคุไนในมือ มองซาโตรุตรงหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะแบกรับความเกลียดชังทั้งหมดนี้ไว้ เพื่อสั่งสมความแข็งแกร่งอันทรงพลัง และสังหารอิทาจิด้วยมือของเขาเอง

“จงจำความรู้สึกของการถูกเหยียดยามเอาไ จำช่องว่างของความแข็งแกร่ง พวกมันจะกลายเป็นแรงผลักดันและพลังของเธอ” ซาโตรุยิ้ม

“แต่ถ้าเธอต้องการแข็งแกร่งขึ้น มันก็อยู่กับอารมณ์ของฉันด้วย” ซาโตรุกล่าวหยอกล้อ "ถ้าหากเธอสามารถเรียนรู้คาถามหารัญจวนของเจ้าเด็กจิ้งจอกได้ ฉันจะสอนเธอถึงขั้นตอนต่อไปของกระสุนวงจักร"

ที่จริงเขาแค่ล้อเล่น

ทว่ายามนี้ซาสึเกะตกอยู่ในความมืดมนและต้องการพลัง ต้องการความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจแล้วว่าต้องพึ่งพาซาโตรุเท่านั้น

เขาสามารถยอมทำได้ทุกอย่าง!

ใช่แล้ว ซาสึเกะนั้นจริงจังมาก

คุเรไนจ้องมองซาโตรุอย่างว่างเปล่า เธอกัดริมฝีปากของตนเองและพึมพำ “ซาโตรุ…”

เธอเชื่อมาโดยตลอดว่านักเรียนทั้งหลายคือเด็กที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่

ดังนั้นเธอจึงอยู่ที่นั่นเสมอ ช่วยเหลือนักเรียนในสิ่งที่พวกเขาทำ และไม่เคยสอนนักเรียนถึงอะไรที่นอกลู่นอกทาง

หากจะเปรียบเทียบเธอก็คงเป็นพ่อแม่ที่เอาใจใส่ แต่ซาโตรุต่างหากคือแสงสว่างที่นำทางเหล่าเด็กๆ

เพียงชี้ทางให้นักเรียน แล้วให้พวกเขาเลือกเส้นทางเอง

การสอนคนจับปลาย่อมดีกว่าให้ปลาไป

เป็นช่องว่างที่มากมายเหลือเกิน

คุเรไนตระหนักถึงช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเธอกับซาโตรุในฐานะอาจารย์

“โอบิโตะ หยุดเถอะน่า ฉันมองเห็นตั้งนานแล้ว” ซาโตรุเอามือปิดปากแล้วมองไปยังทางทะเลสาบที่อยู่ไกลออกไป

ทุกคนต่างตกตะลึง พวกเขามองดูทะเลสาบ แต่พวกเขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของใครสักคน

ทะเลสาบนั้นว่างเปล่า

อาจารย์ซาโตรุกำลังคุยกับใครอยู่?

“ผะ…ผีเหรอ!” ผิวของนารูโตะเปลี่ยนสีไปอย่างมาก ความกลัวได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ดูท่าเขาคงกลัวผีมาก

พื้นที่เริ่มบิดเบี้ยวเป็นเกลียว และชายสวมหน้ากากก็ยืนอยู่บนทะเลสาบ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำปักด้วยเมฆสีแดง และมีตาเพียงข้างเดียวเท่านั้นที่มองเห็นได้

เนตรวงแหวน

“อ่านจันทรานิรันดร์ของอิทาจิไม่สามารถทำอะไรกับนายได้ ความแข็งแกร่งของนายในยามนี้คงกลายเป็นเพดานของโลกนินจาอย่างแท้จริง” ท่าทีและคำพูดของโอบิโตะสงบมาก เขาจ้องมองไปที่ซาโตรุจากระยะไกลด้วยเนตรวงแหวนของเขา

เขาไม่เคยคิดเลยว่าซาโตรุจะสามารถเอาชนะอิทาจิและคิซาเมะ สองตัวตนที่มีความแข็งแกร่งระดับคาเงะได้อย่างง่ายดาย

ความแข็งแกร่งนี้ คงกลายเป็นเพดานของโลกนินจาแล้วกระมัง

กระทั่งโอบิโตะก็ยังยอมรับจากส่วนลึกของหัวใจเลยว่า ซาโตรุคือนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่

“อย่าถ่อมตัวให้มากนักเลย ความสามารถของนายก็ไม่ได้ด้อยเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?” ซาโตรุจับอิทาจิแล้วโยนไปทางโอบิโตะ

เขารู้ถึงความสามารถของโอบิโตะ ในแง่หนึ่ง มันก็คือการป้องกันตัวที่สมบูรณ์แบบ

[วงแหวนคามุย]

วงแหวนนี้มันค่อนข้างอันตราย แต่ก็มีจุดอ่อนมากมายเช่นกัน

“เอาหมาป่าตัวนี้กลับไป เพราเขาจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้ลูกศิษย์ของฉันแข็งแกร่งขึ้น” ซาโตรุกล่าว

โอบิโตะถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ซาโตรุ นายรู้ความลับมากมายแค่ไหนกันแน่?”

ที่เขาถามแบบนั้นก็เพราะยกเว้นอุจิวะ มาดาระที่ตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครในโลกนินจาที่สามารถรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาได้

แต่ทำไมซาโตรุถึงรู้ว่าเขาคืออุจิวะ โอบิโตะกัน?

ช่างแปลกมาก

“ฉันรู้ความลับเยอะแยะเลยล่ะ เช่น ไอ้นั้นของนายมีขนาดแค่สองนิ้วใช่ไหม?” ซาโตรุยกนิ้วก้อยขึ้นแล้วมองโอบิโตะด้วยความรังเกียจ

มุมปากของโอบิโตะกระตุกเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร อย่าเพิ่งท้อแท้นะ” ซาโตรุดูดอมยิ้มเบาๆ ยกคางขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มอันเยาะเย้ย "ของฉันอาจจะใหญ่ไปหน่อยจนเกินสะดือขึ้นมา คงทำให้นายรู้สึกด้อยกว่าสินะ"

ตาทิพย์ของเขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้

“ฉันจะพาอิทาจิไป แต่นายไม่คิดจะส่งอีกคนให้ฉันเหรอ?” โอบิโตะอุ้มอิทาจิโดยมีเขายืนอยู่ตรงกลาง พื้นที่รอบๆ บิดเบี้ยวเป็นเกลียว ก่อนจะจากไป เขาชำเลืองมองคิซาเมะที่สลบอยู่ตรงที่ไกลออกไป

“ไอ้ฉลามน้อยนี้ไม่มีค่าอะไร เพราะงั้นมันจะตายที่นี่” ซาโตรุประสานอิน และคิซาเมะก็ปรากฏตัวขึ้นที่เท้าของเขา

อิทาจิจะทำให้ซาสึเกะแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นมันจึงคุ้มค่าที่เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่ฉลามตัวนี้ไม่มีค่า ดังนั้นมันจะต้องตายที่นี่

“เหอะ นิสัยของนายนี้มันแย่จริงๆ” โอบิโตะเหลือบมองซาโตรุอย่างเย็นชา จากนั้นก็หายไปพร้อมกับพื้นที่มิติที่บิดเบี้ยว

การต่อสู้กับซาโตรุตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากการฆ่าตัวตาย

ตอนนี้คงต้องขอถอยก่อน

ส่วนคนที่ตายไป เขาคงทำได้เพียงหาวิธีชดเชยแก่พวกเขาเท่านั้น

ซากุระล้มลงกับพื้น ปาดเหงื่อเย็นออกจากคิ้วพลางถอนหายใจยาวๆ แล้วพูดว่า "เฮ้ออ ในที่สุดศัตรูก็ไปสักที"

"เหอะ หนีหางจุกตูดซะได้" นารูโตะยกมือกอดอกแล้วพูดด้วยความอวดดี “ถ้าเขาไม่วิ่งหนีไปก่อนนะ ฉันนี้แหละจะสอนบทเรียนให้พวกเขาไปแล้ว”

“คนเมื่อครู่นี้มีเนตรวงแหวนของตระกูลอุจิวะ เขาเป็นใครกัน?” ซาสึเกะสับสนมาก นั่นเพราะว่าหลังจากที่ตระกูอุจิวะถูกกำจัด มีเพียงเขาและอิทาจิเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่

ทำไมตอนนี้ยังมีคนที่สามโผล่มาอยู่อีกได้?

“อุจิวะ โอบิโตะ” ซาโตรุตอบ

“โอบิโตะคือใคร?” ซาสึเกะเอามือล้วงกระเป๋าแล้วมองซาโตรุด้วยใบหน้าเย็นชา

“เจ้าเด็กแสบ อย่าถามอะไรไร้สาระสิ ก็บอกไปแล้วว่าคืออุจิวะ โอบิโตะ” ซาโตรุพูดด้วยความรำคาญ

ยังถามว่าโอบิโตะคือใครอีกเหรอ?

เขาบอกชื่อไปแล้วไง จะถามอีกว่าเป็นใครเพื่อ

“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ซาสึเกะพูดไม่ออก แน่นอนว่าเขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอุจิวะ โอบิโตะ แต่คำถามคืออุจิวะ โอบิโตะคือใครต่างหาก?

“กล่าวรวบย่อก็คือ โอบิโตะเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างตระกูล” ซาโตรุกล่าว

“หนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดเหรอ งั้นก็หมายความว่ามีคนอื่นอีก?” ซาสึเกะจ้องมองซาโตรุด้วยใบหน้าเศร้าหมอง และถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่ามีใครอีกบ้าง!”

“ไอ้เด็กแสบนี้ ในฐานะอาจารย์ ฉันสอนให้เธอเคารพผู้หลักผู้ใหญ่และรักเด็กไม่ใช่เหรอ จะให้ฉันมาสอนนักเรียนที่ไม่สุภาพแบบเธอได้ยังไงกัน?” ซาโตรุแสร้งทำเป็นพูดไม่ออก

ในฐานะอาจารย์ ตัวเขาเองก็เคารพผู้หลักผู้ใหญ่และรักเด็ก แต่เพราะเหตุใดนักเรียนที่เขาสอนถึงหยาบคายขนาดนี้?

ทุกคนในหน่วยที่เจ็ดและคุเรไนต่างพูดไม่ออก พวกเขาได้แต่ลอบบ่นอยู่ในใจ

เคารพผู้หลักผู้ใหญ่งั้นเหรอ?

ซาโตรุเคารพคนสูงอายุตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เรียกคนแก่คนหนึ่งว่า "ตาแก่ซารุโทบิ" และเรียกอีกคนหนึ่งว่า "สุนัขชราดันโซ"

แถมเขาเองก็ยังต่อยและเตะเด็กนักเรียนอายุสิบสองปีอีก

ซาสึเกะระงับความโกรธในใจ เขากัดฟันแน่น หลังจากถอนหายใจเข้าออกยาวๆ เขาจึงกล่าวไปว่า “อาจารย์ซาโตรุ ได้โปรดบอกผมหน่อยเถอะครับ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด