ตอนที่แล้วบทที่ 69: อุจิวะ โอบิโตะ คือใคร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 71: โหมดเซียนโดยซาโตรุ

บทที่ 70: ทุกสิ่งสามารถมองเห็นได้


บทที่ 70: ทุกสิ่งสามารถมองเห็นได้

“ทำยังไงดีน๊า…ฉันจะบอกเธอก็ได้” ซาโตรุถูมือเข้าหากัน และพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “แต่เผอิญว่ากระเป๋าเงินของอาจารย์ซาโตรุที่แสนดีของเธอเพิ่งจะว่างเปล่าไปเมื่อไม่นานมานี้เอง”

“ไอ้หนูอุจิวะ พอมีวิธีดีๆ ที่จะเติมเงินในกระเป๋าของอาจารย์คนนี้ให้เต็มไหม?”

“ถ้ามีวิธีเติมให้มันเต็ม เดี๋ยวฉันจะบอกเรื่องที่อยากรู้ให้ก็ได้”

เขารู้ว่าไอ้เจ้าเด็กอุจิวะคนนี้ไม่มีเงิน เขาจึงจงใจพูดแบบนี้ออกมา เพราะตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ซาสึเกะจะรู้เรื่องนี้

ซาสึเกะล้วงมือในกระเป๋า สัมผัสไปที่กระเป๋าสตางค์ที่ว่างเปล่าและพ่นลมหายใจออกมา เพราะเขาเพิ่งตระหนักได้ว่าไม่มีเงินเลย "ฮึ่ม"

คนในทีมที่เจ็ดต่างแอบกระซิบกัน

'ผู้ใหญ่ทุกคนหน้าด้านกันมากขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?'

ซาโตรุผู้เป็นอาจารย์กลับไถเงินจากเด็กอายุ 12 ได้เก่งมาก

“ดีนะที่ครั้งนี้เธอไม่ตาย” ซาโตรุชำเลืองมองซากุระที่ถูกซาเมะฮาดะโจมตีอย่างหนัก

ถ้าคิซาเมะเอาจริงตั้งแต่แรก ทุกคนในทีมที่เจ็ดคงตายอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าซาโตรุไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต่อหน้าเขาหรอก

นารูโตะชี้ไปที่ซาโตรุแล้วตะโกนด้วยความโกรธ “ไอ้อาจารย์บ้านี้ กล้าพูดอะไรงี้ออกมาได้ไง! เราถูกซ้อมหนักมากเลยนะ แต่แอบดูตั้งแต่ต้นเหมือนกับดูละครเนี่ยนะ!”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ การรอดชีวิตก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว” ซาโตรุโบกมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางเบา “มานี่ๆ ฉันจะจัดการให้เอง”

ทุกคนในทีมที่เจ็ดไม่ออก การรอดชีวิตก็ถือเป็นเรื่องดีแล้วงั้นเหรอ?

นี่คือสิ่งที่อาจารย์ควรจะพูดใช่ไหม?

ไม่นานนัก ซาโตรุก็รักษาอาการบาดเจ็บให้ทีมที่เจ็ดเสร็จเรียบร้อย

“คุเรไนจัง พาเจ้าฉลามเหม็นนั่นไปที่หน่วยทรมาน คงจะได้ข้อมูลบางอย่างกลับมาด้วย” ซาโตรุเตะคิซาเมะออกไปให้มันอยู่ต่อหน้าคุเรไน

“ส่วนดาบเล่มนี้” ซาโตรุหยิบซาเมะฮาดะขึ้นมา เขามองดูดาบที่ดูเหมือนสิ่งชีวิต คมกริบและดูเหมือนเม่น

ตาทิพย์สามารถมองทะลุถึงรากเหง้าของทุกสิ่ง

ด้านในของซาเมะฮาดะมีผนึกแปลกๆ สลักอยู่ ผนึกนี้สามารถกลืนจักระและส่งต่อไปยังผู้ใช้งานดาบได้

มันถูกเรียกว่าดาบ แต่มันเหมือนกับสัตว์อสูรมากกว่า

"ของเล่นน่าเบื่อแบบนี้ เอาไปขายหาเงินดีกว่า" ซาโตรุบีบคางและพึมพำอย่างจริงจัง “ฉันควรจะเรียกเงินจากหมู่บ้านคิริสินะ”

คุณค่าของดาบสะบั้นเศียรนั้นไม่สามารถเทียบกับซาเมะฮาดะได้เลย

ในบรรดาดาบนินจาเจ็ดเล่มในหมูบ้านคิริ ซาเมะฮาดะถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษมาก

หากขายซาเมะฮาดะให้กับหมู่บ้านคิรินั่น ถึงแม้ว่าเทรุมิ เมอิจะรู้ว่าเธอถูกโกง แต่เธอก็คงยินดีซื้อซาเมะฮาดะในราคาที่สูงแน่

หากราคาเริ่มต้นที่ 100 ล้านเรียว ถ้าขู่เพิ่มนิดหน่อย เขาก็คงน่าจะขายได้ในราคาประมาณ 200 ล้านเรียว

“ซาเมะฮาดะ หนึ่งในดาบเจ็ดนินจานั้นมองว่ามันเป็นแค่ของเล่นเหรอ? มีเพียงนายเท่านั้นแหละที่สามารถพูดอะไรแบบนี้ได้” แม้แต่คุเรไนที่คุ้นเคยกับนิสัยอันไม่สนใจโลกของซาโตรุก็ยังอดไม่ได้ที่จะบ่น

เธอได้ยินมาว่าซาเมะฮาดะเป็นสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเจ็ดดาบนินจา

ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนในหมู่บ้านคิริต่างใฝ่ฝันที่จะได้ดาบเล่มนี้

แต่ซาโตรุกลับไม่ชอบมันและเรียกมันว่าของเล่นเหรอ?

ช่างกล้าเหลือเกิน

ซาโตรุแสร้งทำเป็นกำลังคิดและพูดอย่างจริงจังว่า "ในสายตาของนินจาธรรมดาๆ ดาบเล่มนี้คงจะแข็งแกร่งมากเลยใช่ไหม?"

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจว่าซาเมะฮาดะแข็งแกร่งแค่ไหน

เพราะเขาแข็งแกร่งในทุกด้าน ทั้งการโจมตี ความเร็ว การป้องกัน จักระ การรักษาตนเอง และอื่นๆ

“… นินจาธรรมดาเหรอ?” คุเรไนกำหมัดของเธออย่างเชื่องช้า แววตาของเธอแสดงถึงความโกรธออกมา ราวกับว่ามันกำลังมีไอดำลอยออกมาจากด้านหลังเธอ เธออยากจะกัดซาโตรุอย่างแรงสักครั้งจริงๆ

จริงอยู่ที่เธอชอบซาโตรุ แต่จำเป็นที่จะต้องเยาะเย้ยกันขนาดนี้ด้วยเหรอ?

คุเรไนกัดอมยิ้มเบาๆ แล้วพยายามระงับความโกรธในใจ จากนั้นเธอก็มองซาโตรุที่มีสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร “ก็จริง ถูกต้องเลย ต่อหน้าผู้ที่มีแข็งแกร่งแบบนาย พวกเราก็เป็นแค่นินจาธรรมดาๆ ตัวเล็กๆ”

“พวกเรานินจาตัวเล็กๆ ทุกคนต่างพยายามอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อเอาชีวิตรอดผ่านมาจากแต่ละภารกิจ”

“ไม่เหมือนกับนายเลยซาโตรุ ที่ทั้งเป็นอิสระและเกียจคร้านตลอดทั้งวัน ทำร้ายผู้หญิงคนนี้และทำร้ายผู้หญิงคนนั้นตลอด”

คุเรไนนึกถึงภาพที่ซาโตรุลวนลามผู้หญิงคนอื่น ความหึงหวงพลันผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจ

“คนนิสัยเสียที่เอาแต่ดักลวนลามสาวๆ ไปทุกที่” หลังจากที่คุเรไนพูดจบ เธอก็สะบัดหน้าไปทางอื่นและตะคอกอย่างเย็นชา "ฮึ่ม"

ทุกคนในทีมที่เจ็ดตกใจเล็กน้อย พวกเขามองดูคุเรไนด้วยความสงสัย

อาจารย์คุเรไนที่มีนิสัยหนักแน่นคนนั้น เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญและเข้มแข็ง เธอคือแบบอย่างที่สาวๆ หลายคนในหมู่บ้านชื่นชอบ

แต่ตอนนี้อาจารย์คุเรไน...เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?

ซากุระคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เธอเคยเห็นภาพที่คล้ายกันมาก่อน ในช่วงเวลาที่พ่อแม่ของเธอหย่าร้าง แม่ของเธอนั้นยืนกรานที่จะกลับไปบ้านเกิดของแม่

ภาพนั้นเหมือนกับตอนนี้เลยไม่มีผิด!

เป็นไปได้ไหมว่า…

หลังจากคิดถึงความเป็นไปได้แล้ว ซากุระก็มองไปที่คุเรไนด้วยสีหน้ากระอักกระอวน จากนั้นจึงมองไปที่ซาโตรุ

เป็นไปได้ไหมที่อาจารย์คุเรไนจะชอบอาจารย์ซาโตรุ?

“กินอมยิ้มหมดแล้วยังคาบไม้ไว้ที่ปากอีกเหรอ? เธอเป็นโจรยุคไหนกันเนี่ย?” ซาโตรุมองไปทางคุเรไน

“ฉ...ฉันก็แค่ลืมทิ้งไปเอง มันเป็นเพราะว่านายมายุ่งวุ่นวายต่างหาก” คุเรไนหน้าแดงเล็กน้อย ดวงตาเผยความเขินอายออกมา เธอรีบวางไม้อมยิ้มลงบนพื้นทันที

ถ้าซาโตรุไม่พูด เธอคงจะลืมไปแล้วจริงๆ

เมื่อกิน 'อมยิ้ม' ของซาโตรุเสร็จแล้ว แต่มันก็ยังมีไม้อมยิ้มอยู่ในปากของเธอ

ช่างน่าอายเกินไปแล้ว!

“ว่าแต่ไอ้ที่นายพูดถึงสองนิ้วกับยาวเกินสะดือคืออะไรกัน?” คุเรไนเปลี่ยนเรื่องและโยนแว่นกันแดดกลับไปให้ซาโตรุ

ซาโตรุสวมแว่นกันแดด วางมือบนไหล่ของคุเรไนและกระซิบข้างหูของเธอว่า “เธอเองน่าจะรู้ใช่ไหมฉันสามารถมองทะลุทุกอย่างได้ด้วยดวงตา?”

"ฉันรู้" ก่อนที่คุเรไนจะพูดจบ เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าซาโตรุสามารถมองทะลุเข้าไปได้ ร่องรอยของความอับอายและความโกรธปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ

มองทะลุทุกอย่าง..

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือซาโตรุสามารถเห็นภายในผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านได้!

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ในอดีต แม้จะมีผู้หญิงสวยๆ หลายคนมาล่อลวงซาโตรุ แต่ซาโตรุกลับมีท่าทีที่ไม่สนใจ

เพราะเขาเห็นจนพอแล้ว!

“หันหน้าไปทางอื่น อย่ามามองฉันนะ!” คุเรไนพับขาของเธอโดยไม่รู้ตัว ใช้มือปิดร่างกายของเธอไว้ และจ้องมองซาโตรุด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ

"อย่าอายไปเลย" ซาโตรุกระซิบข้างหูคุเรไน แสร้งทำเป็นพูดด้วยน้ำเสียงลามก “ชุดดำน่ะเหมาะกับเธอมาก”

ตาทิพย์ของเขานั้นมีพลังเหนือทุกอย่าง

เขาปรับค่าการมองจนถึงจุดที่มองเห็นทุกอย่างได้เลย

"ก็สนุกมาสักพักแล้ว" ซาโตรุปรบมือ มองดูทีมที่เจ็ดแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะเจ้าพวกเด็กแสบ ถึงเวลาออกเดินทางกันแล้ว"

“เย้ ในที่สุดฉันก็จะได้ออกจากหมู่บ้านอีกครั้งแล้ว!” นารูโตะส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้นและตั้งตารอที่จะได้ออกเดินทางนอกหมู่บ้าน

“ไอ้เจ้าโง่นี้ เราจะออกไปทำภารกิจนอกหมู่บ้าน นายคิดว่าเราจะไปเดินเล่นกันหรือไง?” ซาสึเกะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“แน่นอน ฉันรู้อยู่แล้วน่า” นารูโตะพูดอย่างไม่พอใจ

ซากุระมองดูทีมที่เจ็ดที่กลับมาเป็นปกติแล้วแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอขอบคุณซาโตรุจากใจจริงๆ หากไม่มีซาโตรุ มันก็คงเป็นเรื่องยากมากสำหรับทีมที่เจ็ดที่จะมีชีวิตรอดไปได้เช่นนี้

ซาสึเกะและนารูโตะเกือบตายกันไปแล้ว

“อย่ามองซากุระนะ เธอยังเด็กอยู่!” คุเรไนจับใบหน้าของซาโตรุ บังคับให้เขาเบือนหน้าไปทางอื่น

ซากุระยังเป็นเด็กสาวอายุ 12 ขวบ เป็นเด็กแค่อายุ 12 ขวบ อย่าบอกนะว่าซาโตรุ...?

"อะไรงั้นเหรอคะ?" ซากุระเอียงหัวของเธอด้วยความสับสน

“ยัยนี้มันก็แค่เด็กเหลือขอ ไม่มีอะไรน่าสนใจให้ดูสักหน่อย” ซาโตรุถึงกับพูดไม่ออก

“จริงสิ บอกคนในหมู่บ้านให้เตรียมป้ายต้อนรับซึนะจังด้วยนะ” หลังจากที่ซาโตรุพูดจบ เขาก็คว้าเด็กเหลือขอทีมที่เจ็ดขึ้นมาแล้วหายตัวไปทันที

“ไอ้บ้านี้” คุเรไนก็กำหมัดแน่นด้วยสีหน้าแดงก่ำและตะโกนเสียงดังว่า "ซาโตรุ ไอ้เจ้าคนสารเลวน่ารำคาญ!"

ทุกครั้งที่เธอคุยกับซาโตรุ เธอทั้งรู้สึกโกรธและเขินอายตลอดเวลาเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด