ตอนที่แล้วตอนที่ 19 : ลู่หมิงคือคนดี (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 : ฮีโร่โดยกำเนิด

ตอนที่ 20 : ลู่หมิงคือคนดี (2)


ตอนที่ 20 : ลู่หมิงคือคนดี (2)

หลังจากชั่งน้ำหนักว่าจะช่วยหรือไม่ ลู่หมิงก็ตัดสินใจเปิดหน้าต่างออกครึ่งหนึ่ง

ซอมบี้นับร้อยตัวได้ล้อมเมืองเอาไว้แล้ว ปัญหานี้จะต้องได้รับการแก้ไข

แน่นอนว่าเขายังได้คิดถึงความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายอาจจงใจใช้งานเขา แต่เขาก็ปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

ความจริงที่ว่าหวังซ่งสามารถดึงดูดซอมบี้มากมายขนาดนี้เข้ามาได้ในระยะเวลาสั้นๆ ได้บ่งบอกแล้วว่ามันมีซอมบี้อยู่แถวๆ นี้ และสำหรับลู่หมิง ซอมบี้ที่อยู่ใกล้ๆ ทุกตัวก็อาจเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้ ดังนั้นมันจึงสะดวกกว่าที่จะล่อพวกมันออกมาจัดการในทีเดียว!

นอกจากนี้หวังซ่งยังมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ และลู่หมิงก็ไม่อาจควบคุมเขาได้ เขาจะสร้างเซฟเฮาส์ใกล้บ้านของลู่หมิง ลู่หมิงก็ไม่อาจว่าอะไรได้ เมื่อเขาออกไปทำอะไรข้างนอก ลู่หมิงก็ไม่อาจแทรกแซงได้เหมือนกัน แม้ว่าเขาจะลากซอมบี้กลับมาที่เซฟเฮาส์ของเขา มันก็ไม่ผิดอะไร และลู่หมิงก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย

สิ่งที่ลู่หมิงสามารถทำได้และต้องทำก็คือการกำจัดซอมบี้ทั้งหมดที่อยู่ใกล้บ้านของเขา ในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลความปลอดภัยของเขาเองด้วย

“ซอมบี้ทุกตัวที่ฉันฆ่าหมายถึงซอมบี้ยักษ์ที่จะลดลงหนึ่งตัว!”

มันไม่มีอะไรผิดปกติกับสิ่งนี้เลย!

“ปัง!”

เสียงของหนังสติ๊กดังขึ้นเป็นจังหวะ และหวังซ่งก็ร่วมมือกับลู่หมิงที่กำลังล่อซอมบี้ไปยังป้อมปราการชั่วคราวที่ทำจากกำแพงและถังขยะตั้งแต่เช้า

หวังซ่งตะโกนออกมาเป็นครั้งคราว เพื่อดึงดูดความสนใจจากซอมบี้เข้ามา ซึ่งช่วยปกป้องความปลอดภัยของลู่หมิงได้เป็นอย่างดี

เมื่อเห็นว่าหวังซ่งก็ใช้ได้เหมือนกัน ลู่หมิงก็อดพยักหน้าไม่ได้

เด็กคนนี้ดูจะไม่มีเจตนาร้ายใดๆ เลย

งั้นมันก็ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานโหมดป้องกันตัวเอง

หวังซ่งคือผู้ตื่น สมรรถภาพทางร่างกายของเขามีมากกว่าซอมบี้ทั่วไปประมาณสองเท่า และเขาก็มีประสบการณ์การต่อสู้ประมาณหนึ่งเลย

ส่วนลู่หมิง สิ่งที่น่ากลัวของเขาไม่ใช่ค่าสถานะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นทักษะการยิงหนังสติ๊กระดับเจ็ดที่ทำให้ลู่หมิงมีความสามารถในการสังหารระยะไกลที่อันตรายมากๆ

เมื่อทั้งสองร่วมมือกัน ด้วยการมีหวังซ่งเป็นโล่และลู่หมิงเป็นตัวสร้างความเสียหาย ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซอมบี้ฝูงใหญ่ก็ถูกกวาดล้างไปจนหมด

หวังซ่งหอบหายใจหนัก และเหมือนจะหมดแรง ส่วนลู่หมิงก็รู้สึกปวดข้อมือขึ้นมาเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือทักษะการยิงหนังสติ๊กของเขาก็ได้เลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับแปด (98/800) แล้ว ไม่เพียงแต่การควบคุมของเขาจะดีขึ้นมาก แต่ค่าสถานะความว่องไวของเขายังเพิ่มขึ้นเป็น 0.8 หน่วยด้วย!

“สุดยอดเลยพี่ชาย!”

เมื่อหวังซ่งเดินมาทางบ้านของลู่หมิง เขาก็ชูนิ้วโป้งให้ลู่หมิงที่อยู่บนชั้นสอง อย่างไรก็ตาม ลู่หมิงก็ปิดหน้าต่างและดึงแผ่นเหล็กลงมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจหวังซ่งเลย

หวังซ่งหน้าชาไปเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ปลอบตัวเองด้วยการกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนรักสันโดษนะ”

หลังจากพึมพำออกมาแล้ว เขาก็พูดต่อออกมาอีก “แต่เขาก็เป็นคนดี เป็นคนดีจริงๆ”

เขาหันไปและกลับไปยังเซฟเฮาส์ของตัวเอง

“สถานการณ์ตอนนี้คือพวกซอมบี้ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสนามรบได้กระจายตัวออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด”

“มันมีซอมบี้จำนวนมากเหลืออยู่ตรงนั้น แต่ผมก็ระบุจำนวนที่แน่นอนไม่ได้เหมือนกัน”

เมื่อจำนวนเกินพัน มันก็เป็นเรื่องยากแล้วที่จะประเมินจำนวน อย่างไรก็ตาม เมิ่งเจียและจางหลี่ซินก็เข้าใจความหมายของหวังซ่ง

มันหมายความว่าพวกเขายังอยู่ห่างไกลจากรถหุ้มเกราะและอาวุธ และยังมีอุปสรรคที่ขวางกั้นอยู่ด้วย

ซอมบี้ที่พวกเขาสังหารไปในวันนี้เทียบได้แค่กับน้ำเพียงหยดเดียวในถังน้ำถ้าประเมินจากฝูงซอมบี้ที่อยู่ด้านนอก พวกเขาคิดว่าเมื่อจัดการกับซอมบี้ยักษ์แล้ว มันก็คงจะไม่มีอุปสรรคอะไรอีก แต่ใครจะรู้ว่าซอมบี้ยักษ์เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น…

ในขณะที่กำลังกินข้าว หวังซ่งก็กล่าวว่า “นี่คือสถานการณ์ในตอนนี้ แม้ว่าจะมีความช่วยเหลือของพี่หนังสติ๊ก แต่มันก็คงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการซอมบี้จำนวนมากมายขนาดนั้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ และถ้าผมออกไปล่อซอมบี้อีก มันก็คงจะอันตรายแน่ๆ พวกเราต้องคำนึงถึงเรื่องอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมิ่งเจียก็ไม่อาจคิดแผนดีๆ ได้เหมือนกัน และจางหลี่ซิน เจ้าหน้าที่ของกองทัพก็ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“หลังจากหอคอยปรากฏขึ้น การสื่อสารทั้งหมดก็ถูกตัดขาด และระบบระบุตำแหน่งก็ไม่ทำงานอีกต่อไป แม้แต่เครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุและวิทยุของกองทัพก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว… ที่พักพิงคงจะรู้ว่าทีมของพวกเรามีปัญหาแล้ว แต่มันก็ไม่มีช่องทางติดต่อกันได้ ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเขาจะส่งกำลังเสริมมาช่วยพวกเราไหม”

แม้ว่าพวกเขาจะอยากส่งกำลังเสริมมาช่วย แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะส่งมาตรงไหน…

หวังซ่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าไปคำโต เช็ดปาก และกล่าวว่า “นั่นเป็นเหตุผลให้ผมมีไอเดียหนึ่ง ตอนนี้เรามาปักหลักกันอยู่ที่นี่และค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปกันเถอะ หลังจากพวกเราจัดการกับฝูงซอมบี้และได้รับรถหุ้มเกราะและอาวุธมาแล้ว พวกเราก็ค่อยวางแผนกันต่อ”

“เพราะยังไงมันก็มีผู้ตื่นถึงสองคนอยู่แุถวนี้ ซึ่งก็คือพี่หนังสติ๊กและผม แม้ว่าพี่หนังสติ๊กจะไม่ชอบคุยกับใคร แต่เขาก็เป็นคนดีและน่าเชื่อถือมาก ดังนั้นแถวนี้คงปลอดภัยแน่ๆ”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่า ‘คนดี’ และ ‘น่าเชื่อถือมาก’ ทั้งจางหลี่ซินและเมิ่งเจียก็พยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ทั้งสองจึงเห็นด้วยกับความเห็นของหวังซ่ง

การเอาชีวิตรอดควรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

แม้ว่าพวกเขาอยากจะทำภารกิจให้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ต้องเอาชีวิตรอดไปให้ได้ก่อน

บ่ายสามโมงกว่าๆ ของวันนั้นเอง

ในขณะที่ลู่หมิงเพิ่งฝึกการใช้อาวุธเย็นเสร็จ เขาก็ได้ยินเสียงออดประตูอีกครั้ง

เขาเดินไปที่ประตู เปิดหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ และเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชอบธรรม

“มีอะไร?”

เมื่อได้ยินเสียงของลู่หมิงจากอินเตอร์คอม หวังซ่งก็ยิ้มและกล่าวว่า “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากมาทักทายเฉยๆ พวกเราตัดสินใจที่จะอยู่แถวนี้ไปสักพัก จากนี้เป็นต้นไป พวกเราถือว่าเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว พวกเรามาดูแลกันและกันดีกว่า”

ลู่หมิงกล่าว “ตามใจเลย”

จะเป็นเพื่อนบ้านหรือไม่ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับลู่หมิง

แต่การที่คนเหล่านี้มาที่บ้านของเขาวันละ 2-3 ครั้งก็เริ่มทำให้เขารู้สึกรำคาญอยู่เหมือนกัน

“ว่าแต่พี่ชายชื่ออะไรเหรอ?”

“ลู่หมิง”

“ผมชื่อหวังซ่งนะครับ และเพื่อนอีกสองคนของผม คนที่เป็นทหารชื่อจางหลี่ซิน และนักวิจัยที่เป็นผู้หญิงก็ชื่อเมิ่งเจีย”

“โอ้~~”

หลังจากลู่หมิงพูดจบ มันก็มีเสียง ‘ตี๊ด’ ดังขึ้น

มันเป็นลู่หมิงที่วางสายไปนั่นเอง

คราวนี้หวังซ่งก็มั่นใจเต็มที่แล้ว

“พี่ลู่หมิงคงจะเป็นคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวของเขาจริงๆ…”

เขากดออดประตูอีกครั้ง

“อะไรอีก?” คราวนี้ เสียงของลู่หมิงเต็มไปด้วยความโมโห

เขาไม่สนใจว่าหวังซ่งและเพื่อนของเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหน ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้พักอยู่ในบ้านของเขาก็พอแล้ว แต่การที่พวกเขามารบกวนลู่หมิงวันละหลายๆ ครั้งมันหมายความว่ายังไงกัน?!

หวังซ่งยิ้มและกล่าวว่า “เปล่าครับ”

หลังจากนั้นเขาก็ชูมือขวาขึ้นมา และลู่หมิงก็เห็นว่าหวังซ่งกำลังถือกระเป๋าใบเล็กๆ เอาไว้ในมือขวา

“กระสุนหนังสติ๊กน่ะครับ ตอนที่พวกเราเก็บกวาดถนนก่อนหน้านี้ พวกเราจึงได้เก็บลูกบอลเหล็กบางส่วนกลับมาด้วย ผมจะทิ้งไว้หน้าประตูนะครับ พี่ค่อยมาเก็บไปละกัน”

“และผมเพิ่งเจอเครื่องกลึงเหล็กอยู่ใกล้ๆ นี้ พี่จางบอกว่าเขาสามารถใช้มันผลิตกระสุนให้พี่ได้ เดี๋ยวผมจะเอามาให้นะครับถ้าพี่จางทำเสร็จแล้ว”

ลู่หมิงเงียบไปสักพักก่อนที่จะพูดออกมาอย่างช้าๆ ว่า “ขอบคุณมากนะ”

กระสุนสำคัญจริงๆ เพราะของสิ่งนี้เป็นของใช้งานที่จะหมดไปในที่สุด

แม้ว่าความสามารถในการผลิตกระสุนของหวังซ่งจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความต้องการเร่งด่วนของลู่หมิงได้อย่างหมดจด แต่มันก็ทำให้เขาสะดวกขึ้นมากเลย

“งั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ”

หลังจากนั้นหวังซ่งก็เดินจากไป

ลู่หมิงเปิดประตูออกมาอย่างเงียบๆ และคว้าถุงกระสุนเข้ามาเมื่อเขามั่นใจแล้วว่าหวังซ่งได้เดินห่างออกไปแล้ว

จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปบนชั้นสองและเปิดช่องสังเกตการณ์เพื่อมองออกไปยังถนน

เขาเห็นหวังซ่งและจางหลี่ซินกำลังขนศพของซอมบี้ออกไปทีละตัว

สิ่งนี้ทำให้ลู่หมิงพยักหน้าเล็กน้อย

เขาเคารพพนักงานสุขาภิบาลมาโดยตลอด เพราะใครล่ะจะไม่อยากให้ถนนหน้าบ้านของตัวเองสะอาด?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด