บทที่ 54: เชื่อมโยง
บทที่ 54: เชื่อมโยง
“นายว่าเราจะยังถูกด่าไหมถ้าบอกหัวหน้าว่าชายชาวจีนที่วิ่งเร็วมากได้ทำรอยบุบแบบนี้ขึ้นมา?”
“นายคิดยังไงล่ะ? ลืมไปหรือเปล่าว่าเราต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะให้เขามอบหมายรถคันใหม่ให้เรามาได้?”
"เวรเอ้ย!"
...
เมื่อมองย้อนกลับไปยังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ห่างไกลมาก อาซิงก็ค่อยๆ หยุดวิ่งลง แม้ว่าร่างแยกจะไม่มีเรื่องค่าแรงกาย แต่ร่างแยกก็กินจักระของไรอันเป็นกำลัง นอกจากนี้ [มิซึกิ] ที่เป็นแค่ตัวประกอบยังมีจักระอยู่ไม่มากอีก ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามประหยัดแรงบ้าง
"ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"
ในร้านขายของเก่า หลังจากรับรู้เรื่องราวทั้งหมดผ่านร่างแยกของเขา ไรอันก็ปวดหัวจริงๆ
เพราะว่าเป็นร่างแยก อาซิงย่อมไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนอยู่แล้ว แถมเขาก็ไม่เคยพบกับสถานการณ์แบบนั้นมาก่อนเลยนับตั้งแต่เขาปรากฏตัวเป็นอาซิง ทว่า นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่ภาพยนตร์ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กที่นี่จึงไม่ได้ทำงานเหมือนในภาพยนตร์ ที่จะรอให้แค่ซูเปอร์ฮีโร่มาช่วย
ในโลกความเป็นจริง ในยามที่ยังไม่มีอิทธิพลของพวกเหนือมนุษย์แพร่หลาย กรมตำรวจนิวยอร์กยังถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของนิวยอร์ก ทั้งในการไล่ตามร่างแยกจอมโจรคิดของเขาและในการไล่ตามร่างแยกพี่ห้าอาซิง
ครืด--
ร่างแยกอาซิงเพิ่งยืนยันสถานการณ์กับเขาเมื่อครู่ แต่เสียงยางบนพื้นพร้อมกับกลิ่นใหม่ก็ผุดขึ้นมา มีรถตำรวจได้เข้ามาจอดด้านข้างเขาแล้ว มิสตี้ลงจากรถพร้อมปืนที่เล็งไปทางอาซิง "นี่ตำรวจนิวยอร์ก! อย่าขยับ!"
จากอีกด้านหนึ่งของรถ ราฟาเอลก็ลงมาและเดินเข้าไปหาอาซิงจากอีกด้านหนึ่ง พวกเขาขนาบข้างอาซิง
ทั้งซ้ายและขวา เขาได้แต่เหลือบมองคนสองคนที่อยู่รอบๆ ตัวเขา มองผิวเผิน มันอาจดูเหมือนว่าอาซิงจะไม่มีทางหนีแล้ว
แต่ในความเป็นจริง ถ้าไรอันอนุมัติ อาซิงสามารถใช้ขาเหล็กอันยิ่งใหญ่เตะให้พื้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้เลย
ทว่าไรอันที่อยู่ในร้านขายของเก่าก็เท้าคางของตนและคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้น เขาก็ได้บอกให้ร่างแยกอาซิงหยุดต่อต้าน
“ก็ได้ ฉันยอมแพ้แล้ว”
แม้ว่าร่างแยกจะแสดงท่าทีให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟัง แต่หลังจากที่เห็นเขาวิ่งเร็วกว่ารถ ก็เห็นได้ชัดว่ามิสตี้และราฟาเอลยังไม่ลดการระวังลง เมื่อมองหน้ากันเงียบๆ ราฟาเอลก็หยิบกุญแจมือออกมาพร้อมกับเดินตามหลังอาซิงและใส่กุญแจมือไว้
"ฟิ้ว!"
พอจับร่างแยกได้ ราฟาเอลและมิสตี้ต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอย่างไม่รู้ตัว
“จะเครียดอะไรกันขนาดนั้น ฉันก็ให้ความร่วมมือแล้วเนี่ย”
"คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด" หลังจากใส่กุญแจมือร่างแยกได้สำเร็จ ก็เห็นได้ชัดว่าร่างแยกกลับมามีความมั่นใจแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของอาซิง ราฟาเอลกลับรู้สึกเหมือนตนกำลังโดนดูถูกอยู่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพูดว่า "คุณถูกจับเพราะกิจกรรมที่น่าสงสัย ปฏิเสธการร่วมือหรือหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่จากการจับกุม ดูจากความเสียหายที่คุณได้ทำกับรถคันนั้น ก็ถือว่าต่อต้านการจับกุมแล้ว"
ขณะที่เขาพูด ราฟาเอลก็ค้นร่างของอาซิงและไม่พบอะไรเลย
"ไม่มีอะไรอยู่บนตัวเขา แม้แต่บัตรประจำตัวก็ด้วย"
เมื่อหันไปหามิสตี้ เขาก็ส่ายศีรษะให้
พอเห็นเช่นนั้น มิสตี้ก็ขมวดคิ้ว “พาเขาไปสอบปากคำก่อนเถอะ”
...
"อืม?"
ณ นิวยอร์ก นอกห้องสอบสวนของสำนักงานตำรวจ
ราฟาเอลส่งกาแฟให้มิสตี้และถามขณะเดินออกไป
"ไม่ได้เรื่องอะไรเลย" มิสตี้ที่เพิ่งสอบสวนอย่างเหน็ดเหนื่อยก็ส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ เธอจิบกาแฟและพูดออกมาว่า "เขาตอบคำถามทุกอย่าง แต่หลังจากฉันตรวจสอบแล้ว เผิงไหลที่เขาพูดถึงมันก็เป็นเพียงแค่สถานที่ในตำนานของจีน มันไม่มีอยู่จริงในโลกความเป็นจริงเลย"
“บางทีเขาอาจโกหกเพื่ออ้างว่าตนวิกลจริตหรือเปล่า? คงเป็นวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เราส่งเขากลับไปยังประเทศจีนล่ะมั้ง”
คำอธิบายของราฟาเอลมีเหตุผลมาก แต่มิสตี้ก็ยังไม่เข้าใจที่อาซิงสามารถวิ่งได้เร็วกว่ารถ
“แล้วถ้าเผิงไหลอาจมีตัวตนอยู่จริงๆ ล่ะ เราจะอธิบายที่เขาวิ่งเร็วกว่ารถได้ยังไงกัน?”
[คะแนนชื่อเสียงจาก เมอร์เซเดส ไนท์ +15]
เมื่อเหลือบมองใบหน้าที่เหนื่อยล้าของมิสตี้ ราฟาเอลก็อาสา "มิสตี้ ทำไมเธอไม่ให้ฉันจัดการรายงานเรื่องนี้ให้ล่ะ? ไปพักผ่อนเถอะ"
เธอส่ายศีรษะปฏิเสธกับความมีน้ำใจของราฟาเอล มิสตี้ดื่มกาแฟในถ้วยของเธอและพูดทันทีว่า "ฉันขอจัดการเองดีกว่า ในเมื่อฉันไม่สามารถถามแบบปกติได้ เรามาลองใช้วิธีเก่าๆ กันเถอะ”
“วิธีเก่าๆ เธอแน่ใจเหรอ?”
ราฟาเอลหันหน้าไปมองมิสตี้และถามขึ้น
วิธีเก่าๆ ของมิสตี้คือแผนตำรวจเลวตำรวจดีที่ตำรวจนิวยอร์กมักใช้ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งตำรวจคนหนึ่งจะเล่นบทผู้ร้ายและข่มขู่นักโทษ ในขณะที่อีกคนหนึ่งจะแสดงตนเป็นคนดี บางครั้งภายใต้แรงกดดันจากการข่มขู่ของตำรวจเลว นักโทษก็มักจะเปิดเผยความลับออกมา
"แล้วใครจะเล่นเป็นบทตำรวจที่ดีและใครจะเป็นตำรวจเลวล่ะ?" ราฟาเอลหันศีรษะและเหลือบมองอาซิงที่ดูเหมือนกับคนปกติในห้องสอบสวน
“นายเป็นตำรวจเลวเลย แค่ฉันเข้าไปในนั้น เขาก็รู้แล้วว่าฉันกำลังแสดงอยู่”
“เข้าใจแล้ว”
…
ประตูห้องสอบสวนถูกเปิดออก เสียงกระแทกประตูดังลั่น ราฟาเอลเดินเข้ามาหาอาซิงด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
ปัง--
ขั้นแรก เขาวางบันทึกการสอบสวนในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วง จากนั้นราฟาเอลก็มองไปที่อาซิงและพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ "ฟังนะไอ้หนู ฉันไม่ได้หลอกง่ายเหมือนมิสตี้ เพราะอย่างนั้นอย่าคิดว่าสิ่งเดียวกับที่แกทำกับมิสตี้จะทำกับฉันได้ผล"
ในฐานะตำรวจเลว การแสดงของราฟาเอลเรียกได้ว่าไร้ที่ติ การเคลื่อนไหวและน้ำเสียงของเขา แสดงให้เห็นว่าเขามีทักษะการแสดงมากพอสมควร
น่าเสียดายที่การกระทำของเรฟไม่สามารถกดดันร่างแยกอาซิงได้เลย
ไรอัน ซึ่งกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์นี้ในร้านขายของเก่าก็ไม่มีทางเลยที่จะตกหลุมพรางการแสดงของราฟาเอล
“...ทำไมแกถึงหนีตำรวจ ตอนที่เราจะสอบปากคำก่อนหน้านี้?”
เมื่อคิดว่าเขาทำพอแล้ว ราฟาเอลก็นั่งลงและถามถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้ทันที
"เพราะฉันชอบวิ่ง"
"อะไรนะ?"
“ก็ฉันเป็นนักวิ่งระยะไกล การจะวิ่งมันผิดตรงไหนล่ะ? สมเหตุสมผลจะตายไป”
“แกคิดว่าฉันจะเชื่อเรื่องไร้สาระนี้งั้นเหรอ?”
ก็นะ ใครมันจะไปเชื่อข้ออ้างง่อยๆ อย่างนี้กันล่ะ?
เมื่อมองไปยังราฟาเอลที่ยังคงทำหน้าบูดบึ้งอยู่ ร่างแยกก็ได้แต่ส่ายศีรษะ จากนั้นเขาจึงกล่าวขึ้นมาว่า "โทรหาทนายของฉัน เขาชื่อว่าแมตต์ เมอร์ด็อค บอกเขาว่าอาซิงอยู่ที่นี่”
ก่อนหน้านี้ เจสซิก้าได้ไปที่ร้านขายของเก่าเพื่อถามเขาเกี่ยวกับเดอะแฮน ทำให้ไรอันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นี่คือเหตุผลที่เขาให้อาซิงยอมให้ความร่วมมือกับมิสตี้และคู่หูของเธอ เขาไม่รู้เลยว่าแมตต์กำลังตามหาเขาไปทั่วในย่านฮาร์เลม ดังนั้นเขาจึงคิดแค่ว่าต้องหาวิธีเพื่อที่จะติดต่อกับอีกฝ่าย
ณ จุดนี้ ข้อแก้ตัวอะไรมันจะดีกว่าการขอให้อีกฝ่ายมาช่วยแก้ต่างเขาจากการที่ถูกตำรวจจับกันล่ะ?
ส่วนเหตุผลที่เขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของแดร์เดวิลได้ยังไง ไรอันก็อาจแต่งเรื่องบอกแมตต์ไปว่าแมตต์เป็นคนบอกเขาเองตอนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหากอ้างอย่างนี้ มันก็จะเข้าเค้ากับการที่ไรอันพาแมตต์ไปยังบ้านของแคลร์ที่เป็นพยาบาล
...