ตอนที่แล้วบทที่ 54: เชื่อมโยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56: เดอะดีเฟนเดอร์

บทที่ 55: ยืนยัน


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 55: ยืนยัน

“ขอบคุณครับ”

ภายในกรมตำรวจนิวยอร์ก

แมตต์พยักหน้าไปด้านข้างและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ชี้ทางให้กับเขา

ด้วยไม้นำทางในมือข้างหนึ่ง เขาเดินอย่างไร้อุปสรรคแม้จะตาบอด สุดท้ายเขาก็มาถึงหน้ามิสตี้และหยุดลง "สวัสดีครับ ผมแมตต์ เมอร์ด็อค พวกคุณโทรเรียกผมเรื่องของอาซิงใช่ไหมครับ? ขอผมคุยกับลูกความของผมก่อนได้ไหม?”

"ฉันไม่รู้เลยนะว่าคุณขยายธุรกิจมาทางด้านอาชญากรรมตรวจคนเข้าเมืองด้วย แมตต์"

เมื่อมองไปที่ทนายความตรงหน้า มิสตี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าแมตต์มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเธอ

"แมตต์ จากข้อมูลที่เรามีในกรมตำรวจ ตอนนี้เรามั่นใจว่าเขามาที่ประเทศนี้อย่างผิดกฎหมาย"

“แต่นั่นอยู่ภายใต้เขตอำนาจของกรมตรวจคนเข้าเมืองไม่ใช่เหรอ?” ดูเหมือนว่าแมตต์จะไม่รู้สึกกังวลกับคำขู่ของมิสตี้เลย เขาถามคำถามกลับไปพร้อมกับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า "ตำรวจนิวยอร์กไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ นอกจากนี้ คุณไม่มีหมายจับตอนที่คุณจับอาซิงด้วย ซึ่งหมายความว่า นี่เป็นการจับกุมที่ไม่ถูกต้อง"

"แมตต์ ถ้าฉันต้องการ ฉันสามารถแจ้งกรมตรวจคนเข้าเมืองเพื่อส่งตัวลูกความคุณออกไปได้เลยนะ"

"..."

แมตต์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดว่า "แล้วคุณอยากรู้อะไรเหรอ มิสตี้?"

“ทุกอย่างเลย แมตต์” เมอร์เซเดสมองตรงไปที่ทนายความตาบอดตรงหน้าเธอ "ก่อนที่เราจะจับลูกความของคุณได้ เขาวิ่งเร็วกว่ารถเสียอีก ฉันต้องการรู้ความจริง เขาเป็นใคร?"

“ผมก็บอกความจริงกับคุณไม่ได้เหมือนกันว่าเขาเป็นใครกันแน่ มิสตี้” แมตต์ส่ายศีรษะ พร้อมกับนึกสิ่งที่เขารู้และพูดตอบไปว่า "ทั้งหมดที่ผมรู้คือชื่อของเขาคืออาซิง เขาอ้างว่าตนเองมาจากเกาะเผิงไหลในตำนานและเขาก็มีความสามารถที่ลึกลับทรงพลังอยู่"

แมตต์เองก็มีประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์ที่ทำให้เขาไม่ต้องเดินด้วยความยากลำบากเหมือนกับคนตาบอดคนอื่นๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ทว่าเขาก็ไม่รู้เลยว่าทำไมอาซิงถึงมีความสามารถเช่นนั้น

“แสดงว่าเขาพูดความจริงเหรอ?”

คำพูดของแมตต์ทำให้มิสตี้นึกถึงผลการสอบสวนก่อนหน้านี้อีกครั้ง

“มิสตี้?” แมตต์หันหน้าไปหามิสตี้และยิ้มออกมา เขาพูดอย่างจริงจังว่า "ย่านเฮลคิทเช่นกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมต้องการความช่วยเหลือจากอาซิง ได้โปรดเถอะ”

เมื่อได้ยินคำขอร้องของแมตต์ มิสตี้ก็ได้แต่ขมวดคิ้ว เธอหันไปชำเลืองมองอาซิงที่นั่งอยู่ในห้องสอบสวน หลังจากเงียบไปนาน เธอก็กัดฟันและได้ตัดสินใจ "ให้ตายเถอะแมตต์ นายรู้ไหมว่าฉันต้องเขียนรายงานอีกกี่ฉบับถึงจะทำแบบนั้นได้?"

  ...

"นายถูกประกันตัวออกมาแล้ว"

ประตูห้องสอบสวนได้ถูกเปิดออก ราฟาเอลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมมิสตี้ถึงตกลงที่จะปล่อยอาซิงไป แต่ด้วยความไว้วางใจในคู่หูของเขา เขาก็ยังคงสนับสนุนในความคิดของเธออยู่ดี

เมื่อคลำหากุญแจและไขกุญแจมือที่ข้อมือของอาซิงแล้ว ราฟาเอลก็ก้มลงไปเพื่อถอดกุญแจที่เท้าของเขา

"ไม่จำเป็นหรอก” เมื่อเห็นราฟาเอลที่กำลังโค้งปลดกุญแจตรงฝ่าเท้าให้ ร่างแยกก็พูดขึ้นมาพร้อมกับใช้พลังที่ขาของเขา

"อะไรนะ?"

ก่อนที่ราฟาเอลจะได้พูดอะไรต่อ เขาก็ได้ยินเสียง 'แคร้ง' กุญแจเหล็กที่แข็งมากกลับแตกออกเป็นหลายชิ้น ด้วยแรงขาของอีกฝ่าย

"ฉันทำด้วยตัวเองได้"

เมื่อกำจัดกุญแจไปแล้ว อาซิงก็ลุกขึ้นและยืดบิดขี้เกียจสองสามครั้ง เขาตบบ่าของราฟาเอล "งั้นฉันไปก่อนนะ"

  ...

เมื่อเดินออกจากห้องสอบสวน สิ่งแรกที่เขาเห็นคือแมตต์ที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน

“ฉันไม่คิดเลยว่านายจะหายเร็วขนาดนี้”

เมื่อมองไปที่อีกฝ่าย ร่างแยกของไรอันก็พูดขึ้น

"ขอบคุณที่ช่วยในตอนนั้น" เมื่อตระหนักถึงความหมายในคำพูดของไรอัน แมตต์ก็ตอบกลับไปทันทีด้วยรอยยิ้ม "ถ้าคุณไม่ช่วยผมไว้ ผมก็คงจะไม่สามารถยืนอยู่ที่นี่ได้เลย"

"ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย นายเป็นคนทำทั้งหมด โดยเฉพาะตอนที่มาดาม... ”

“บางทีเราควรย้ายที่คุยกันไหม?” แมตต์เปิดปากของเขาขึ้นมาเพื่อขัดจังหวะร่างแยก เขาหันกลับมาทันทีและพูดว่า "เราคงต้องหาที่เพื่อพูดคุยเรื่องบางอย่างกัน ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ผมกำลังตามหาตัวคุณด้วย”

"นายกำลังตามหาฉันเหรอ?"

ในร้านขายของเก่า คำพูดของแมตต์ทำให้ไรอันถึงกับเลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว พอเชื่อมโยงกับการกระทำแปลกๆ ของเจสสิก้าก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกสังหรณ์ได้ถึงอะไรบางอย่าง

  ...

“คุณอาจจะรู้จักคนที่เราจะกำลังจะไปพบกัน”

เมื่อเดินออกจากบริเวณนั้น แมตต์ก็พูดกับอาซิงที่เดินอยู่ข้างๆ เขา

บี๊บบี๊บ --

"พวกเขามานั่นแล้ว" เมื่อเห็นเสียงบีบแตรดังมาจากด้านหลัง แมตต์ก็หันกลับไปมองและพูดขึ้น

หลังจากนั้น รถสีฟ้าขนาดเล็กที่ดูโทรมมากก็ขับเข้ามาใกล้ เมื่อหน้าต่างรถได้ถูกลดลงมา ลุคเคจก็ก้มหัวออกมา "ฉันคิดว่านายจะอยู่ข้างในอีกสักหน่อยซะอีก"

"ลุค!" เมื่อร่างแยกเห็นลุค เขาก็ประหลาดใจอย่างมาก ดูท่าการสันนิษฐานของไรอันจะถูกต้อง

“เฮ้ อาซิง” ลุคหันศีรษะมองมองไปทางอาซิงที่ประหลาดใจและพยักหน้าเป็นการทักทายกลับ

"ป๊อบ ฝากทักทายมาด้วย"

"ไปคุยกันที่อื่นเถอะ" แมตต์ส่ายศีรษะไปมา เขาพับไม้นำทางที่เขาถืออยู่ ดึงประตูรถอย่างชำนาญและนั่งอยู่ข้างใน

ภายในรถที่กำลังเคลื่อนที่ ลุคจดจ่ออยู่กับการขับรถ ฝ่าการจราจรที่ติดขัดของนิวยอร์กขณะที่แมตต์ก็คุยกับอาซิงเกี่ยวกับเรื่องที่ยังคุยกันไม่จบ

“อาซิง นายพบวิลลาร์ดที่อสูรอยู่หรือยัง?”

“ไม่เลย”

เขาส่ายศีรษะตอบ แทนที่จะบอกว่าหา ไรอันไม่ได้บังคับให้ร่างแยกของเขาตามหามันอย่างจริงจังด้วยซ้ำ พอคิดดูแล้วมันก็น่าตลกอะไรอย่างนี้ สาเหตุที่เขาปั้นเรื่องให้อาซิงออกมาจากเผิงไหลสู่นิวยอร์ก ทั้งหมดก็เพราะเรื่องอสูรในวิลลาร์ด ถ้าเกิดเขาเจอมันเข้าจริงๆ เขาจะอ้างอะไรได้อีกกันล่ะ?

แน่นอนว่าแมตต์และคนอื่นๆ ไม่รู้เลยถึงสิ่งที่ไรอันกำลังคิด

หลังจากได้ยินเช่นนั้น แมตต์ที่นั่งอยู่ในรถกับร่างแยกก็พูดอย่างมั่นใจว่า "อย่ากังวลไปเลยอาซิง ตราบใดที่อสูรอยู่ในนิวยอร์ก ในสักวันหนึ่งคุณจะต้องพบเขาแน่"

"ก็อาจจะใช่... อืม ฉันก็ไม่ได้อยากทำลายความหวังของนายนะ แต่บางที... “ขณะขับรถ ลุคก็กล่าวเสริมว่า”วิลลาร์ดไม่มีอยู่จริง ส่วนเรื่องของอสูรก็คงเป็นแค่เรื่องโกหก”

"..."

หลังจากเงียบไปสักพัก ไรอันก็พูดผ่านร่างแยกของเขาว่า "ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ฉันจะรู้ก็ต่อเมื่อได้พบสถานที่ที่มีชื่อว่าวิลลาร์ด หยาดโลหิตของเผิงไหลจะต้องไม่ถูกหลั่งออกมาอย่างไร้ค่า..."

...

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด