ตอนที่แล้วบทที่ 42: ไร้ซึ่งความยุติธรรมแล้วหรือ? ไหนเล่ากฎเกณฑ์ที่พึงมี?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44: จักรพรรดินี ท่านช่วยทำตัวให้สมเกียรติมากกว่านี้จะได้หรือไม่?

บทที่ 43: เจ้าบอกว่าข้ารีดไถเงินจากเหล่าศิษย์งั้นเหรอ? แล้วเงินพวกเขามาจากที่ใดกันเล่า?


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 43: เจ้าบอกว่าข้ารีดไถเงินจากเหล่าศิษย์งั้นเหรอ? แล้วเงินพวกเขามาจากที่ใดกันเล่า?

ยามนั้นเอง ในที่สุดก็มีใครบางคนทนไม่ไหวจนลุกขึ้นยืน มันเป็นศัตรูเก่าของของหลินเป่ยฟาน ผู้ตรวจการเหยาเจิ้ง

เขากล่าวออกมาอย่างเสียงดัง “ฝ่าบาท ข้าต้องการทูลฟ้องคนผู้หนึ่ง!”

“ท่านเหยา ท่านต้องการฟ้องเรื่องใครหรือ?” จักรพรรดินีเอ่ยถามขึ้นมา

“ข้าต้องการทูลฟ้องข้าราชการชั้นสูงคนใหม่ ผู้อำนวยการสถาบันจักรพรรดิ หลินเป่ยฟาน!” เหยาเจิ้งจ้องไปทางหลินเป่ยฟานและตะโกนออกมาเสียงดัง

หลินเป่ยฟานได้แต่ส่ายศีรษะของเขา ชายชราผู้นี้คิดแต่จะสร้างปัญหาอีกครั้งแล้ว!

ข้าไปมีอะไรกับภรรยาเขาหรือลักพาตัวสะใภ้เขาไปหรือไงกัน? ทำไมต้องมาจับตาแต่ตัวข้า?

จักรพรรดินีที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรก็รู้สึกไม่พอใจมากเช่นกัน

นางเพิ่งให้รางวัลหลินเป่ยฟานไป แต่คนผู้นี้กลับต้องการทูลฟ้องเขา เจ้าสายตาสั้นหรือไง! เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่กลัวเกรงข้าสักนิดเดียว!

เฮ้อ มีแต่พวกข้าราชการทุจริตและพวกประจบสอพลอจำนวนมากในราชสำนัก เหตุไฉนเจ้าไม่ทูลฟ้องพวกเขา แต่เลือกฟ้องข้าราชการซื่อสัตย์ที่ข้าไว้วางใจ นี่มันอะไรของเจ้า?

เจ้าจงใจสร้างเรื่องให้ข้าลำบากหรือ?

ขณะที่นางครุ่นคิด ใบหน้าของจักรพรรดินีก็เริ่มโกรธขึ้นมาก

ภายใต้สายตามฤตยูของจักรพรรดินี เหยาเจิ้งพลันเริ่มเหงื่อออกและใบหน้าของเขาได้กลับกลายเป็นซีดเซียว

อันที่จริง เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

เพราะหลินเป่ยฟานยามนี้แม้ไม่ได้ทำสิ่งใดสำเร็๗ ก็ยังได้รับการโปรดปรานจากจักรพรรดินีอยู่เลย หากว่าอีกฝ่ายมีตำแหน่งและอำนาจมากขึ้น คงเป็นการยากที่จะจัดการเขา!

ดังนั้นในยามนี้เขามีแต่ต้องลุกขึ้นสู้!

“ท่านเหยา หลินเป่ยฟานทำสิ่งใดผิดถึงต้องทูลฟ้องเขาหรือ? หากท่านไม่สามารถให้เหตุผลที่เป็นรูปธรรมได้ ข้าจะลงโทษท่านในการทูลความเท็จ!” จักรพรรดินีกล่าวออกมาอย่างทรงอำนาจ

นี่เป็นคำเตือนที่ดูร้ายแรงเอาการ!

โดยทั่วไปเมื่อมีการตรวจสอบการทูลฟ้อง แม้มันจะผิดไป แต่พวกเขาก็จะไม่ถูกลงโทษ

นี่เป็นอำนาจที่ราชสำนักอนุญาตให้ผู้ตรวจการ เพื่อให้พวกเขากล้าทูลอย่างกล้าหาญและใช้อำนาจการกำกับดูแล โดยไม่มีข้อจำกัดหรือถูกแทรกแซงจากผู้ใด

ยามนี้เมื่อจักรพรรดินีบอกว่าจะลงโทษเขาหากไม่มีหลักฐาน แสดงให้เห็นเลยว่านางโกรธเพียงใด

เหยาเจิ้งตัวสั่นเทาด้วยความกลัวพร้อมกับกล่าวว่า “ฝ่าบาท ข้าขอทูลฟ้องว่าหลินเป่ยฟานยักยอกและใช้อำนาจเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตน! ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันจักรพรรดิ เขาได้ใช้อำนาจของเขาในการรีดไถเงินกว่าสองล้านตำลึงจากเหล่าศิษย์ด้วยการข่มขู่ข่มขู่และปล้น จนทำลายบรรยากาศของการศึกษาร่ำเรียนและบ่อนทำลายการศึกษา! ดังนั้นข้าจึงมารายงานเรื่องนี้ต่อฝ่าบาท ขอให้ท่านช่วยตรวจสอบ!”

“ท่านหลินเป่ยฟาน มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ?” จักรพรรดินีเอ่ยถามออกมา

หลินเป่ยฟานคำนับอย่างนิ่งสงบและกล่าวว่า “ขอตอบคำถามของฝ่าบาท ไม่มีเรื่องเช่นนั้นเลยขอรับ! คำพูดของท่านเหยานั้นไร้ซึ่งเหตุผลอย่างสิ้นเชิง!”

เหยาเจิ้งชี้ไปที่หลินเป่ยฟานด้วยความโกรธและพูดว่า “หลินเป่ยฟาน เจ้ากล้าปฏิเสธงั้นหรือ?”

หลินเป่ยฟานยังคงเสแสร้งและกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ข้าจะยอมรับในสิ่งที่ข้ายังไม่ได้ทำได้อย่างไรกัน?”

เหยาเจิ้งยิ่งโกรธมากขึ้นและรีบกล่าวว่า “เจ้ากล้าที่จะพูดปดอีกหรือ?”

หลินเป่ยฟานกล่าวสวนกลับไป “ท่านเหยา ท่านเอาแต่กล่าวหาว่าข้ารีดไถเงินจากเหล่าศิษย์ ขอข้าถามท่านได้ไหมว่าข้ารีดไถเงินผู้ใดไป?”

เหยาเจิ้งตะโกน “ลูกชายของเสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือน เกาเทียนหยูและลูกชายของรองเสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือน ไป่ ยูหลาง…”

เขาระบุชื่อของพวกเขาทีละคนด้วยความหนักแน่น จากนั้นหลินเป่ยฟานก็ถามว่า “ข้ายักยอกเงินตราไปเท่าไรล่ะ?”

“ข้าไม่รู้จำนวนที่แน่นอน แต่มันเกินสองล้านตำลึงแน่นอน!” เหยาเจิ้งตะโกนออกมาเสียงดัง

หลินเป่ยฟานหัวเราะและพูดว่า “ท่านเหยา ท่านกล่าวหาว่าข้ารีดไถเงินจากศิษย์พวกนี้และเป็นจำนวนเงินถึง 2 ล้านตำลึง! คำถามคือเงิน 2 ล้านตำลึงไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย เงินของพวกเขามาจากไหนกันเล่า?”

“เงินของพวกเขามาจาก…”

เหยาฮุยเฉินถึงกับชะงักไป หน้าของเขาขาวซีดและเหงื่อเย็นเหยียบได้ไหลลงมา

เขาเงยหน้าขึ้นมา เห็นข้าราชการระดับสูงทุกคนจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรและกำลังบอกให้ระวังคำพูด

เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาเห็นจักรพรรดินีมองมาที่เขาด้วยสายตาซุกซน

นี่คือมันเผือกร้อนชัดๆ!

มันฝรั่งเผือกที่ไม่มีผู้ใดต้องการแตะต้อง!

เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ทุกคนคงถึงฆาต ไม่อย่างนั้นคงมีแต่ต้องดื่มสามจอกและปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป!

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร ผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้ต้องตายอย่างแน่นอน!

“ท่านเหยา ได้โปรดพูดมาเถิด เงินของพวกเขามาจากไหน? พวกเขาทั้งหมดเป็นเพียงศิษย์ที่กำลังศึกษาและยุ่งอยู่กับการร่ำเรียนทุกวัน พวกเขาเอาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหนกัน?”

ใบหน้าของเหยาเริ่มซีดลงไปอีก

“บิดาของพวกเขาทุกคนก็อยู่ที่นี่ เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ทุกผู้คนที่นี่ล้วนมีเงินตราอยู่ในมือไม่มากนัก บุตรของพวกเขาจะมีเงินได้มากแค่ไหนกัน?”

ใบหน้าของเหยาเริ่มซีดลงไปมากขึ้นกว่าเดิม

“ข้าเชื่อว่าท่านสุภาพบุรุษทุกคน ณ ที่นี่ล้วนเป็นแบบอย่างและให้การศึกษาแก่บุตรของพวกเขาเป็นอย่างดี! พวกเขาคงไม่ปล่อยให้ลูกของพวกเขาทำอะไรผิดอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่มีทางที่พวกเขาจะมีเงินมากขนาดนั้นได้! ในเมื่อพวกเขาไม่มีเงิน ข้าจะรีดไถอะไรไปได้อย่างไร?”

หลินเป่ยฟานกางมือและพูดว่า “ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาด ข้าพูดถูกไหม?”

เมื่อมาถึงจุดนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการพูด แต่ทุกคนก็ต้องพูดแทนหลินเป่ยฟาน

“สิ่งที่ผู้อำนวยการหลินพูดเป็นความจริง! ลูกชายของข้าจะมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?”

“โดยปกติแล้ว ข้ามักทำตัวเป็นแบบอย่างและให้ความรู้แก่ลูกหลานของข้าอย่างถี่ถ้วน ไม่เคยละเลยแม้แต่น้อย!”

“ข้ารู้จักลูกชายของข้าดี เขาไม่ใช่คนแบบนั้นและจะไม่ทำอะไรผิดแน่นอน!”

“ดังนั้นแล้ว…” หลินเป่ยฟานใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้พร้อมกับชี้ไปที่เหยาเจิ้งและพูดออกมาเสียงดัง“ท่านเหยา ท่านก็แค่พูดเรื่องไร้สาระเพื่อพยายามทำให้เรื่องสับสน ทำให้ถูกเป็นผิด กลับขาวเป็นดำ!”

เหยาเจิ้งแทบจะทรุดลงกับพื้นแล้ว

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด