ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 37
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 39

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 38


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 38

เวลาผ่านไปจวบจนปีใหม่มาถึงอีกปี

ราอนในวัย14ปี สามารถสรุปชีวิตของเขาที่ผ่านมาได้ด้วยคำเพียงคำเดียวนั่นคือ‘การฝึกฝน’

เขาใช้ชีวิตเป็นปีศาจบ้าการฝึกฝนโดยการมาถึงสนามฝึกซ้อมคนแรกและออกไปเป็นคนสุดท้ายในทุกๆ วัน

ส่วนรูนัน...สายตาของรูนันยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม แต่วิชาดาบของเธอและออร่าน้ำแข็งของเธอก็ได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างที่แทบไม่มีใครเทียบได้

เบอร์เรนเติบโตขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะการที่เขาสามารถเอาชนะใจของคนอื่นๆได้มากขึ้น เขากวัดแกว่งดาบทั้งวันทั้งคืนเพื่อเตรียมตัวที่จะแย่งชิงตำแหน่งผู้ฝึกฝนอันดับหนึ่งจากราอน

ในส่วนของมาร์ธา เธอกวัดแกว่งดาบของเธออย่างต่อเนื่องและฝึกฝนออร่าของเธออย่างไม่หยุดพัก เธออยากจะลบรอยแผลจากความพ่ายแพ้ครั้งแรกของเธอออกไปให้ได้

ปัญหาก็คือ... นิสัยของมาร์ธาที่เคยแย่อยู่แล้วกลับแย่ยิ่งกว่าเดิม ทุกวันนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปเฉียดเธอเลยด้วยซ้ำ

ยกเว้นกับราอน ซีกฮาร์ทล่ะนะ…

เธอไม่ยอมฟังใครเลยแม้แต่กับผู้ฝึกสอน เธอจะยอมฟังก็ต่อเมื่อราอนพูดออกมาเท่านั้น ไม่เคยมีการเถียงหรือบ่นอะไรออกมาจากปากของเธอ เหมือนกับว่าเธอเป็นคนรับใช้ที่เชื่อฟังราอนเพียงคนเดียว

ทุกๆคนรู้ว่าดีว่านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องทำหลังจากแพ้การประลอง พวกเขาเลยคิดว่าเธอคงจะทนได้ไม่กี่วันหรอก

แต่พวกเขาคิดผิด

ปีใหม่มาถึงแล้วและมาร์ธาก็ยังเชื่อฟังราอนอยู่เหมือนเดิม

ทุกคนต่างก็ประหลาดใจเหมือนกันหมด

พวกเขาไม่คิดเลยว่ามาร์ธาคนที่อารมณ์ร้อนและปากเสียจะยอมรักษาสัญญากับราอนมาจนถึงตอนนี้

ด้วยเหตุนี้เอง ราอนจึงได้รับการยอมรับจากผู้เข้าร่วมการฝึกฝนทุกคนในสนามฝึกที่ห้า

***

“รวมตัว!”

สิ้นเสียงของราอน ผู้ฝึกฝนทุกคนที่กำลังอบอุ่นร่างกายก็หันมองไปที่เขาทันที

“ชิ…”

“อึ้ม”

เบอร์เรนเดาะลิ้นของเขาของเขาและไปยืนตรงหน้าราอน ส่วนรูนันก็ค่อยๆวิ่งเข้าไปหาราวกับว่าเธอเป็นหมาที่ได้ยินเจ้าของเรียก

“……”

สายตาของมาร์ธาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง แต่เธอก็แค่ไปยืนอยู่ในแถวโดยไม่พูดอะไร

ทุกๆคนเชื่อฟังคำสั่งของราอนและวิ่งไปหาเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

“ทำไมถึงบอกให้พวกเรามารวมตัวกันล่ะ?”

เบอร์เรนเงยหน้าขึ้นมองเวทีที่ไม่ได้มีใครยืนอยู่

“เช้าวันนี้เราไม่ต้องฝึกฝนกันตามแผนเดิมแล้ว”

“ไม่ใช่มั้ง... วันนี้เป็นการฝึกปกตินี่นา”

“ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน”

“อาจารย์ริมเมอร์บอกว่าเขาลืมน่ะ”

ราอนถอนหายใจ ริมเมอร์มาหาเขาในตอนเย็นของเมื่อวานและบอกให้เขาเรียกรวมตัวผู้ฝึกฝนแล้วบอกเรื่องนี้แทนเขา

“เพราะคนๆนั้นเองสินะ…”

เบอร์เรนกัดฟัน ดูเหมือนเบอร์เรนจะยังไม่ชอบริมเมอร์อยู่เหมือนเดิม

“อย่างไรก็ตาม ทุกคนอย่าพึ่งรีบแยกย้ายกันไปนะ เราต้องอบอุ่นร่างกายกันก่อน”

“เฮอะ”

“ทำไมเขาถึงขี้ลืมได้ขนาดนี้? เริ่มเข้าสู่วัยชราแล้วรึไง?”

“เขาน่าจะไปเที่ยวเล่นแล้วก็เมา ฉันได้ยินมาว่าเมื่อคืนนี้เขาก็อยู่ที่บาร์ล่ะ”

“เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ เราควรจะทำใจให้ชิน”

ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนพากันบ่นอุบ แต่พวกเขาก็เริ่มอบอุ่นร่างกายตามคำแนะนำของราอน

เมื่อพวกเขาทำไปได้ห้านาที เหล่าผู้ฝึกสอนก็เปิดประตูเข้ามาในสนามฝึก

“ฮ้าวววว…”

ริมเมอร์หาวออกมาเสียงดัง เขาไม่แม้จะยกมือขึ้นปิดปากแล้วเดินขึ้นไปบนเวที

“อาจารย์มาช้านะครับ”

เบอร์เรนยกมือขึ้นแล้วตะโกน

“เอ๊ะ พอดีว่าที่ผู้ฝึกสอนมาถึงช้าเพราะพวกเรากำลังเตรียมอะไรบางอย่างให้พวกเธอยังไงล่ะ นี่ไม่นับว่ามาสายหรอก”

“นั่นไม่เกี่ยวกัน…”

“เอาล่ะ! ในเมื่อเราสายมากแล้วงั้นก็มาเริ่มกันเลย!”

ริมเมอร์ไม่สนใจเบอร์เรนแล้วรีบโบกมือให้ทุกคนสนใจฟัง

ราอนถึงกับได้ยินเสียงเบอร์เรนกัดฟันเล็ดรอดออกมา  ถึงอย่างไรริมเมอร์ก็ยังเป็นริมเมอร์และเบอร์เรนก็เกลียดริมเมอร์

“เหตผลที่พวกฉันยกเลิกการฝึกฝนของพวกเธอในเช้าวันนี้ก็เพราะว่ามีอะไรสำคัญจะมอบให้นักดาบอย่างพวกเธอทุกคน”

“ของที่สำคัญสำหรับนักดาบงั้นเหรอ?”

"อะไรล่ะ?"

“วิชาดาบใหม่เหรอ?”

“หรือว่าเทคนิคลับ?”

“เทคนิคการปลูกฝังหรือเปล่า?”

ดวงตาของเหล่าผู้เข้าร่วมการฝึกฝนเต็มไปด้วยประกายแห่งความคาดหวัง

“แฮ่ม!”

ริมเมอร์ยืนมองดูความตื่นเต้นของพวกเขาอยู่พักนึง และเขาก็เริ่มพูดต่อ

“นั่นก็คือ....จังหวะเท้า!”

“เอ๋?”

“จังหวะเท้า?”

“นั่นสำคัญสำหรับนักดาบงั้นเหรอ?”

“ฮ่าๆ ฉันว่าแล้วไง”

เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้เท้า ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนก็กระทืบเท้าด้วยความผิดหวัง

‘เป็นอย่างที่ฉันคิด’

ราอนพยักหน้า เขาไม่ได้ประหลาดใจเท่าไหร่

จังหวะเท้าก็คือวิธีการก้าวเดิน

มันเป็นวิธีการที่เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้การใช้วิชาดาบหรือเทคนิคหมัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น บางครั้งก็ช่วยในการป้องกันและทำให้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วขึ้น

'เวลานี้ก็เหมาะเจาะพอดี'

เขาคุ้นเคยกับทั้งเทคนิคการใช้ดาบและหมัดเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนออร่าของเขาก็ได้พัฒนาไปในระดับหนึ่ง เขาจึงคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มเรียนรู้จังหวะเท้า

“ถึงจะมีหลายคนที่เคยเรียนวิชาดาบก่อนเข้ามาที่นี่แต่ก็ไม่น่าจะมีใครเคยเรียนรู้จังหวะเท้ามาก่อนนะ”

“อืม…”

“นั่นก็จริง”

ผู้ฝึกฝนทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เบอร์เรน รูนัน และมาร์ธายังยืนอยู่เฉยๆ

“แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเธอทุกคนคือการเป็นนักดาบ ยังไงทักษะการใช้ดาบก็สำคัญที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม!”

ริมเมอร์ยิ้มและกระโดดลงมาจากบนเวที จู่ๆเขาก็หายตัวไปราวกับสายลม

“แล้วอะไรที่ทำให้วิชาดาบเฉียบคมยิ่งขึ้นและเร็วขึ้นล่ะ? อะไรที่จะช่วยชีวิตพวกเธอได้ในอนาคตล่ะ?  มันคือจังหวะเท้าหรือว่าการเคลื่อนไหวของเท้านั่นเอง”

เสียงของริมเมอร์ดังมาจากด้านหลังของพวกเขา ริมเมอร์โผล่ขึ้นมาหลังจากหายตัวไป เมื่อหันหลังกลับไปจะเจอกับเขาที่กำลังยืนเอามือไขว้หลัง

“เฮือก!”

“ม-เมื่อไหร่กัน…”

"เมื่อกี้คืออะไร?"

ผู้ฝึกฝนพากันอ้าปากค้าง ริมเมอร์มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังพวกเขาโดยไม่มีสัญญาณใดๆ พวกเขาตกใจกันสุดๆ

“พวกเธอต้องตระหนักไว้ตลอดนะว่าการฝึกฝนอยู่กับตัวเองกับการต่อสู้จริงๆ นั้นแตกต่างกันมาก”

“นั่นมันก็ใช่…”

"ใช่เลย ตอนที่ฉันขึ้นประลองฉันแทบจะควบคุมร่างกายไม่ได้”

“ขนาดวิชาดาบที่ฝึกฝนมาอย่างดีฉันยังเผลอลืม”

ทุกคนพยักหน้า พวกเขาเห็นด้วยว่าที่ริมเมอร์พูดเป็นเรื่องจริง

“ถ้าพวกเธออยากทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดพวกเธอก็ต้องฝึกฝนจังหวะเท้าให้มากกว่าทักษะการใช้ดาบ ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดระหว่างการต่อสู้แบบตัวต่อตัวนั้นไม่ใช่ทักษะการใช้ดาบหรือออร่าเลย แต่เป็นการใช้เท้าของพวกเธอต่างหาก แม้แต่ท่านเจ้าตระกูลก็เห็นด้วยกับฉันในเรื่องนี้”

“ท-ท่านเจ้าตระกูลเหรอ”

"ว้าว!”

“ถ้าเขาพูดอย่างนั้น…”

ในเมื่อเกล็นซึ่งเป็นบุคคลที่พวกเขานับถือมากที่สุดก็พูดแบบนั้นด้วย พวกเขาจึงมั่นใจได้ในทันที

“จังหวะเท้า…”

เบอร์เรนยืดหลังของเขาให้ตรง

'ใช่แล้ว ถ้าฉันในตอนนั้นสามารถใช้จังหวะเท้าได้ล่ะก็…'

จุดแข็งของเขาคือไหวพริบ ความแม่นยำ และความเร็ว ถ้าเขาได้ใช้จังหวะเท้าในตอนที่เขาต่อสู้กับราอนเขาคงจะไม่พ่ายแพ้ง่ายๆ

"ถ้าอย่างนั้น…"

เบอร์เรนหันหัวของเขากลับไปด้วยดวงตาเป็นประกายแม้เพียงเล็กน้อย

มาร์ธากำหมัดแน่นและดวงตาของเธอก็เป็นประกาย ดูเหมือนเธอกับเบอร์เรนจะคิดแบบเดียวกัน

‘เธอก็น่าจะคิดเหมือนกัน’

เขาคิดว่ามาร์ธาจะรู้สึกเฉยๆ แต่มันดูไม่เป็นอย่างนั้น มาร์ธาแสดงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเอาชนะราอนออกมาจากภายใน

“เราจะเริ่มต้นด้วยจังหวะสายน้ำ ซึ่งเป็นท่าที่เหมือนกับการการไหลของแม่น้ำไปรวมเข้าด้วยกัน”

ริมเมอร์ย่อขาแล้วเด้งตัวของเขาขึ้น ร่างกายของเขาก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนเวที การสาธิตของเขาดูเหมือนไม่ต้องออกแรงเลย เหมือนเขาเป็นใบไม้ที่แค่ไหลไปตามสายน้ำ

“อืม…”

หลังจากสาธิตไปหนึ่งครั้งถ้วน เขาก็บ่นว่ามันน่าเบื่อและล้มตัวลงนอนทันที

“คนที่ทำได้ก็ช่วยออกมาทำทีสิ”

ริมเมอร์ปรบมือแล้วผู้ฝึกสอนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดินขึ้นมาและเริ่มสาธิตจังหวะสายน้ำ

กรอด!

เบอร์เรนกำหมัดแน่น  เขาตั้งปณิธานว่า เขาจะสอนบทเรียนให้กับอาจารย์จอมขี้เกียจคนนั้นด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญจังหวะเท้าให้ได้ เขาจะทำตามทุกๆรายละเอียดของท่าให้ทุกคนตะลึง

* * *

* * *

จังหวะสายน้ำ ประกอบด้วยท่าทางทั้งหมดสิบสองท่า และท่าทางก็เรียบง่ายพอที่จะทำให้การสาธิตใช้เวลาไม่นานจนเกินไป

'นี่สิคือพื้นฐานที่แท้จริง'

ราอนเคยหมุน'วงแหวนแห่งไฟ'มาก่อน เขาเลยรู้สึกว่าการไหลของจังหวะสายน้ำไม่ใช่เรื่องยากเลย

แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นแต่มันก็เป็นไปตามพื้นฐาน และยังสามารถนำมันไปปรับใช้กับเทคนิคอื่นๆ ได้อีกมากมาย

ผู้ฝึกสอนจะเดินสังเกตและช่วยแก้ไขท่าทางของพวกเธอให้เอง เพราะงั้นพวกเธอก็ลองทำมันซ้ำๆไปเรื่อยๆจนกว่าจะถูกละกันนะ”

"ครับ/ค่ะ!”

ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนค่อยๆกระจายตัวไปทั่วสนามฝึกและเริ่มทำท่าจังหวะสายน้ำเท่าที่พวกเขาพอจะจำได้

เหลือเพียงราอนที่ไม่ยอมขยับไปไหน

เขาหลับตาหมุน'วงแหวนแห่งไฟ' และภาพการเคลื่อนไหวของจังหวะสายน้ำก็แสดงขึ้นมาในหัวของเขา

'ป้องกันหกส่วนและโจมตีอีกสี่ส่วน'

จังหวะสายน้ำเป็นท่าพื้นฐาน สัดส่วนในการใช้เป็นท่าโจมตีและป้องกันที่สัดส่วนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

'ตรงนี้คือจุดแข็งของมันสินะ'

ลักษณะเด่นของจังหวะสายน้ำคือการไหลของมันซึ่งราบรื่นราวกับแม่น้ำไหล เขาควรจะเรียนรู้การไหลของมันให้ได้ก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนท่าทางเหมือนกับคนอื่นๆ

“ฮ้า…”

ราอนหายใจออกอย่างตื่นเต้นและลืมตาขึ้น ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างของจังหวะสายน้ำได้แล้ว

กึก

ขั้นแรก เขาขยับเท้าขวาไปข้างหน้า

ต่อมา เขาเริ่มรู้สึกเพลิดเพลินและค่อยๆขยับเท้าซ้ายต่อ

ทันทีที่เท้าทั้งสองข้างของเขาไขว้กัน ท่าแรก ’ลื่นไหล’ก็ได้เกิดขึ้น

ฟู่ว!

เขาหมุนตัวไปทางขวา การเคลื่อนไหวถัดมาเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกการโจมตีด้วยดาบของศัตรูและสวนการโจมตีกลับไป  ท่าที่สอง ’ปลดปล่อย’ เป็นเหมือนกับการสะท้อนกลับของทรายจากพื้นดิน

การแสดงของเขาสมบูรณ์แบบกว่าการสาธิตของผู้ฝึกสอนหลายๆ คนเสียอีก

ซูม!

ราอนยกยิ้ม ความรู้สึกดีใจแล่นขึ้นมาบนไหล่ของเขา เท้าของเขาได้สร้างการไหลที่ยืดหยุ่นขึ้นมาใหม่ราวกับว่าเท้าของเขาได้รู้จักจังหวะสายน้ำตั้งแต่แรกเกิด

***

“ฮ้าววววว!”

ริมเมอร์หาวแรงมากจนนึกกลัวว่ามุมปากของเขาจะฉีกไปซะก่อน

“ฉันง่วงนอนจังเลย”

เขาไม่ได้นอนมาสองสามวันแล้วเพราะเขาต้องค้นหาจังหวะเท้าที่เหมาะสมให้ผู้ฝึกฝนแล้วก็ต้องทำมันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นั่นส่งผลให้ร่างกายของเขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก

'ฉันน่าจะแก่แล้ว'

เขายิ้มและมองลงไปในสนามฝึก

ราอนยืนหลับตาลงโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เขาอาจจะกำลังจินตนาการถึงการสาธิตของผู้ฝึกสอนในหัวของเขา

'นั่นก็เป็นวิธีที่ไม่แย่ ... '

การจินตนาการถึงศิลปะการต่อสู้ในหัวเป็นวิธีการฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพจริงๆ แต่นั่นควรจะทำก็ต่อเมื่อเขามีประสบการณ์มามากพอเท่านั้น

เขาเพิ่งจะได้รู้จักกับเจังหวะเท้าเมื่อกี้นี่เอง เขาควรจะลองขยับร่างกายไปก่อนแทนที่จะเอาแต่จินตนาการแบบนั้น

'เดี๋ยวค่อยไปบอกราอนทีหลังละกัน'

ริมเมอร์ได้เรื่องไว้ล้อเลียนราอนแล้ว เขาจึงหันไปสนใจเด็กคนอื่นๆ

'เขาเริ่มต้นได้ดีเลย'

เบอร์เรนจำลองการไหลของจังหวะสายน้ำได้เกือบทั้งหมดแล้ว ดูเหมือนว่าเขาคงเคยเรียนรู้การใช้เท้ามาก่อนแต่เขาไม่เคยเข้าใจมัน เขาน่าจะสามารถทำท่าทางได้ถูกต้องอีกในไม่ช้า

'ส่วนเธอก็ทำได้ดีเหมือนกัน'

มาร์ธาเองก็กำลังหมุนร่างกายของเธอด้วยฝ่าเท้า เธอเหมือนกับคนที่เรียนรู้การใช้เท้ามาเป็นเวลานาน ท่าทางของเธอดีกว่าของเบอร์เรนมากจริงๆ

“หึๆ”

ริมเมอร์หัวเราะออกมาเบาๆในขณะที่กำลังดูจังหวะเท้าของเบอร์เรนและมาร์ธา

'ในหัวของพวกเขาคงจะมีแต่ใบหน้าของราอน'

ขณะที่พวกเขากำลังฝึกฝนจังหวะเท้า พวกเขาคงคิดถึงการต่อสู้ระหว่างพวกเขากับราอนไปด้วย

ริมเมอร์ไม่จำเป็นต้องลงไปพูดกระตุ้นพวกเขาให้เปลืองแรง

'แล้วก็…'

เขามองดูรูนันที่กำลังฝึกจังหวะสายน้ำอยู่อีกฝั่งของสนาม การเคลื่อนไหวของเธอแตกต่างจากอีกสองคนที่ผ่านมา

การเคลื่อนไหวของเธอดูเหมือนจะทำไปเพื่อสนับสนุนแทนที่จะโจมตีคู่ต่อสู้โดยตรง เห็นได้ชัดเลยว่าเธอต้องการจะเป็นฝ่ายสนับสนุนของใครคนหนึ่ง

หลังจากนั้นริมเมอร์ก็ไล่สำรวจทุกๆคน เขาจดจุดแข็งและจุดอ่อนของทุกคนเอาไว้และเตรียมจะลุกไปให้คำแนะนำพวกเขา

'น่าสนใจ'

พวกเขายังอายุน้อยและใสซื่อบริสุทธิ์ ริมเมอร์สามารถบอกได้เลยว่าพวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่ แค่มองก็รู้แล้ว

“ฮึบบบบ”

ริมเมอร์ยืดตัวและลุกยืนขึ้นเหมือนหมีที่เพิ่งตื่นจากการจำศีล

เปรี๊ยะ

ริมเมอร์กำลังจะลงไปหาเหล่าผู้ฝึกฝนแล้ว แต่อยู่ๆราอนซึ่งเคยยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นหินก็ได้ลืมตาขึ้นและค่อยๆขยับเท้าของเขาไปทางด้านหลัง

‘อ่า…’

ริมเมอร์ขนลุกเมื่อได้เห็นสายตาของราอน ขาของราอนค่อยๆเหยียดตรงเหมือนกับนกกระเรียน

การเคลื่อนไหวของราอนค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ ท่าแรก 'ลื่นไหล' ไหลผ่านพื้นของสนามฝึกซ้อมราวกับการไหลของแม่น้ำ

ฟู่ว!

เขาเริ่มทำท่าที่สอง การก้าวออกไปของเขาทำให้การเคลื่อนไหวดูร้อนแรงราวกับไฟ ดูเหมือนนั่นจะสะท้อนถึงรูปลักษณ์ของดาบที่คมกริบ

“ฮะ?!”

ริมเมอร์พูดไม่ออก

'เด็กคนนั้น...'

'ลื่นไหล' ของราอนนั้นสมบูรณ์แบบมากกว่าผู้ฝึกสอนอีก

หลังจากนั้นราอนก็ได้แสดงจังหวะสายน้ำทั้งสิบสองท่าโดยไม่มีการหยุดชะงัก ท่าทางพวกนั้นแทบจะสมบูรณ์แบบ เขาไม่ได้ทำพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“อู้ว…”

“อะ-อะไรกัน?!”

ทั้งผู้ฝึกฝนและผู้ฝึกสอนต่างก็ยืนนิ่งและมองดูการเคลื่อนไหวของราอน

“เขาเพิ่งจะเรียนรู้จังหวะเท้าจากมโนภาพของเขาหรือเปล่า?”

มือของริมเมอร์สั่นเทา ขนทั่วทั้งตัวของเขาพร้อมกันลุกชันขึ้นมา

'เมื่อไหร่สัตว์ประหลาดตัวนั้นจะหยุดทำให้ฉันตกใจได้สักที…?'

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด