ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 36
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 38

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 37


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 37

มาร์ธายืนอยู่ภายใต้แสงสีม่วงของท้องฟ้ายามเย็นและบรรยากาศอันเงียบงัน

เธอยืนนิ่งราวกับรูปปั้นหินจนกระทั่งความมืดมิดคืบคลานเข้ามา ในที่สุดเธอก็เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ

“ฉันแพ้ได้ยังไงกัน...”

มาร์ธากำหมัดของเธอแน่นมากจนสามารถมองเห็นเส้นเลือดของเธอได้ชัดเจน

“ทั้งๆที่ฉันไม่ควรจะแพ้ใครก่อนที่จะได้เจอแม่…”

เธอตั้งปณิธานว่าจะไม่แพ้จนกว่าเป้าหมายของเธอจะสำเร็จ แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้จนได้ และมันก็ยังเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย

เธอเปลี่ยนแปลงนิสัยภายนอกของตัวเอง เธอคอยพูดจาไม่ดีและรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆอยู่ตลอดก็เพราะเรื่องนั้น แต่ตอนนี้มันไร้ประโยชน์ สิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดได้เสียหายไปหมดแล้ว

“เวรเอ๊ย!”

พ่อบุญธรรมของเธอหรือเดเนียร์ ซีกฮาร์ทรับเธอเข้ามาในตระกูลซีกฮาร์ทเพราะว่าเขามองเห็นพรสวรรค์ที่โดดเด่นออกมาของเธอ

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็กลับพ่ายแพ้ให้กับราอนที่เป็นเด็กสายรองที่มีอายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปี เธอไม่รู้เลยว่าเธอจะต้องเจอบทลงโทษแบบไหน

เดเนียร์ใจดีกับเธอ แต่นั่นอาจเป็นแค่การแสดงก็ได้ เธอเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ที่เธอจะถูกขับไล่ออกจากตระกูล

'ไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด'

หากเธอถูกไล่ออกไปจากที่นี่ เธอจะสูญเสียความหวังสุดท้ายในการตามหาแม่ของเธอทันที แม้ว่าจะต้องเกาะขาของเขาไว้ให้แน่นแต่เธอก็ต้องทำ

“เฮ้อ!”

"คุณหนูครับ…"

มาร์ธารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เธอไม่ได้สนใจคาเมลผู้เป็นพ่อบ้านของเธอเลย

“นี่เป็นจดหมายจากท่านเดเนียร์”

ในที่สุดมาร์ธาก็หันกลับไปเมื่อรู้ว่าเดเนียร์ส่งจดหมายมาให้เธอ ดวงตาสีดำของเธอวูบไหวไปมา

“นี่ครับ”

มาร์ธากลืนน้ำลายและค่อยๆเปิดจดหมาย

....มาร์ธา ขอแสดงความยินดีด้วยที่เธอได้เจอกับพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก ไม่ต้องกังวลมากไปเพราะความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวจะไม่ได้แปลว่าเธอจะเป็นผู้แพ้ไปตลอด ฉันอยากให้เธอคิดทบทวนให้ถี่ถ้วนว่าทำไมเธอถึงแพ้และแพ้ได้อย่างไร การทบทวนตนเองนั้นจะกลายเป็นรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคตของเธอ ฉันอยากจะไปเจอหน้าเธอและปลอบเธอเป็นการส่วนตัวแต่ภารกิจของฉันใช้เวลานานกว่าที่ฉันคิด ฉันขอโทษที่ไปอยู่เคียงข้างเธอในตอนนี้ไม่ได้....

เนื้อหาภายในจดหมายไม่มีการตำหนิหรือการเยาะเย้ยอยู่เลย มันเป็นเพียงจดหมายธรรมดาที่ส่งมาจากพ่อที่เป็นห่วงลูกสาวอย่างสุดหัวใจ

...ฉันยังคงพยายามตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดของเธออยู่ ในเมื่อฉันยังไม่ยอมแพ้ เธอเองก็อย่ายอมแพ้เช่นเดียวกันนะ...

มาร์ธาพับจดหมายด้วยมือที่สั่นเทาแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเธอ เธอกดกระเป๋าเอาไว้แน่น

“ฮ่ะๆ…”

เนื้อหาในจดหมายทำให้เศษชิ้นส่วนจิตใจที่แตกสลายของเธอกลับคืนมา โดยอย่างยิ่งในส่วนสุดท้าย นั่นทำให้ความวิตกกังวลที่เคยกดทับไหล่ของเธอหายไปโดยสิ้นเชิง

“บอกท่านพ่อว่าฉันจะจำคำของท่านเอาไว้ และฉันรู้สึกขอบคุณท่านมากจริงๆ”

“รับทราบครับ”

คาเมลพยักหน้าแล้วยิ้มเบาๆ

“แล้วก็มีอีกเรื่องนะครับคุณหนู”

“หืม?”

“หากคุณหนูกังวลเกี่ยวกับเรื่องซุบซิบที่กระจายออกไป ผมสามารถแก้ไขให้เรื่องเงียบได้นะครับโดยอาจจะต้องใช้อำนาจของสายตรง…”

“ไม่ เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรอก”

มาร์ธาปฏิเสธอย่างหนักแน่น ดวงตาของเธอแเปล่งประกายด้วยแสงที่เคยหายไปก่อนหน้านี้

“เรื่องที่ฉันพ่ายแพ้ก็คือเรื่องจริง และฉันก็แพ้ได้อย่างน่าเวทนามากด้วย”

เธอรู้ดีว่าเธอแพ้ราอนแล้ว

“ฉันก็แค่แพ้แค่นั้น ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพราะฉันประมาทอย่างเดียว”

ราอนตัดดาบของเธอโดยใช้ออร่าสีแดงของเขา นักดาบที่สูญเสียดาบไปก่อนก็ถือว่าเป็นผู้แพ้ นั่นถูกต้องแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็โยนดาบของตัวเองออกไป และเริ่มการต่อสู้กับเธอต่อโดยใช้เพียงหมัดของเขา

ถ้าเธอทำตัวหยาบคายกับคนที่ยอมทิ้งดาบเพื่อต่อสู้กับเธอต่อไป พ่อของเธอคงจะผิดหวังในตัวเธอมากกว่านี้

“ซีกฮาร์ทควรจะรักษาสัญญาต่อให้มันจะเป็นแค่เรื่องผิดพลาดก็ตาม…. ฉันแน่ใจว่าท่านพ่อคงจะอยากบอกฉันแบบนี้”

"แน่นอนครับ ท่านเดเนียร์ก็คงจะพูดเช่นนั้น”

“ในฐานะบุตรสาวของเขา…ฉันจะทำให้เขาอับอายอีกไม่ได้แล้ว”

"เป็นเช่นนั้นครับ"

คาเมลยกมุมปากขึ้นและหัวเราะราวกับว่าเขากำลังเห็นด้วยกับเธอเป็นอย่างมาก

“คาเมล ตอนนี้นายมีมีดไหม?”

"มีครับ คุณหนูจะเอาไปทำสิ่งใดเหรอครับ…?”

"แค่เอามาให้ฉันก็พอ"

“นี่ครับ”

มาร์ธาพิจารณามีดสั้นของคาเมลอยู่ครู่นึง แล้วจึงรับมันมา

ฉับ!

สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอตัดผมสีน้ำตาลเข้มของเธอให้สั้นลงเกินกว่าครึ่งโดยไม่ลังเล

“คะ…คุณหนู!”

"ไม่มีอะไรน่ะ ฉันแค่จะเลิกทำตัวงี่เง่าน่ารังเกียจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”

มาร์ธาปล่อยให้ผมที่ถูกตัดปลิวออกไปตามสายลม รอยยิ้มของเธอเปล่งประกายราวกับเกล็ดหิมะ

“อา….”

คาเมลอ้าปากค้างเพราะเขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

"ยกเลิกตารางการฝึกซ้อมของฉันในวันพรุ่งนี้ด้วย”

"ครับ? ผมสามารถยกเลิกให้คุณหนูได้ แต่คุณหนูวางแผนไว้แล้วเหรอครับว่าจะทำอะไร…”

“ฉันมีที่ที่หนึ่งที่้ต้องไป”

คาเมลพยักหน้าแล้วตามเธอกลับเข้าไปในคฤหาสน์

***

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกช่วงเช้าเธอก็ออกจากบริเวณคฤหาสน์ของเธอทันที

เธอพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของคาเมลและสาวใช้ทุกคนที่ถามว่าเธอซ้ำๆว่าจะไปไหน เธอรีบออกไปโดยไม่ได้ทานมื้อเช้าด้วยซ้ำ เธอรีบเดินไปที่อาคารรองที่อยู่ทางทิศตะวันตก

อาคารรองอยู่ค่อนข้างไกลจากคฤหาสน์ที่เธออยู่ แต่มันมีเส้นทางที่เชื่อมต่อกัน

เธอเดินตามเส้นทางนั้นไป และแล้วเธอก็มองเห็นบ้านหลังเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยสวนขนาดเล็กอีกที

'เขาอยู่ที่นั่นเหรอ?'

มาร์ธาขมวดคิ้ว บ้านหลังนั้นมีขนาดเล็กและโทรมมากเมื่อเทียบกับคฤหาสน์ในฝั่งอาคารหลัก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่ก่อนที่จะเข้ามาที่นี่นั้นเล็กกว่าอาคารรองหลังนี้มาก เธอไม่ได้ตกใจมากเท่าไหร่และมุ่งหน้าไปทางสวน

'ตรงนั้นมีคนอยู่ด้วย'

เด็กชายผมบลอนด์กำลังนั่งยองๆ บนแปลงดอกไม้ ดูเหมือนเขากำลังจะขุดดินเพื่อปลูกดอกไม้

'หือ?'

ดวงตาของมาร์ธาเบิกกว้าง

‘ราอน ซีกฮาร์ท?’

เธอเกือบคิดว่าเขาเป็นแค่คนสวนคนหนึ่ง แต่คนที่กำลังปลูกดอกไม้คือราอน ซีกฮาร์ท ผู้ที่พึ่งทำให้เธอได้สัมผัสกับความพ่ายแพ้

ราอนปัดเศษดินออกจากมือแล้วลุกขึ้นยืน ดูเหมือนว่าเขาจะพึ่งสังเกตเห็นเธอเช่นกัน

"มีอะไรหรือเปล่า?"

“……”

มาร์ธาไม่ตอบ เธอเข้าไปยืนอยู่หน้าแปลงดอกไม้ตรงที่ราอนยืนอยู่ ดอกไม้พวกนั้นเบ่งบานอย่างสวยงามและเปียกชุ่ม อาจเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งรดน้ำมัน

'เขามีงานอดิเรกแบบนี้งั้นเหรอ?'

ราอนดูเป็นผู้ใหญ่ตลอดเวลา ดังนั้นเธอจึงแปลกใจที่ได้พบกับด้านที่เป็นเด็กของเขา

'ฉันต้องพูดออกยังไงดี?'

เหตุผลที่มาร์ธามาหาราอนนั้นก็ไม่มีอะไรมาก

เธอต้องการการต่อสู้กับเขาอีกครั้ง

เธอทบทวนการต่อสู้ครั้งล่าสุดที่เธอได้เจอกับความพ่ายแพ้ซ้ำไปซ้ำมา แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอแพ้เขาได้อย่างไร

เธอจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ค่อยได้ เธอจึงยังแยกความแตกต่างระหว่างเธอกับเขาไม่ค่อยออก

สรุปคือ…เธอไม่รู้ถึงเหตุผลจริงๆที่ทำให้เธอต้องแพ้

เธอจึงต้องการจะแข่งขันใหม่

เธออยากรู้ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างเธอกับราอนด้วยการต่อสู้ครั้งใหม่

“เฮ้อ…”

มาร์ธาถอนหายใจอย่างแรงและเงยหน้าขึ้น เธอค่อยๆใตร่ตรองคำพูดของเธออย่างระมัดระวังและจ้องตากับสายตานิ่งๆของราอน

“ฉันอยากสู้กับแกอีกครั้ง”

“เธอยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อีกเหรอ”

“ไม่ใช่แบบนั้น... ฉันยอมรับว่าฉันพ่ายแพ้แกไปอย่างน่าอนาถ แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าฉันแพ้แกได้ยังไง…ฉันมาหาแกเพราะอยากจะรู้เรื่องนั้น”

“……”

ดวงตาของราอนเป็นประกายครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คาดคิดเหตุผลนี้เอาไว้

“แล้วข้อเสนอคืออะไรล่ะ?”

"หา?"

“ถ้าผู้แพ้จะท้าทายผู้ชนะอีกครั้งก็ต้องเสนออะไรบางอย่างให้ผู้ชนะสิ ถูกไหมล่ะ?”

"ไม่มีทางอะ! การประลองไม่จำเป็นต้องมีของรางวัลทุกครั้งสักหน่อย!”

"ก็ฉันอยากได้"

“ฮึ่ย…”

มาร์ธาคร่ำครวญออกมาเบาๆ

'นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม'

เพราะราอนไม่เคยจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลย เธอถึงรู้สึกเหมือนราอนทำตัวเหมือนผู้ใหญ่

“ไม่มีเหรอ? ถ้าไม่มีให้งั้นฉันก็ไม่ยอมรับคำท้าหรอกนะ”

ราอนกอดอก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาจะยอมไม่ยอมต่อสู้อีกครั้งเด็ดขาด

“อ่า…”

'แล้วต้องทำยังไงเขาถึงจะยอมล่ะ?' มาร์ธาคิดและกัดริมฝีปากของเธอแล้วจ้องไปที่ราอน จากนั้นเธอก็ก้มดูดอกไม้

'ฉันควรลองเหยียบมันสักหน่อยดีไหม?'

เขาคงจะรักดอกไม้พวกนี้มากในเมื่อเขาออกมาดูแลพวกมันด้วยตัวเอง หากเธอยั่วยุเขาโดยการทำลายมันนิดหน่อยก็อาจะทำให้เขาโกรธจนเข้ามาสู้กับเธอ

“งั้นแกก็คงจะชอบดอกไม้ล่ะสิ แต่มันดูไม่ค่อยเหมาะกับแกเท่าไหร่นะ”

มาร์ธาแอบขยับเท้าไปทางแปลงดอกไม้

"ก็ไม่เชิงหรอก"

ราอนส่ายหัวตอบกลับขณะที่ในมือก็ถือพลั่วไว้อยู่

"อ๋อเหรอ"

“ฉันไม่ได้ชอบดอกไม้เลยสักนิด ที่ฉันมาดูแลดอกไม้ก็เพราะแม่ของฉัน”

“……”

มาร์ธาที่กำลังจะเหยียบดอกไม้ถึงกับหยุดชะงักกะทันหัน

"ทำไม? เปลี่ยนใจไม่เหยียบพวกมันแล้วเหรอ?”

ราอนเอียงศีรษะและยิ้มเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขารู้ถึงสิ่งที่เธอกำลังจะทำอยู่แล้ว

“เวรเอ๊ย…”

มาร์ธาสบถและดึงเท้าของเธอกลับคืน เมื่อได้ยินว่าเขามาดูแลดอกไม้ให้กับแม่ของเขาเธอก็ไม่อยากเหยียบดอกไม้อีกต่อไป

"ชิ"

เธอเดาะลิ้นของเธอ และขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับนั้นประตูอาคารรองก็เปิดออกและหญิงวัยกลางคนรูปงามที่มัดผมหางม้าก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขา

“ราอน!”

“อ๊ะ?”

สายตาของราอนเปลี่ยนไปทันที เขาทำท่าทางลุกลี้ลุกลน

“ท-ท่านแม่...”

“ในที่สุดแม่ก็หาลูกเจอสักที นี่ลูกมาดูแลดอกไม้ให้แม่งั้นเหรอ? ว่าแต่นี่ใครเหรอจ๊ะ เพื่อนของลูกใช่มั้ย?”

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

'เธอคือซิลเวีย ซีกฮาร์ทใช่ไหมนะ?'

ผู้หญิงคนที่ยอมออกจากตระกูลไปเพื่อคนรักและสุดท้ายก็กลับเข้ามาในตระกูลเพื่อลูกของเธอ เธอคือความอับอายของตระกูลที่ถูกเรียกว่าเป็นขยะ

อาจเป็นเพราะเธอเคยมีประสบการณ์คล้ายๆ กัน มาร์ธาเลยไม่ได้มองเธอเป็นแบบนั้น ในสายตาของมาร์ธาแล้วเธอเป้นแม่ผู้กล้าหาญที่ยอมเสียสละเพื่อลูกที่รักของเธอ

“ธ-เธอไม่ใช่เพื่อนผมครับ! คือเธอไม่ได้เป็นอะไรกับผมเลย แม่เข้าบ้านไปก่อนนะครับเดี๋ยวผมรีบตามไป”

ราอนพูดติดอ่าง… นี่เป็นภาพที่หาดูได้ยากมาก

“เธอน่ารักนะเนี่ย มีผมกับดวงตาสีดำด้วย? เอ๋!เธอคือมาร์ธานี่นา!”

ซิลเวียยิ้มอย่างสดใสและประกบมือตัวเองอย่างดีใจ

“……”

มาร์ธาเพียงพยักหน้าให้อย่างเงียบ ๆ

“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคู่ต่อสู้ของราอน เธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

เธอทำให้มาร์ธานึกถึงแม่ ดวงตาสีกุหลาบของซิลเวียบ่งบอกว่าเธอกำลังเป็นห่วงมาร์ธาจากใจจริง

"หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ"

“ขอบคุณพระเจ้า ฉันเป็นห่วงแทบแย่”

ซิลเวียยิ้มเบาๆ

“ฉันได้ยินมาว่าท่านพี่เดเนียร์พาเด็กที่มีความสามารถเข้ามาในตระกูล แต่ฉันยังไม่เคยเจอเธอเลย”

ซิลเวียสำรวจมาร์ธาอย่างละเอียด และเอาแต่บอกว่ามาร์ธาหน้าตาดีมากรูปร่างดีมาก ซิลเวียชมเธอไม่หยุด

“แล้วทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้ล่ะจ๊ะ?”

“พอดีหนูมีเรื่องจะมาบอกเขาน่ะค่ะ แต่หนูคุยกับเขาเสร็จแล้ว นี่ก็กำลังจะกลับเลย…”

มาร์ธาโค้งคำนับให้แล้วกำลังจะเดินออกไป

โครก!

เสียงจากการอดอาหารเช้าของเธอประท้วงขึ้นมา

“เอ่อ…”

ใบหน้าของมาร์ธาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย เธอกำลังรีบจะวิ่งหนีแต่ก็มีมืออุ่นๆมาคว้ามือของเธอไว้ก่อน

เป็นมือของซิลเวียนั่นเองที่หยุดเธอเอาไว้

“อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิจ๊ะ”

ไม่รู้ว่าทำไม แต่มาร์ธาไม่กล้าสะบัดมือเล็กๆของซิลเวียออก

* * *

* * *

นี่มันสถานการณ์แบบไหนอีก?

ราอนขมวดคิ้ว เหล่ตามองมาร์ธาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขาบนโต๊ะอาหาร

'ฉันไม่รู้แล้ว'

เขาเข้าใจความใจดีของซิลเวีย

แต่การที่ยัยบ้าตรงหน้าบ้าจี้มานั่งรออาหารอยู่บนโต๊ะเดียวกันกับเขาอย่างสงบเสงี่ยมนี่สิ...เป็นภาพที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็น

ตอนที่ตัดผมเธออาจจะเผลอตัดปากหมาๆของเธอออกไปด้วยแล้วมั้ง

“ราอนชอบกินซุปเนื้อน่ะจ่ะ เรามักจะทำให้เขากินตลอด”

“อ๋า…ค่ะ”

ซิลเวียยังคงยิ้มแย้ม ราอนไม่รู้เลยว่าเธอกำลังมีความสุขเรื่องอะไรอยู่ และมาร์ธาก็ทำตัวราวกับว่าเธอเขินอาย

ท่าทางของเธอนั่นมันอะไรกัน? นี่ใช่มาร์ธาที่ฉันรู้จักจริงๆ เหรอ?

'สรุปแล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน'

นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลซีกฮาร์ทที่เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนเช่นนี้

ไม่นานนักอาหารก็ถูกนำออกมา โต๊ะอาหารถูกเสิร์ฟด้วยซุปเนื้อ เนื้ออบ ผักต่างๆ และขนมปังอุ่นๆ

“เธออายุมากกว่าราอนหนึ่งปีใช่ไหมจ๊ะ?”

"ค่ะ"

“แล้วการฝึกฝนมันยากลำบากมากหรือเปล่า?”

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ'

ซิลเวียยังคงชวนมาร์ธาคุยไม่หยุดขณะที่รับประทานอาหาร ส่วนมาร์ธาก็ตอบกลับไปสลับกับตักอาหารเข้าปาก

"…”

ราอนเอียงหัวมองเหตุการณ์ตรงหน้า

'เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่เนี่ย?'

ปกติแล้วสิ่งแรกที่มาร์ธาจะทำเมื่อมีคนชวนเธอคุยคือการสบถ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเธอทำตัวสุภาพขนาดนี้

“…”

ราอนกลืนน้ำซุปลงไปอย่างกระอักกระอ่วน

“พวกเราทำอาหารเก่งมากนะแต่คุณภาพเนื้อของที่นี่จะแย่กว่าอาคารหลักนิดหน่อย ดังนั้นอย่าลืมเคี้ยวให้ละเอียดๆนะจ๊ะจะได้ย่อยง่ายๆ”

“……”

มือของมาร์ธาที่ถือส้อมอยู่ก็สั่นขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดของซิลเวีย

ราอนที่เห็นแบบนั้นจึงเตรียมตัวที่จะเข้าไปห้ามเพราะคิดว่าเธอกำลังจะอาละวาด แต่เธอเพียงก้มหน้าลงแล้วกินอาหารต่อไปเท่านั้น

ขนาดกับราอนที่ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามาร์ธากำลังเศร้าและโหยหาอะไรบางอย่าง

"ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารนะคะ"

ในที่สุดการรับประทานอาหารที่น่าอึดอัดที่สุดก็จบลงและมาร์ธาก็ลุกขึ้นยืน

“รสชาติเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?”

“อร่อยค่ะ”

"ดีใจจัง จากนี้ไปช่วยเป็นเพื่อนกับราอนหน่อยนะ”

ซิลเวียไปส่งเธอที่หน้าประตูและโบกมือให้มาร์ธา

"ได้ค่ะ"

มาร์ธาตอบออกไปด้วนน้ำเสียงปกติที่ไม่ปกติสำหรับเขาและเดินออกจากบริเวณอาคารรองไป

'ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่มันเรื่องบ้าอะไร?'

ในตอนแรกเธอมาที่นี่เพื่อที่จะหาเรื่องเขาแน่ๆ เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เธอถึงเริ่มแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบนั้น

เธออาจจะกินอะไรแปลกๆ เข้าไปหรือเปล่า?

'ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ'

อารมณ์ของมนุษย์เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจจริงๆ

***

ทันทีที่เธอออกจากอาคารรองมาร์ธาก็กัดริมฝีปากของเธอ เธอรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ซิลเวียทำให้เธอนึกถึงแม่…

ใบหน้า สีผม เสื้อผ้าที่เธอกำลังใส่หรือแม้แต่น้ำเสียงของซิลเวียไม่เหมือนกับแม่ของเธออย่างแน่นอน แต่ดวงตาสีกุหลาบคู่นั้นดูคล้ายกับแม่ของเธอที่หายตัวไปอย่างมาก

นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่สามารถสลัดมือของซิลเวียที่เข้ามากุมมือของเธอได้

ส่วนราอนก็คงคิดว่าเธอบ้าไปแล้วแน่ๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นดวงตาของเขาสั่นไหวขนาดนี้

เธอคิดจะออกไปแต่เธอก็อยากจะอยู่ทานอาหารต่อให้เสร็จ เธออยากจะจ้องมองและฟังน้ำเสียงที่อ่อนโยนของซิลเวียต่ออีกสักนิด...

เมื่อเธอได้ยินซิลเวียบอกให้เธอเคี้ยวอาหารให้ละเอียด...นั่นเหมือนกับที่แม่ของเธอคอยบอกเธออยู่เสมอ มาร์ธารู้สึกเหมือนได้กลับมาเจอกับแม่อีกครั้ง

นั่นยิ่งทำให้เธออยากตามหาแม่ของเธอให้เจอเร็วๆ

'ไอ้พวกลัทธิโลหิตขาวเวรนั่น!'

คนที่จับตัวแม่ของเธอไปคือหนึ่งในพวกที่อยู่ในลัทธิโลหิตขาวซึ่งนำโดยหนึ่งในห้าปีศาจ ต่อให้เธอจะต้องตามฆ่าพวกคลั่งไคล้ลัทธิบ้านั่นให้หมดเธอก็จะทำ เธอจะต้องตามหาแม่ให้เจอให้ได้

คิดได้ดังนั้นแล้วมาร์ธาจึงตรงกลับไปที่อาคารหลัก

“คุณหนูกลับมาแล้วเหรอครับ…หืม? คุณหนูร้องไห้เหรอครับ?”

คาเมลที่ออกมาเจอมาร์ธาที่หน้าประตูก็เบิกตากว้าง

“พูดถึงเรื่องอะไรของนาย! ฉันไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก!”

มาร์ธาลอบเช็ดน้ำตาของเธอแล้วส่ายหัว เธอรีบเดินผ่านประตูเข้าไปในคฤหาสน์ แต่แล้วเธอก็ต้องหันกลับมา

“คาเมล นายช่วยหาเนื้อที่มีคุณภาพดีๆมาให้ฉันสักหน่อยได้ไหม?”

"เนื้อ? แน่นอนสิครับ ว่าแต่คุณหนูจะเอาไปทำอะไรล่ะครับ?”

“ฉันจะเอาไปทำอะไรบางอย่างน่ะ ถ้าหามาได้แล้วก็ช่วยเอามาวางไว้ที่หน้าห้องของฉันด้วยนะ!”

มาร์ธาตอบกลับแล้วรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของเธอทันที

“ฮ่าๆ”

คาเมลหัวเราะออกมาเบา ๆ ในขณะที่มองดูเธอ

“เธอจะรู้ตัวไหมว่าตอนนี้เธอดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก”

***

เช้าวันรุ่งขึ้น ราอนที่ฝึกฝนในตอนรุ่งสางเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังสนามฝึกที่ห้า

และเขาก็เป็นคนแรกที่มาถึงอีกเช่นเคย เขาตัดสินใจว่าจะเก็บเรื่องที่มาร์ธามาเยี่ยมเขาเมื่อวันก่อนให้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

หลังจากการอบอุ่นร่างกายเล็กน้อยเขาก็เริ่มฝึกฝน'ดาบผสมผสาน' จวบจนเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นก็มีเด็กคนอื่นๆ ทยอยเข้ามาในสนามฝึกทีละคนๆ

เขาฝึกฝนดาบต่อไปพร้อมกับแอบฟังบทสนทนาที่ไร้สาระของเด็กคนอื่น แล้วจู่ๆ ทุกอย่างก็เงียบลง เมื่อเขาหันหน้าไปดูก็เจอกับมาร์ธาที่กำลังเดินเข้ามาจากทางประตูของสนามฝึกซ้อม

เด็กๆแทบทุกคนอ้าปากค้าง อาจเป็นเพราะทรงผมที่ตัดสั้นของมาร์ธา

“ราอน ซีกฮาร์ท”

มาร์ธาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าราอน

“ฉันแค่จะมาขอโทษกับเรื่องงี่เง่าบางอย่างที่ฉันเคยทำไป ถึงแม้ฉันรู้ว่าฉันคงจะเอาสิ่งที่ฉันพูดออกไปแล้วกลับคืนมาไม่ได้และฉันก็ไม่มีอะไรให้เอามาชดใช้ด้วย”

ดวงตาของเธอดูสงบนิ่งกว่าเมื่อวาน มันดูเหมือนทะเลที่ไม่มีคลื่น

“แต่ฉันจะรักษาสัญญา”

“สัญญาอะไร?”

“สัญญาที่เราทำไว้ก่อนจะเริ่มการประลอง…ผู้แพ้จะเชื่อฟังผู้ชนะทุกอย่าง”

การพูดแบบนั้นบ่งบอกว่าเธอยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์  เธอหันเดินไปทางอื่นทันที

'นี่มันมากกว่าที่ฉันคิด...'

การที่เธอเปลี่ยนไปในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้ได้แปลว่าเธอไม่ใช่คนใจแคบตั้งแต่แรก แต่เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงยอมมาร่วมโต๊ะอาหารกับเขา

“แล้วทำไมแกถึงมายืนเกะกะฉันล่ะ? ออกไปไกลๆเลย!”

ขณะที่ราอนกำลังสงสัย มาร์ธาก็ถีบดอเรียนที่ยืนเก้งก้างอยู่ให้ออกไปจากทางเดินของเธอ

“โอ๊ย! ผ-ผมขอโทษจริงๆครับ”

“ชิ…”

เธอเดาะลิ้นและเดินไปนั่งที่ที่นั่งประจำของเธอ

ราอนแสยะยิ้ม ดูเหมือนสิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือทัศนคติของเธอที่มีต่อเขา

'ก็นะ…รอบตัวฉันก็ไม่มีใครเป็นคนปกติอยู่แล้ว'

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด