ตอนที่แล้วตอนที่ 93 พลังพรสวรรค์ของบอสตัน(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 95 สัตว์เลี้ยงตัวแรก(อ่านฟรี)

ตอนที่ 94 ความสามารถย่อยปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม(อ่านฟรี)


ตอนที่ 94 ความสามารถย่อยปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม

เขต 5

กว่าพวกเขามาถึงเมืองในเขต 5 ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว แสงแดดสีส้มจางหายไปความมืดสีดำสลัวกำลังเข้าแทนที่อย่างเชื่องช้า แต่รถก็ยังไม่หยุด เพราะในเย็นนี้จะต้องไปถึงโรงพยาบาลและเคลียร์พื้นที่โรงพยาบาลให้สำเร็จ

เนื่องจากต้องใช้ที่นี่เป็นที่พักในช่วงสองสามวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่เมืองเขต 4-5

ถนนส่วนใหญ่พังและมีเศษซากจากรถหรืออาคารที่ถล่มลงมาขวางทาง แต่ยังดีที่ผังเมืองถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี จึงมีเส้นทางหลบเลี่ยงได้หลายเส้น จนไปถึงโรงพยาบาล

ตั้งแต่ที่มาถึงที่นี้นอกจากมอนสเตอร์แล้ว ก็ยังไม่พบผู้คน แต่กลุ่มของพวกเขาเห็นสัญญาณพลุไฟมาจากตึกที่ห่างไปสามสี่ช่วงตึก

ลุคและพวกไม่ได้ไปที่นั่น เพราะแถวนั้นมีเสียงมอนสเตอร์อยู่จำนวนมากและท้องฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว

ระหว่างทางลุคได้เจอกับมอนสเตอร์ตัวหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจ เป็นกิ้งก่ากระจก มันเป็นมอนสเตอร์ระดับ F ตัวหนึ่ง ไม่แข็งแกร่งแต่โดดเด่นในด้านการพรางตัว เพราะตัวของมันเหมือนกับกระจกแก้วใส่ที่พรางตัวได้

มันได้ลอบโจมตีรถของพวกเขา แต่โชคดีที่ลุคมีหินตาแดงระดับ F เกรดสีม่วงอยู่ เขามอบให้กับทุกคน เพื่อจะได้คอยช่วยกันมองความมืดด้านนอกได้ และก็ดันไปเห็นความผิดปกติในจุดที่กิ้งก่าหลบซ่อนพอดี มันไม่ใช่การเห็นตัวเป็น ๆ แต่เห็นแค่เค้าลางที่พอมองออกว่าเป็นมอนสเตอร์

ทำให้ลุคบังเอิญฆ่ามันได้ก่อนที่มันจะโจมตีรถของพวกเขา

“คุณได้รับไอเทมแหวนพรางตัวระดับ F เกรดสีส้ม ผลพิเศษ ทำให้พรางตัวในสภาพแวดล้อมได้ แต่จะไม่มีผลถ้าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป”

“นี่มันของดี” ลุคค่อนข้างพอใจกับไอเทมชิ้นนี้

“เรามาถึงแล้ว”

บอสตันชะลอลดมาจอดอยู่หน้าโรงพยาบาล โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครว่าพวกเขา เพราะที่นี่ไม่เห็นใครอื่นอีกเลย นอกจากซากรถที่พังเสียหายกับรอยเลือดสีดำบนพื้น แต่ไม่พบร่างหรือศพใครเดาว่าคงโดนมอนสเตอร์กินไปแล้ว

ทั้ง 4 คนออกมานอกรถพร้อมกับอาวุธของตัวเองยืนอยู่หน้าโรงพยาบาล

“เอายังไงกันต่อ” บอสตันหันไปถามลุค

“ไม่น่ามีมอนสเตอร์ระดับ D ขึ้นไปอยู่ที่นี่ ไม่งั้นมันคงออกมาไล่ฆ่าเราทันทีที่มาถึงแล้ว แบ่งกันไปกวาดล้างก็แล้วกัน”

ในตอนนั้นพวกมันโดนองค์หญิงเทพอสูรเรียกไปรวมตัวกันหมด ส่วนพวกที่รอดนิโคลบอกว่าผู้อำนวยการอีคอนพาคนไปกวาดล้างแล้ว ทำให้ในเมืองพบเห็นมอนสเตอร์ระดับ D ขึ้นไปได้ยาก

“แบ่งกันไปกวาดล้างเหรอ แบบนั้นจะไม่อันตรายเหรอ” ไอกะพูดอย่างกังวล แม้เธอจะเป็นระดับ E แต่ก็มีคลื่นพลังไม่เกินร้อยหน่วยด้วยซ้ำ

ซึ่งก็ไม่แปลก เนื่องจากเธอพึ่งเลื่อนระดับยังไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ

นิโคลกับบอสตันก็เหมือนกัน

“ไม่เป็นไร ฉันมีวิธี” ลุคกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาชุดเกราะด้วงทมิฬออกมา 3 ชุด

“ชุดเกราะระดับ E” นิโคลเคยใช้ชุดแบบนี้มาก่อน เธอจึงรู้ว่าชุดนี้แข็งแกร่งมากในการปกป้องชีวิต ถ้าสวมใส่มันมอนสเตอร์ระดับ E ก็ยากจะฆ่าคนที่ใส่ได้ในเวลาอันสั้น แถมยังบินหนีไปได้

แต่ว่าถ้าเข้าไปในโรงพยาบาลพวกเขายากจะบินได้ เพราะในอาคารพื้นที่มันแคบไป

ลุคเหมือนจะเห็นความกังวลของนิโคลเขาก็กล่าวขึ้นมา

“ฉันมีพลังบางอย่าง แต่อยากให้พวกเธอเก็บไว้เป็นความลับด้วย” ลุคพูดด้วยท่าทางลึกลับ

ทั้งสามคนสนใจในเรื่องพลังพรสวรรค์ของลุคมาก พวกเขาจึงพยักหน้าตกลงในทันที

เกราะด้วงทมิฬทั้ง 3 ชุดเป็นไอเทมระดับ E เกรดสีม่วงที่ลุคอัพเกรดขึ้นมาจากเกรดสีที่ต่ำลงไป ทั้ง 3 ชุดมีเกรดรองแค่ชุดเกราะเกรดสีส้มของเขาเท่านั้น อันที่จริงลุคก็อยากจะอัพเกรดให้มันสูงกว่านี้ แต่ไอเทมชุดเกราะเกรดต่ำไม่เพียงพอ

‘หวังว่าในช่วงกวาดล้างจะเจอพวกด้วงเกราะทมิฬมากขึ้น’

ลุคคิดในใจและหยิบชุดเกราะด้วงทมิฬขึ้นมาชุดหนึ่ง

ความสามารถปกติของพลังพรสวรรค์ไอเทมมอนสเตอร์คือการดูดซับซากมอนสเตอร์และเปลี่ยนพวกมันเป็นไอเทม นั้นคือช่วงที่พลังลุคอยู่ในระดับ F

พอพลังของเขาทะลวงไปที่ระดับ E ความสามารถในการดูดซับไอเทมก็แข็งแกร่งขึ้น เขาไม่จำเป็นต้องสัมผัสไอเทมโดยตรงก็เรียกหรือเก็บได้ รวมทั้งซากศพที่สังหารด้วย แต่ว่านี่เป็นเพียงการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสามารถเดิมที่มีอยู่

มันคล้ายกับของนิโคลที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในการควบคุมเชือก แต่ยังมีความสามารถใหม่คือควบคุมทุกสิ่งที่เหมือนกับเชือก

ลุคเองก็ได้รับความสามารถย่อยแบบใหม่มาเหมือนกัน

“ปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม” เป็นความสามารถที่เขาปลดล็อกข้อจำกัดในการผสานคลื่นพลังที่ปกติจะผสานแค่ตัวของเขาได้เท่านั้น แต่เขาสามารถปลดล็อกให้คนอื่นสามารถผสานกับพลังในไอเทมได้ด้วย ไม่ใช่แค่เพียงการใช้งานแบบทั่วไปอีก

“ไอเทมมอนสเตอร์ใช้ความสามารถย่อยปลดล็อกคลื่นพลังไอเทม”

ทันทีที่ลุคกล่าวจบ ชุดเกราะก็เปล่งแสงออร่าสีม่วงออกมาเป็นจังหวะ ก่อนจะกลับไปนิ่งเหมือนเดิม นี่เป็นความสามารถแฝงย่อยที่ลุคได้มา

ลุคทำแบบเดิมกับทั้งสามชุด

“ลองสวมใส่พวกมันดู”

ทั้งสามรับมาและรวมใส่ด้วยความสงสัย แต่ทันทีที่พวกเขาสวมไปบนตัวก็สัมผัสได้ถึงการผสานกันระหว่างคลื่นพลังในตัวกับคลื่นพลังที่ไอเทมส่งมาให้

“นี่มัน คลื่นพลังของฉันกำลังเพิ่มขึ้น” นิโคลรับรู้ได้อย่างชัดเจน

บอสตันและไอกะก็มีสีหน้าตื่นตกใจไม่แพ้กัน

“นี่เป็นหนึ่งในความสามารถใหม่ของฉัน พลังที่พวกเธอผสานไปด้วยมาจากไอเทมชุดเกราะที่สวมอยู่ ถึงจะเป็นพลังภายนอก แต่ก็ทำให้เธอแข็งแกร่งได้ไม่ต่างจากเหนือมนุษย์ที่มีพลังในระดับ E ขั้นสูงเลย”

“พลังของฉันไปถึง 895 หน่วย จริงอย่างที่นายบอกฉันเป็นเหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นสูงแล้ว” บอสตันกำหมัดและลองต่อยออกไป ทั้งพละกำลังและการเคลื่อนไหว กับสภาพร่างกายเหมือนกับเหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นสูงทุกอย่าง

“นี่เป็นพลังนายเหรอ” ไอกะพูดด้วยสีหน้าเหม่อเล็กน้อย

“อืม” ลุคพยักหน้า

“เฮ้อ นายแข็งแกร่งและน่ากลัวเกินไป” เธอกล่าวออกมาตามตรง

“ใช่พลังนายน่ากลัวเกินไป ทำให้เหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นต้นได้รับพลังเหนือมนุษย์ระดับ E ขั้นสูงได้ในพริบตา ถ้าเกิดมีคนรู้เข้าพวกเขาจะต้องอิจฉาและมาหานายแน่”

“นั่นแหละฉันจึงอยากให้พวกเธอไม่บอกใคร หรือต่อให้ใครสงสัยก็แค่ไม่ต้องพูด พวกเขาก็ไม่สามารถยืนยันได้” ลุคกล่าว

ทั้งสามคนพยักหน้า แต่แล้วนิโคลก็ถามด้วยความสงสัย

“พลังนี้ผสานกับคนธรรมดาได้ไหม”

พอทุกได้ยินก็มองไปที่ลุคและคิดตามถ้าได้ล่ะจะเป็นยังไง

ลุคเพียงแต่ยิ้ม อันที่จริงเขายังไม่ได้ลองความสามารถย่อยนี้มากนัก แต่ในใจก็พอมีคำตอบอยู่

เขาเปลี่ยนกลับมาพูดเรื่องชุดเกราะที่ทั้งสามสวมอยู่

“ถึงมันจะผสานและมอบคลื่นพลังให้ แต่ว่าพวกเธอไม่สามารถเติมพลังให้กับชุดได้ เหมือนกับฉัน เพราะฉันเติมมันได้ผ่านพลังพรสวรรค์ที่ดูดซับจากรอบตัวและในอากาศมา ดังนั้นพวกเธอจะต้องเติมพลังให้กับไอเทมชุดเกราะด้วงทมิฬด้วยตัวเอง” ลุคพูดถึงข้อเสียของไอเทมที่พวกเขาผสานพลังไปกับมัน

“เราต้องทำยังไง” ไอกะเอ่ยถาม

“มันมีสองวิธี 1 คือเติมด้วยคลื่นพลังในตัวเอง ปล่อยเข้าไปในชุด แต่แบบนั้นคงใช้เวลานานกว่าจะเต็ม จากที่ฉันคำนวณพลังในชุดเกราะมีอยู่ 800 หน่วย ถ้าต้องการเติมคลื่นพลังเข้าไปก็ต้องใช้ 800 หน่วย แต่พวกคุณมีคลื่นพลังในตัวกันแค่ช่วง 100 เท่านั้น คงใช้เวลาสัก 4-5 วันกว่าจะเติมและพักฟื้นฟูและเติมอีกหลายครั้งจนคลื่นพลังในชุดเกราะเต็ม”

“ดังนั้นก็ต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง” ลุคหยิบเอาหินพลังงานออกมา ก่อนจะโยนให้กับบอสตัน

“หินพลังงาน” บอสตันทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ

“ใช่ ไอเทมไม่เหมือนกับร่างกายมนุษย์ พวกมันดูดซับพลังงานได้โดยตรงจากหินพลังงาน แค่เอาไปสัมผัสก็เติมได้แล้ว”

บอสตันลองเอาไปสัมผัสกับชุดเกราะ แต่ก็ไม่มีการเพิ่มเพราะชุดเกราะยังมีพลังเต็มเปี่ยม บอสตันจึงยิ้มอาย ๆ ให้กับตัวเอง

ลุคไม่ใส่ใจ เขาอธิบายต่อ

“แต่ว่าหินพลังงานที่ใช้ก็ควรจะเป็นระดับเดียวกับไอเทมนั้น ๆ ชุดเกราะที่พวกคุณใส่อยู่เป็นระดับ E ก็ต้องใช้หินพลังงานระดับ E ในการเติม ฉันคาดการณ์ไว้ว่า หินพลังงานระดับ E 1 ก้อนจะเติมพลังงานได้ 10 รอบ”

“นี่มันพลังที่แรกมากกับเงินตราสินะ” บอสตันมองดูหินพลังงานมือ

หินพลังงานระดับ F ราคาที่ 10,000+ เครดิต ส่วนราคาของหินพลังงานระดับ E อยู่ที่ 250,000+ เครดิต มันไม่ได้ต่างกันแค่ระดับ แต่ต่างกันถึงคุณภาพด้วยราคาจึงสูงแบบนี้

“แต่ก็คุ้มค่ากับพลังที่ได้มา” นิโคลกล่าวและลองขยับชุดเกราะดู ก่อนจะพูดเพิ่มเติมว่า “ฉันสัมผัสได้ว่าพลังในชุดเกราะถ้าสนับสนุนพลังมันกับชุดจะใช้ได้ 4 วันไม่มีปัญหา แต่ถ้าดึงออกมาใช้กับพลังพรสวรรค์ก็จะลดลงกว่าเท่าตัวหนึ่ง ดูแล้วถ้าเปิดใช้งานต่อเนื่องคงอยู่ได้ 2 วัน”

“อืม” ลุคพยักหน้ายืนยันความคิดของเธอว่ามันถูกต้อง

“ไปลุยกันเถอะ จริงสิพวกเธอควรเอาอาวุธไปด้วย” ลุคกล่าว ก่อนจะเอาไอเทมเคียวยมทูตออกมา

“ฉันขอใช้พลังพรสวรรค์ก็แล้วกัน” ไอกะบอกกับลุค

พลังพรสวรรค์ของเธอเป็นประเภทสร้างสรรค์ที่สร้างมีดทำครัวเป็นอาวุธอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเอาอาวุธเพิ่ม แถมหลังจากเป็นระดับ E มีดทำครัวที่เธอสร้างได้ก็ทรงพลังมากขึ้น มันสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ไม่ใช่แค่มีดเชฟทั่วไปอีก เธอมีความสามารถรูปแบบที่สองคือมีดสับกระดูก

มีดเซฟทั่วไปเหมาะกับการเฉือน ซึ่งไอกะใช้มันเฉือนเนื้อมอนสเตอร์ทั้งเป็นได้ แต่บางครั้งเมื่อเจอพวกที่หนังเหนี่ยวกระดูกแข็งเธอก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ แต่พอมีมีดสับกระดูกแล้ว เธอสามารถสับส่วนที่แข็งของมอนสเตอร์ได้โดยตรง

ตัวอย่างก็เช่นเกราะของมอนสเตอร์ด้วงเกราะดำในระดับเดียวกัน มีดสับกระดูกของไอกะสามารถสับเกราะมันแตกได้ นี่คืออีกเหตุผลที่ในช่วงภัยพิบัติไอกะจึงช่วยเหลือคนอื่น ๆ รอดมาได้

ตอนนี้เมื่อได้รับสนับสนุนจากคลื่นพลังในชุดเกราะด้วงทมิฬ พลังพรสวรรค์ของไอกะก็ทรงพลังมากขึ้น เธอคิดว่าน่าจะจัดการมอนสเตอร์ในระดับ E ได้ไม่ยาก

ถ้าเอามาทำอาหารก็ไม่ต้องเมื่อยในการชำแหละพวกมันอีก...ไอกะคิดอย่างตื่นเต้นและอยากจะรีบลองไปชำแหละมอนสเตอร์สักตัวดูโดยเร็วที่สุด

บอสตันและนิโคลนั้นรับอาวุธมาก

ก่อนหน้านั้นบอสตันมีหอกหนามระดับ F เป็นอาวุธ ซึ่งลุคมอบให้ไป แต่มันพังไปแล้ว ก็ไม่แปลก เพราะเขาเอามันไปสู้กับมอนสเตอร์ระดับ E

และนิโคลเธอเสียอาวุธโซ่ที่เป็นอาวุธพิเศษระดับ E ไปตอนที่ช่วยลุค ทำให้เธอต้องเอาโซ่เส้นใหม่มาใช้ แต่เพราะสถานการณ์ตอนนี้ก็หาได้เพียงโซ่ธรรมดาเท่านั้น

นิโคลเคยมีประสบการณ์ใช้อาวุธธรรมดาอยู่ สมัยเป็นเหนือมนุษย์ระดับ F เธอใช้เชือกธรรมดาที่ผูกติดกับมีดที่เป็นอาวุธพิเศษ คราวนี้ก็แค่เปลี่ยนไปใช้เคียวยมทูตติดกับโซ่เท่านั้น

ทั้งสองเอาเคียวยมทูตไปคนละเล่ม เพราะถ้ามากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

“ไปลุคกันเถอะ”

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด