บทที่ 11 ยารักษาน้ำร้อนลวก (2)
ช่วงเวลาเที่ยง จัวหย่วนออกไปข้างนอก
ผู้ดูแลจวนเถายังมีเรื่องในจวนที่ต้องจัดการ ฮั่วหมิงจึงรับประทานอาหารร่วมกับเสิ่นเยว่
ฮั่วหมิงเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนของเหลียงโหย่วเหวย
ครั้งนี้ที่เกิดเรื่องขึ้นกับเหลียงเย่ ตระกูลเหลียงสามารถรอดพ้นจากเรื่องนี้ได้อย่างปลอดภัย ทั้งเหลียงโหย่วเหวยยังสามารถย้ายตำแหน่งงานไปเมืองตานเฉิงได้ ทุกอย่างล้วนเป็นการจัดการที่ดีที่สุด
แท้จริงแล้วฮั่วหมิงเป็นคนที่ช่วยเหลือตระกูลเหลียงไว้
เสิ่นเยว่สามารถผ่านด่านนี้ของท่านอ๋องและผู้ดูแลจวนเถาได้ สามารถโน้มน้าวให้ท่านอ๋องไปรับตัวคนมาจากจวนเวยเต๋อโหวได้ แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้ฮั่วหมิงคิดเพียงต้องการลองดู ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าจดหมายแนะนำของเจ้าเมืองจิ้นโจวเวิงหยุ่นไม่ใช่การเขียนโดยไร้ประโยชน์
ท่านอ๋องและผู้ดูแลจวนเถาไม่ใช่คนที่ทำอะไรเลอะเลือนโดยง่าย การที่เสิ่นเยว่ได้เป็นที่โปรดปรานของคนทั้งสอง นั่นก็ถือว่าโดดเด่นเหนือใครแล้ว
ในเมืองหลวงนับได้ว่าฮั่วหมิงเป็นคนสนิทที่สุดของเสิ่นเยว่
วันนี้ในตอนที่ส่งตระกูลเหลียงไปจากเมืองหลวง ฮั่วหมิงเองก็อยู่ เหลียงโหย่วเหวยไหว้วานให้เขาดูแลเสิ่นเยว่ให้มาก ฮั่วหมิงเองก็รับปาก
ฮั่วหมิงเป็นคนเก่าแก่ของจวนอ๋อง เป็นเรื่องง่ายมากที่จะดูแลเสิ่นเยว่
“จากนี้ไปหากมีเรื่องใดภายในจวนหรือผู้ใดที่จัดการไม่ได้ก็มาถามข้า ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นการรบกวน หากเจอปัญหายากที่จะจัดการก็ให้รีบมาหาข้า ข้าอยู่ในจวนอ๋องมาก็นานหลายปีแล้ว แม้ว่าจะอยู่มาไม่นานเท่าผู้ดูแลจวนเถา แต่ก็รู้เรื่องภายในจวนอ๋องอย่างชัดเจน มีเรื่องใดก็ให้บอกข้า” ฮั่วหมิงกำชับ
“ขอบคุณท่านลุงฮั่ว” เสิ่นเยว่กล่าวขอบคุณ
“ยังพักอยู่ที่เรือนหรือไม่?” ฮั่วหมิงเป็นกังวลว่านางจะต้องลำบากไปมาระหว่างสองที่
เสิ่นเยว่พยักหน้า “เจ้าค่ะ ข้าบอกผู้ดูแลจวนเถาแล้ว เรือนอยู่ห่างจวนอ๋องไม่ไกลนัก เดินทางไปมาทุกวันไม่ถือว่าใช้เวลามากนัก ท่านลุงท่านป้าไม่อยู่ ข้ายังสามารถดูแลเรือนให้ดีแทนท่านลุงท่านป้าได้”
ฮั่วหมิงถอนหายใจกล่าว “เช่นนี้จะเป็นการลำบากหรือไม่?”
เสิ่นเยว่ส่ายหน้า “ทุกวันที่เดินทางไปกลับยังสามารถได้พบเห็นผู้คนและทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป ในทางกลับกันจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพียงแต่ต้องเดินทางมาเช้าและเดินทางกลับดึกหน่อย”
ฮั่วหมิงพยักหน้าอย่างชมเชย
ประจวบเหมาะกับเสี่ยวซือที่คอยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ให้ผู้ดูแลจวนเถามาหา “พ่อบ้านฮั่ว แม่นางเสิ่น ช่วงเช้าผู้ดูแลจวนเถาให้คนเร่งเก็บกวาดสถานที่กว้างขวางที่อยู่ใกล้เรือนทิศเหนือ ตอนนี้เก็บกวาดเกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ดูแลจวนเถาเชิญแม่นางเสิ่นไปดูสักหน่อยว่าสถานที่เหมาะสมหรือไม่ ช่างฝีมือที่จะดัดแปลงเรือนและอุปกรณ์ภายในเรือนก็เชิญมาแล้ว ทุกคนล้วนรออยู่ที่เรือนทิศใต้ แม่นางเสิ่นพอจะมีเวลาว่างไปดูหรือไม่”
การเปิดโรงเรียนอนุบาลใกล้เข้ามาแล้ว ช่วงเช้านางบอกกับผู้ดูแลจวนเถาว่าเรื่องนี้เร่งด่วน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าวันนี้ผู้ดูแลจวนเถาจะจัดการเรียบร้อยแล้ว
เดิมทีฮั่วหมิงก็เป็นหัวหน้าพ่อบ้านในจวนอ๋อง จึงเดินไปยังเรือนทิศใต้พร้อมเสิ่นเยว่ ระหว่างทางเขาพูดกับเสิ่นเยว่ว่า “จวนอ๋องแบ่งเป็นเรือนหน้าและเรือนหลัง เรือนหน้ารับรองแขก เรือนหลังแบ่งเป็นสี่เรือน เรือนทิศตะวันออก เรือนทิศใต้ เรือนทิศตะวันตก และเรือนทิศเหนือ คุณชายและคุณหนูที่อายุน้อยหน่อยอาศัยอยู่ที่เรือนทิศตะวันออก คุณชายและคุณหนูที่โตหน่อยอาศัยที่เรือนทิศตะวันตก ท่านอ๋องพักที่เรือนทิศใต้ เรือนทิศเหนือจึงว่างมาโดยตลอด”
เสิ่นเยว่ฟังจนเข้าใจภาพรวมของพื้นที่ภายในจวนอ๋อง แต่เด็กคนอื่นในจวนนางยังไม่เคยเจอ เคยได้ยินเพียงว่าบางส่วนก็ไปหาปู่ย่าตายาย บางส่วนก็ไปหาญาติคนอื่นๆ ครั้งนี้ที่อ๋องผิงหย่วนออกศึก ปลายปีไม่อยู่ในเมืองหลวง เด็กๆ ที่ออกไปข้างนอกเหล่านั้นคงจะกลับมาหลังปลายปี...
จวนอ๋องผิงหย่วนไม่เล็ก
แต่โถงข้างอยู่ไม่ไกลจากเรือนทิศเหนือ ระหว่างทางจึงใช้เวลาไม่นาน
ในตอนที่ทั้งสองไปถึงเรือนทิศเหนือ มีเสี่ยวซือเดินมาหาเพื่อต้อนรับ “แม่นางเสิ่น พ่อบ้านฮั่ว เชิญทางนี้”
เสี่ยวซือนำทาง เสิ่นเยว่ถึงได้เห็นว่าพื้นที่ของเรือนทิศเหนือกะทัดรัดมากกว่าเรือนทิศตะวันออก ส่วนมากล้วนเป็นสถานที่โล่งกว้างขนาดเล็ก แต่อยู่ใกล้กัน
ผู้ดูแลจวนเถากำลังถือแผนภาพสถานที่และกำลังพูดคุยกับช่างฝีมือ “สถานที่ตรงนี้รื้อแล้วทำให้เป็นที่ว่างเปล่า จัดวางอุปกรณ์สำคัญสำหรับกิจกรรมภายนอกที่สั่งทำขึ้น ส่วนตรงนี้รื้อออกแล้วปูหญ้า ใช้สำหรับการเตะชู่จวี [1] และทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนด้านนอกเหมาะที่จะใช้เป็นห้องหลักที่กว้างพอดี แสงอาทิตย์เพียงพอ ทำโถงให้กลายเป็นโถงทางเชื่อม จัดวางอุปกรณ์ภายในเรือนที่ไม่บดบังสายตา...เพียงแต่ว่า ‘เส้นทางวิ่ง’ เป็นวงกลมนี้จะวางไว้ตรงไหน จำเป็นต้องพิจารณา...”
ผู้ดูแลจวนเถารู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย
เสิ่นเยว่เดินไปข้างหน้า “เส้นทางสำหรับวิ่งสามารถออกแบบให้อยู่บนสนามหญ้ารอบนอกได้”
ผู้ดูแลจวนเถาหมุนตัวกลับไป ในดวงตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม “แม่นางเสิ่นมาแล้วหรือ?”
-----------------------------------------------
(1) ชู่จวี (蹴鞠) เป็นการละเล่นหรือกีฬาชนิดหนึ่งของจีนโบราณ ที่มีลักษณะการเล่นคล้ายกับฟุตบอลในยุคปัจจุบัน