ตอนที่แล้วบทที่ 11 ยารักษาน้ำร้อนลวก (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 แบ่งเขตกิจกรรม (2)

บทที่ 12 แบ่งเขตกิจกรรม (1)


“แม่นางเสิ่นมาได้เวลาพอดี ช่างฝีมือที่รับผิดชอบการก่อสร้างและช่างฝีมือที่สร้างอุปกรณ์ภายในเรือนมาครบแล้ว พ่อบ้านฮั่วรับผิดชอบการตกแต่งภายในเรือนต่างๆ ของจวนอ๋อง วันนี้สั่งงานเสร็จ ในจวนจะเร่งให้คนจัดการกระบวนการต่อไป...”

เถาตงโจวเปิดแผนภาพโรงเรียนอนุบาลที่เสิ่นเยว่วาดไว้ นิ้วมือชี้ไปยังเรือนที่อยู่ตรงหน้าและกล่าว “แม่นางเสิ่นดู ตรงนี้เรียกว่าเรือนสุขนิรันดร์ เรือนสุขนิรันดร์อยู่ทางทิศตะวันออก ตั้งอยู่ใกล้สามเรือน เป็นเรือนที่กว้างที่สุด เปลี่ยนแปลงให้เล็กลงได้เร็วที่สุด อุปกรณ์สำคัญภายนอกที่แม่นางเสิ่นต้องการสร้างเป็นอุปกรณ์พิเศษ ข้าจึงเรียกช่างฝีมือมาสองสามคน จำเป็นต้องให้แม่นางเสิ่นอธิบายรายละเอียดพิเศษและการใช้งานให้พวกเขาฟัง อาหลาย พวกเจ้ามานี่...”

เถาตงโจวพูดจบ ช่างฝีมือด้านหลังก็เดินมาข้างหน้าจริงๆ

หัวหน้าชื่ออาหลาย อายุราวสี่สิบปีขึ้นไป เพียงมองก็รู้ว่าเชี่ยวชำนาญ ประสบการณ์หลากหลาย

เพราะเคยดูแผนภาพมาแล้ว ในตอนที่เสิ่นเยว่พูดถึงเขาจึงตามทัน

เสิ่นเยว่เปิดม้วนกระดาษพลางเริ่มอธิบายจากจุดใหญ่ “เรือนนี้จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นเขตกิจกรรมกลางแจ้ง ทุกวันจะแบ่งเป็นสองช่วงเวลาให้เด็กๆ ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่นี่ ทุกครั้งใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยามกว่า ไม่ใช้เวลาเกินหนึ่งชั่วยาม จะต้องคำนึงถึงวันฝนตก หากฝนตกก็สามารถเคลื่อนย้ายไปยังเขตกิจกรรมที่มีกำบังฝน...”

อาหลายเคยเห็นแผนภาพมาก่อน เมื่อเสิ่นเยว่พูดถึงเขาจึงเข้าใจในทันที

เขตกำบังบนแผนภาพหมายถึงเช่นนี้

อาหลายถาม “เช่นนั้นแม่นางเสิ่น ท่านต้องการใช้สิ่งใดมาเป็นเขตกำบัง ใช้สิ่งใดมาเป็นเขตกลางแจ้ง?”

เสิ่นเยว่หัวเราะเล็กน้อย ตอบกลับอย่างมีมารยาท “อาจารย์อาหลาย ประสบการณ์การสร้างของท่านหลากหลาย แน่นอนว่าจะต้องไตร่ตรองได้ถี่ถ้วนมากกว่าข้า ข้าจะอธิบายการใช้งานของแต่ละเขตให้ท่านฟังโดยคร่าวๆ ท่านค่อยดูว่าจะแบ่งเขตที่มีกำบังกับเขตกลางแจ้งอย่างไรจึงจะเหมาะสม?”

อาหลายพยักหน้า “เช่นนี้ก็ดี”

ก่อนหน้าเขากลัวที่สุดว่าจะเป็นเด็กสาวที่เก่งแค่ในกระดาษ ระยะเวลาการทำงานค่อนข้างกระชั้นชิด หากเป็นการลงแรงโดยเสียเปล่า ท้ายที่สุดก็มากล่าวโทษพวกเขา แต่ตอนนี้เมื่อฟังเสิ่นเยว่พูดเช่นนี้แล้ว อาหลายรู้สึกว่าเสิ่นเยว่เป็นคนที่มีความคิดชัดเจน

“เขตกิจกรรมกลางแจ้งจะแบ่งออกเป็นหกส่วนโดยประมาณ พื้นที่ตรงนี้จะรวมเป็นเขตทราย เขตปีนป่าย เขตกิจกรรมรวม และเขตรถเป็นหลัก เขตชู่จวีและเส้นทางวิ่งสายรุ้งจะอยู่อีกด้าน สถานที่ที่ต้องการจะต้องกว้างขวางกว่านี้สักหน่อย” เสิ่นเยว่เดินไปข้างหน้า พลางชี้ไปยังตำแหน่งที่มีรูปร่างคล้ายกระบะทรายบนม้วนกระดาษ “ตรงนี้เป็นเขตทราย จำเป็นต้องขุดห้องตรงหน้านี้ให้มีขนาดเท่ากระบะทราย ไม่จำเป็นต้องลึกมาก เลยข้อเท้ามาก็พอ จะต้องนำทรายละเอียดที่นุ่มมาใส่ เพราะผิวของเด็กเล็กบอบบาง หากเม็ดทรายหยาบเกินไปอาจทำให้บาดเจ็บได้ง่าย”

อาหลายพยักหน้า “เขตทรายนั่นจะต้องทำกำบังสินะ มิเช่นนั้นเมื่อฝนตกจะกลายเป็นโคลน”

เสิ่นเยว่ขานรับ “อาจารย์พูดได้ถูกต้อง แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วจะไม่พาเด็กๆ ไปเขตทรายในฤดูฝน แต่หากไม่มีหลังคาก็อาจทำลายโครงสร้างเขตทรายได้ง่าย วันต่อไปหลังจากฝนตกก็ไม่สามารถเล่นได้ ดังนั้นจะต้องมีกำบัง แต่โดยรอบเขตทราย ทางที่ดีที่สุดจะต้องมีลมผ่านสามทิศทาง เน้นให้อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงกลิ่นไม่พึงประสงค์”

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา” อาหลายจำไว้

ช่วงเช้าเถาตงโจวได้ฟังเสิ่นเยว่พูดถึงเขตนี้แล้ว จึงไม่มีความสงสัยมากเท่าไร แต่ฮั่วหมิงกลับกังวลใจว่าเสิ่นเยว่จะทำไม่เหมาะสม “ส่วนมากที่จัดเด็กๆ ให้อยู่เขตทราย มีความสำคัญอะไรหรือไม่?”

เขากลัวว่าเด็กๆ จะเล่นจนเพลิน โยนทรายไปทุกทิศทางจนอาจทำให้ตาบาดเจ็บได้

เสิ่นเยว่อธิบาย “แม้เนื้อทรายละเอียดจะเป็นของแข็ง ทว่ากลับมีความรู้สึกเคลื่อนไหว เด็กๆ สามารถฝึกฝนสัมผัสทั้งห้า ความรู้สึกในการสัมผัส และพลังจินตนาการในการเลียนแบบสิ่งต่างๆ ได้ที่เขตทราย อย่างเช่นสายน้ำที่ไหล ดินเหนียว ก้อนหิน เป็นต้น พูดได้ว่าเขตทรายเป็นเขตที่เด็กอายุน้อยสามารถสัมผัสประสบการณ์ในการใช้มือได้ดีที่สุด และเป็นเขตหนึ่งที่เด็กให้ความสนใจมากที่สุด ดังนั้นจึงวางอุปกรณ์ที่มีลักษณะใหญ่สำหรับการเล่นให้เด็กๆ ภายในเขตทราย แน่นอนว่าความปลอดภัยอย่างเรื่องโยนทรายจะต้องให้ความระมัดระวัง...”

ฮั่วหมิงจึงลูบเคราพลางพยักหน้า

การใช้ทรายเพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนสัมผัสทั้งห้า ความรู้สึกในการสัมผัส และพลังจินตนาการในการเลียนแบบสิ่งต่างๆ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เมื่อได้ฟังก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลจริงๆ

เสิ่นเยว่อยู่เบื้องหน้า พูดกับอาหลายต่อ “ดังนั้นเครื่องเล่นแบบลื่นไถลในเขตกิจกรรมกลางแจ้งจะมีสองจุด จุดแรกวางไว้ในเขตทราย อีกจุดหนึ่งวางไว้ในเขตรวมกิจกรรมตรงนี้”

อาหลายพยักหน้า “เครื่องเล่นแบบลื่นไถลทั้งสองจุด นอกจากขนาดแล้ว มีอะไรที่แตกต่างอีกหรือไม่?”

เสิ่นเยว่กล่าว “เขตทรายจะเป็นเครื่องเล่นง่ายๆ สักหน่อย เน้นให้เป็นส่วนช่วยเปิดประสบการณ์และให้เด็กๆ เล่น เพิ่มการละเล่นและความน่าสนุกเข้าไป ส่วนเครื่องเล่นแบบลื่นไถลในเขตศูนย์รวมความสนุกจะต้องซับซ้อนสักหน่อย เครื่องเล่นแบบลื่นไถลก็เช่น คานทรงตัว กลุ่มหลุมต้นไม้ กระดานหก เป็นต้น ล้วนเป็นสถานที่ที่เด็กๆ สามารถรวมตัวกันสำรวจได้”

อาหลายดูแผนภาพโดยละเอียด ทั้งยังวัดตำแหน่งและขนาดของสถานที่ หลังจากนั้นอีกสักพักก็ยืนยันกับเสิ่นเยว่ ก่อนหน้านี้สิ่งที่เสิ่นเยว่กังวลใจมากที่สุดคือไม่มีวัสดุ กลัวว่าจะมีอุปกรณ์จำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถทำให้ดีได้ ทว่าอาหลายกลับสามารถทำตามแบบแผนได้ และสามารถใช้ไม้ได้เป็นอย่างดี

เสิ่นเยว่ถึงขั้นคิดว่าก่อนหน้าที่จะทะลุมิติมา แท้จริงแล้วมีสิ่งของไม่น้อยที่สามารถใช้ไม้ทำทดแทนได้ เพียงแต่คนในยุคปัจจุบันคุ้นชินกับความสบายรวดเร็ว ในทางตรงกันข้ามมิสู้คนที่นี่ที่มีความละเอียดและรอบคอบ บางครั้งถึงขั้นใช้วัสดุไม้ได้ดีกว่า...

เมื่อลานภายนอกจัดการได้เกือบเสร็จแล้ว อาหลายและคนอื่นๆ เองก็เริ่มเตรียมทำงานตามคำขอ

ผู้ดูแลจวนเถาสำทับว่ายิ่งเร็วยิ่งดี ดีที่สุดคือทำงานข้ามคืน

อาหลายรับปากว่าจะใช้เวลาโดยประมาณสามวัน

เสิ่นเยว่อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เร็วมากกว่าที่นางคิดฝันไว้ แต่คงเพราะที่นี่เป็นจวนอ๋องผิงหย่วน ทั้งคำพูดที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากผู้ดูแลจวนเถาอีก มิเช่นนั้นจะเร็วขนาดนี้ได้ที่ไหนกัน?

ในตอนที่อาหลายและคนอื่นจะไปจากเมืองหลวง ฮั่วหมิงทอดถอนใจกล่าวกับเถาตงโจว “คุณชายคุณหนูในจวนจะต้องชอบสถานที่กลางแจ้งเหล่านี้แน่นอน...”

เถาตงโจวเองก็ลูบเคราแล้วยิ้มตาม...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด