ตอนที่แล้วตอนที่ 74 ก้อนโคลนก่อตัวเป็นกำแพง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 76 ต่อให้ผู้จัดการมาเองฉันก็ยังจะจัดการกับแก

ตอนที่ 75 คิดว่าแกเป็นใคร!


“พ่อครับ พ่อต้องการสุราไหม”

หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว เฉินเจียงไฮ่จึงถามอย่างสบายๆ

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจียงไฮ่ หลินเจียนกั๋วต้องการจะตอบตกลงทันทีที่ ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมา

แต่ก่อนที่หลินเจียนกั๋วจะได้พูด ซุยชุนหลี่ที่นั่งอยู่ข้างๆก็หืมฮัมขึ้นมา

หลินเจียนกั๋วชำเลืองมองซุยชุนหลี่อย่างระมัดระวัง จากนั้นนั่งตัวตรงและโบกมือ "ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น อย่าดื่มตอนเที่ยงเลย"

เฉินเจียงไฮ่ตอบ "โอเค งั้นไม่สั่งสุรา เรามาสั่งเครื่องดื่มกันเถอะ เอาน้ำส้มไหม"

ทุกคนเห็นด้วย ฝางไอกั๋วจึงแนะนำ Jianlibao(น้ำอัดลมกลิ่นส้ม) อีกคน ดังนั้นเฉินเจียงไฮ่ จึงสั่งให้ทุกคน คนละขวด

เฉินเจียงไฮ่รู้อยู่ในใจว่าถ้าไม่ใช่เพราะซุยชุนหลี่ปฏิเสธที่จะดื่มแอลกอฮอล์ คาดว่าฝางไอกั๋วจะต้องสั่งสุราหรือไม่ก็เบียร์แน่

ระหว่างรออาหาร บรรยากาศบนโต๊ะก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา

จ้าวฉางกุ่ยทำเพียงมองไปที่ถ้วยชาข้างหน้า ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

จ้าวหยู่ซีอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น

หลังจากสังเกตซุยชุนหลี่ในตอนนี้ ใบหน้าของเธอก็ไม่ได้แสดงออกอะไร บางครั้งเธอก็แค่จิบชา แต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าเธอมีความสุขหรือไม่มีความสุข

หลินเจียนกั๋วนั่งอยู่บนที่นั่งของเขาอย่างเงียบๆ และไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย

หลินว่านชิวอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉินเจียงไฮ่ที่อยู่ข้างๆ จากนั้นหันไปมองแม่ของเธอแล้วถาม "แม่ เร็วๆนี้เป็นอย่างไรบ้าง"

"ไม่มีอะไร" ซุยชุนหลี่ตอบกลับ

หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจอีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะบ่น "แต่หลินจี้ฮัวที่อยู่ข้างบ้านน่ารำคาญเกินไป เขาเปิดประตูทุกวันเพื่อโอ้อวด กลัวคนอื่นจะไม่รู้ว่าเขามีทีวีสีเครื่องใหญ่! "

ยิ่งซุยชุนหลี่พูดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เธอเริ่มบ่นให้ลูกสาวของเธอฟัง

ผู้ชายสองสามคนที่เหลืออยู่บนโต๊ะไม่ได้เข้าร่วมบทสนทนาเป็นธรรมดา พวกเขาเพียงดื่มชาและรับฟังเงียบๆ

ในขณะนั้นเอง มีเสียงดังมาจากด้านข้าง

“ว่านชิว?”

ทุกคนหันกลับไปมอง พวกเขาเห็นชายรูปร่างผอมสูงวัยยี่สิบต้นๆ ผมยาว มองดูหลินว่านชิวด้วยความประหลาดใจ

ผู้ชายคนนี้ชื่อเฟิงเหรินเจี้ย อาศัยว่าพ่อเป็นรองผู้จัดการโรงงาน เขาจึงไม่ได้ทำงานอะไร

"มันเป็นใคร?" เฉินเจียงไฮ่เลิกคิ้วถาม

การแสดงออกของหลินว่านชิวดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย "เขาเป็นลูกชายของรองผู้อำนวยการโรงงานของเรา"

เมื่อมองการแสดงออกของหลินว่านชิว เฉินเจียงไฮ่รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ค่อยชอบผู้ชายคนนี้

ที่โต๊ะของเฟิงเหรินเจี๋ยนั้นมีคนอยู่ห้าหรือหกคน ทุกคนสวมกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตลายดอกทุกคน

“เหรินเจี๋ย นี่ใช่สาวในฝันรึเปล่า”

“ฉันได้ยินมาว่าเธอมีสามีแล้ว!”

"พี่ชาย รสนิยมของคุณนี่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ คุณชอบคนที่มีสามีแล้วเหรอ!"

"เฮ้ น่าสนุกนี่..."

เมื่อได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป

"ว่านชิว เป็นเรื่องบังเอิญมากที่พวกเราได้พบกัน แสดงว่าเรา... มีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ" เฟิงเหรินเจี้ยเดินเข้ามาหาหลินว่านชิวอย่างตื่นเต้นโดยไม่สนใจคนที่อยู่รอบๆเลย

หลังพูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปจับมือของหลินว่านชิวทันที

กล้ามาก!

เฉินเจียงไฮ่ ปัดมือของเฟิงเหรินเจี้ยออกทันที

ทันใดนั้น เฟิงเหรินเจี๋ยก็เหมือนจะสังเกตเห็นเฉินเจียงไฮ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขายกมือขึ้นแล้วตะโกนออกมา "แกเป็นใคร"

เฉินเจียงไฮ่ถามเบาๆ “นายต้องการอะไร”

“ฉันจะทำอะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? สนใจแต่เรื่องของแกเถอะ อย่ามาจุ้นเรื่องคนอื่น”

เฟิงเหรินเจี๋ยพูดอย่างเย่อหยิ่ง และอันธพาลสองสามคนก็เข้ามาข้างๆรอบตัวเขา

"พวกแกต้องการอะไร?"

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ฝางไอกั๋วเบิกตากว้างทันทีและหยิบขวดไว้ในมือโดยไม่ลังเล ตราบใดพวกนั้นกล้าทำอะไรพี่ไฮ่ เขาจะทำให้หัวของพวกมันแตกทันที

สำหรับจ้าวฉางกุ่ย แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมลง หมัดของเขากำแน่นพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

เฉินเจียงไฮ่พูดอย่างเย็นชา: "ว่านชิวเป็นภรรยาของฉัน นายจะบอกว่าไม่ใช่ธุระของฉันได้ไง!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฟิงเหรินเจี๋ยตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นเหลือบมองเฉินเจียงไฮ่ขึ้นๆลงๆ จากนั้นหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง

"โอ้ แกเองเหรอ ที่เป็นสามีที่ไร้ประโยชน์ของว่านชิว?"

เมื่อเผชิญการเยาะเย้ยของเฟิงเหรินเจี้ย เฉินเจียงไฮ่กลับเฉยเมยราวกับว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดถึงตัวเขา

เมื่อเห็นว่าเฉินเจียงไฮ่เงียบไป เฟิงเหรินเจี้ยคิดว่าเฉินเจียงไฮ่กลัว เขาจึงยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่เฉินเจียงไฮ่ และพูดอย่างชั่วร้าย "แกควรหย่ากับเธอซะ ไม่เช่นนั้นแกเจอดีแน่!"

ในเวลานี้เอง เพื่อนของเฟิงเหรินเจี้ยรวมตัวกันและมองไปที่เฉินเจียงไฮ่อย่างมุ่งร้าย

เฉินเจียงไฮ่ตะคอกอย่างเย็นชา "ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากเห็นว่าพวกนายจะทำให้ฉันได้เจอดีแบบไหน"

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็คว้านิ้วของฝ่ายตรงข้ามและหักมันอย่างรุนแรง เฟิงเหรินเจี๋ยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันทีและคุกเข่าลงกับพื้น

เสียงร้องของเฟิงเหรินเจี้ย ดึงดูดความสนใจจากทุกคนในโรงแรม

"รออยู่ห่างๆ!"

จ้าวฉางกุ่ยรีบบอกจ้าวหยู่ซีทันที จากนั้นลุกขึ้นและเดินไปที่ด้านข้างของเฉินเจียงไฮ่

“พี่สะใภ้ พวกคุณก็เช่นกัน!”

หลังจากพูดจบ ฝางไอกั๋วยืนอยู่ข้างหลังเฉินเจียงไฮ่พร้อมกับขวดในมือ

"ถ้าพวกแกไม่มีอะไรทำ ก็ไปหาอะไรทำที่อื่นซะ อย่ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่"

ในเวลานี้เฉินเจียงไฮ่ก็ได้ปล่อยมือและพูดอย่างเย็นชา

เฟิงเหรินเจี๋ยที่กำลังถูนิ้วอยู่ คิดว่าเฉินเจียงไฮ่กำลังกลัว จึงกัดฟันพูดทันที "แกคิดว่าแกเป็นใครถึงกล้ามาสั่งพวกเรา อย่าคิดว่าพวกเราจะยอมง่ายๆ!"

"แล้วแกต้องการอะไร" เฉินเจียงไฮ่ขมวดคิ้ว

"แกต้องขอโทษเหลาจื่อในวันนี้! จากนั้นให้ว่านชิวไปทานอาหารเย็นกับพวกเรา!" เฟิงเหรินเจี๋ยกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

“อยากให้ฉันขอโทษ?”

เฉินเจียงไฮ่ชี้ไปข้างนอก "ที่นี่ไม่สะดวกนัก ทำไมเราไม่ออกไปข้างนอกล่ะ"

เฟิงเหรินเจี้ย ตอบแบบไม่คิดอะไร "ได้เลย ฉันคิดว่าแกจะกลัวที่ออกไปข้างนอกซะอีก"

เฉินเจียงไฮ่มองไปที่จ้าวฉางกุ่ยกับฝางไอกั๋วจากนั้นจึงพูดกับหลินว่านชิว "ว่านชิว คุณห้ามออกไป"

หลังจากได้ยิน หลินว่านชิวรีบจับมือของเฉินเจียงไฮ่อย่างรวดเร็ว "เจียงไฮ่ พวกมันคนเยอะ คุณไม่ควรออกไป"

เฉินเจียงไฮ่ที่มีใบหน้าเย็นชาในตอนแรก กล่าวด้วยรอยยิ้ม "อย่ากังวล ผมรับมือได้"

หลังจากพูดจบ เฉินเจียงไฮ่ก็หันหลังเดินออกไป จ้าวฉางกุ่ยกับฝางไอกั๋วตามไปทันที

เฟิงเหรินเจี้ยมองไปที่หลินว่านชิวอย่างภาคภูมิใจ ดวงตาของเขาเปล่งประกาย

“ว่านชิว ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำอะไรให้คุณลำบากใจ แล้วผมจะกลับมากินข้าวกับคุณภายหลัง”

หลังจากพูดจบ เฟิงเหรินเจี๋ยก็พากลุ่มเพื่อนของเขาเดินตามเขาออกไป

"พี่ไฮ เดี๋ยวก่อน..." ฝางไอกั๋วกำลังจะพูด แต่ถูกเฉินเจียงไฮ่ขัดจังหวะ

“รอก่อน ไม่ต้องรีบ”

ฝางไอกั๋วพยักหน้าแล้วมองไปที่จ้าวฉางกุ่ย

จ้าวฉางกุ่ยไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ฮัมเพลงเบาๆ ซึ่งหมายความว่าเขารู้แล้ว

ในบรรดาสามคนนี้ จ้าวฉางกุ่ยเป็นคนเดียวที่สามารถสร้างปัญหาได้

เมื่อมาถึงซอยนอกภัตตราคาร เฉินเจียงไฮ่หยิบบุหรี่ออกมาและมอบให้จ้าวฉางกุ่ย

หลังจากนั้นไม่นาน เฟิงเหรินเจี้ยผู้มั่นใจในตัวเองก็พาพรรคพวกมา

เจ็ดต่อสาม การต่อสู้นี้ เฟิงเหรินเจี๋ยคิดว่าพวกเขาชนะแน่นอน

ด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายเช่นนี้ เขาไม่ได้มองคนทั้งสามอยู่ในสายตาของเขาเลย

"ไอ้หนู ทำไมยังยืนอยู่ตรงนั้น รีบมาขอโทษเหลาจื่อสิ ฉันยังต้องรีบกลับไปกินข้าวกับว่านชิว"

เฟิงเหรินเจี๋ยตะโกนออกมาพร้อมกับเบิกตากว้าง

ไม่เป็นไรที่จะพูดถึงเขา แต่เมื่อพูดถึงหลินว่านชิว เฉินเจียงไฮ่รู้สึกโกรธแล้วจริงๆ

"จัดการมัน!"

เฉินเจียงไฮ่ตะโกนเสียงดังออกมา เป็นผู้นำเข้าไปเตะเฟิงเหรินเจี๋ยลงกับพื้น และเตะต่ออย่างรุนแรง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด