ตอนที่แล้วบทที่ 401: เฟิงเฉิงค้นหาเผ่าตัวเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 403: จำเขาได้ในทันที

บทที่ 402: ข้ารู้ว่าเฟิงเฉิงไปที่ไหน


“พี่ใหญ่เป็นลมหรือ?” เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินเช่นนี้ก็ถามแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าวิตกกังวล

จากนั้นเธอก็เห็นว่ามีภูตหลายคนยืนอยู่ในบ้านหิน ซึ่งในบรรดาพวกเขามีหมอ 2 คนจากเผ่าหนูด้วย

และคนที่อยู่เบื้องหน้าหมอคือหูชิงซานที่นอนหมดสติอยู่

“เจ้าไม่ต้องกังวล เขาไม่เป็นไร เขาแค่เป็นลมเท่านั้น” หลงโม่ปลอบภรรยาสาวเสียงเบาพลางจับมือเธอไว้

ปัจจุบันจิ้งจอกหนุ่มยังคงหายใจอยู่ และไม่มีเลือดอยู่บนพื้น

เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นเช่นนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในบ้านหินพร้อมกับมังกรหนุ่ม

“ท่านหมอ ทำไมพี่ชายของข้าถึงเป็นลม?” หูเจียวเจียวเอ่ยถาม

หมอหนูยืนขึ้นมองไปที่หญิงสาวและคนอื่น ๆ ก่อนจะอธิบายว่า

“หูชิงซานไม่เป็นไร เขาแค่สูดผงยาที่ทำให้ภูตง่วงและผล็อยหลับไปเท่านั้น”

ต่อมา หมอคนหนึ่งหยิบกระถางหินที่มีดอกเหมยสีแดงอยู่ในนั้นแล้วใช้มือถูกระถางหินเบา ๆ ไม่นานก็มีผงสีขาวปรากฏขึ้นบนปลายนิ้ว

“นี่คือสิ่งที่ข้าบอก หูชิงซานไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ บนร่างกายของเขา เราลองตรวจสอบบ้านหินดูและมีเพียงผงนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ภูตหลับได้”

หูเจียวเจียวที่ได้ฟังคำอธิบายจากหมอถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เมื่อไหร่พี่ชายของข้าจะฟื้น?” เธอถามพลางมองไปยังพี่ชายคนโตที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น

ยามนี้จิ้งจอกหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังฝันหวาน

เธอจึงอดไม่ได้ที่จะนวดขมับตัวเอง

พี่สะใภ้วิ่งหนีหายไปแล้ว แต่เขายังคงนอนหลับฝันหวานได้อีก...

“ลองปลุกเขากันเถอะ” จิ้งจอกสาวเสนอความคิด

จากนั้นหมอหนูก็หันกลับมาเพื่อปลุกหูชิงซาน

ในขณะเดียวกัน ภูตทุกคนยังคงมีสีหน้ากังวล

“แม่หมอหายไปไหน?”

“เป็นไปได้ไหมว่ามีใครแอบเข้ามาในเผ่าและจับตัวหมอผีไป?”

“แม่หมอเป็นผู้หญิง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาง เราต้องหาแม่หมอให้เจอ!” ชาวเผ่ารู้สึกกระวนกระวายระหว่างที่คาดเดากันไปต่าง ๆ นานา

เนื่องจากหมอผีเป็นคนที่หาได้ยากมาก แต่สุดท้ายพวกเขาก็สูญเสียนางไป

“ทุกคนเงียบ”

ในตอนนั้นเอง หัวหน้าเผ่าเดินเข้าไปในบ้านพร้อมจะมีสีหน้าบูดบึ้ง

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหมอ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยก็เคร่งเครียดมากขึ้น และเขาถามอย่างจริงจังว่า

“แต่ทำไมในบ้านหินถึงมีผงแบบนี้?”

หมอหนูชำเลืองมองทุกคนโดยที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า

“ภูตธรรมดาไม่น่ามีผงนี้ แม่หมออาจจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างถึงได้ทิ้งมันไว้”

ทันทีที่หมอหนูวิเคราะห์สถานการณ์ ใบหน้าของเหล่าภูตที่เฝ้าดูอยู่นอกประตูก็เปลี่ยนไป

“แม่หมอทำให้หูชิงซานสลบไปงั้นรึ?”

“เป็นไปได้ไหมว่านางทำให้หูชิงซานหมดสติไปเพราะคิดจะหลบหนีเพื่อที่นางจะได้ใช้โอกาสนี้ออกจากเผ่าของเรา”

“แต่ทำไม... ทำไมแม่หมอต้องหนีออกไปล่ะ?”

ภูตทั้งหลายที่มารวมตัวกันไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เผ่าของพวกเขาจะมีหมอผี กลับกลายเป็นว่านางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ส่งผลให้บรรยากาศ ณ ปัจจุบันอึดอัดยิ่งนัก

“หูชิงซานตื่นแล้ว!”

ขณะนั้นเสียงของหมอก็ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของทุกคน

“พี่ใหญ่” หูเจียวเจียวรีบเข้าไปช่วยพยุงพี่ชายที่เพิ่งถูกยัดน้ำแข็งเข้าไปในปาก และเขาก็ถูกปลุกให้ตื่นเนื่องจากความเย็น

“พรูดดดด!!”

ชายหนุ่มพ่นน้ำแข็งออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง จากนั้นเขาก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีภูตอยู่รอบตัวเขามากมาย

“น้องเล็ก? ท่านผู้เฒ่า?”

“ทำไมพวกท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ข้ามานอนอยู่บนพื้นได้ยังไง แล้วเฟิงเฉิงล่ะ ข้าไม่ได้อยู่กับเฟิงเฉิงหรือ...”

หูชิงซานลุกขึ้นนั่งด้วยความสงสัย ก่อนจะมองไปรอบ ๆ เพื่อตามหาร่างของหมอผีสาว

ทางด้านผู้นำสูงสุดของเผ่า ตอนนี้ใบหน้าของเขาแสดงอารมณ์ซับซ้อน

ส่วนหมอหนูทนต่อไปไม่ได้จึงอธิบายกับชายที่เพิ่งฟื้นตรง ๆ ว่า

“หูชิงซาน แม่หมอทำให้เจ้าหมดสติแล้วก็หายตัวไป”

“เฟิงเฉิงหายไป!?” จิ้งจอกหนุ่มลุกขึ้นยืนทันที “นางถูกภูตหมาป่าจับตัวไปหรือ!?”

แม้แต่ความคิดแรกของเขาก็ยังกังวลว่าเฟิงเฉิงจะตกอยู่ในอันตราย ผู้อาวุโสจึงเข้าไปตบไหล่เขาเป็นการปลอบโยน

“หูชิงซาน ใจเย็น ๆ ไม่มีภูตหมาป่าแทรกซึมเข้ามาในเผ่าเรา เฟิงเฉิงอาจจะออกไปเอง”

“เป็นไปได้ยังไง…” หูชิงซานไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เมื่อกี้นางบอกเขาเองว่านางชอบบ้านหินหลังนี้มาก

แม้ว่าหญิงสาวจะไม่อยากเป็นคู่กับเขาก็ตาม แต่สาเหตุที่นางทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่านางอยากจะออกจากเผ่าไปเพื่อหลีกเลี่ยงเขาใช่ไหม?

ความจริงที่ปรากฏทำให้จิ้งจอกหนุ่มตกตะลึง โชคดีที่เขาไม่ใช่ภูตที่ไม่มีสมอง ดังนั้นเขาเลยกลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็กอดอกพูดกับหัวหน้าเผ่าอย่างเคร่งขรึมว่า

“ท่านผู้เฒ่า โปรดให้ข้านำกลุ่มภูตไปตามหาเฟิงเฉิงเถอะ นางเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว การปล่อยนางออกไปข้างนอกตามลำพังแบบนี้มันอันตรายมาก สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการตามหาเฟิงเฉิงก่อน” หูชิงซานไม่ได้ตื่นตระหนกเนื่องจากการหายตัวไปของผู้เป็นหมอผี เขากลับคิดถึงเหตุผลแล้วตัดสินใจพูดออกมา

พอท่านผู้เฒ่าเห็นว่าชายหนุ่มไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังปราศจากความเย่อหยิ่งหรือความหุนหันพลันแล่น เขาจึงแสดงความชื่นชมอยู่ในใจ

“เจ้าพูดถูก สิ่งสำคัญที่สุดคือการค้นหาเฟิงเฉิงก่อน” ชายชราพยักหน้าเห็นด้วย

“แต่…”

ในเวลานี้ภูตที่พบหูชิงซานหมดสติเป็นคนแรกพูดขึ้นมาว่า

“เราตามหานางแล้ว ข้างนอกหิมะตกหนักมาก ร่องรอยของภูตก็ถูกกลบไปจนหมด เราไม่รู้ว่าแม่หมอไปทางไหน...”

ทันทีที่เขาพูดจบ สถานการณ์ก็ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“เราจะหานางเจอได้ยังไง?”

“ป่ามันกว้างใหญ่ไพศาลมาก และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงฤดูหนาว เราจะรู้ได้ยังไงว่าแม่หมอมุ่งหน้าไปทางไหน...”

“นี่ก็ผ่านไปนานมากแล้ว ถ้าหมอผีเจอสัตว์ป่าโจมตีล่ะ?”

“คงไม่ใช่ว่า...”

เราจะต้องตามหาศพนางแทนหรอกหรือ?

ภูตคนนั้นไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา

แต่ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศน่าอึดอัดรอบตัวพวกเขา

“เอาล่ะ ทุกคน” หูเจียวเจียวเหลือบมองกลุ่มภูตก่อนจะยกมือขึ้นแล้วพูดขัดจังหวะเสียงเบา “อันที่จริง พวกท่านไม่ต้องกังวล”

“ข้ารู้ว่าเฟิงเฉิงหายไปไหน”

ภูตทั้งหมดหันขวับมองไปจิ้งจอกสาวเป็นตาเดียว

!!!

“น้องเล็ก เจ้ารู้จริงหรือ?” ดวงตาของหูชิงซานเบิกกว้าง

“เจียวเจียว ถ้าเจ้ารู้แล้วทำไมเจ้าไม่รีบพูดตั้งแต่ก่อนหน้านี้!” หัวหน้าเผ่าเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

นางปล่อยให้พวกเขาต้องมากังวลกับการคาดเดาต่าง ๆ นานาอยู่นาน!

ทางด้านหูเจียวเจียวเกาจมูก “ก็ท่านไม่ให้โอกาสข้าพูด...”

เธออยากจะพูดหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็โดนขัดจังหวะอยู่ตลอด

“น้องเล็ก บอกพี่ใหญ่มาว่าเฟิงเฉิงอยู่ที่ไหน?” หูชิงซานถามขณะจับมือน้องสาวอย่างตื่นเต้น

“พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล เฟิงเฉิงจะไม่ตกอยู่ในอันตราย” หูเจียวเจียวตบมือปลอบโยนพี่ชายคนโต

“ท่านเดาถูก นางมีเหตุผลที่ต้องออกจากเผ่า”

“หลงโม่ให้ภูตนก 2-3 คนบินไปช่วยคุ้มกันเฟิงเฉิงตลอดทางแล้ว ตอนนี้นางปลอดภัยดีและข้าจะพาพวกท่านไปหานางเอง”

คำพูดของจิ้งจอกสาวช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเหล่าภูต ทุกคนจึงรู้สึกโล่งใจทันที

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะรออะไรอีกล่ะน้องเล็ก พาพี่ไปที่นั่นเร็วเข้า!” หูชิงซานทนรอไม่ได้อีกต่อไปและพูดเร่งน้องสาว

...

อีกด้านหนึ่ง

“เฟิงเฉิง ยอมกลับไปกับข้าแต่โดยดีเถอะ  ตราบใดที่เจ้ามอบไม้เท้าเฟิงหลีให้กับข้าและบอกวิธีใช้มัน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

ปัจจุบันเฟิงเฉิงผู้ซึ่งถูกต้อนจนมุมรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ

หญิงสาวกระชับไม้เท้าไว้แนบอก และมองคนที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมอย่างเย็นชา

ในขณะที่นางมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวังเพื่อพยายามหาช่องว่างหลบหนีจากภูตกลุ่มนี้

เฟิงอันก็สังเกตเห็นท่าทางของหญิงสาว เขาจึงพูดแบบประชดประชันว่า

“เฟิงเฉิง อย่ามองหาทางหนีอีกเลย คราวนี้ข้าพาภูตมาด้วย 20 คน ไม่ว่าเจ้าจะฉลาดแค่ไหน เจ้าก็หนีไปไหนไม่พ้นหรอก”

“ข้าไม่คาดคิดเลยว่าวันหนึ่งเจ้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของข้าแบบนี้”

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เจียวเจียวบอกอยากพูดใจจะขาด แต่ไม่มีช่องว่างให้พูดสักที รีบไปช่วยแม่หมอกันเร็ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด