ตอนที่แล้วบทที่ 45
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 47

บทที่ 46


บทที่ 46

“ศิษย์พี่ พวกเราควรทำอย่างไรดี?”

“ข้าเดาไว้อยู่แล้ว ด้วยนิสัยของเจ้าเด็กนี่ ซักวันจะต้องสร้างปัญหาตามมามากมายแน่นอน พวกเจ้าดูสิ!”

“ใช่ สำนักเซี่ยเจี้ยน กองกำลังเซี่ยถู ล่วงเกินสองขุมกำลังพร้อมกัน นี่มัน ...”

เกิดเสียงเอะอะโวยวายในตำหนักใหญ่ของนิกาย ใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งห้าไม่น่าดูมาก

“เอาล่ะ นิกายเซียวเหยาของพวกเราก็ใช่ว่าจะยอมถูกรังแกเอาง่ายๆเช่นกัน อันที่จริง สำนักเซี่ยเจี้ยนทำร้ายพวกเราไว้เยอะ ถึงคราวสาวกเราเอาคืนบ้าง จะเป็นไรไป?”

ประมุขบนที่นั่งสูงตำหนิอย่างโกรธเคือง “และยังมีพวกเซี่ยถู คนของเรา ในอาณาเขตของเรา ถูกพวกมันฆ่าตายไปมากในช่วงหลายปีมานี้ แต่พวกเราเคยตอบโต้อะไรมันได้บ้าง?”

พอคำนี้เปล่งออกมา เสียงเอะอะของทุกคนเงียบลงทันที

หลังจากลองไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว ปรากฏว่ามันก็จริง ไม่ว่าจะสำนักเซี่ยเจี้ยนหรือกองกำลังเซี่ยถู ทั้งคู่โจมตีพวกเขามาโดยตลอด สร้างหนี้เลือดชั่วช้าไว้มากมาย แล้วถึงคราวพวกเขาตอบโต้บ้าง มันผิดตรงไหน?

อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่ฉินห่าวทำเป็นการลงโทษความชั่ว ส่งเสริมความดีด้วยซ้ำ

“แต่ ... แต่นี่ ...”

ใบหน้าของผู้อาวุโสชุ่ยมืดมน เขางึมงำในปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน พวกเรานิกายเซียวเหยาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอันใด” ประมุขโบกมือใหญ่ด้วยจิตวิญญาณอันสูงส่ง หันไปหาเทียนหยุนและเอ่ยว่า “ใช่ไหมท่านพี่?”

“ใช่ เราผู้เฒ่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้”

เทียนหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป บอกเหล่าสาวกจงเตรียมตัวให้พร้อม สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” ประมุขแหงนมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ครืนนนนน!

ณ ขณะนี้ จู่ๆก็มีเสียงหึ่งๆแว่วมาจากบนท้องฟ้า ทุกคนเงยหน้าขึ้น

เห็นเพียงเรือเหาะลำใหญ่ปรากฏสู่สายตา มันลอยเหนือนิกายเซียวเหยา ปิดกั้นแสงแดดจากเบื้องบน

“สาวกนิกายเซียวเหยานามฉินห่าว เจ้าปล้นคลังสมบัติของสำนักเซี่ยเจี้ยน ข้าเถียนเฉิงหยุนในนามผู้อาวุโสสองแห่งนิกายเฉินเมิ่ง ได้รับคำสั่งให้มาจับกุมตัวเจ้า”

คนยังไม่เห็นตัว แต่เสียงอันน่าเกรงขามดังก้องไปทั่วนิกายเซียวเหยาแล้ว

“อะไรนะ? นี่ศิษย์พี่ฉินปล้นคลังสมบัติของสำนักเซี่ยเจี้ยน?”

“ร้ายกาจ! ศิษย์พี่เป็นแบบอย่างแก่พวกเรารุ่นเยาว์อย่างแท้จริง”

“แต่ครั้งนี้เขาคงทำอะไรไม่ได้แล้ว นิกายเฉินเมิ่งคือนิกายชั้นหนึ่ง ว่ากันว่าที่นั่นมีการดำรงอยู่ของผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตผันแปรสู่เซียน หากพวกเขาส่งคนมาจับศิษย์พี่ฉิน นิกายเราก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“ให้ตายเถอะ! พวกเจ้าหายหัวไปไหนตอนสำนักเซี่ยเจี้ยนโจมตีเรา? แต่พอพวกเราตอบโต้กลับ ดันเสนอหน้าออกมา”

ด้านล่าง เหล่าสาวกของนิกายเซียวเหยาโวยวาย จ้องมองเรือเหาะด้วยความโกรธ

“นี่ ...”

ภายในนิกาย ผู้อาวุโสหลายคนมองหน้ากันเงียบๆ นิกายเฉินเมิ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถล่วงเกินได้

“ข้าจะไปเอง”

เทียนหยุนหรี่ตาและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

“เราผู้เฒ่าเทียนหยุนขอเป็นตัวแทนสนทนากับพวกเจ้า”

บนเรือเหาะเกิดความเงียบไปชั่วขณะ แต่ไม่นาน คนสองคนก็บินออกมา คนแรกเป็นชายชราที่สวมชุดคลุมยาวสีดำเข้ม และมีท่าทีเหมือนเทพเซียน ส่วนอีกคนหนึ่งคือผู้อาวุโสหยิน

“สหายเต๋าเทียนหยุน ข้ามีนามว่า ...”

“อย่าเสียเวลาแนะนำตัวกับเราผู้เฒ่าเลย ฉินห่าวคือศิษย์ผู้สืบทอดของข้า พวกเจ้าห้ามทำอะไรเขา?” เทียนหยุนโบกมือขัดจังหวะอย่างไม่เกรงใจ

“แต่ตามกฎนิกายของข้า ...”

ใบหน้าของเถียนเฉิงหยุนดูไม่สู้ดีเล็กน้อย

“นั่นมันกฏของนิกายเฉินเมิ่ง ไม่ใช่นิกายเซียวเหยาของข้า” เทียนหยุนยังคงขัดจังหวะ

“เจ้า! พอกันที! ศิษย์เจ้าไปขโมยของในคลังสมบัติของสำนักเซี่ยเจี้ยนมา ดังนั้นต้องคืนมัน เข้าใจไหม?”

เถียนเฉิงหยุนสูดหายใจเข้าลึกๆ

สีหน้าของผู้อาวุโสหยินไม่น่าดู เดิมเขาคิดว่าการเชิญนิกายเฉินเมิ่งมาลงมือ คือทุกอย่างจบอย่างง่ายดาย แต่ไม่นึกว่าจะลากยาวแบบนี้

“เจ้ารอก่อน เราผู้เฒ่าจะถามศิษย์ให้”

เทียนหยุนพูดและตะโกนเรียกฉินห่าว

ไม่นาน ฉินห่าวก็ลอยขึ้นมาและเอ่ยด้วยท่าทางไร้เดียงสา “อาจารย์ ศิษย์ไม่ได้ขโมยคลังสมบัติของสำนักเซี่ยเจี้ยน ข้าไม่ใช่คนประเภทหมาคาบไก่ เพียงแค่หยิบพวกมันมา”

เทียนหยุนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาเลิกคิ้วและมองเถียนเฉิงหยุน “ได้ยินไหม มันไม่ได้ถูกขโมย พวกมันเพียงถูกหยิบมา ข้ายืนยันว่าลูกศิษย์ข้าไม่ใช่คนประเภทนั้น!”

เถียนเฉิงหยุน “……”

ผู้อาวุโสหยิน “...”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด