ตอนที่แล้วบทที่ 102 แผนต่อไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 104 การเปลี่ยนแปลงทางความคิด

บทที่ 103 โคเรียม 2


บทที่ 103 โคเรียม 2

การวิจัยเกี่ยวกับดอกไผ่สีเลือดยังคงค่อนข้างราบรื่น ส่วนผสมหลักคือดอกและเนื้อเยื่อบางส่วน อย่างไรก็ตามการทดลองสายเลือดนั้นแตกต่างออกไป

แม้ว่าจะมีการทดลองกับสัตว์ด้วย แต่เมื่อแอนนากลายเป็นราชินี ร่างกายของมนุษย์ที่มีชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเอไลอีกต่อไป ในฐานะอาณาจักรขนาดใหญ่ มีคนทุกประเภทที่ต้องตายทุกวัน และเอไลก็ยอมรับคนเหล่านี้ด้วยความยินดี

การปลูกถ่ายอวัยวะ การปลูกถ่ายเลือด การสังเกตเนื้อเยื่อของมนุษย์ การทำลายอวัยวะ การผสานเนื้อและเลือด

สายเลือดยังเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความรู้มากมาย และส่วนตัวเอไลแล้วมันก็เป็นเรื่องที่น่าดึงดูดมากสำหรับเขาเช่นกัน

และเนื่องจากคำถามที่เขามีเกี่ยวกับพ่อมดสายเลือดเอไลยังทุ่มเทพลังส่วนหนึ่งให้กับการค้นคว้าสายเลือดและการปลูกถ่ายสายเลือด

"เจ้าพร้อมไหม?"

ในห้องทดลองเอไลมองไปที่คนที่ถูกมัดไว้กับไม้กางเขน

ว่ากันว่าเขาเป็นอาชญากรที่ฆ่าคนมากกว่าสิบคนและซ่อนตัวอยู่นาตั้งห้าเดือนก่อนที่จะถูกจับได้ เขาถูกจับได้เพียงเพราะเขาไม่สามารถอดกลั้นได้จึงได้ไปที่ตรอกหลิวหยิงด้วยไม่เกรงกลัวอะไร

แต่ในขณะนี้อาชญากรผู้ชั่วร้ายกำลังมองดูเขาด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เอไลเดินเข้ามาใกล้ราวกับว่าเขาเห็นปีศาจ

จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร!

ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว มีอีกคนหนึ่งอยู่ข้างๆ เขา แต่ชายคนนี้ได้ฉีดเลือดลึกลับเข้าไปในร่างกายของเขา และเกิดการก่อตัวของเวทมนตร์ใต้เท้าของเขาจากนั้นร่างกายของชายคนนั้นก็สั่นไหวพร้อมกับระเบิดออกมาทันที

ถูกต้อง มันคือการที่ร่างกายระเบิดออกมาจริงๆไม่ได้เปรียบเปรย และชายคนนี้ก็กำลังทำอะไรบ้าให้เขาเหมือนกัน

เขาถูกส่งมายังสถานที่แบบไหนกัน? เขายอมถูกประหารตายดีกว่าทนทรมานจิตใจอยู่ที่นี่

"ผ่อนคลายเถอะ ทุกอย่างจะดีเอง!" เอไลเดินเข้ามาหาช้าๆและยิ้มให้เขา

ชายคนนั้นยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

"อ๊ากกกกกกก!"

วินาทีต่อมา เสียงที่น่าสะพรึงกลัวดังมาจากห้องทดลอง

ในทางกลับกันเอไลกำลังขมวดคิ้ว เขาเฝ้ามองดูอย่างพูดไม่ออกเมื่อเลือดทดลองหลอมรวมเข้าสู่ร่างกายของชายคนนั้น และเนื้อเยื่อในร่างกายของเขาก็เริ่มละลายทีละนิด แม้แต่การร่ายมนตร์ฟื้นฟูบนพื้นก็ไม่สามารถหยุดมันได้

“มันไม่ควรเป็นแบบนี้!” เอไลขมวดคิ้ว

คราวนี้สายเลือดของหมาป่าสีเทารัตติกาลได้รวมเข้ากับชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขา ดูเหมือนว่าแม้แต่อาชญากรที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถทนทานต่อสายเลือดระดับนี้ได้

ช่างน่าเสียดาย

เขาล้มเหลวอีกครั้ง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อมองดูร่างกายที่แหลกเหลวของชายคนนั้นเอไลก็ทำความสะอาดเขาเพื่อเริ่มการทดลองครั้งใหม่

ฤดูใบไม้ผลิจากไปและฤดูหนาวก็มาถึง

เมื่อบุคคลมีสมาธิมาก บุคคลนั้นจะเข้าสู่สภาวะมหัศจรรย์ที่เรียนว่าการตระหนักรู้ ในสถานะนี้ความสามารถในการเรียนรู้และความจำของคนๆ หนึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นเวลาที่ผ่านไป

เอไลอยู่ในสภาพนี้มานานแล้ว

เขาอาศัยอยู่ในห้องทดลองและมีเตียงอยู่ข้างๆ เตียงเดียวเท่านั้น

และเมื่อเอไลออกมาจากสภาพนั้น เขาก็ได้ยินข่าวร้าย

มาร์ควิสอเล็กซ์เสียชีวิตแล้ว

เมื่อเอไลยืนอยู่ที่งานศพของอเล็กซ์ เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการทดลองเมื่อกี้และเป็นการทดลองที่ประสบความสำเร็จเล็กน้อยในขั้นตอนแรกของยาเพิ่มพลังจิต และจู่ๆ เขาก็ได้รับแจ้ง ดังนั้นเขาจึงไม่ทันตั้งตัว

อเล็กซ์น่าจะอายุเท่ากับเอไล และสำหรับคนรุ่นเดียวกับเอไลเขาเป็นคนแรกที่เสียชีวิต ซึ่งมันทำให้เอไลรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย

หลังจากเข้าร่วมพิธีศพ เอไลก็ได้พบกับลูกชายของอเล็กซ์คุยกันเล็กน้อยและเขาก็จากไป

ปัจจุบันเขาจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก

ผ่านไปอีกปีหนึ่ง

ไม่มีความคืบหน้ามากนักในการทดลองสายเลือด

การวิจัยของเอไลเกี่ยวกับดอกไผ่สีเลือดก็มาถึงขั้นตอนใหม่แล้ว

เขาวิเคราะห์กลีบของดอกไผ่สีเลือดในเชิงลึกและพบว่ามีเพียงส่วนปลายของกลีบเท่านั้นที่มีผล มีเนื้อเยื่อแปลก ๆ ที่สามารถเปลี่ยนพลังชีวิตที่ดูดซับไปเป็นพลังอื่นได้

การทดลองดอกไผ่สีเลือดได้เข้าสู่ขั้นตอนที่สองแล้ว

ฤทธิ์ของยาในปัจจุบันนั้นจะทำลายเซลล์เนื้อเยื่อไปประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับปรุงพลังวิญญาณได้อยู่บ้าง

นี่เป็นการค้นพบครั้งใหญ่

แต่แล้วเขาก็ได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งร้ายๆเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีความคืบหน้า

คราวนี้เป็นเฮอร์แมนที่ถูกความตายมาเยือน

ในโรงหมอแห่งหนึ่ง เฮอร์แมนจับมือของเอไลและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ศิษย์น้อง ครั้งนี้ข้าต้องไปก่อนล่ะ”

เขาพูดได้อย่างนี้แล้วก็ถึงแก่ความตาย

เอไลหลับตาและเงียบเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะออกจากโรงหมอ

เฮอร์แมนเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นศิษย์พี่ของเขา แต่พวกเขาก็ทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่กลมเกลียวมาเกือบสามสิบปี และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็แน่นแฟ้นกว่าของอเล็กซ์มาก

ลูกชายและลูกสาวของเฮอร์แมนมีครอบครัวของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการความช่วยเหลือ

ที่ประตูเอไลเห็นครอบครัวของเฮอร์แมน

“ท่านปู่เอไล พ่อบอกให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้ท่าน” ลูกชายของเขายื่นบางอย่างให้เขา มันเป็นปากกาหมึกซึมที่ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเขาจะมอบให้กับเฮอร์แมน

เอไลตกตะลึงอยู่สองสามวินาทีก่อนที่เขาจะหยิบปากกาขึ้นมา

“ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เจ้าสามารถมาหาข้าได้” เอไลบอกลูกชายของเฮอร์แมนและจากไป

ผ่านไปอีกปี

ปีนี้ การทดลองของเอไลไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่ข่าวร้ายกลับมาหาเขาไม่หยุด พวกมันเที่ยงตรงและโหดร้ายเสมอ

ในโรงหมอเอไลนั่งข้างเตียงและมองดูไฮล่าที่ใบหน้าซีดเซียว

เนื่องจากยาวิเศษ เธอยังคงสวยงามเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะดูซีดเซียวเล็กน้อย มีเครื่องสำอางสีอ่อนอยู่ที่มุมตาของเธอให้ความรู้สึกถึงความงามที่กำลังแตกสลายไป

“เอไล เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่ข้าเสียใจที่สุดในชีวิตคืออะไร?” ไฮล่าถามอย่างอ่อนแรง

เธอยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีลูก ขณะที่เธอเสียชีวิตมีเพียงเอไลเท่านั้นที่มาเยี่ยมเยี่ยนเธอ

เอไลไม่ตอบ เขาเพียงแต่นิ่งเงียบ

“ในชีวิตนี้ ความเสียใจที่สุดของข้าคือการเข้าร่วมงานเลี้ยงเมื่อนักวิชาการเคลเมนท์ได้ตำแหน่งผู้อำนวยการห้องสมุดเมื่อหลายสิบปีก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น บางทีความเข้าใจผิดนี้อาจจะดำเนินต่อไป และเราคงจะพบกับเรื่องที่แตกต่างออกไป” เมื่อเห็นว่าเอไลไม่พูดอะไร ไฮล่าก็ยิ้มออกมาให้เขา

“เจ้าเป็นคนที่เหนือกว่าคนทั่วไปในทุกด้าน และข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่โหดร้ายเกินไปสำหรับคนทั่วไป” ไฮล่าคล้ายพูดกับตัวเอง

“กอดข้าหน่อยได้ไหม” ไฮล่าร้องขอ

คราวนี้เอไลพยักหน้าและกอดไฮล่า

เมื่อการกอดจบลง เขารู้ว่าไฮล่าซึ่งกำลังพูดเมื่อครู่นี้หลับตาและเธอก็จากโลกนี้ไปแล้ว

คราวนี้เอไลถอนหายใจยาวอีกครั้ง

มันแย่มากจริงๆ!

ทำไมเขาต้องรู้จักคนมากมาย

ไฮล่ามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากกับเขา อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ก็เป็นมากกว่านั้นเช่นกัน

งานศพของไฮล่าจัดโดยเอไลเป็นเจ้าภาพ และเขารอจนกระทั่งทุกอย่างเสร็จสิ้น

เอไลกลับไปที่ห้องทดลองและกระโจนเข้าสู่การทำงานอีกครั้ง

หนึ่งปีต่อมา

เอไลยื่นขวดยาพิษให้อาชญากรคนใหม่ตรงหน้าเขา แล้วเทมันลงคอของอาชญากรคนนั้น

ไม่นานร่างกายชายคนนั้นก็เปลี่ยนไป กล้ามเนื้อของเขาลีบลงอย่างรวดเร็ว และผมสีดำของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาสว่างขึ้นและสว่างขึ้นเรื่อยๆ

เขามุ่งเน้นไปที่เซลล์ของชายคนนั้นและสังเกตดูอย่างถี่ถ้วน เซลล์ทั้งหมดไม่บุบสลาย แต่พลังชีวิตของพวกมันหมดลงอย่างสมบูรณ์

“ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ โคเรียม 2 ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว” เมื่อเห็นผลลัพธ์ดังกล่าว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอไล

เก้าปี

ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ

แต่เมื่อมองไปที่ยาที่ประสบความสำเร็จเอไลมีความรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อย คงจะไม่มีข่าวร้ายอะไรใช่ไหม?!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด