ตอนที่แล้วบทที่ 389: พี่ใหญ่ ท่านมีนามว่าอะไรหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 391: ก้อน ‘อึ’ สีดำ

บทที่ 390: เจียวเจียว เจ้าคือความเชื่อของข้า


“...” หูเจียวเจียวที่เห็นปฏิกิริยาของเป้าเฟิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เดี๋ยวก่อน! ทำไมเขาถึงต้องรุนแรงกับเด็กขนาดนั้น จะฆ่าแกงกันหรือไง!? 

จากนั้นหญิงสาวรีบก้าวไปลูบหลังของหวงเทียนเพื่อช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลาย

“พี่สาวเทพธิดาแสนสวย เขารู้จักพี่สาวของข้าด้วยหรือ?”

เด็กหนุ่มตื่นตัวมากเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลงโม่ และเขาเงยหน้าขึ้นมาถามโดยไม่สนใจใบหน้าแดงก่ำของตัวเอง

หลังจากที่เขาหลบหนีออกจากเผ่าหมาป่า เขารู้สึกว่าภูตคนอื่นไม่ชอบตน แม้แต่เขาที่แทบไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใครยังถูกปฏิบัติเช่นนี้ แล้วนับประสาอะไรกับพี่สาวของเขา

หลายวันที่ผ่านมาหวงเทียนไม่กล้าพูดกับใคร

เพราะทันทีที่เขาเอ่ยชื่อพี่สาว ภูตทุกคนก็แสดงสีหน้ารังเกียจและเกลียดชัง ซึ่งมันทำให้เขาหวาดกลัวราวกับว่าเขาไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เขาควรจะตายตามพี่สาวไปตั้งแต่ในเผ่าหมาป่า

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มได้ยินชื่อหวงเยว่จากภูตคนอื่น

ยิ่งไปกว่านั้น พี่ใหญ่คนประหลาดตรงหน้าเขามีสีหน้าตื่นเต้นโดยไม่มีร่องรอยของความรังเกียจเลยแม้แต่น้อย

“ข้ารู้ แน่นอนว่าข้ารู้จักนาง ข้าเป็นคู่ของพี่สาวเจ้าและข้าเป็นคู่คนเดียวของนาง” เป้าเฟิงโพล่งออกมา

คำพูดของชายหนุ่มทำให้หวงเทียนตกตะลึง

“ท่านคือ… คู่ของพี่สาวข้าจริงหรือ?”

กลายเป็นว่าพี่สาวของเขามีคู่ในเผ่านี้และเขาก็เป็นสมาชิกในเผ่าของพี่สาวเทพธิดาแสนสวยด้วย

“จริงสิ!!” เสือดาวหนุ่มพยักหน้าตอบแรง ๆ จนคอแทบเคล็ด

“จากนี้ไป เจ้ากับข้าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน และข้าจะคอยดูแลเจ้าเอง เจ้ากลับไปอยู่กับข้าดีไหม!?”

เป้าเฟิงพูดพร้อมกับทำหน้าจริงจัง

หลังจากหวงเทียนได้รู้ความจริงทั้งหมด เขาก็ไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่อีกฝ่ายพูดได้ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหันไปมองหูเจียวเจียวด้วยสายตาทำอะไรไม่ถูก

นัยน์ตาที่ฉายแววไม่แน่ใจคู่นั้นดูเหมือนต้องการจะถามว่า ‘พี่สาวเทพธิดาแสนสวย ข้าคู่ควรกับสิ่งนี้ไหม?’

ภูตไร้ค่าอย่างเขาสมควรที่จะได้อยู่ร่วมกับพวกภูตคนอื่นหรือไม่?

เขามีครอบครัวด้วยหรือ?

ปัจจุบันในถ้ำที่เขาพักอยู่คนเดียวเป็นถ้ำที่อยู่ห่างไกลจากทุกคน

ในขณะที่เด็กคนอื่น ๆ มีครอบครัว มีสหาย แต่เขาไม่มีใครเลย…

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นความไม่มั่นใจในดวงตาของเขา เธอจึงพยักหน้าให้เด็กหนุ่มพร้อมส่งสายตาให้กำลังใจอีกฝ่าย

“พี่ใหญ่” หวงเทียนเดินไปที่ด้านข้างเป้าเฟิงพลางเรียกอีกคนเสียงเบา

ยามนี้จมูกของเด็กชายแสบและเสียงของเขาก็เจือสะอื้นเล็กน้อย

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขามีครอบครัวแล้ว…

“กลับบ้านกับพี่ใหญ่เถอะ” เสือดาวหนุ่มจูงมือเด็กชาย ในขณะที่ทั้งตัวเขาประหนึ่งว่ามีแสงแวววาวเปล่งประกายซึ่งที่แตกต่างไปจากเดิมมาก

ถัดมา ชายหนุ่มกลายร่างเป็นสัตว์แล้วงอขาให้หวงเทียนปีนขึ้นบนหลังของตัวเองก่อนจะพาเขากลับไป

เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เป้าเฟิงร่าเริงขึ้น และหวงเทียนเองก็รู้สึกว่าตนได้รับการยอมรับจากเขาเช่นกัน พร้อมกับหินที่ถ่วงอยู่ในใจของจิ้งจอกสาวก็หายไปด้วย

เธอไม่เคยคิดว่าภูตทุกคนจะยอมรับเด็กหนุ่มได้ด้วยใจจริง

ดังนั้นผลลัพธ์ปัจจุบันอาจดีที่สุดแล้ว

“ทำไม…” หลงโม่มองไปยังทิศทางที่ทั้งคู่จากไป โดยมีร่องรอยของความสงสัยบนใบหน้าเคร่งขรึมของเขา

“อะไรหรือ?” หูเจียวเจียวหันไปถามผู้เป็นสามี

“ทำไมเขาถึงร่าเริงหลังจากเจอหวงเทียน?” มังกรหนุ่มไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

เป้าเฟิงไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับหวงเทียน ทั้ง 2 คนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ

และความหลงใหลของชายคนนั้นมีแค่กับหวงเยว่ไม่ใช่หวงเทียน

พอหูเจียวเจียวได้ยินคำถามของหลงโม่ เธอก็ตอบเขาโดยการหัวเราะเบา ๆ พลางอธิบายว่า

“เขาไม่ได้ร่าเริงขึ้นเพราะเขาเจอหวงเทียน”

“เป้าเฟิงมีสภาพแบบนั้นเพราะเขาสูญเสียศรัทธาในการที่จะมีชีวิตต่อไป แต่ตอนนี้เขามีศรัทธาแล้ว”

ถึงแม้ว่าจิ้งจอกสาวจะให้คำอธิบาย แต่มังกรหนุ่มก็ยังคงสับสนไม่หาย

“ศรัทธา?”

ชายหนุ่มไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน และไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร หลังจากพวกเขากลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เจียวเจียวมักพูดในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจอยู่บ่อย ๆ

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกงุนงง เขาอดคิดไม่ได้ว่าเจียวเจียวเป็นเหมือนทรายละเอียดที่จะหลุดออกจากนิ้วของตนได้ทุกเมื่อ

“ศรัทธาคือ...” หญิงสาวใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเลือกคำอธิบายอย่างระมัดระวังและพยายามใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย “ศรัทธาคือสิ่งที่เจ้ายึดมั่นมาโดยตลอด เป็นสิ่งสำคัญและมีค่าที่สุดที่เจ้ามี”

มันยากมากที่จะสรุปคำนั้นภายในประโยคสั้น ๆ

ความเชื่อซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายได้ และผู้คนต่างก็มีความเชื่อที่แตกต่างกันไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของภูตชายคือคู่ครอง เผ่าและลูก

หลังจากหูเจียวเจียวพูดเช่นนั้นไป เธอก็หวังว่าหลงโม่คงจะเข้าใจ

ไม่นานร่างสูงก็พยักหน้า ในขณะที่เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของภรรยาสาวและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เจียวเจียว เจ้าคือศรัทธาของข้า”

ในตอนนั้นเอง เกล็ดหิมะที่ลอยฟุ้งในอากาศดูเหมือนจะหยุดลง

ตามด้วยแสงที่ตกกระทบจมูกคมเป็นสันของหลงโม่ราวกับมันช่วยเพิ่มความมุ่งมั่นให้กับใบหน้าแสนหล่อเหลาของเขา ประกอบกับดวงตาอันลึกล้ำดั่งหลุมดำที่อันตรายซึ่งทำให้ผู้คนตกลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

แต่ในเวลานี้มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและหลงใหล

ขณะเดียวกัน หัวใจของหูเจียวเจียวเหมือนถูกโยนลงไปในบ่อน้ำพุร้อน โดยน้ำที่ไหลมากระทบเธอเบา ๆ ทำให้ใจของเธออบอุ่น

หญิงสาวยอมรับว่าเธอติดอยู่ในหลุมดำที่ชายตรงหน้าสร้างขึ้นมาแล้ว

“หลงโม่ เจ้ากับลูกก็คือศรัทธาของข้าเช่นกัน”

จิ้งจอกสาวเม้มริมฝีปากก่อนจะดึงคอเสื้อของมังกรหนุ่มลงมาพร้อมกับที่เธอยืนเขย่งเท้าไปประกบปากของเขา

จังหวะนั้นหลงโม่รู้สึกเหมือนกับว่ามีคลื่นทะเลซัดเข้าใส่ตัวเขาเต็มแรง

ในวินาทีต่อมา เอวบางของหูเจียวเจียวถูกรัดแน่นขึ้น พอรู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกรัดด้วยหางยาวสีดำ ก่อนที่ร่างของหญิงสาวจะลอยขึ้นไปในอากาศ และมังกรดำก็บินไปทางบ้านหิน

ปรากฏว่ามังกรหนุ่มรีบมากจนลืมวางภรรยาสาวไว้บนหลังตัวเองด้วยซ้ำ

เขาคิดแค่ว่าตอนนี้เขาไม่อยากแยกจากเจียวเจียว

ระหว่างทางกลับบ้านหลงโม่บินเร็วมาก เมื่อทั้งคู่มาถึงที่หมาย เด็กทั้ง 6 ที่อยู่ในลานบ้านก็เห็นเพียงเงาดำพุ่งลงมาต่อหน้าต่อตาแล้วก็มีลมกระโชกแรงตามมา ทำให้พวกเขาตกใจนั่งฟุบอยู่บนพื้นอย่างทำอะไรไม่ถูก

บัดนี้เด็กน้อยทั้งหลายนิ่งอึ้งโดยไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ทุกคนรู้สึกว่าลมกระโชกนั้น ‘ตบ’ หน้าของตน เป็นผลให้พวกเขาปลิวกระเด็นออกไป 2-3 เมตร

แม้แต่หลงเหยาที่ห้อยตัวอยู่บนเชือกก็ไม่เว้น

กลับกลายเป็นว่าเด็กทั้ง 6 คนลงไปนอนกองอยู่ในหิมะ และทันทีที่พวกเขาลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังปัง

“...”

อะไรน่ะ? เกิดอะไรขึ้น?

บ้านของพวกเรามีคนบุกรุกหรือ?

อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องชั้นบน หูเจียวเจียวก็โดนคนตัวสูงจับพลิกตัวจนเวียนหัว  พอเธอตั้งสติได้อีกครั้ง เธอก็ได้ยินเสียงหนังสัตว์ฉีกขาด

“หลงโม่…”

ตอนนี้หูเจียวเจียวแทบจะรักษาความสุขุมเอาไว้ไม่ได้ ในขณะที่มือใหญ่ยังคงทำในสิ่งที่ต้องการต่อไป

นั่นทำให้แก้มเนียนใสแดงก่ำจากความร้อนที่แล่นไปทั่วกาย

แต่เห็นได้ชัดว่าในห้องยังไม่ได้จุดเตาให้ความร้อนด้วยซ้ำ

“ฤดูหนาวนี้เราจะมีลูกไม่ได้แล้ว เจ้า...”

ทำไมเขาถึงยังขยันทำการบ้านอีกล่ะ!?

“ข้าอยากมีลูกเพราะเจ้าเป็นคนให้กำเนิด”

หลงโม่มองสตรีที่ตนรักอย่างหลงใหล ทุกคำพูดของเขาจริงจังไม่ต่างจากการสาบานต่อเทพอสูร

“และคนที่ข้ารักคือเจ้า”

มังกรหนุ่มจงใจเน้นคำสุดท้าย

ทางด้านจิ้งจอกสาวตะลึงงันหลังจากถูกคำพูดของคนตรงหน้าจู่โจม หลังจากนั้นหัวสมองของเธอก็ขาวโพลนไม่สามารถคิดอะไรได้อีก

ไม่นานภายในห้องก็ร้อนรุ่มขึ้นราวกับมีเตาถ่านถูกจุดไว้นับสิบเตา

ยามนี้เปลวไฟและถ่านโรมรันกันเป็นเวลานาน ประกอบกับมีเสียงประกายไฟจากการเผาไหม้ในขณะที่เปลวเพลิงสีแดงกำลังเริงระบำยากที่จะมอดดับ...

ในเวลาเดียวกัน

ปัจจุบันเด็กทั้ง 6 คนกำลังนั่งมองหน้ากันอยู่บนหิมะนอกประตูบ้าน

“ใครทำให้เรากระเด็นออกมา?”

“มันเกิดขึ้นเร็วมากจนข้าเห็นไม่ชัด”

“ข้าก็เห็นไม่ชัดเหมือนกัน...”

ลูก ๆ ส่ายหัวพร้อมกับมีสีหน้าว่างเปล่า

ทว่าหลงเซียวทำหน้าไม่แยแสและโพล่งออกมาโดยแทบไม่ต้องคิด

“นอกจากท่านพ่อ ใครจะรีบเข้าไปในบ้านด้วยความเร็วขนาดนั้นล่ะ?”

เมื่อเด็กคนอื่นได้ยินคำพูดที่ตรงประเด็น พวกเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

“เสี่ยวเหยาเกลียดท่านพ่อมาก เสี่ยวเหยาเจ็บก้น!” หลงเหยายังคงอยู่ในร่างสัตว์ ในขณะที่เขาใช้หางถูก้นตัวเองเบา ๆ “เสี่ยวเหยาจะไปฟ้องท่านแม่!”

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เสี่ยวเหยาอย่าเพิ่งไปลูกกก ไม่งั้นขิตของแท้แน่ 55555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด