ตอนที่แล้วบทที่ 383: ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ภูตหญิงจะเป็นหัวหน้าเผ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 385: โหวเซียงกำลังตั้งครรภ์

บทที่ 384: ก็แค่ใช้มือยิงมันไปที่เป้าหมายไม่ใช่หรือ?


ก่อนที่หูเจียวเจียวจะทันได้พูดอะไร หัวหน้าเผ่าก็พูดขึ้นมาอย่างมีความหวังว่า

“เจียวเจียว รีบ ๆ ลองกันเร็วเถอะ” เขาเชื่อมั่นในตัวจิ้งจอกสาวมากที่สุด อีกทั้งเครื่องเหวี่ยงหินก็เป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก บางทีอาวุธขนาดเล็กนี้อาจใช้งานได้ดีแบบที่พวกเขาคาดไม่ถึง

ปัจจุบันเหล่าภูตในเผ่ารู้สึกว่าหูเจียวเจียวมีอำนาจบันดาลทุกอย่างและสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่นางต้องการ

เพราะฉะนั้นอาวุธประหลาดชิ้นนี้คงใช้การได้เป็นอย่างดี

ทางด้านหูเจียวเจียวซึ่งกำลังจะสอนผู้อาวุโสใช้คันธนูและลูกศรชะงักไปชั่วคราว

“...”

ท่านผู้เฒ่าจะให้ฉันลองใช้มันให้ดูก่อนเนี่ยนะ?

ความจริงแล้วหญิงสาวเคยได้สัมผัสอาวุธชิ้นนี้ตอนอยู่ในมิติเพียงแค่ครั้ง 2 ครั้งเท่านั้น

เธอไม่มีแรงแม้แต่จะดึงสายธนูด้วยซ้ำ!

แต่เมื่อจิ้งจอกสาวสบเข้ากับดวงตาที่คาดหวังของหัวหน้าเผ่าและกลุ่มภูตที่อยู่ข้างหลัง เธอก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้น

“ท่านผู้เฒ่า ข้าไม่...”

หูเจียวเจียวอ้าปากกำลังจะอธิบายให้ชายชราฟังว่าเธอไม่สามารถเป็นผู้สาธิตเองได้จริง พวกเขาต้องฝึกฝนด้วยตัวเอง

ก่อนที่หญิงสาวจะได้พูดอะไรก็มีมือใหญ่ยื่นออกมาจากด้านหลังเธอ

แล้วคันธนูกับลูกศรก็ถูกดึงออกจากมือเธอไป

“หลงโม่?”

จิ้งจอกสาวหันไปมองมังกรหนุ่มที่หยิบคันธนูและลูกธนูไปด้วยความประหลาดใจ

ไม่ หลงโม่เองก็ต้องฝึกฝนเช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้น!

แล้วเขาจะเอามันไปทำอะไร?

ยามนี้ชายร่างสูงยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไรสักคำ ดวงตาอันสงบนิ่งของเขาราวกับมีม่านหมอกมาบดบัง ทำให้ยากที่จะมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ไม่กี่อึดใจต่อมา มังกรหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งถือคันธนูยาว ส่วนอีกข้างถือลูกศรไม้ไผ่ เขายกมือขึ้นเพื่อดึงสายธนูออกอย่างง่ายดาย ทว่าถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นกล้ามเนื้อแขนปูดขึ้น และแรงกดดันที่มองไม่เห็นก็แผ่ออกมา

ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มภูตรอบ ๆ ก็จ้องมองหลงโม่อยู่ครู่หนึ่ง

ฟิ้ว!

เสียงบางอย่างแหวกอากาศดังขึ้น

บัดนี้ลูกธนูไม้ไผ่ส่งเสียงหวีดหวิวออกมา

ซึ่งความเร็วของมันเร็วมากจนไม่มีใครสามารถจับวิถีของลูกธนูได้เลยสักคน

“หูววว! เร็วมาก!”

“เร็วกว่าก้อนหินที่ใช้เครื่องเหวี่ยงหินยิงออกไปอีก!”

“แต่ไม้ไผ่เล็ก ๆ นี้หักง่ายจะตาย มันสามารถสร้างความเสียหายได้ด้วยหรือ?”

แม้ว่าชาวเผ่าจะตกใจกับความเร็วของลูกธนู แต่พวกเขาก็ยังไม่คลายความสงสัย

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หลายคนไม่เชื่อว่าไม้ไผ่ขนาดเรียวเล็กจะทรงพลังกว่ากรงเล็บของภูต

มันคงจะน่าอายมากถ้าภูตตัวโตอย่างเช่นพวกเขาสู้ไม้ไผ่ลำเล็ก ๆ นี้ไม่ได้

ฉึก!

จังหวะนั้นมีเสียงเสียดแทงบางอย่างเกิดขึ้น

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสงสัยไปต่าง ๆ นานา ในที่สุดลูกศรไม้ไผ่ก็หยุดลง

เมื่อเหล่าภูตหันไปมองตามต้นเสียง ไม่นานพวกเขาก็มีเหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นตรงหน้าผาก

ภาพที่ทุกคนเห็นก็คือ ลูกศรไม้ไผ่เจาะทะลุหัวนกในขณะที่หัวลูกศรแทงลึกเข้าไปในต้นไม้อายุนับร้อยปีครึ่งหนึ่ง

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว...”

“เป็นไปไม่ได้ที่กรงเล็บของข้าจะแทงต้นไม้ได้ลึกขนาดนั้น”

“หากใช้เจ้าสิ่งนี้โจมตีใส่ภูต บางทีมันอาจแทงทะลุหัวใจของคน ๆ นั้นได้โดยตรง”

บัดนี้ชาวเผ่าที่ได้เห็นการสาธิตของหลงโม่ พวกเขาต่างพากันลอบกลืนน้ำลาย

แต่อาวุธดังกล่าวก็ไม่สามารถฆ่าศัตรูได้สมบูรณ์แบบ คันธนูและลูกศรนี้เป็นอาวุธที่เหมาะแก่การจัดการกับปลาที่เล็ดลอดผ่านตาข่ายมาได้เท่านั้น!

หากในเผ่ามีอาวุธอันหนึ่งเอาไว้โจมตีระยะไกล ส่วนอาวุธอีกอันเอาไว้โจมตีระยะใกล้ บวกกับกับดักที่หูเจียวเจียวติดตั้งไว้

แล้วแบบนี้จะมีใครที่สามารถฝ่าแนวป้องกันของพวกเขาเข้ามาได้อีก?

ทางด้านเซี่ยหมานและภูตที่อยู่ข้างหลังเขารู้สึกโชคดีที่พวกเขาติดตามจิ้งจอกสาวมายังเผ่านี้ หากทุกคนกลายเป็นศัตรูของนาง อาวุธเหล่านี้จะถูกนำมาใช้กับพวกตน

ส่วนหูเจียวเจียวเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

ฉากนั้น… บรึ๋ย~ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!

ทว่าหลงโม่ไม่เคยแตะธนูมาก่อน

เขาทำแบบนั้นได้อย่างไร?

มันไม่น่าเป็นไปได้ เขายิงธนูได้อย่างไรกัน!

นี่เป็นเพียงลูกศรไม้ไผ่ หากพวกเขาได้รับแร่เหล็กจากเผ่าหมาป่าและทำลูกศรเหล็กขึ้นมา พลังการโจมตีก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า

ขณะนั้นมังกรหนุ่มเห็นแววตาที่แสดงออกถึงความประหลาดใจของจิ้งจอกสาว เขาจึงวางคันธนูยาวลงก่อนจะเดินกลับไปด้านข้างของภรรยาสาวแล้วสบตานาง

“หลงโม่ เจ้ารู้วิธีใช้มันได้ยังไง?” หูเจียวเจียวไม่สามารถระงับความสงสัยได้จึงถามออกมาตรง ๆ

เธอจำได้ว่าเธอไม่เคยสอนหลงโม่ แต่...

“ตอนที่เจ้าอธิบายภาพวาด เจ้าได้บอกวิธีใช้มันแก่ข้าด้วย” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุขุม สงบและมั่นคงเหมือนสุนัขแก่ ๆ แต่คิ้วของเขาเลิกขึ้นเผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในขณะนี้

คำตอบของสามีหนุ่มทำให้หูเจียวเจียวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

ในพจนานุกรมของผู้ชายคนนี้ไม่มีคำว่า ‘ทำไม่ได้’ ใช่ไหม?

เพียงแค่เธอบอกวิธีใช้ธนูให้เขาฟัง เขาก็สามารถยิงธนูได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ครั้งแรก!

วินาทีที่จิ้งจอกสาวตกตะลึง เธอสงสัยมากว่าชายผู้นี้ไม่ได้ดื่มน้ำแกงยายเมิ่ง*ก่อนเกิดใหม่หรือเปล่า!!

*น้ำแกงยายเมิ่ง คือ เวลาที่วิญญาณจะไปเกิดใหม่ ต้องดื่มน้ำแกงของยายเมิ่ง เทพอาวุโสท่านหนึ่งที่ประจำการในนรกภูมิ เพื่อให้ลืมความจำในอดีตทั้งหมด

ครู่ต่อมา เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะถามออกไปอีกครั้ง

“แล้วเจ้ายิงแม่นยำขนาดนี้ได้ยังไง?”

แม้ว่าอีกฝ่ายจะแอบไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่มันก็ไม่มีทางที่เขาจะยิงได้แม่นยำภายในครั้งแรก!

เห็นได้ชัดว่าหูเจียวเจียวลืมสิ่งที่หลงโม่ทำให้เธอตกใจตอนที่เขาสร้างตัวอย่างเครื่องเหวี่ยงหินไปแล้ว

ทางด้านมังกรหนุ่มขมวดคิ้วพลางโยนคันธนูยาวไปให้โหวเสี่ยวเตียวแล้วถามกลับว่า “ก็แค่ใช้มือยิงมันไปที่เป้าหมายไม่ใช่หรือ?”

เขาเพียงแค่ยิงในสิ่งที่ตนเห็นเท่านั้น

“...” นี่เขาจะบอกว่าเธอไม่มีฝีมือใช่ไหม?

ช่างเถอะ ๆ!

สรุปก็คือหลงโม่เป็นตัวละครที่มีสกิลเทพติดตัวมาตั้งแต่เกิด!

ในที่สุดหูเจียวเจียวก็เข้าใจว่าเหตุใดหลงโม่ถึงเป็นตัวร้ายในนิยายต้นฉบับ เพราะความสามารถในการเรียนรู้ระดับท้าทายสวรรค์และสกิลปากที่สมควรถูกตบ มันต้องมีใครสักคนอยากจะดักตีหัวเขาบ้างแหละ!

“เจียวเจียว นี่คืออะไร?” หัวหน้าเผ่าที่เงียบมานานเอ่ยถามจิ้งจอกสาวอย่างตื่นเต้น

สิ่งนี้ไม่เพียงสามารถนำไปต่อสู้กับศัตรู แต่ยังใช้ในการล่าสัตว์ได้อีกด้วย!

ไม่ใช่ภูตทุกคนในเผ่าที่มีความสามารถในการต่อสู้ อีกทั้งภูตส่วนใหญ่ไม่ได้แข็งแกร่งและบางคนไม่เก่งในการล่า

ถ้ามีสิ่งที่เรียกว่าธนู ภูตชายที่ไม่ชำนาญในการล่าสัตว์สามารถไปหาเหยื่อในป่าได้หากพวกเขาได้รับการฝึกฝน!

แล้วแบบนี้ผู้อาวุโสจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร!

ในอดีต พรสวรรค์เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ซึ่งความทุ่มเทอย่างหนักก็ไม่อาจทดแทนจุดนี้ได้

แต่หูเจียวเจียวทำให้พวกเขาเห็นว่าเหล่าภูตมีโอกาสที่จะกลายเป็น ‘ผู้แข็งแกร่ง’ ได้ทุกคน!

ขณะนี้ชาวเผ่ากลั้นหายใจมองไปที่จิ้งจอกสาวโดยไม่รู้ตัว

“ท่านผู้เฒ่า นี่คือคันธนูและลูกศร มันต้องอาศัยทักษะในการใช้และสามารถผลิตได้ในปริมาณมาก” หูเจียวเจียวอธิบายเกี่ยวกับอาวุธชิ้นใหม่

ทันใดนั้นดวงตาของภูตชายทั้งหลายก็ลุกโชน

ผลิตได้เป็นจำนวนมาก!

นี่แหละคือคำตอบที่พวกเขารอคอย!

“ยังไงก็ตาม วัสดุสำหรับทำคันธนูและลูกธนูนั้นไม่ใช่ไม้ธรรมดา” จิ้งจอกสาวกล่าวเสริม

เนื่องจากทั้งเขาสัตว์และเอ็นสัตว์ต้องตากแดดให้แห้งเป็นเวลานานก่อนจะนำมาใช้ได้ แถมปัจจุบันเขาสัตว์ที่เพิ่งถูกฆ่าสด ๆ ก็ยังไม่พอ

หากต้องการผลิตธนูจำนวนมาก เธอเกรงว่ามันจะใช้เวลานานกว่าเครื่องเหวี่ยงหิน

“ไม่เป็นไร ข้าจะจัดการเตรียมวัสดุที่เจ้าต้องการเอง” ผู้นำสูงสุดของเผ่าตอบอย่างแน่วแน่

เขาสัตว์และเส้นเอ็นสัตว์ของเผ่านี้เป็นของที่ถูกเก็บไว้เป็นสิ่งสำคัญเพราะของพวกนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของภูต โดยปกติแล้วพวกมันจะถูกแขวนไว้หน้าประตู ยิ่งแขวนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งบ่งบอกว่าความสามารถในการล่าของภูตคนนั้นแข็งแกร่งเพียงใด

ถึงแม้ว่าธนูจะต้องใช้วัสดุพิเศษ แต่การหาวัสดุดังกล่าวมาใช้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อภูตทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็ตบหน้าอกตัวเองและพูดว่า

“ถ้าขาดวัสดุ พวกเราจะไปหามันเอง!”

“ข้ามีเขาวัวที่บ้าน ข้าจะเอามันมาให้ทั้งหมด!”

“ส่วนข้ามีเอ็นวัวมากมาย!”

บัดนี้ภูตชายหลายคนทำท่ากระวนกระวายเบียดตัวไปข้างหน้าเหมือนนกเพนกวินวิ่งลงไปในน้ำเพราะไม่มีใครอยากจะเสียเวลาแม้เสี้ยววินาที

พอหูเจียวเจียวเห็นว่าทุกคนพร้อมใจกันไปเอาของที่ตัวเองมีออกมา เธอก็ยกยิ้มอย่างมีความสุข

เผ่าสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยความร่วมมือของภูตทุกคน!

“โหวเสี่ยวเตียว เจ้าเป็นคนที่มีความดีความชอบเยอะที่สุดในการทำคันธนูและลูกธนู ถ้าเจ้าต้องการอะไร เจ้าบอกข้าได้เลยนะ” ท่านผู้เฒ่ามองไปที่ลิงหนุ่มซึ่งกำลังยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านข้าง

ชายสูงวัยไม่ลืมว่าอาวุธชิ้นนี้โหวเสี่ยวเตียวเป็นคนที่สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก

“ไม่ ๆ นี่ไม่ใช่เพราะข้าคนเดียว ต้องขอบคุณหูชิงหลู่ที่ช่วยข้า ดังนั้นข้าเลยสามารถสร้างมันได้สำเร็จ”

ลิงหนุ่มรีบโบกมือปฏิเสธเพราะเขาไม่กล้ารับคุณงามความดีเพียงคนเดียว

“พี่สาม?” ทันใดนั้นหูเจียวเจียวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้เจอพี่สามมาพักหนึ่งแล้ว

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เจียวเจียวกำหมัดแล้วหนึ่ง เหมือนโดนผัวกวนตีนแต่ก็ไม่ใช่ ผัวแค่ไร้เดียงสา ผัวแค่ตอบตามตรงค่า 5555555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด