ตอนที่แล้วบทที่ 371: ผู้ชายคนนี้ปากหวานตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 373: เจ้าอยากใช้อ่างอาบน้ำของข้าหรือ?

บทที่ 372: พี่ใหญ่โลกสวย


ขณะนี้หูเจียวเจียวมองไปที่ลูกชายทั้ง 4 อย่างขบขัน

เธอรู้สึกว่าถังหินที่ใช้อยู่ยังหนักเกินไป

มันคงจะดีมากถ้าเธอสามารถตามหาเหมืองเหล็กแบบของเผ่าหมาป่าเจอ แบบนั้นในเผ่าก็จะมีเครื่องมือที่ทำจากเหล็กซึ่งมันใช้งานสะดวกกว่าเครื่องมือหินมาก

เวลาผ่านไปไม่นาน จิ้งจอกสาวก็ดึงตัวเองออกจากห้วงความคิด

จากนั้นเธอมองไปที่สามีหนุ่มก่อนจะก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“หลงโม่ เจ้าไปบอกวิธีการขุดบ่อน้ำให้ท่านผู้เฒ่าทราบนะ แล้วก็บอกให้เขานำภูตไปขุดบ่อน้ำเอาไว้ใช้ในเผ่า ผู้หญิงที่ต้องการใช้น้ำก็จะสามารถตักน้ำได้เองแล้วก็ขุดบ่อน้ำที่บ้านด้วยเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องลำบากไปเจาะน้ำแข็งที่แม่น้ำ”

ปัจจุบันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในถ้ำไม่สะดวกที่จะจุดไฟ และพวกเขาทำได้แค่ดื่มน้ำที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง

แม้ว่าน้ำเย็นจัดจะไม่สามารถฆ่าภูตได้ แต่มันก็เป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยเช่นกัน

ในอดีต มีแม้กระทั่งภูตที่เกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในแม่น้ำโดยไม่ตั้งใจและแข็งตายทุกฤดูหนาว

“ตกลง”

หลงโม่พยักหน้าตอบรับ เขาไม่ใส่ใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า และแปลงร่างเป็นมังกรบินไปที่บ้านของท่านผู้เฒ่าทันที

ในโลกภูต ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของยามเหมันต์อากาศจะหนาวที่สุด

ดังนั้นชาวเผ่าจำเป็นต้องรีบขุดบ่อน้ำตอนนี้ มิฉะนั้น สภาพอากาศจะเลวร้ายลงจนออกมาทำกิจกรรมข้างนอกได้ลำบากมากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน หลงอวี้และพี่น้องคนอื่นดูเหมือนจะค้นพบของเล่นแปลกใหม่ พวกเขาผลัดกันตักน้ำด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินจนน่าประหลาดใจ

มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่ต้องเขย่งเท้าถึงจะจับแท่งหินหมุนรอกได้

แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถใช้พละกำลังได้เต็มที่ เขาจึงไม่สามารถตักน้ำได้เลย

ขณะนั้นคนตัวเล็กพยายามอยู่ 2-3 ครั้งก็ไม่เป็นผล เขาจึงเดินไปที่ด้านข้างแม่จิ้งจอกอย่างหดหู่ใจ พร้อมกับมุมปากที่คว่ำลง

เด็กน้อยคิดว่าตนเองช่างไร้ประโยชน์…

พวกพี่ใหญ่ยังตักน้ำได้เลย มีแค่เขาคนเดียวที่ไม่สามารถตักน้ำได้….

ทางด้านหลงจงหัวเราะเยาะน้องชายคนเล็ก “เสี่ยวเหยา เนื้อที่เจ้ากินบ่อย ๆ หายไปไหนแล้ว ทำไมมันไม่ไปช่วยเพิ่มความสูงและพละกำลังของเจ้าเลยล่ะ?”

คำพูดของพี่ชายคนที่ 3 ทำให้ปากของหลงเหยายิ่งยู่เข้าหากันมากขึ้น และเขากำลังจะลุกขึ้นใช้หมัดทุบอีกคน

ด้วยเหตุนี้ หลงจงจึงยื่นมือออกไปดันหัวคนตัวเล็กไว้ มันทำให้กำปั้นของคนตรงหน้าไม่สามารถแม้แต่จะสัมผัสชายเสื้อของเขาได้

“ไม่เป็นไรนะเหยาเอ๋อ เจ้าจะทำได้เหมือนพี่น้องคนอื่นเมื่อเจ้าโตขึ้น” หูเจียวเจียวปลอบโยนลูกชายที่ตัวเล็กกว่าพวกพี่ ๆ

เนื่องจากหลงเหยาเป็นลูกคนสุดท้ายที่ออกมาลืมตาดูโลกและยังเป็นคนสุดท้ายที่แปลงร่างสำเร็จ ดังนั้นเด็กคนอื่น ๆ จึงมีส่วนสูงปกติ มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่ยังดูเหมือนเด็กอายุ 3 ขวบ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจ้าตัวเล็กน้ำหนักลดลงแล้ว เขาจึงดูสูงขึ้นมาก รวมถึงมีสัญญาณชัดเจนว่าเขากำลังเติบโตไล่ตามพี่ ๆ ของเขาไป อีกไม่นานเด็กคนนี้ก็จะมีขนาดตามเด็กมาตรฐาน

ถัดมา เด็กน้อยเม้มปากพลางถอนหายใจ “เมื่อไหร่เสี่ยวเหยาจะโต เสี่ยวเหยาอยากโตเร็ว ๆ จัง...”

พอโตขึ้นเสี่ยวเหยาก็จะเอาชนะเจ้าจิ้งจอกตัวเหม็น เขาชอบเอาแต่หัวเราะเยาะเสี่ยวเหยา!

คอยดูเถอะ! หัวเราะทีหลังดังกว่า!

แต่ถึงกระนั้น หลงเหยาก็ลืมสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ แม้ว่าเขาจะเติบโตขึ้น แต่หลงจงก็จะเติบโตเช่นกัน ต่อให้เขาโตกว่าปัจจุบัน เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะพี่ชายได้อยู่ดี

“แม่บอกเลยว่าเมื่อเหยาเอ๋อโตขึ้น เหยาเอ๋อจะเสียใจและคิดถึงวัยเด็ก” แม่จิ้งจอกลูบผมนุ่มของลูกชายคนเล็กพลางพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไม่มีทาง!” เด็กน้อยส่ายหัวอย่างจริงจัง “เสี่ยวเหยาจะโตขึ้นและจะไม่เสียใจ”

หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะพาทุกคนเปลี่ยนเรื่องคุย

“เหยาเอ๋อช่วยแม่เอาเมล็ดแตงโมไปส่งให้หลิงเอ๋อกับหยินชางดีไหม?”

“ได้ เสี่ยวเหยาจะส่งอาหารให้พี่ ๆ เอง!” หลงเหยาพยักหน้าทันควันเพราะในที่สุดก็มีอะไรที่เขาช่วยเหลือท่านแม่ได้!

เวลาต่อมา หูเจียวเจียวกลับเข้าไปที่ครัวเพื่อบรรจุเมล็ดแตงโมคั่วอีก 4 ถุงแล้วนำไปให้คนตัวเล็ก

ในขณะที่พวกหลงอวี้ก็หยิบเมล็ดแตงโมคั่วมุ่งหน้าออกไปหาเพื่อนเล่นพร้อมกัน

ทางด้านแม่จิ้งจอกกลับไปที่ครัวเพื่อล้างหม้อ แต่ทันทีที่เธอเข้าไปข้างในก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“น้องเล็ก!”

มันเป็นเสียงของหูชิงซาน พี่ชายคนโต

หูเจียวเจียวจึงวางสิ่งที่อยู่ในมือลง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเห็นพี่ใหญ่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างตื่นเต้น พร้อมกับมีโบว์ที่คุ้นเคยผูกไว้ตรงแขน

หูกระต่ายนี่… ทำไมมันดูคุ้น ๆ

ในโลกภูตเธอเคยสอนหลงหลิงเอ๋อให้ผูกโบว์คนเดียวเท่านั้น แต่ช่วงนี้เด็กหญิงใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเรียนกับหมอหนู

“พี่ใหญ่ ท่านได้รับบาดเจ็บหรือ?” หูเจียวเจียวเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็วขณะที่คิ้วเรียวสวยขมวดน้อย ๆ

พี่ใหญ่ไปสารภาพรักอีท่าไหนถึงเจ็บตัวกลับมาได้?

จากที่หญิงสาวสังเกตท่าทางของพี่ชายคนโต ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เสียใจกับการที่รักไม่สมหวัง หรือความจริงแล้วเขาทำสำเร็จ?

แต่จิ้งจอกหนุ่มก็ไม่ได้มีความสุขจนล้นออกนอกหน้าเช่นกัน...

มันทำให้คนเป็นน้องสาวยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย

“ไม่มีอะไร นี่แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย” หูชิงซานโบกมือแบบไม่ใส่ใจ

“เมื่อวานนี้พี่ฟังคำเจ้า และไปหาเฟิงเฉิงเพื่อแสดงความรู้สึกของพี่ น้องเล็ก มันได้ผลจริง ๆ เจ้าฉลาดมาก ไว้คราวหน้าพี่จะมาขอคำแนะนำจากเจ้าอีก”

“ได้ผล? นางตกลงที่จะเป็นคู่ของท่านหรือไม่?” หูเจียวเจียวถามพร้อมกับมีสีหน้าตกตะลึง

พี่ใหญ่ออกตัวแรงมาก!

ในการสารภาพรักครั้งแรกเขาก็คว้าใจสาวมาได้แล้ว!

ทว่าผู้เป็นพี่ชายคนโตกลับส่ายหัว “ไม่ เฟิงเฉิงไม่ได้ตอบตกลง”

อะไรนะ?

คำตอบของเขาทำให้จิ้งจอกสาวยิ่งงุนงงมากกว่าเดิม “งั้น… นางก็ปฏิเสธท่าน!?”

หูชิงซานพยักหน้าก่อนจะส่ายหัว “ใช่ แต่ก็ไม่เชิง”

“งั้นก็หมายความว่านางไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ พี่ใหญ่ นางบอกอะไรท่านอีก?” หญิงสาวรู้สึกมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก นี่พี่ชายกำลังเล่นเกมทายปริศนากับเธอหรือ?

ทางด้านจิ้งจอกหนุ่มมีรอยยิ้มเขินอายบนใบหน้าหล่อเหลาและซื่อตรงของเขา ท่าทางนั้นเหมือนกับชายหนุ่มที่กำลังมีความรัก จากนั้นเขายกมือเกาหูที่แดงระเรื่อพลางพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุข “นางบอกว่านางยังไม่คิดที่จะหาคู่ตอนนี้ เพราะคู่จะส่งผลต่อความสามารถของหมอผี”

“พี่คิดเอาไว้ว่าจะรอนาง และเมื่อนางพร้อมมีคู่ครอง นางคงจะยอมรับพี่”

“...” จิ้งจอกสาวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

พี่ใหญ่นี่โลกสวยจริง ๆ !

ดูเหมือนว่าแผนการที่จะทำให้เฟิงเฉิงมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอล้มเหลว…

“พี่ใหญ่...” ผู้เป็นน้องสาวลูบหน้าผากตัวเองพลางอธิบายอย่างช่วยไม่ได้

“จริง ๆ แล้วท่านถูกปฏิเสธแบบสุภาพ นี่เป็นข้อแก้ตัวของนางที่ไม่ต้องการเป็นคู่กับท่าน”

ปรากฏว่าพี่ชายคนโตของเธอไม่เข้าใจคำตอบที่แท้จริงของเฟิงเฉิง!

“หา!” หูชิงซานตกตะลึงราวกับว่าเขายังไม่เข้าใจและถามพร้อมกับเบิกตากว้าง

“เจ้าหมายถึงอะไร?”

“มันหมายความว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จะบอกว่านางไม่อยากหาคู่ในตอนนี้ แต่นางไม่ต้องการเป็นคู่กับท่าน!” หูเจียวเจียวตอบอย่างจริงจัง

นั่นน่าจะเป็นวิธีที่หมอผีใช้ปฏิเสธภูตคนอื่น ๆ เสมอ

“ท่านลองคิดดู ถ้านางชอบท่านเหมือนกัน ทำไมนางไม่บอกท่านว่าต้องรออีกนานแค่ไหน?” จิ้งจอกสาววิเคราะห์กับพี่ชายคนโตด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพี่ใหญ่ของตนเป็นคนซื่อสัตย์แล้วก็บื้อเรื่องความรัก

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องรอฝ่ายหญิงโดยเปล่าประโยชน์ แล้วโดนบอกว่า ‘ไม่ชอบ’ ทีหลัง ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ใช่ว่าเขาต้องเสียทั้งเวลาเสียทั้งความรักหลายปีหรอกหรือ? เธอไม่อาจทนเห็นพี่ชายเจ็บปวดได้

ทางด้านหูชิงซานที่ได้รู้ความจริงยืนแข็งค้างอยู่กับที่เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ถูกปิดเครื่องโดยแม้แต่ตาก็ไม่กะพริบ

ชายหนุ่มต้องใช้เวลาสักครู่กว่าเขาจะหลุดออกจากห้วงความคิด

“น้องเล็ก สิ่งที่เจ้าพูดฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล...” ยามนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อย ๆ จางหายไป

ที่แท้เขาก็ถูกเฟิงเฉิงปฏิเสธแล้วจริง ๆ

นี่คือครั้งแรกที่จิ้งจอกหนุ่มบอกความในใจกับผู้หญิง และมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงมีผลกระทบต่อเจ้าตัวอย่างหนัก

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าพี่ชายรู้สึกแย่ เธอก็ตบไหล่เขาและกล่าวปลอบโยนอีกฝ่ายว่า

“ไม่เป็นไร พี่ใหญ่ ตอนนี้นางอาจจะยังไม่ชอบท่าน แต่ท่านยังสามารถหาวิธีทำให้นางชอบท่านได้อยู่ มีคนเคยบอกเอาไว้ว่าน้ำหยดลงบนหินทุกวันหินก็ยังกร่อน แล้วใจคนเล่าจะทนได้อย่างไร”

หากหญิงสาวไม่ช่วยเติมเชื้อไฟ พี่ชายคนโตจะถอยหนีทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้พยายามทำอะไรเลย

อย่างน้อยก็ดีกว่าการรออยู่เงียบ ๆ แบบเปล่าประโยชน์

หลังจากหูชิงซานได้ยินคำพูดของน้องสาวคนเล็ก สีหน้าของเขาก็อ่อนลงก่อนที่เขาจะพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยว่า

“แล้วพี่จะทำให้นางชอบพี่ได้ยังไง?”

ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง ยกเว้นหูหมินผู้เป็นแม่และหูเจียวเจียว เฟิงเฉิงเป็นผู้หญิงที่เขาพูดคุยด้วยมากที่สุด

ขณะนั้นจิ้งจอกสาวขมวดคิ้วนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง

ไม่นานเธอก็กระดิกนิ้วเรียกให้พี่ชายคนโตขยับเข้ามาใกล้ ๆ ตน

“พี่ใหญ่ ข้าคิดว่า...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด