ตอนที่แล้วบทที่ 365: 2 คนนี้มีพิรุธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 367: ความกังวลของเฟิงเฉิง

บทที่ 366: สมองของพี่ใหญ่มีอะไรอยู่กันแน่?


เดิมทีหูเจียวเจียวอยากจะมอมเหล้าเฟิงเฉิง จากนั้นก็ใช้จังหวะช่วงที่นางกำลังเมาพูดให้นางยอมรับคำขอ

แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าพี่ชายของตนกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงทำอย่างนั้นไม่ได้

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเฟิงเฉิงโกรธขึ้นมาแล้วพาลเกลียดพี่ใหญ่ของเธอเพราะเหตุนี้ เธอไม่สามารถเป็นอุปสรรคในการหาคู่ครองของเขาได้

“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก ข้าแค่เอาเนื้อสับคั่วพริกมาส่งแล้วยังมีเหล้าผลไม้มาฝากเจ้ากับหู่จิง ของพวกนี้ข้าทำเอง” หูเจียวเจียวเปลี่ยนคำพูดตัวเองแบบกะทันหัน

หลังจากพูดจบเธอก็เปิดไหเหล้าผลไม้ที่วางอยู่บนพื้น

จากนั้นก็มีกลิ่นผลไม้หอมหวานกลมกล่อมลอยฟุ้งออกมาทันที ใครที่ได้สูดดมกลิ่นเข้าไปก็จะรู้สึกสดชื่นราวกับว่ามันสามารถมอมเมาคนคนนั้นได้ทั้งที่ยังไม่ได้ลิ้มรส

“เจียวเจียว เหล้าผลไม้นี้ทำมาจากผลไม้จริงหรือเปล่า มันหอมมาก!” หู่จิงเอนตัวไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วสูดกลิ่น 2-3 ครั้ง จากนั้นนางก็เกาหัวพลางพูดกับตัวเองว่า “ทำไมกลิ่นมันคุ้น ๆ…”

หญิงสาวรู้สึกว่าตนเคยได้กลิ่นบางอย่างที่คล้ายกันกับเครื่องดื่มนี้

แต่สุดท้ายนางก็ปัดความคิดดังกล่าวทิ้ง เพราะนางนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

“เจ้าสิ่งนี้ทำด้วยผลไม้ ถ้าเจ้าชอบดื่ม ข้ายังมีเก็บไว้อยู่ ไว้วันหลังข้าจะเอามาให้อีก การดื่มเหล้าผลไม้หน้าหนาวช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นและช่วยป้องกันไม่ให้เจ้าป่วยด้วย” หูเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่งเพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเคยเมามาก่อน อีกทั้งเหล้าผลไม้นี้หมักจากเหล้าขาวไม่ใช่เหล้าผลไม้บริสุทธิ์ ดังนั้นมันจะทำให้คนที่ดื่มมึนเมา

ครู่ต่อมา จิ้งจอกสาวกล่าวเสริมว่า

“แต่อย่าดื่มเยอะนะ มันจะทำให้เจ้าเมาแถมยังปวดหัวด้วย”

เสือสาวพยักหน้ารับและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้ารู้ แต่เจ้านี่เป็นของดีจริง ๆ มันสามารถป้องกันโรคได้ด้วย เจียวเจียว เจ้าน่าทึ่งมาก”

ทางด้านหูชิงหยวนยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงรูหู ในขณะที่เขายืดอกพูดแบบภาคภูมิใจ

“แน่นอนอยู่แล้ว นี่ใคร นี่คือน้องสาวคนเล็กของข้าเชียวนะ”

ทันทีที่จิ้งจอกหนุ่มพูดจบ เขาก็รับรู้ถึงสายตาเย็นชาที่ถูกส่งมาจากด้านข้าง

เขาหันศีรษะไปและพบว่าหลงโม่กำลังจ้องเขม็งมองมาที่เขาอย่างขุ่นเคือง

หูชิงหยวนจึงรีบเปลี่ยนคำพูดของเขา “เออ ๆ ของเจ้าก็ได้ พอใจหรือยัง!”

ไอ้มังกรขี้เหนียวเอ๊ย!!

ในเวลาเดียวกัน เฟิงเฉิงมองหูเจียวเจียวด้วยความสงสัยพลางคิดว่าอีกฝ่ายแค่นำอาหารมาส่งจริงหรือ?

ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้แล้ว?

มันทำให้นางไม่อยากจะปักใจเชื่อสักเท่าไหร่

ในระหว่างที่หมอสาวเริ่มสงสัย แขกที่มาเยี่ยมเยียนทั้ง 2 ก็ได้บอกลาหู่จิงและคนอื่น ๆ เสียก่อน

ก่อนที่จิ้งจอกสาวจะจากไป เธอก็หันไปเรียกหูชิงซาน

“พี่ใหญ่ ท่านเองก็ส่งเสบียงเสร็จแล้ว ท่านยังไม่อยากกลับหรือ?”

คนเป็นน้องสาวเลิกคิ้วถามพลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้พี่ชาย

คำพูดและท่าทางของเธอทำให้หูชิงซานตั้งสติไม่ทันครู่หนึ่ง จากนั้นเขารีบวางเสบียงลงแล้วหันหลังเดินออกจากบ้าน “ไปสิ แน่นอนว่าพี่ก็ต้องกลับเหมือนกัน”

ชายหนุ่มกลัวว่าถ้าเขาตอบสนองช้าเกินไป คนอื่นจะเห็นว่าตนมีพิรุธ

แต่การกระทำนั้นไม่ต่างจากการที่จิ้งจอกหนุ่มตะโกนบอกความจริงแก่หูเจียวเจียวกับหลงโม่เลยสักนิด

เนื่องจากบ้านของทั้งคู่กับหูชิงซานไม่ได้อยู่ในทิศทางเดียวกัน พวกเขาทั้ง 3 คนจึงต้องแยกทางกันหลังจากออกไปได้ไม่นาน

“พี่ใหญ่ รอสักครู่” หูเจียวเจียวเรียกพี่ชายคนโตไว้ จากนั้นเธอก็ลดศีรษะพูดกับหลงโม่ว่า “ข้าขอคุยกับพี่ใหญ่ก่อนนะ เจ้ารอข้าประเดี๋ยว”

“อืม” มังกรหนุ่มขดหางรอบตัวภรรยาสาวแล้ววางเธอไว้บนหิมะอย่างนุ่มนวล พร้อมกับปกป้องเธอในร่างสัตว์

ในระหว่างนั้นบังเอิญมีลมเย็นพัดมาจากด้านข้าง ร่างมังกรดำขนาดใหญ่จึงใช้ตัวเป็นกำแพงเพื่อกันลมหนาวให้หญิงสาว

ทางด้านหูชิงซานหยุดทันทีที่เขาได้ยินเสียงเรียกของน้องสาว ก่อนจะกลายร่างกลับเป็นมนุษย์ด้วยความสับสน

“เจียวเจียว เกิดอะไรขึ้น เจ้ามีอะไรอยากคุยกับพี่ใหญ่หรือ?”

เขาคิดว่าหูเจียวเจียวมีบางอย่างอยากจะขอให้ตนช่วย

ในวินาทีถัดมา จิ้งจอกสาวพูดประโยคที่ทำให้สีหน้าของเขาแข็งทื่อ

“พี่ใหญ่ ท่านชอบเฟิงเฉิงหรือเปล่า?”

ฝ่ายที่ถูกยิงคำถามยืนแข็งเป็นหินทันที

“เอ่อ… น้องเล็ก ทำไมเจ้าถึง...” เขาไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี อีกทั้งเขารู้สึกตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก

ทั้ง ๆ ที่ชายหนุ่มไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครเลย

แล้วน้องสาวของเขารู้ได้อย่างไร?

“พี่ใหญ่ เฟิงเฉิงอาศัยอยู่ในบ้านของพี่สี่ แต่ท่านไปบ้านคนอื่นทุกวัน ข้าไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าข้าต้องสังเกตเห็นอยู่แล้ว” หูเจียวเจียวพูดพลางยู่ริมฝีปาก

หูชิงซานเป็นคนที่จริงจังมาตลอด เมื่อเขาได้ยินแบบนี้ ใบหน้าที่ซีดเซียวของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

จากนั้นเขาลดเสียงลงและพูดว่า

“พี่เข้าใจแล้ว น้องเล็ก เจ้าอย่าบอกท่านพ่อกับท่านแม่นะ พี่เกรงว่าพวกเขาจะกังวล”

ยามนี้หูเจียวเจียวกอดอกครุ่นคิดในใจ

ท่านพ่อท่านแม่คงจะไม่กังวลเกี่ยวกับพี่ใหญ่หรอก ปกติพวกเขาก็ไม่ค่อยสนใจอะไรพวกพี่ชายอยู่แล้ว ในอนาคตถ้าพ่อคนที่ 2 เดินทางมาถึงที่นี่ ท่านพ่อท่านแม่คงจะไม่มีเวลาดูแลพวกเขาอีก

แต่ถึงกระนั้นเธอก็พยักหน้ารับปาก

“อย่ากังวลไปเลยพี่ใหญ่ ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”

จิ้งจอกสาวแย้มยิ้มก่อนจะถามเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ ท่านกับเฟิงเฉิงพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว ข้าสามารถช่วยอะไรท่านได้ไหม?”

ถ้าหมอผีกลายเป็นพี่สะใภ้ของเธอ การจะขอให้นางช่วยรักษาลูก ๆ จะไม่ยิ่งง่ายขึ้นหรือ?

ประกอบกับเฟิงเฉิงเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง นางเป็นคนสงบนิ่งและรอบคอบในยามที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงเป็นหมอผีด้วย คุณสมบัติที่เพรียบพร้อมถึงเพียงนี้ นางก็เป็นคู่ครองที่ภูตชายส่วนใหญ่ไม่สามารถหาได้แล้ว

ถ้าพี่ใหญ่ไม่รีบลงมือทำอะไรสักอย่าง บางทีภูตคนอื่นอาจจะคาบเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนี้ไปกินเสียก่อน

บัดนี้ใบหน้าของหูชิงซานเปลี่ยนเป็นสีแดงจนลามไปถึงใบหู

ต่อมา เขากระแอมเบา ๆ แล้วแสดงสีหน้าจริงจัง

“พี่รู้ดี ตอนนี้เรา 2 คนกำลังไปได้ดี”

หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ

อะไรนะ!?

ปรากฏว่าอีกฝ่ายลงมือเร็วมาก นี่เขายังเป็นพี่ใหญ่คนเดิมของเธออยู่ใช่ไหม? เธอจะมีพี่สะใภ้เร็ว ๆ นี้แล้วอย่างนั้นหรือ?

เธอกำลังจะแสดงความยินดีกับหูชิงซาน แต่เธอก็ได้ยินเขาพูดต่อว่า

“ทุกครั้งที่พี่ไปบ้านของเจ้าสี่ เฟิงเฉิงไม่ได้ไล่พี่ออกไปซึ่งหมายความว่านางไม่ได้เกลียดพี่ ตราบใดที่นางไม่เกลียดพี่ พี่ก็ยังมีโอกาส...”

“...”

นี่เขาคิดแบบนี้เองหรือ!?

“แค่ก ๆๆๆ!” จิ้งจอกสาวสำลักน้ำลายตัวเอง “ท่านพี่… นางไม่รู้หรือว่าท่านชอบนาง?”

คำพูดของพี่ชายคนโตส่งผลให้ผู้เป็นน้องสาวรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางกะบาล

ในสมองของพี่ใหญ่มันมีอะไรอยู่กันแน่?

ทั้งที่เขามีทั้งความสามารถและกล้าหาญ ครบเครื่องที่ชายชาตรีควรจะมี แถมเขายังโดดเด่นมากยามที่ทำงานในเผ่า

แต่ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนโง่นักเวลาที่เขาตกหลุมรักใครสักคน...

ทางด้านหูชิงซานตกตะลึงก่อนจะพยักหน้าอย่างเขินอาย “นางไม่รู้เรื่องนี้...”

หูเจียวเจียวที่ได้ยินคำตอบของพี่ใหญ่พูดไม่ออกชั่วขณะ

แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นคนแรกที่มีคู่ในบรรดา 5 พี่น้องตระกูลหู

“พี่ใหญ่ ท่านทำแบบนี้ไม่ได้” จิ้งจอกสาวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าท่านอยากจะเกี้ยวเฟิงเฉิง แน่นอนว่าท่านต้องบอกให้นางรู้ถึงความตั้งใจของท่าน แล้วถ้านางไม่เข้าใจความตั้งใจของท่านแล้วไปตกหลุมรักภูตคนอื่นที่ชัดเจนกับนางล่ะ?”

ขณะนี้หญิงสาวทำตัวเหมือนกับแม่สื่อที่ทำงานหนักที่สุด

“พี่ใหญ่ ถ้าท่านชอบใคร ท่านต้องบอกนางให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่การกระทำเท่านั้น แต่ยังต้องพูดออกมาด้วย ถ้าอีกฝ่ายไม่เข้าใจท่านแล้วหันไปสนใจคนอื่นล่ะ ท่านจะทำยังไง?”

หูชิงซานที่ได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึง เขาเพิ่งมาคิดได้ก็ตอนที่น้องเล็กพูดเตือน

“เจ้าพูดถูก! พี่ต้องบอกนางก่อน” เขาพยักหน้ารับด้วยท่าทางจริงจัง

เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนอื่นมาก้าวนำเขาไป!

พอหูเจียวเจียวเห็นว่าผู้เป็นพี่ใหญ่เริ่มเข้าใจแล้ว เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

ถึงอย่างไรเรื่องแบบนี้ก็สอนกันได้ไม่ยาก

“พี่ใหญ่หาโอกาสไปหาเฟิงเฉิงแล้วแสดงความในใจให้นางรู้เสีย” จิ้งจอกสาวชูกำปั้นไปทางพี่ชายและทำท่าทางให้กำลังใจเขา “พี่สะใภ้คนใหม่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว!”

หูชิงซานผงกหัวรับในขณะที่มีสีหน้าตึงเครียด

“ตกลง!”

เขาจะไปแสดงความในใจกับนาง!

เดี๋ยวนี้เลย!

ปัจจุบัน 2 พี่น้องกำลังคุยกันโดยที่พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าเปลือกตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งของมังกรดำยกขึ้นเล็กน้อยขณะฟังการสนทนาของพวกเขา พร้อมกับที่รูม่านตาสีทองขยายขึ้นราวกับว่าเจ้าตัวเข้าใจอะไรบางอย่าง

ถ้าเราชอบใคร เราต้องบอกนางด้วยหรือ?

เจียวเจียว...เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด