ตอนที่แล้วบทที่ 364: การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภูตเด็ก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 366: สมองของพี่ใหญ่มีอะไรอยู่กันแน่?

บทที่ 365: 2 คนนี้มีพิรุธ


วันถัดมา

หูเจียวเจียววางแผนไว้ว่าจะไปที่บ้านของหู่จิงเพื่อไปพบเฟิงเฉิง

ครั้งนี้จิ้งจอกสาวนำเนื้อสับคั่วพริกติดมือมาด้วย 2 ไหและเหล้าผลไม้ที่หมักเอาไว้

การที่เธอจะไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นนั้นเธอไม่ควรไปที่นั่นแบบมือเปล่า

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หิมะตกเป็นระยะ ๆ ทำให้ถนนที่หลงโม่กวาดไว้ให้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะไปส่งเธอด้วยตัวเอง

ซึ่งหญิงสาวก็เห็นด้วยที่จะให้สามีหนุ่มเป็นสารถี

ในฤดูหนาว หิมะมักจะตกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แม้ว่าถนนจะถูกกวาดจนสะอาดอีกครั้ง แต่ภายในเวลาไม่ถึง 2-3 วัน มันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หูเจียวเจียวเองก็ไม่อยากให้หลงโม่ต้องเหนื่อยไปกับการกวาดถนนซ้ำ ๆ ทุกวันที่เธอต้องออกไปข้างนอก ดังนั้นเธอจึงนำของออกไปพร้อมกับเขาแบบว่าง่าย

หากมีภูตในเผ่าออกมาข้างนอก พวกเขาก็จะเห็นมังกรดำที่มีสาวงามนั่งอยู่บนหลังบินอยู่บนท้องฟ้าโดยมีไหหลายใบถูกผูกด้วยเชือกอยู่ที่อุ้งเท้ามังกร แล้วพวกมันก็ปลิวไสวไปตามลมเป็นครั้งคราวจนทำให้เกิดเสียงกระทบกันกรุ๊งกริ๊ง

ภาพที่ปรากฏทำให้เธอนึกถึงช่วงเทศกาลวันตรุษจีน

ระหว่างที่บินอยู่มังกรหนุ่มกลัวว่าลมหนาวจะโดนตัวภรรยาสาวผู้บอบบาง ดังนั้นเขาจึงบินช้าลงกว่าเดิม แล้วเขาก็ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้นในการเดินทางไปถึงบ้านของหู่จิง

พอถึงที่หมายแล้ว หูเจียวเจียวก็ลงจากหลังมังกรตัวใหญ่ก่อนจะเดินไปเคาะประตู

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงฝีเท้าและเสียงดังของเจ้าบ้านก็ดังมาจากข้างใน

“ชิงหยวน ทำไมวันนี้เจ้ากลับมาเร็วจัง—”

เสือสาวเปิดประตูพร้อมกับยิงคำถาม แต่พอได้เห็นหน้าคนที่อยู่นอกประตู นางก็ชะงักไป

คนที่ยืนอยู่ด้านนอกคือหูเจียวเจียวซึ่งถูกห่อตัวไว้จนเห็นเพียงใบหน้าครึ่งเดียวกับหลงโม่ที่ถือไหไว้ 2-3 ไห

“เจียวเจียว หลงโม่ พวกเจ้านั่นเอง” หู่จิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเปลี่ยนคำพูดแล้วเปิดประตูกว้างขึ้นเพื่อให้แขกเข้ามาข้างใน

“เข้ามาสิ ข้างนอกมันหนาว เจียวเจียว ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ หลงโม่ก็ด้วย แล้วบอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้น ข้างนอกมันหนาวมาก!” เสือสาวพูดระรัวขณะหยิบวางเตาถ่าน 2 ใบที่พื้น แล้วยัดผลไม้ดินใส่มือจิ้งจอกสาว

“รีบอุ่นร่างกายเร็วเข้า”

ในสายตาของนาง หูเจียวเจียวอ่อนแอเหมือนเด็กแรกเกิด และนางต้องดูแลเอาใจใส่อีกฝ่ายให้ดี

การเอามันฝรั่งย่างร้อน ๆ มาถือไว้มันก็เหมือนกับการถือถุงน้ำร้อน 2 ใบเพื่ออุ่นมือ

ไม่นานความร้อนจากมันฝรั่งก็ไหลจากฝ่ามือไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของจิ้งจอกสาว

“ขอบคุณ ข้าไม่หนาวแล้ว” หูเจียวเจียวยิ้มก่อนจะอธิบายต่อว่า “ข้านำเนื้อสับคั่วพริกที่ข้าทำเองและเหล้าผลไม้มาให้เจ้ากับเฟิงเฉิงชิม”

คำพูดของหญิงสาวทำให้ดวงตาของหู่จิงเบิกกว้าง ก่อนที่นางจะมองค้อนหลงโม่ด้วยความไม่พอใจ “นี่เจ้าทำไมไม่ดูแลคู่ของตัวเองให้ดี ๆ”

เวลานั้นจิ้งจอกสาวเม้มปากสีชมพูพลางเอนตัวไปใกล้หูของอีกฝ่ายเพื่อพูดให้ได้ยินเพียง 2 คน

“ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากคุยกับเฟิงเฉิงสักหน่อย”

คนเป็นเจ้าบ้านกะพริบตาปริบ ๆ แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่

หลังจากหญิงสาวมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดนางก็อ้าปากกว้างและส่งเสียง “อ๋ออออ”

ในเวลาเดียวกัน นางก็แสดงท่าทางรับรู้โดยปริยาย

เจียวเจียวต้องมาที่นี่เพราะลูก ๆ ของนางแน่นอน

“เฟิงเฉิงอยู่ข้างใน ข้าจะไปเรียกนางมาให้” เสือสาวหัวเราะเบา ๆ พร้อมทำสีหน้าสนับสนุนน้องสาวของสามีเต็มที่ ก่อนจะหันกลับไปเรียกคนเป็นหมอ

ในตอนที่หู่จิงตัดสินใจพาเฟิงเฉิงกลับมาอยู่ที่บ้านของตน นางเองก็มีความคิดนี้อยู่ในใจ

เสือสาวอยากจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหมอผีเอาไว้ เผื่อในอนาคตถ้าหากว่าลูกของเจียวเจียวต้องการได้รับการรักษา นางก็หวังไว้ว่าอีกฝ่ายจะช่วยเรื่องนี้ได้

อย่างน้อยอีกคนก็อาศัยอยู่ในบ้านของนางแล้ว ยังไงเจ้าตัวก็หนีไปไหนไม่ได้!

ใครจะโง่ถึงขั้นไล่หมอผีออกไปจากบ้านกัน!

“เจียวเจียว” หลงโม่วางไหไว้ที่มุมห้อง แล้วเดินมาที่ด้านข้างของภรรยาสาว

“เจ้าต้องการขอให้เฟิงเฉิงมารักษาลูก ๆ ทำไมเจ้าไม่บอกข้า?” มังกรหนุ่มคิดว่านางสามารถบอกให้เขาจัดการเรื่องนี้ให้แทนก็ได้

“ข้าอยากทำเองน่ะ” จิ้งจอกสาวส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม “นอกจากนี้ เจ้ายุ่งมากจนไม่มีเวลาพักผ่อน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ข้าทำเองได้”

หลงโม่ได้แบกรับปัญหาส่วนใหญ่ไปแล้ว หากจะต้องให้เขาเป็นคนแบกรับภาระที่หนักอึ้งในครอบครัวเพียงคนเดียว มันคงดูจะหนักหนาเกินไป

ตัวเธอเองก็อยากจะแบ่งปันสิ่งที่พอจะทำได้มาไว้ในมือเพราะนี่คือครอบครัว

ทันทีที่ทั้งคู่พูดคุยกันจบ หู่จิงก็ออกมาพร้อมกับเฟิงเฉิง

ขณะนี้เจ้าของเรือนผมสีฟ้ายังคงถือไม้เท้าอันเดิมของนาง และสวมชุดหนังหมีขาวที่นางสวมตอนที่ออกจากเผ่าหมาป่าเช่นเคย เมื่อนำองค์ประกอบทั้งหมดมารวมกัน มันขับให้นางดูเย็นชาและสูงส่งเหนือใคร

แต่หูเจียวเจียวสังเกตเห็นร่องรอยของความเหนื่อยล้าในดวงตาของอีกฝ่าย และนางยังมีรอยคล้ำใต้ตาด้วย

สภาพของอีกคนทำให้จิ้งจอกสาวผงะไปเล็กน้อย การที่เฟิงเฉิงอาศัยอยู่ที่นี่มีเรื่องอะไรให้นางต้องกังวลหรือไม่?

ทำไมนางถึงดูเหมือนคนที่ไม่ได้พักผ่อนเลยล่ะ?

“หูเจียวเจียว เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?” พอหมอสาวเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายนำติดมือมาด้วย นางก็รู้สึกตื่นเต้น และนางก็คาดเดาได้ว่าจิ้งจอกสาวต้องการบางอย่างจากตน

“ข้า—”

หูเจียวเจียวกำลังจะเปิดปากพูด เมื่อจู่ ๆ เสียงของหูชิงหยวนก็ดังมาจากนอกประตู

“หู่จิง ข้ากลับมาแล้ว!”

เสียงตะโกนก้องของชายผู้เป็นคู่ครองของเสือสาวดังจนกลบคำพูดของหญิงสาวไปจนหมด

ทันทีที่สิ้นเสียง ประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอก

ขณะนี้หูชิงหยวนกำลังถือเสบียงอยู่ทั้ง 2 มือ พอเขาเข้ามาเห็นคนที่อยู่ในห้อง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง

ทำไมถึงมีคนอยู่ในบ้านเขามากมายแบบนี้?

“ทำไมวันนี้พวกเจ้ากลับมาเร็วจัง วางของลงเร็ว เจียวเจียวเองก็อยู่ที่นี่ด้วย” ผู้เป็นเจ้าบ้านก้าวไปรับเสบียงในมือของสามีมาอย่างเป็นธรรมชาติและเอาไปวางไว้ข้าง ๆ

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวกับหลงโม่จับคำว่า ‘พวกเจ้า’ ในคำพูดของหู่จิงได้อย่างแม่นยำ

เมื่อทั้งคู่มองออกไปนอกประตูก็พบว่ามีหูชิงซานอีกคนที่ตามหูชิงหยวนเข้ามา

“พี่ใหญ่ ท่านมาที่บ้านพี่สี่ทำไม?” คนเป็นน้องสาวถามอย่างสงสัย “ท่านบาดเจ็บหรือ!?”

ครอบครัวของพี่ชายคนที่ 4 มีหมอผีอย่างเฟิงเฉิง ความคิดแรกที่แว้บเข้ามาในหัวของจิ้งจอกสาวก็คือหูชิงซานได้รับบาดเจ็บ เขาจึงมาหาหมอสาวเพื่อขอให้นางช่วยรักษา

แต่หลังจากหูเจียวเจียวสำรวจอยู่สักพักหนึ่ง สภาพภายนอกของพี่ชายคนโตก็คือ ผิวของเขายังคงมีสีเลือดฝาดงดงามเหมือนเดิมไม่เหมือนคนได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลย

นั่นยิ่งทำให้จิ้งจอกสาวรู้สึกฉงนมากขึ้น

“ไม่หรอก พี่ใหญ่จะได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?” หูชิงหยวนยิ้มสดใสให้น้องสาวพลางอธิบายแบบไม่ใส่ใจนัก “พี่ใหญ่มาที่นี่เพื่อช่วยพี่สี่ส่งเสบียง”

หู่จิงเองก็พยักหน้าช่วยยืนยัน แล้วนางก็อธิบายเสริมว่า

“ถูกต้อง ก่อนหน้านี้ชิงหยวนยุ่งมาก ช่วงนั้นพี่ใหญ่ก็เลยมาช่วยส่งเสบียงให้ข้าทุกวัน ข้าต้องขอบคุณพี่ใหญ่ที่ช่วยเหลือ”

ยามนี้หลงโม่หรี่ตาสีทองลง และสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของหูชิงซานเพราะเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ทันใดนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“วันนี้เราไม่ต้องสร้างโกดังกันแล้ว พี่สี่ก็ไม่น่าจะยุ่ง”

หลังจากที่มังกรหนุ่มพูดเตือน จิ้งจอกสาวก็เพิ่งนึกขึ้นได้

“ใช่แล้ว พี่สี่ยุ่งอยู่กับการสร้างโกดังก็จริง แต่โกดังสร้างเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่หรือ?” เธอพูดขณะมองไปที่พี่ชายคนโตด้วยสายตาสงสัย

พวกเขากำลังปิดบังอะไรอยู่แน่นอน!

พี่ชาย 2 คนนี้มีพิรุธสุด ๆ!

ถ้าพี่ใหญ่แค่มาช่วยขนเสบียง เขาก็ไม่จำเป็นต้องรั้งรออยู่ในบ้านต่อใช่หรือไม่?

ทางด้านหูชิงซานเหลือบมองไปทางเฟิงเฉิงที่ยืนอยู่ข้างหลังกลุ่มคน จากนั้นเขาก็รีบเสมองไปทางอื่นและพูดอย่างใจเย็นว่า

“พี่ว่างอยู่พอดี แล้วบังเอิญเจอเจ้าสี่ระหว่างทางก็เลยช่วยเขาขนเสบียงกลับมา”

ส่วนหูชิงหยวนรู้สึกประหม่ามากจนพยายามทำตัวไม่ให้มีพิรุธ ในขณะที่เขาโบกมือแบบไม่ใส่ใจ “ใช่ พี่ใหญ่เคยส่งของให้พี่สี่บ่อย ๆ ไม่เห็นมีอะไรแปลกตรงไหน”

ในขณะที่หูชิงซานเก็บซ่อนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

แต่ทันทีที่หูเจียวเจียวหันไปมองเฟิงเฉิง เธอก็เห็นการแสดงออกที่ผิดธรรมชาติของอีกฝ่าย ในตอนนั้นเธอก็เข้าใจทุกอย่างในทันที ก่อนจะมองพวกเขา 2 คนด้วยสายตามีเลศนัย

ที่แท้ 2 คนนี้ก็มีซัมติงกันนี่เอง!

มีความเป็นไปได้ว่าพี่ใหญ่ของเธออาจจะชอบเฟิงเฉิงใช่ไหม?

“หูเจียวเจียว เจ้ายังอยากคุยกับข้าอยู่ไหม ถ้าเจ้าไม่มีอะไรจะพูด งั้นข้าขอตัวก่อน” หมอสาวขัดจังหวะการสนทนาของทุกคนด้วยใบหน้าเย็นชา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด