ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 13 - สิ่งมีชีวิตกึ่งหุ่นยนต์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 15 - ความฝันของไนฮุน

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 14 - อันตราย


มู่เฉินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน มองดูไอวอร์ที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของเขาอย่างเงียบ ๆ

“คุณต้องการพบผม?” ไอวอร์กล่าวถามออกมาอย่างเรียบ ๆ แต่ภายในใจของเขานั้น เต็มไปด้วยความรู้สึกหวั่นวิตก ตั้งแต่ตอนที่เขารู้ว่าความลับที่คิดว่าเก็บรักษาเอาไว้ได้อย่างแน่นหนา ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นความลับอะไรเลย เจ้าหน้าที่อาวุโสเกือบทุกคนได้รับรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว

นั่นทำให้เขามีความรู้สึกโกรธไม่น้อย แต่ก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ ความลับนั้นถูกเปิดเผยออกไปเรียบร้อยแล้ว และในตอนนี้ เขาเพียงแต่ต้องรอรับผลที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าจะช้าหรือจะเร็วเท่านั้น

ความจริงที่ว่าเขาได้ใส่ชื่อของคนในตระกูลมากกว่า 100 คนเข้ามารับการปลูกถ่ายนั้น เป็นการผิดกฎของทางสถาบันอย่างร้ายแรง และต้องได้รับการลงโทษอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นการขโมยโอกาสของผู้สมัครคนอื่น มามอบให้กับบรรดาเด็ก ๆ ในตระกูลของเขาแทน

และแม้เขาจะรู้ดีว่าเวลาแบบนี้จะมาถึง แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเร็วถึงขนาดนี้ ตอนนี้มันเป็นเวลาแห่งการพิพากษาความผิดของเขาแล้ว!

ร่างกายของเขายังคงยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง ไม่มีอาการสั่นออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย น้ำเสียงยังคงหนักแน่น และกังวานชัดเจน แต่ถ้ามีใครลองมองสังเกตให้ละเอียดมากขึ้น จะพบว่าเสียงของเขาจะสั่นอยู่เล็กน้อย

แต่ก็ถือว่าเขาเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ได้ไม่เลวเลยทีเดียว

“ผมไม่ต้องการให้เรื่องนี้มาทำให้เสียเวลา และคิดว่าคุณก็คงจะรู้อยู่แล้ว ว่าถูกเรียกตัวเข้ามาที่นี่ทำไม?”     มู่เฉินกล่าวออกไปอย่างตรงไปตรงมา ด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด ไม่ได้สนใจเลยว่าบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขานี้ มีอายุมากกว่าเขาอย่างน้อยก็ 20 ปี ตอนนี้ไอวอร์น่าจะมีอายุ 50 ปีต้น ๆ แล้ว แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่เขาได้รับไป ทำให้เขายังดูอ่อนเยาว์ และมีร่างกายที่เหมือนกับคนหนุ่มอยู่

ขณะที่กำลังจะเปิดปากตอบโต้ออกนั่นเอง ไอวอร์ก็เห็นว่าท่าทีที่แข็งกร้าวของมู่เฉินนั้นยิ่งเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เขาไม่กล้าที่จะกล่าวสิ่งที่กำลังคิดออกไป รีบเปลี่ยนคำพูดของตัวเองทันที

“ใช่ครับ ผมรู้” ตอนนี้น้ำเสียงของไอวอร์นั่นสั่นอย่างชัดเจน แม้ว่าจะพยายามควบคุมมันอย่างเต็มที่แล้ว

“อืม! นั่นก็ดีแล้ว ผมจะยกประโยชน์ให้คุณก่อน เพราะตอนนี้เรื่องราวยังไม่ได้สอบสวนอย่างชัดเจนนัก คุณคิดว่าควรจะได้รับการลงโทษอย่างไรบ้าง? จะให้ผมทำตามขั้นตอนของสถาบันอย่างเคร่งครัด ปลดคุณออกจากตำแหน่งในตอนนี้ก่อนเลยหรือไม่?” คิ้วเข้มของมู่เฉินเลิกสูงขึ้น แสดงท่าทีว่าต้องการคำตอบ

ไอวอร์รู้สึกยินดีขึ้นมาไม่น้อย เพราะมู่เฉินไม่ได้มีคำสั่งลงโทษเขาออกมาในทันที เพียงแต่ยื่นคำถามออกมาเท่านั้น นี่แสดงว่า เขายังมีความหวัง หรือโอกาสอะไรบางอย่างเหลืออยู่ ฟางเส้นสุดท้ายนี้ จะสามารถช่วยให้เขายังคงมีตำแหน่งอยู่ในสถาบันได้

“ผมต้องทำอย่างไร ถึงจะลบล้างความผิดพลาดของตัวเองได้ครับ?” เขาเป็นคนฉลาด และไม่กลัวที่จะลองโยนหินออกไปถามทางดูก่อน และที่ยิ่งไปกว่านั้น เขาใช้น้ำเสียงที่แสดงถึงการขอร้องออกไป ในเมื่อมู่เฉินไม่ได้ลงโทษเขาในทันที แสดงว่ามีอะไรบางอย่างที่ต้องการแน่

“นี่เป็นเหตุผลที่ผมชอบคุยกับคนฉลาด ดูเหมือนว่าคุณเองก็จะฉลาดไม่เบาเหมือนกันนี่” มู่เฉินพยักหน้าของเขาอย่างยอมรับ

“ถ้าเป็นไปตามกฎของสถาบันแล้ว ผมควรจะลงโทษคุณทันที แต่! ผมมีบางอย่างที่ต้องการให้คุณทำ...”

หน้าของมู่เฉินยังคงมีรอยยิ้มอยู่ ในขณะที่เขาลดเสียงลงกล่าวกับไอวอร์ ซึ่งพยักหน้ารับคำสั่งอยู่เป็นระยะ

หลังจากที่ทุกอย่างจบลงอย่างน่าพอใจ เขาก็บอกให้ไอวอร์กลับออกไป ก่อนจะยกเลิกม่านป้องกันออก

.......

ในขณะเดียวกัน ตรงบริเวณที่เดวิดยืนอยู่ตอนนี้ เรือเหาะลำนั้นจอดอยู่ห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

และปรากฏว่ามีผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยงามอย่างยิ่งเดินออกมาจากเรือเหาะลำนั้น เส้นผมของเธอดำสนิท ปากเป็นสีชมพู ร่างกายมีทรวดทรงที่กลมกลึง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูแข็งแรง

สายตาของเดวิดและไนฮุนจ้องอยู่ที่เธออย่างไม่วางตา ต่างก็กลืนน้ำลายลงคอโดยพร้อมเพียงกัน หญิงสาวคนนี้ช่างมีเสน่ห์ยั่วยวนมากเหลือเกิน

แต่ทั้งสองคน เดวิดกับไนฮุนนั้นมีการตอบสนองด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งตอบสนองด้วยอารมณ์ปรารถนา ส่วนอีกคนนั้น จากความกลัว!

ฟิลลิดาเป็นคนที่เดินออกมาจากเรือเหาะลำนั้น เธอได้รับคำสั่งให้มารับผู้โดยสารที่นี่

กว่าที่เธอจะรวบรวมคะแนนจีโนจนพอซื้อเรือเหาะลำนี้ได้ ก็ต้องรวบรวมคะแนนจากสมาชิกของตระกูลเธอเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว และหลังจากที่ได้เรือลำนี้มาแล้ว เธอก็นำมันไปลงทะเบียนเป็นเรือเหาะสำหรับการขนส่งสาธารณะในทันที นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะได้รับคะแนนจีโนจำนวนมาก หลังจากให้บริการผู้โดยสารเพียงไม่กี่อาทิตย์ พวกเธอน่าจะได้คะแนนจีโนกลับคืนมามากกว่าราคาของเรือเหาะลำนี้แล้ว

แน่นอน เธอสามารถเลือกที่จะให้ใครสักคนในตระกูลมาทำหน้าที่เป็นคนขับแทนก็ได้ แต่เธอต้องการที่จะทำหน้าที่นี้ด้วยตัวเอง วัตถุประสงค์ก็เพื่อจะเพิ่มความเชี่ยวชาญในการควบคุมเรือ มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อไปในอนาคตข้างหน้า

เมื่อเธอเห็นว่าผู้โดยสารที่ตัวเองต้องมารับเป็นใคร ก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย สายตาของเธอเป็นประกายอย่างแปลก ๆ ขึ้นมาทันที ตอนที่มองไปยังเดวิด

และในตอนที่ดวงตาของเธอส่งประกายที่น่ากลัวออกมา ร่างกายของเดวิดก็มีอาการตอบสนองในทันที หนังตาของเขาหรี่เล็กลงจนเกือบสนิท เหลือเพียงช่องว่างเล็ก ๆ ให้พอมองลอดออกมาได้บ้างเท่านั้น กล้ามเนื้อเกิดอาการล้าและอ่อนแรงลงไปอย่างควบคุมไม่ได้ ท่าทางของเขากลายเป็นเฉื่อยชาเหมือนคนขี้เกียจที่เพิ่งตื่นนอนขึ้นมาใหม่ ๆ เลย

ถ้ามองผ่าน ๆ เข้ามา ทุกคนที่มองเห็นจะคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่กระฉับกระเฉง หรือว่ายังง่วงอยู่มาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ร่างกายและสติของเขาอยู่ในสถาพที่สมบูรณ์อย่างที่สุด มันพร้อมจะตอบสนองกับสิ่งคุกคามที่จะเกิดขึ้นได้ในทันที

ตอนที่เดวิดรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเอง เขาไม่ได้ประหลาดใจมากนัก เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรก ตอนที่ยังอยู่ในห้องทดลองใต้ดิน ระหว่างที่มู่เฉินปลดปล่อยพลังของจ้าวแห่งสัตว์ร้ายออกมา มันเคยเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้ว แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจมันมากนัก เพราะกำลังตื่นเต้นกับสิ่งอื่นอยู่ เงาร่างของกริฟฟินที่ปรากฏตัวขึ้นนั่นเอง

โดยพื้นฐานแล้ว มันจะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขาจ้องมอง หรือแม้แต่การเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ เขาก็จะมีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นได้

และในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีบุคคลที่แข็งแกร่งเข้ามาอยู่ใกล้เขามาก สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ เธอเป็นเพียงแค่เพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งเท่านั้น ทำให้เขาตกลงอย่างหนักแน่นในใจทันที ว่าไม่ควรไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้อย่างเด็ดขาด

ไม่ได้มีเวลาให้เดวิดได้ตอบสนองอะไรไปมากกว่านั้น เด็กสาวที่เดินออกมาจากเรือเหาะแล้ว กล่าวขึ้นกับพวกเขา

“ค่าโดยสาร 2 คะแนนจีโน ไม่มีการต่อรอง” เสียงของฟิลลิดานั้นหวานราวกับเสียงระฆังในวันคริสมาสเลยทีเดียว มันทำให้ไนฮุนถึงกับทำตาหวานเคลิ้มไปกับเสียงนั้น

และก่อนที่เดวิดจะตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า ‘นี่มันปล้นกันกลางวันแสก ๆ’ ไนฮุนที่มีปฏิกิริยาเร็วกว่าเขามาก ก็กล่าวออกมาหลังจากกลืนน้ำลายลงไปอีกครั้งว่า “ตกลง!”

ฟิลลิดาตอบรับกับคำพูดของไนฮุนด้วยรอยยิ้มหวาน ที่ทำให้เขาตะลึงไปอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวออกมา “ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นเรือได้” หลังจากกล่าวจบ เธอก็เดินเยื้องกรายนำหน้าขึ้นเรือเหาะไปก่อน

ไนฮุนรีบตามขึ้นไปอย่างไม่รอช้า ส่วนเดวิดนั้น หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่กับที่สักพักอย่างลังเลใจ ก็เดินตามขึ้นเรือเหาะนั้นไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับหาวออกมา 2-3 ครั้ง

แต่สายตาของเขาไม่ได้ละจากฟิลลิดาเลยแม้แต่น้อย มันจับจ้องไปแม้แต่ความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอเลยทีเดียว เพราะเขานั้นประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าทำไมผู้หญิงอย่างเธอถึงได้มีความแข็งแกร่งมาก จนถึงขนาดที่สามารถคุกคามเขาได้ นี่มันน่ากลัวจริง ๆ

หันหลังกลับ! ฟิลลิดาหันหลังกลับมาอย่างกะทันหัน เหมือนกับเพิ่งนึกอะไรบางอย่างได้ “พวกเราเคยเจอกันมาก่อนหรือไม่? ฉันเหมือนเคยเห็นหน้านายมาก่อน?” คำถามของเธอนั้นสำหรับเดวิด

ตอนนี้สภาพของเดวิดนั้นสมบูรณ์ที่สุดแล้ว เขาสามารถนึกย้อนกลับไปได้ว่าเคยได้ยินเสียงนี้ที่ไหน และแม้ว่าเขาสามารถปฏิเสธออกไปได้ แต่มันอาจจะทำให้เรื่องมันซับซ้อนขึ้นไปอีก เพราะคราวที่แล้วเขาก็ไม่ได้ตอบคำถามเธอไปเลย

“ใช่แล้ว! เหมือนเธอจะเคยพูดอะไรกับฉันบางอย่าง ‘น่าสนใจ แต่นายไม่ใช่คนแรกที่คิดแบบนี้ และก็จะไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย’ ประมาณนี้มั้ง” เดวิดตอบกลับไปอย่างเป็นปกติ ทวนคำพูดของเธอที่เขาจำได้ออกมา

เหมือนกับเพิ่งจะจำขึ้นมาได้ ฟิลลิดาพยักหน้า ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าออกมา “โอ้! ใช่แล้ว นายคือคนที่อยากได้ ‘อาคารลอยฟ้า’ ...” แล้วก็ยิ้มกว้าง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด