ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 14 - อันตราย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 16 - ความสูง 30 เมตร

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 15 - ความฝันของไนฮุน


ฟิลลิดายิ้มออกมาอย่างสดใส และทำให้เธอยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก “ฉันชื่อฟิลลิดา พวกนายล่ะ?”

“ไนฮุน! ไนฮุน! ฉันชื่อไนฮุน ส่วนเจ้าหมอนี่ชื่อเดวิด เป็นเกียรติของพวกเราจริง ๆ ที่ได้รู้จักกับเธอ” ช่วงแรกไนฮุนถึงกับติดอ่างไปเล็กน้อยเลยทีเดียว ก่อนที่จะกลับมากล่าวอย่างฉะฉานได้ในตอนหลัง

ฟิลลิดาเอามือปิดปากของเธอเอาไว้ มีเสียงหัวเราะคิกคักลอดออกมาให้พอได้ยิน “โอ้ เป็นชื่อที่ดี”

“พวกเราควรจะไปกันได้แล้วสินะ ดูเหมือนว่าจะมีคนใจร้อนอยู่ด้วยนี่” เธอยิ้มออกมาอีกครั้ง สายตากวาดมาที่เด็กหนุ่มทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะหยุดอยู่ที่เดวิด ที่ตอนนี้มีสภาพเหมือนกำลังจะหลับลงได้ทุกเมื่อ อ้าปากหาวอยู่หลายครั้ง ความเยือกเย็นในดวงตาของเธอเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย และเกือบที่จะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้

‘ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา’ เธอพึมพำออกมากับตัวเอง ก่อนจะหันหลังกลับ และเดินส่ายสะโพกเข้าไปในตัวเรือเหาะ

เดวิดกับไนฮุนตามเข้าไปแบบติด ๆ หลังจากเข้าไปในท้องเรือได้แล้ว ก็พบกับเก้าอี้เรียงกันอยู่เป็นแถวยาว มีคนจำนวนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้พวกนั้นแล้ว

“เอาล่ะ ฉันต้องไปขับยานแล้ว พวกนายเลือกที่นั่งกันได้ตามสบาย แล้วค่อยเจอกันนะหนุ่ม ๆ” หลังจากขยิบตาสีเขียวที่น่าดึงดูดนั่นให้พวกเขาแล้ว เธอก็หันหลังเดินไปยังห้องควบคุมของเรือเหาะทันที

ปล่อยให้ไนฮุนตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝันต่อไปคนเดียว แม้ว่าจะเลือกที่นั่งได้เรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ยังฝันกลางวันอยู่

เดวิดไม่มีความคิดที่จะรบกวนท่าทางแปลก ๆ แต่ก็ดูน่าสนใจดีของไนฮุนเลย เขาเพียงแต่เฝ้ามองดูความรู้สึกต่าง ๆ ที่แสดงออกมาบนใบหน้าอย่างเพลิดเพลิน ไม่แน่ใจว่าฟิลลิดาจะรู้หรือเปล่าว่าที่เธอทำไปเมื่อครู่นี้ทำให้ความคิดของเด็กหนุ่มคนหนึ่งฟุ้งซ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าเธอแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะยังไม่รู้เลยว่าความแข็งแกร่ง หรือพลังของโลกนี้เป็นอย่างไรกันแน่ แต่สิ่งที่เขาแน่ใจเป็นอย่างมากอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ถ้าฟิลลิดารู้ว่าไนฮุนกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว รับรองได้ว่า ไนฮุนไม่ได้ตายดีแน่!

“เฮ้! หยุดเพ้อได้แล้ว” เดวิดขัดจังหวะความคิดของเขาในที่สุด ยื่นมือออกมาตบหน้าของไนฮุนเบา ๆ

“โอ้ว! ทำไมต้องตีกันด้วย!” เขาเอามือลูบไปที่หน้าตัวเอง พร้อมกับจ้องหน้าเดวิดอย่างหาเรื่อง

“นายตั้งสติตัวเองให้ดีหน่อยดีกว่า สิ่งที่นายกำลังคิดอยู่ อาจจะทำให้ถึงตายได้เลยนะ” เดวิดคำรามเตือนออกมา

ไนฮุนสะดุ้งกับคำเตือนนั้นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา แล้วหันหน้าออกมาพึมพำกับตัวเอง ‘ดูเหมือนว่าฉันจะโดนดูถูกเข้าเสียแล้ว’

“บอกฉันมาหน่อย นายทำยังไงถึงได้เรียกเรือเหาะนี้ลงไปได้ โดยไม่ได้ใช้ป้ายประจำตัว?” เดวิดพิงตัวเองเข้ากับพนักเก้าอี้นุ่ม ๆ ที่นั่งอยู่ แล้วเอ่ยปากถามออกมา ความรู้สึกตอนนี้คือสบายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเก้าอี้ตัวนี้ทำมาจากอะไร มันนั่งสบายกว่าตัวที่เขามีอยู่บนโลกเก่าเยอะมาก บางทีมันอาจจะเป็นหนังของตัวอะไรสักอย่าง

“แล้วทำไมฉันจะต้องบอกนายด้วย? นายไม่ยอมอ่านคู่มือนักเรียนให้จบเอง แต่เลือกที่จะมาถามเอากับฉันเนี่ยนะ อย่างนี้ต้องคิดเงินกันหน่อยแล้ว” ไนฮุนตอบกลับมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง ในหัวของเขาบอกอยู่ตลอดว่าตอนนี้เขากำลังลืมอะไรไปบางอย่าง แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แต่เลือกที่จะจ้องหน้าเดวิดเขม็งแทน

เดวิดเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย และรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าไนฮุนจะกลายเป็นคนกล้าขึ้นมาในตอนนี้ได้

‘อืม! สงสัยความรักจะทำให้คนเรากล้าขึ้นได้บ้างล่ะนะ’ เขาคิดอยู่ในใจกับตัวเอง และไม่ได้คิดจะทำอะไรกับเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าสติสตังของไนฮุนจะยังไม่ได้กลับมาเต็มร้อยนัก

“แล้วฉันจะอ่านมันให้จบทีหลัง ตกลงมั้ย? แต่ตอนนี้นายช่วยบอกฉันมาก่อนเถอะ ว่านายเรียกเรือเหาะนี่ลงไปได้ยังไง? ไม่เห็นว่านายจะทำอะไรสักอย่างเลย? ได้โปรดเถอะ”

ไนฮุนสั่นหัวของเขาเบา ๆ เหมือนว่ากำลังจะกำจัดความคิดอะไรบางอย่างในหัวออกไป ก่อนที่จะเอ่ยตอบออกมา

“เหตุผลที่ฉันดูเหมือนว่าไม่ต้องทำอะไรเลยก็ง่ายมาก ฉันได้อัพเกรดระบบส่วนตัวของตัวเองให้เปลี่ยนเป็นระดับ 2 เรียบร้อยแล้ว และมันอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถสั่งการ AI ได้ด้วยคลื่นสมองโดยตรง ไม่ต้องพูดออกเสียงอีกต่อไป” เขาตอบเดวิดออกมาตามตรง

“โอ้!” เดวิดเข้าใจในที่สุด ว่าทำไมตอนนั้นไนฮุนถึงได้ยืนนิ่ง ๆ อยู่กับที่ และพร้อมกันนั้นเอง เขาก็เกิดสงสัยขึ้นมาทันที แล้วทำไมเขาถึงสามารถใช้คลื่นสมองสื่อสารกับ AI ได้โดยไม่ต้องอัพเกรดระบบล่ะ หรือว่าเขาเป็นคนพิเศษ? ดูเหมือนว่าทางสถาบันจะยอมรับพรสวรรค์ของเขาตั้งแต่ต้น และรู้ว่าเขานั้นมีค่าแค่ไหน? เมื่อคิดไปเรื่อย ๆ หน้าของเขาก็เริ่มกลายเป็นหลงตัวเองออกมา

“แต่นักเรียนที่มีพรสวรรค์ระดับ 3 ดาว จะได้รับการอัพเกรดระบบโดยตรงทันที 2 ระดับ ตั้งแต่ตอนที่ลงทะเบียนวัดระดับกับทางสถาบันเสร็จสิ้น พวกเขาได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าระดับ 1 ดาวกับ 2 ดาวมาก”

‘อ้อ! เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ?’ เดวิดคิดต่อ ตอนนี้เขามีระดับ 3 ดาว อยากจะรู้จริง ๆ ว่าถ้าเขามีระดับ 5 ดาว จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางทีอาจจะได้อะไร ๆ ที่ดีกว่าตอนนี้มากขึ้นไปอีก

การจะอัพเกรดระบบส่วนตัวขึ้นไปเป็นระดับ 2 จะต้องจ่ายด้วยคะแนนจีโนจำนวน 10 คะแนน และจากระดับ 2 ไประดับ 3 จะต้องจ่ายถึง 100 คะแนนจีโนเลยทีเดียว และมันต้องการ 1,000 คะแนนจีโนในการทำให้เป็นระดับ 4 สุดท้ายแล้ว! ถ้าต้องการให้ระบบอัพเกรดขึ้นไปเป็นระดับ 5 จะต้องมีคะแนนจีโนอย่างน้อย 10,000 คะแนนเลยทีเดียว

ค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดที่สูงแบบนี้ ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่จะอัพเกรดระบบส่วนตัวของพวกเขาถึงแค่ระดับที่ 3 เท่านั้น เพราะเมื่อจบการศึกษา และออกจากสถาบัน พวกเขาจะโดนเรียก AI กลับคืนไป มันเป็นการสูญเสียคะแนนจีโนไปอย่างไม่สมเหตุสมผล ถ้าจะใช้มันไปยกระดับอะไรที่ไม่ใช่ของ ๆ ตัวเองไปตลอด

มันสามารถกล่าวออกมาได้เลยว่า มีแต่นักเรียนที่มีพรสวรรค์ระดับ 3 ขึ้นไปเท่านั้น ที่ได้รับการอับเกรดระบบได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะคนที่มีพรสวรรค์ระดับ 5 จะได้รับการอัพเกรดระบบไปที่ระดับ 5 โดยอัตโนมัติเลยทันที ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ระดับที่สูงสุด แต่มันก็ยังสูงพอที่จะมีอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลในระดับเดียวกันกับอาจารย์บางคนของสถาบันเลยทีเดียว

สิทธิพิเศษของผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับ 5 ดาวนั้นไม่สามารถกล่าวออกมาด้วยคำพูดได้หมด จริง ๆ แล้ว เดวิดน่าจะเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับนี้ เพียงแต่ว่าเขาเสียโอกาสนั้นไปเนื่องจากความขี้ลืมของตัวเอง หรือบางทีอาจจะบอกได้ว่า เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถาบันเลยจะถูกต้องกว่า

ตัวเรือเหาะเริ่มสั่น เสียงหวาน ๆ ที่คุ้นเคยดังออกมาจากด้านหน้าของเรือเหาะ “นั่งกันให้ดี ๆ พวกเราจะออกตัวกันแล้ว”

เครื่องส่งกำลังที่อยู่ด้านข้างเรือเหาะเริ่มทำงาน ค่อย ๆ ยกตัวเรือให้ลอยขึ้นมาจากพื้นดิน

วูซซ!

แล้วมันก็เร่งความเร็วของตัวเองขึ้นอย่างกะทันหัน แรงกระชากจากความเร็วอันน่าเหลือเชื่อของมัน ทำให้ผู้โดยสารบางคน อ้อ! ก็คือเดวิดกับไนฮุนนั่นแหละ ที่ไม่เคยโดยสารเรือเหาะมาก่อน และไม่ได้ระวังตัวให้ดี ถูกแรงกระชากนั้นดึงตัวไปกระแทกกับพนักพิงอย่างแรง สถานการณ์ของเดวิดนั้นดีกว่าเล็กน้อย เพราะเขายังพอที่จะคว้าที่วางแขนเอาไว้ได้ทัน แต่ไนฮุนไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เขาถูกแรงดึงอันมหาศาลนั่นทำให้ขาลอยขึ้นจากพื้นขึ้นมาอยู่เหนือหัว และเกือบจะตีลังกาข้ามที่นั่งของตัวเองไปด้านหลังอยู่แล้ว

แต่ก็ยังดี ที่พวกเขานั้นนั่งกันอยู่ที่แถวหลังสุด ทำให้ถึงแม้ว่าจะน่าอายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไร เพราะไม่ค่อยมีใครเห็นมากนัก อืม! ถ้าจะให้พูดอย่างถูกต้องจริง ๆ ไม่มีคนแปลกหน้าคนไหนเห็นไนฮุนอยู่ในสภาพแบบนั้นเลย

เมื่อไนฮุนเหลือบมองไปที่ข้างตัวเขา เห็นว่าปากของเดวิดกำลังบิดอยู่ไม่หยุด ดวงตาก็เต็มไปด้วยความขบขัน ทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมา

“ถ้าอยากจะหัวเราะก็เต็มที่เลย ไม่ต้องกลั้นเอาไว้หรอก”

ริมฝีปากของเดวิดเม้มลงอย่างเต็มที่ เขาพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่หลุดหัวเราะออกมา และในที่สุด เขาก็เอ่ยปากถามไนฮุนที่ตอนนี้นั่งเงียบอย่างผิดปกติออกมาได้ “นายโอเคมั้ย?”

“อืม! ฉันไม่เป็นไร” เขาตอบกลับไปอย่างนั้น แต่ในใจนั้นกับกลัดกลุ้มอยู่ไม่น้อย ในหัวของเขาคิดอยู่แต่ว่า ถ้าฟิลลิดาเห็นเขาอยู่ในสภาพแบบนั้นล่ะ มันต้องน่าอายมากแน่ ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ สาเหตุมันมีอยู่แค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเรือเหาะเลย ถ้าอย่างนั้น....เป้าหมายอย่างที่ 2 ของเขาในตอนนี้ได้ถูกตั้งขึ้นมาแล้ว เขาจะต้องซื้อเรือเหาะนี่มาเป็นของตัวเองให้ได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด