ตอนที่แล้วบทที่ 35 ดอกไอริสสีม่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 37 อเล็กซ์ผู้สิ้นหวัง

บทที่ 36 ยาแก้พิษขั้นพื้นฐาน


บทที่ 36 ยาแก้พิษขั้นพื้นฐาน

“เจ้าสามารถช่วยได้งั้นหรือ”

ภายในห้องสมุดนั้น เคานต์กิโมริมองไปที่เอไลและถามขึ้น

“ใช่ ข้าคิดว่าข้าสามารถช่วยเรื่องการรักษายาพิษได้” เอไลซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาพยักหน้า

เมื่อครู่นี้ พ่อบ้านออกไปหลังจากรายงานเสร็จ มีเพียงเอไลและเคานต์เท่านั้นที่อยู่ในห้อง

“แล้วเจ้าจะช่วยยังไง” เคานต์กิโมริมองไปที่เอไล

ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเอไลคือเขาฝึกม้าเก่ง อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเคลเมนท์เก่งเรื่องปรุงยา เขาเก่งเรื่องประวัติศาสตร์เป็นหลักไม่ใช่เหรอ?

“ท่านลอร์ด ปีที่แล้วบังเอิญข้าผ่านตลาดและพบชายชราคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำ เขาขายสิ่งของแปลก ๆ ทุกชนิดรวมถึงยาแก้พิษ ตอนนั้นข้าเรียนพฤกษศาสตร์อยู่ ดังนั้นข้าก็เลยซื้อมาสองขวด” เอไลอธิบาย

“ตอนแรกข้าไม่ได้สนใจยาแก้พิษมากนัก แต่ครั้งหนึ่งเมื่อข้าออกไปกับเฮอร์แมนศิษย์พี่ของข้า เขาถูกงูพิษกัด และข้าก็ตื่นตระหนก”

“อย่างไรก็ตาม ข้าไม่รู้ว่าตอนนั้นข้าคิดอะไรอยู่ ข้าหยิบขวดยานั้นขึ้นมาและยื่นให้ศิษย์พี่ แต่เขากลับเตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วและฟื้นตัวอย่างรวดเร็วโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ”

เอไลเริ่มสร้างเรื่องราว

ส่วนเฮอร์แมนจะถูกงูกัดหรือไม่นั้นไม่มีใครสนใจ

“โอ้ เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าคิดว่ายาของเจ้าสามารถรักษาพิษของมาร์ควิสได้งั้นเหรอ?” เคานต์ไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจโดยธรรมชาติว่าเอไลหมายถึงอะไร

“ใช่ ข้าคิดว่ารักษาได้!” เอไลพยักหน้า

“เอไล เจ้ายังเด็กเกินไป พิษนี้ไม่ง่ายดายอย่างนั้น ถ้ามันเป็นพิษธรรมดาจริง ๆ มาร์ควิสคงหายดีไปนานแล้ว” เคานต์ส่ายหัวและลุกขึ้นยืน

เขาเชื่อว่าเอไลมีเจตนาดี แต่เจตนาดีไม่สามารถรักษาพิษได้!

จะมียาวิเศษแบบนั้นได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม เขาคงไม่สามารถทำร้ายความตั้งใจดีของเอไล ดังนั้นเขาจึงโบกมือแล้วพูดว่า "งั้นลองดูก็ได้ ข้าจะให้คนไปรับยาจากเจ้าตอนบ่าย เดี๋ยวข้าจะลองพิจารณาดู”

"ได้ขอรับ!" เอไลพยักหน้า เขาไม่ไดคิดมากเกี่ยวกับความคิดของเคานต์ เพราะยังไงซ่ะสุดท้ายถ้าอาการของมาร์ควิสทรุดลงเขาต้องส่งยาออกไปอย่างแน่นอน

“ว่าแต่ ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้” เคานต์กิโมริถามขึ้นทันที

เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย เขาไม่เชื่อว่าเอไลจะทำสิ่งนี้โดยไม่มีเหตุผล เอไลรู้ขีดจำกัดของตัวเองเสมอ

“ท่านลอร์ด ข้าได้เรียนวิชาเภสัชวิทยาเมื่อเร็วๆ นี้ และข้าต้องการดอกไอริสสีม่วงจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากมาร์ควิสถูกวางยาพิษ และข้าได้ยินมาว่าคฤหาสน์ศิลาหยุดดำเนินการ” เอไลพูดออกมาตรงๆโดยไม่ปิดบังอะไร

"ข้าเข้าใจแล้ว" เคานต์พยักหน้า สิ่งนี้สมเหตุสมผลมากขึ้น

“งั้นเจ้ากลับไปก่อนก็ได้ ข้าจะส่งคนไปรับยาในช่วงบ่าย”

“ตกลง ข้าจะไม่รบกวนท่านแล้ว” เอามือขวาวางบนหน้าอกพร้อมกับโค้งเล็กน้อย ก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินจากไป

“โอ้ อย่างไรก็ตามท่านลอร์ด ถ้ามันได้ผลจริงๆ โปรดอย่าบอกใครว่าข้าเป็นคนให้ยานี้กับท่าน” ราวกับจำอะไรบางอย่างได้ เขาหันกลับมาและพูดหลังจากเดินไปสองก้าว

“ไม่มีปัญหา ข้าจะทำตามคำขอของเจ้า” เคานต์กิโมริยิ้ม

แม้ว่าเขาจะรู้ว่ายานี้ไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน แต่เขาก็เห็นว่าเอไลต้องการช่วยเขา ถ้ามีโอกาสเขาอยากจะให้เอไลเป็นที่ปรึกษาของเขาในอนาคตด้วยซ้ำ แน่นอนว่าต้องเป็นหลังจากที่เอไลกลายเป็นนักวิชาการแล้วเท่านั้น

หลังจากได้รับคำตอบจากเคานต์ คราวนี้เอไลก็ไม่รีรอและจากไปทันที

ระหว่างทางกลับ เอไลนั่งอยู่บนรถม้าและครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

เขาไม่สามารถมีส่วนร่วมโดยตรงได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าพิษของมาร์ควิสนั้นเกี่ยวข้องกับคนอื่นหรือไม่ บางทีมันอาจจะเป็นการกระทำของกองกำลังที่ยิ่งใหญ่อื่น ๆ

ถ้าเขามีส่วนร่วมอย่างโจ่งแจ้ง เขาอาจจะมีปัญหาได้

ถ้าเขาสามารถใช้เคานต์เป็นผู้ที่ช่วยมาร์ควิสได้ มันก็เท่ากับเขาช่วยตัวเองและป้องกันปัญหาในอนาคตได้

เพราะยังไงซ่ะ ตราบใดที่เคานต์ไม่พูดอะไร ก็จะไม่มีใครคิดว่าเป็นฝีมือของเอไล ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นเพียงนักวิชาการธรรมดา ใครจะคิดว่าเขาเป็นคนที่ช่วย

และถ้าเขาทำสำเร็จจริง ๆ ตามความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเคานต์ เขาเชื่อว่าเคานต์จะช่วยเขาได้อย่างแน่นอน

และเขามั่นใจว่าเขาสามารถช่วยมาร์ควิสได้อย่างแน่นอน

เหตุใดเอไลจึงมั่นใจเช่นนั้น ย่อมมีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้

จากที่โรแลนด์พูดทำให้เอไลได้รู้แล้วว่ามาร์ควิสไม่ใช่อัศวิน แต่เขาเป็นคนธรรมดาที่ได้รับพิษและหมดสติไปสามวัน นั่นหมายความว่าพิษไม่แรงมากและต่ำกว่ายาพิษระดับเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน

ส่วนสาเหตุที่แพทย์จากสถาบันลึกลับและจากพระราชวังไม่สามารถรักษาได้ ยาพิษที่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะที่รักษาได้ยากมากหรือยังไม่มีใครค้นพบมัน

และบังเอิญว่ามียาวิเศษชนิดหนึ่งในบันทึกของซาลีนที่เรียกว่ายาแก้พิษพื้นฐาน

โดยการสกัดองค์ประกอบเหนือธรรมชาติบางอย่างและผสมกับส่วนผสมบางชนิด เราก็จะได้รับยาที่สามารถกำจัดพิษที่ไม่ได้อยู่ในระดับเหนือธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นี่เป็นความมั่นใจที่เอไลมีต่อยาวิเศษของนักเวทย์ของเขา

หลักการของยาวิเศษนี้คือการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพิษชนิดใด ตราบใดที่มันเข้าสู่ร่างกายและอยู่ต่ำกว่าระดับเหนือธรรมชาติ มันสามารถกำจัดออกได้อย่างแน่นอน

มันไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเป็นพิษชนิดไหน เป็นพิษที่เอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างไร หรือแม้แต่เป็นพิษที่ไม่ถูกค้นพบ แต่ตราบใดที่มันไม่ใช่พิษที่เหนือธรรมชาติ มันก็ไม่สามารถต้านทานพลังของยาวิเศษของนักเวทย์ได้

สำหรับเขา เขาแค่ต้องนั่งหลังฉากและดูสิ่งต่างๆ ดำเนินไปตามคลองของมันเท่านั้น

ในตอนบ่าย เคานต์ก็ส่งคนมาเอายาตามที่สัญญาไว้

ในขณะเดียวกันเอไลก็ทำการทดลองต่อไป

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาสนใจการเล่นแร่แปรธาตุและเริ่มเรียนรู้มันเพิ่มอีกแขนงหนึ่ง เหตุผลหลักๆคือเมื่อเขามีเงินเพียงพอ เขาสามารถทำการทดลองทุกอย่างที่เขาต้องการได้

ส่วนในด้านของเคานต์ เอไลก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ท้ายที่สุดงานฝึกม้าของเขาก็สิ้นสุดลงแล้ว และเคานต์ก็เป็นคนที่ยุ่งมาก

ตอนกลางคืนภายในปราสาทของตระกูลกิโมริ ในห้องหรูหราเคาท์กิโมริถือขวดยาวิเศษอยู่ในมือ

ขวดยามีรูปร่างเหมือนหลอดทดลองและบรรจุของเหลวสีม่วงอมน้ำเงิน หากมองใกล้ๆ จะรู้สึกได้ถึงแสงสีทองเล็กน้อยในตัวยา

“ยานี้งั้นหรือ” เคานต์มองไปที่ยาและเงียบไป

ยาวิเศษนี้สามารถช่วยชีวิตมาร์ควิสได้จริงหรือ?

“ข้าขอไม่เสี่ยงดีกว่า!” เคานต์กิโมริส่ายหัวและวางยาลงบนโต๊ะ

ชั่วพริบตาก็ถึงวันถัดไป

ในตอนเช้าเมื่อเคานต์กิโมริเพิ่งตื่น พ่อบ้านก็เข้ามาทันที “ท่านลอร์ด อาการของมาร์ควิสอลีน่าทรุดหนักลงมากในทันใด เหล่าหมอในสถาบันลึกลับของจักรวรรดิพยายามรักษาเขาแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้เขาดีขึ้นเลย เราควรไปด้วยไหม?”

"ไปกันเถอะ" เคานต์กิโมริส่ายหัว

"โอ้ใช่ เจ้าช่วยไปพาหมอ 2 คนที่ข้าไปพบเมื่อวานมาด้วยนะ”

โดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่ได้ทำอะไรในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นอกจากตามหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“เตรียมรถม้า แล้วเราจะไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด” เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้สนับสนุนของเขา ดังนั้นท่านเคานต์กิโมริจึงไม่กล้าชักช้ามากเกินไป

“ครับนายท่าน” พ่อบ้านรีบออกไป

20 นาทีต่อมา รถม้าก็มารออยู่ที่ด้านนอกประตูของปราสาทแล้ว หมอสองคนรออยู่ด้วย พวกเขารออยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้วและพร้อมที่จะออกเดินทางได้ทุกเมื่อ

เคานต์ซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราปรากฏตัวที่ประตูของปราสาทและเดินไปที่รถม้า พ่อบ้านยืนอยู่ด้านข้างกำลังรอส่งเคานต์

เคานต์กิโมริเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในฐานะอัศวินผู้ยิ่งใหญ่เขารวดเร็วมาก ในชั่วพริบตาเขาก็อยู่หน้ารถม้า เขาก้าวขึ้นไปบนที่ฐานเหยียบและพร้อมที่จะขึ้นรถม้า

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปในรถม้า จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดที่มั่นใจที่เอไลพูดเมื่อวานนี้ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปหาพ่อบ้านก่อนที่จะพูดว่า “เฮเลน ไปเอาขวดยาวิเศษบนโต๊ะในห้องทำงานของข้ามาหน่อย”

"ขอรับ!"

ในไม่ช้า พ่อบ้านก็กลับมาพร้อมกับยาในมือ เคานต์รับมันมาและเก็บมันลงกระเป๋า

แม้ว่าจะมีโอกาสสูงที่มันจะไร้ประโยชน์… แต่ถ้ามันได้ผลล่ะ?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด