ตอนที่แล้วบทที่ 34 ขั้นตอนแรกเสร็จสมบูรณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 ยาแก้พิษขั้นพื้นฐาน

บทที่ 35 ดอกไอริสสีม่วง


บทที่ 35 ดอกไอริสสีม่วง

“ม้ามาแล้ว ข้ายังสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อพบกับเคานต์กิโมริ”

เอไลเก็บจดหมายไว้ ในโลกนี้วิธีการสื่อสารทางไกลที่ใช้กันมากที่สุดคือการส่งจดหมาย

เคานต์กิโมริจะอยู่ที่คฤหาสน์มัวร์สองสามวันของทุกเดือน ถ้าเอไลจำไม่ผิด เคานต์จะอยู่ที่คฤหาสน์ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเอไลต้องไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้เท่านั้น เขาจึงจะสามารถพบเคานต์ได้

อาจกล่าวได้ว่าม้ามาในเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

“ข้าหวังว่าเคานต์จะช่วยข้าได้” เอไลส่ายหัวและเดินเข้าไปในห้อง

หากเขาไม่สามารถพึ่งพาเคานต์ได้จริงๆ เขาอาจต้องพึ่งพาช่องทางอื่น แต่นั่นจะลำบากมากและอาจมีความเสี่ยงที่ไม่ทราบเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้จริงๆ เขาเอียงเอนไปทางเลือกที่จะยอมแพ้มากกว่า

ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการพัฒนาที่เชื่องช้า

แต่แน่นอนเขาเป็นคนเดียวที่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาข้อนี้

วันรุ่งขึ้น หลังจากเช่ารถม้าแล้วเอไลก็ออกเดินทางไปคฤหาสน์มัวร์

ใช้เวลาไม่นานเอไลก็มาถึงคฤหาสน์ และสาวใช้ของคฤหาสน์ก็พาเขาไปทางสนามม้า นี่เป็นขั้นตอนเหมือนกับครั้งที่แล้วที่สาวรับใช้พาเขาไปที่สนามม้า ฝึกม้าสำเร็จ ได้รับเงิน และสุดท้ายคฤหาสน์ก็ส่งเขากลับบ้าน"

“มาฝึกม้าให้เสร็จก่อน” เคานต์จะอยู่ในคฤหาสน์ทั้งวัน เอไลจึงไม่รีบร้อน เขาวางแผนที่จะไปพบเคานต์หลังจากทุกอย่างจบลง

ไม่นานเขาก็มาถึงสนามม้า

ดูเหมือนว่าวันนี้ม้าที่เหลือทั้งหมดจะถูกส่งมาที่นี่ มีม้าทั้งหมดสามสิบตัว

พนักงานของคอกม้านำม้าออกมาเป็นกลุ่มๆ แล้วเอไลก็ฝึกให้เชื่อง

ในระหว่างขั้นตอนนี้ คนฝึกม้าในสนามม้าก็พากันจ้องมองการเคลื่อนไหวของเอไลราวกับว่าพวกเขาต้องการเรียนรู้บางอย่าง แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเอไลฝึกม้าอย่างไร

“ผู้สามารถฝึกม้าโดยกำเนิด!” ขณะที่พวกเขาเฝ้าดูม้าถูกฝึกทีละตัวๆ ม้าทุกตัวก็ถูกเอไลทำให้เชื่องอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ประมาณแปดโมงเช้าเมื่อเอไลมาถึง และในเวลาสิบนาฬิกาภารกิจของเขาก็เสร็จสิ้นแล้ว

แม้ว่าจะมีม้าจำนวนมาก แต่เอไลก็มีประสิทธิภาพอย่างมาก เอไลน่าจะเร็วกว่านี้มากถ้าเขาใช้คาถาแบบกลุ่ม แต่นั่นคงจะตกใจเกินไปหน่อย

“นี่คือ 3 เหรียญทองค่ะ!” เช่นเคย สาวใช้ยื่นถุงเหรียญทองให้เอไลและกำลังจะส่งเขาออกไป แต่คราวนี้เอไลหยุดเธอและพูดว่า “ข้าต้องการพบท่านเคานต์”

"ท่านเอไล ท่ายต้องการพบท่านเคานต์งั้นหรอ ท่านเคานต์อยู่ในคฤหาสน์จริง ๆ ในขณะนี้ แต่ข้าต้องรายงานกับท่านพ่อบ้านก่อน แล้วจึงแจ้งให้ท่านเคานต์ทราบนะค่ะ?” สาวใช้ก็ประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น

“โอเค” เอไลพยักหน้า

จากนั้นสาวใช้ก็พาเอไลไปที่ปราสาท ให้เขารออยู่นอกปราสาทแล้วเข้าไปรายงานคนเดียว

สาวใช้กลับออกมาอย่างรวดเร็ว เมมองไปที่เอไลแล้วเธอก็พูดว่า “ท่านเคานต์อยู่ชั้นบน แต่เขาอาจไม่สามารถพบท่านได้ อย่างไรก็ตามท่านพ่อบ้านก็อยู่ที่นั่นด้วย ท่านสามารถไปคุยกับเขาได้”

'อาจไม่สามารถพบข้าได้? หรือมีบางอย่างเกิดขึ้น?'

เอไลพยักหน้าแล้วเดินตามสาวใช้เข้าไปในปราสาท

ในห้องนั่งเล่นเอไลเห็นพ่อบ้านยืนอยู่ เขาเป็นชายชราผมสีเงินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่กลับมีดวงตาที่สดใสและร่างกายที่ตั้งตรง

"ท่านเอไล ข้าต้องขอโทษด้วย ท่านเคานต์มีปัญหาบางอย่างในวันนี้ ดังนั้นเขาไม่สามารถพบท่านได้!” พ่อบ้านเห็นเอไลเข้ามาก็เดินมาขอโทษ

“พ่อบ้านเฮเลนเกิดอะไรขึ้น? บางทีข้าอาจพอให้ความช่วยเหลือได้บ้าง” เขารู้จักพ่อบ้านของท่านเคานต์ ดังนั้นเขาจึงถามอย่างสุภาพ

“มีบางอย่างเกิดขึ้น แต่ท่านไม่สามารถช่วยอะไรได้หรอก” พ่อบ้านส่ายหัวและถอนหายใจ

“ท่านยังไม่ได้บอกข้า แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่สามารถช่วยได้”เอไลยิ้ม

“เอาล่ะ ในเมื่อท่านอยากรู้ ข้าจะบอกให้ แต่ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะ!” พ่อบ้านคุ้นเคยกับเอไลมากขึ้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวและเริ่มพูดถึงปัญหาของท่านเคานต์ออกมาให้ฟัง

เคานต์กิโมริเป็นอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ และเขาได้กลายเป็นขุนนางโดยอาศัยผลงานของเขา หลังจากได้เป็นขุนนางแล้ว เคานต์กิโมริก็เริ่มลงทุนในธุรกิจต่างๆเพื่อหารายได้ให้มากขึ้น

เมื่อธุรกิจของเขาเติบโตขึ้น เขาย่อมต้องการผู้สนับสนุนที่ใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดา

ตระกูลกิโมริได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอลีน่า

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามาร์ควิสอลีน่าได้รับพิษและอยู่ในอาการโคม่า ตระกูลของมาร์ควิสทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล แน่นอนว่าตระกูลกิโมริซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตระกูลมาร์ควิสก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน เคานต์กิโมริเสียใจมากกับเรื่องนี้เช่นกัน

“มาร์ควิสถูกยาพิษงั้นหรือ?”

เอไลดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องราวได้มากในทันที ไม่น่าแปลกใจที่คฤหาสน์ศิลาหยุดขายดอกไอริสสีม่วง ปรากฎว่ามาร์ควิสถูกยาพิษ

เมื่อมาร์ควิสเสียชีวิตและมาร์ควิสคนใหม่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ดอกไอริสสีม่วงก็น่าจะถูกดำเนินการขายต่อ

ใจของเอไลรู้สึกสบายใจ

สำหรับการตายของมาร์ควิส มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย

อย่างไรก็ตาม คำพูดต่อมาของพ่อบ้านได้ทำให้เอไลเปลี่ยนความคิดทันที พ่อบ้านถอนหายใจและพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่ามาร์ควิสถูกวางยาพิษตอนที่เขาเดินตรวจตราคฤหาสน์ศิลา ข้าไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในคฤหาสน์ศิลา ข้าได้ยินมาว่าคฤหาสน์ศิลากำลังจะปิดตัวลง น่าเสียดายที่พืชผลมีค่าข้างในอาจถูกทำลายลงไปด้วย”

ดวงตาของเอไลเบิกกว้าง เป็นไปได้อย่างไร?

หากเป็นเช่นนั้นจริง ในอนาคตจะไม่มีดอกไอริสสีม่วงอีกไม่ใช่หรือ

เอไลครุ่นคิด เขารู้สึกว่าเขาควรทำอะไรสักอย่าง

พ่อบ้านก็หดหู่ใจเช่นกัน ท่านเคานต์ใจดีกับเอไล และถ้าผลประโยชน์ของตระกูลกิโมริเสียหาย เขาก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ?

“บางทีข้าอาจสามารถช่วยอะไรได้บ้าง!”

พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมองเอไล

…..

ในห้องสมุด เคานต์กิโมรินั่งบนเก้าอี้ ตรงหน้าเขาคือเอกสารปัญหาต่าง ๆ ที่ตระกูลกิโมริพึ่งเผชิญ นับตั้งแต่ที่มาร์ควิสถูกวางยา ธุรกิจของตระกูลเคานต์ก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

เขาเสียใจมาก แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้

แพทย์ที่มีชื่อเสียงของจักรวรรดิและผู้วิเศษหลายคนมารวมตัวกันที่บ้านของมาร์ควิสเพื่อพยายามล้างพิษ แต่พวกเขาไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อ พวกเขาทำได้เพียงป้องกันไม่ให้พิษแพร่กระจายได้เร็วขึ้นเท่านั้น

ในตอนแรกเขาต้องการหาคนช่วยล้างพิษด้วย หากเขาทำสำเร็จ เขาจะมีสถานะที่สูงขึ้นต่อหน้ามาร์ควิส อย่างไรก็ตามหลังจากมองไปรอบๆ เขาก็ไม่พบคนๆ นั้นเลย

ท้ายที่สุด แพทย์ที่เก่งที่สุดในจักรวรรดิก็อยู่ในสถาบันลึกลับหรือในพระราชวัง

“บางทีข้าควรจะเลิกทำธุรกิจบางอย่างเสียที” ถ้ามาร์ควิสตายจริงๆ เขาจะต้องคิดถึงอนาคตข้างหน้า

อเล็กซ์ ลูกชายคนโตของตระกูลมาร์ควิส อาจไม่สามารถควบคุมตระกูลใหญ่ขนาดนั้นได้ เมื่อถึงเวลานั้นภรรยาของมาร์ควิสอาจช่วยดูแลได้ แต่เขาและภรรยาของมาร์ควิสไม่รู้จักกันดีนัก

“คงต้องขายธุรกิจบางอย่างออกก่อน” เคานต์กิโมรินั่งลงและครุ่นคิด

ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงเคาะประตู

"เข้ามา!" เคานต์รู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาไม่ได้ขอให้พ่อบ้านกันคนอื่นๆ ไว้ข้างนอกไม่ใช่เหรอ?

ประตูเปิดออก และพ่อบ้านเดินเข้ามา เขามองไปที่เคานต์แล้วพูดว่า “เรียนนายท่าน มีคนต้องการพบท่าน!”

เคานต์จิโมริมองไปรอบๆ และในขณะนั้นเอไลเดินตามเขาเข้ามา และมองไปที่เคานต์แล้วเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ท่านลอร์ด ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ท่านประสบปัญหาบางอย่าง

“บางทีข้าอาจสามารถช่วยได้”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด