บทที่ 37 อเล็กซ์ผู้สิ้นหวัง
บทที่ 37 อเล็กซ์ผู้สิ้นหวัง
หลังจากที่เคานต์เข้าไปในรถม้า คนขับรถม้าก็เฆี่ยนม้า และรถม้าก็เริ่มเคลื่อนที่ไป
ไม่นานรถม้าก็เข้าเมือง เมื่อชาวเมืองเห็นว่าเป็นรถม้าของท่านเคานต์ พวกเขาก็หลีกทางให้ รถม้าไม่ลดความเร็วลงและมุ่งหน้าสู่จุดหมายอย่างรวดเร็ว
ในรถม้า เคานต์กิโมรินั่งอยู่บนที่นั่งหลัก โดยมีหมอสองคนนั่งขนาบข้าง ในรถม้าเงียบมาก ไม่มีใครส่งเสียงเลยสักคนเดียว ทันใดนั้นท่านเคานต์ก็กระแอ่มออกมา จากนั้นมองไปด้านข้างแล้วถามว่า “หมอ เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถรักษาพิษของมาร์ควิสได้หรือไม่?”
หมอทั้งสองคนอายุสี่สิบเศษแล้ว แต่ไม่ค่อยมีผม คนหนึ่งตกตะลึงเมื่อได้ยินคำถามของท่านเคานต์ แต่เขาก็ยังตอบว่า “ไม่น่าจะได้ท่านเคานต์!”
“เราไม่รู้ว่ามาร์ควิสได้รับพิษชนิดใด แต่น่าจะเป็นพิษผสม เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาเขาด้วยสูตรยาตามปกติ”
"มันก็จริง ถ้ามันง่ายขนาดนั้น มาร์ควิสคงไม่อยู่ในอาการโคม่า” อีกคนพูดพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย
เคานต์ก็ได้แต่พยักหน้าและไม่พูดอะไรออกมา
เขาล้วงมือขวาเข้าไปในเสื้อผ้าและยังคงสัมผัสได้ถึงสัมผัสที่แข็งและเย็นของขวดยา
…
เมืองจูนหลินไม่ใหญ่นัก แต่ก็ไม่เล็กเช่นกัน
อาณาเขตของตระกูลอลีน่า อยู่ทางตะวันตกของเมืองจูนลิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
ในเวลาเพียง 20 นาที รถม้าก็แล่นผ่านเมือง ออกจากเมือง และมาถึงที่หมาย
เมื่อพวกเขามาถึงที่หมาย เคานต์กิโมริลงจากรถม้า ชายวัยกลางคนในชุดดำก็มาหาเขาและทำความเคารพ “ไม่เจอกันนาน ท่านลอร์ด”
เขามองไปที่เคานต์และหมอสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา เขามีสีหน้าเข้าใจและพูดว่า "ท่านลอร์ด ท่านมาที่นี่เพื่อช่วยมาร์ควิสด้วยอีกคนงั้นหรือ"
"อีกคน?"
เคานต์กิโมริถาม
แสดงว่ามีคนที่มาช่วยเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขารู้อย่างรวดเร็วว่าการเดาของเขาถูกต้อง
ชายคนนั้นไม่พูดอะไร เขาพาเคานต์กิโมริเข้าไปในห้อง ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
เคานต์กิโมริประเมินคร่าว ๆ ว่ามีหลายสิบคน
มีคหบดีและไวส์เคานต์อยู่ทุกหนทุกแห่ง และแน่นอนว่ามีหมอรักษาทุกประเภท บางคนนำมาโดยขุนนาง ในขณะที่คนอื่น ๆ มาจากสถาบันลึกลับของจักรวรรดิ
เหล่าขุนนางยืนอยู่ด้านหนึ่ง ในขณะที่หมอจากสถาบันลึกลับอยู่อีกด้านหนึ่งพวกเขานำโดยผู้หญิงในชุดคลุมสีขาว เคานต์กิโมริรู้จักผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่เคยขอทุนบริจาคกับเขาพร้อมกับนักปราชญ์เคลเมนท์เมื่อครั้งที่แล้ว นักเรียนที่สง่างามก็เดินตามหลังเธอเช่นกัน
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” หลังจากนำเคานต์มาที่นี่ พ่อบ้านก็จากไป เคานต์กิโมริเดินไปและเห็นไวเคานต์ที่คุ้นเคย
“ทำความเคารพท่านเคานต์!” ไวเคานต์กล่าวด้วยความเคารพเมื่อเห็นเขา จากนั้นเขาก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ปัจจุบัน
“นับตั้งแต่ที่ท่านมาร์ควิสได้รับพิษและตกอยู่ในอาการโคม่า ตระกูลของท่านมาร์ควิสได้ขอความช่วยเหลือจากหมอประจำตระกูลก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล ดังนั้นพวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจากผู้ลึกลับและทำให้อาการของมาร์ควิสคงที่ได้สำเร็จ
“อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วพวกเขาต้องการล้างพิษ แต่พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้
“แต่เมื่อวานนี้ สถานการณ์ของท่านมาร์ควิสกลับแย่ลงอย่างกระทันหัน ขุนนางจำนวนมากจึงมา และตระกูลอลีนาไม่ได้หยุดพวกเขา เพราะพวกเขาเองก็หวังว่าจะรวบรวมกำลังของทุกคนเพื่อช่วยท่านมาร์ควิสให้ได้”
“โอ้ นี่เคานต์กิโมริไม่ใช่เหรอ?”
เคานต์กิโมริกำลังฟังรายงานของไวส์เคานต์ จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
เขาหันศีรษะไปและเห็นชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำงดงามกำลังเดินมาหาเขา ข้างหลังเขาเป็นชายชราที่มีหนวดเคราสีขาว
“เคานต์มอนชิ!” เคานต์กิโมริขมวดคิ้ว
เคานต์มอนชิและเขาต่างก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมาร์ควิส แต่พวกเขาไม่ถูกกัน พวกเขาทั้งคู่ต้องการได้รับการสนับสนุนจากมาร์ควิส แต่พวกเขาก็ก้ำกึ่งกัน
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมาที่นี่เพื่อช่วยด้วย” เคานต์มอนชิมองไปที่หมอสองคนที่อยู่ข้างหลังเคานต์กิโมริแล้วหัวเราะ
“ฮึ่ม นั่นไม่ใช่ธุระอะไรของเจ้า” เคานต์กิโมริพูดอย่างไม่ไว้หน้าและเหลือบมองไปทางเขา
“ฮิฮิ ถ้าอย่างนั้นคราวนี้เจ้าแพ้แน่นอน” เคานต์มอนชิยิ้มและเชิญชายชราที่อยู่ข้างหลังเขาออกมา เขาพูดว่า "นี่คือหมอโรเบิร์ต เจ้าอาจไม่เคยได้ยินชื่อของเขา แต่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหัวหน้าหมอหลวงในวัง ตอนนี้หมอหลายคนเป็นลูกศิษย์ของเขาแล้ว!
“หมอสองคนที่เจ้าพามายังเด็กมาก พวกเขาอาจไม่สามารถทำอะไรได้!”
ผู้ชายคนนั้นกำลังข่มเขา
มุมปากของเคานต์จิโมริกระตุก เขาไม่ได้อยู่ในธุรกิจการแพทย์ และต้องใช้เวลาสองสามวันในการตามหาหมอสองคนนี้
"ท่านอาจารย์!"
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว เมื่อหมอโรเบิร์ตเดินออกมา หมอสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดินออกมาและคำนับชายชรา
หมอทั้งสองคนเป็นลูกศิษย์เก่าของหมอโรเบิร์ต
“ฮ่าฮ่า!” แม้แต่เคานต์มอนชิก็คาดไม่ถึง เขาหัวเราะออกมาดังลั่น
“พิษของมาร์ควิสซับซ้อนมาก มันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสองคนจะจัดการได้” หมอโรเบิร์ตอายุมากแล้ว แต่น้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ท่านอาจารย์ พวกเราได้รับเชิญจากเคานต์กิโมริ!” ทั้งสองคนไม่คาดคิดว่าจะได้พบอาจารย์ที่นี่ แต่พวกเขาก็ยังยืนอยู่ข้างท่านเคานต์
"อืม" โรเบิร์ตพยักหน้าและไม่พูดอะไร
เขามีลูกศิษย์มากมาย และสองคนนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยเท่านั้น
“จุ๊จุ๊จุ๊ เคานต์กิโมริ ดูเหมือนว่าคราวนี้เจ้าจะไม่มีโอกาสแล้ว” เคานต์มอนชิตบไหล่เคานต์กิโมริแล้วจากไป
เคานต์กิโมริหายใจเข้าลึก ๆ และบอกตัวเองว่าเขาอยู่ในบ้านของมาร์ควิสและไม่สามารถใช้กำลังได้
แม้ว่าเขาจะโกธรแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ในเวลาเดียวกัน ประตูห้องนั่งเล่นก็เปิดออก และหมอสองสามคนก็ออกมา
เคานต์กิโมริมองดูผ่านประตูเข้าไป เขามองเห็นภายในห้องมีเตียงขนาดใหญ่ และมาร์ควิสอลีน่าก็นอนอยู่บนเตียง สมาชิกในตระกูลของเขาหลายคนอยู่รอบเตียง
"ไม่สามารถทำอะไรได้!" หมอเดินไปหาเคานต์แล้วส่ายหัว ท่านเคานต์พาพวกเขามาที่นี่เพื่อช่วย แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย
“มีใครมีวิธีอื่นไหม” ในขณะนี้ก็มีคนเดินออกมาจากประตู
อเล็กซ์มองไปที่ขุนนางกลุ่มใหญ่และผู้คนจากสถาบันลึกลับที่อยู่ข้างหน้าเขา และเขาก็ถอนหายใจออกมา
“ให้เราลองอีกครั้งไหม” ในเวลานี้หญิงชราที่เป็นผู้นำของสถาบันลึกลับก็ลุกขึ้นยืนตามด้วยคนสองสามคน
"รบกวนด้วย!" อเล็กซ์รู้ว่าหมอเหล่านี้ได้ศึกษาอาการป่วยของพ่อเขามาสองสามวันแล้ว และเขาหวังว่าพวกเขาจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
หมอเข้ามาในห้อง และอเล็กซ์สั่งให้ปิดประตู
คนอื่นๆก็รออยู่ข้างนอกด้วยใจจดจ่อ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ผู้คนจากสถาบันลึกลับก็เดินออกมาด้วยท่าทางหดหู่
“มีใครอยากลองอีกไหม” น้ำเสียงของอเล็กซ์ยิ่งฟังยิ่งหดหู่
"ข้าจะลองดู" เคานต์มอนชิยกมือขึ้น
“นี่คืออดีตหัวหน้าหมอหลวงประจำวัง หมอโรเบิร์ต!” เขาแนะนำให้เขารู้จักกับอเล็กซ์
“สวัสดี หมอโรเบิร์ต!” ดวงตาของอเล็กซ์เป็นประกาย เขาเชิญหมอและท่านเคานต์มอนชิเข้ามาก่อนจะปิดประตูอีกครั้ง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ประตูเปิดออก และคุณหมอโรเบิร์ตก็เดินออกไปพร้อมกับขมวดคิ้ว เคานต์มอนชิเดินตามหลังมาติดๆ อย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พบวิธีรักษา
"มันเป็นไปไม่ได้ พิษในร่างกายของมาร์ควิสมีส่วนผสมของพิษอย่างน้อยสิบชนิด มันได้เจาะลึกเข้าไปในอวัยวะภายในของเขาแล้ว ไม่มีทางอื่นแล้ว” โรเบิร์ตพูดพร้อมส่ายหัว
“อ่า แม้แต่หมอโรเบิร์ตก็แก้พิษไม่ได้หรือ?” โรเบิร์ตเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการแพทย์ และหมอหลายคนรู้จักเขา
“ข้าก็ทำไม่ได้!” โรเบิร์ตไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาเหมือนสายฟ้าฟาดใส่หมอคนอื่นๆ
โรเบิร์ตเคยเป็นหัวหน้าหมอหลวงประจำวัง และถ้าแม้แต่เขายังปฏิเสธ ดูเหมือนว่ามาร์ควิสจะหมดหนทางรอดแล้ว
ชั่วขณะหนึ่ง ภายในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงครวญครางอันทรมานของมาร์ควิส
“มีใครอยากลองอีกไหม” อเล็กซ์ก็สิ้นหวังเช่นกัน คนที่นอนอยู่ข้างในคือพ่อของเขาเอง
"โอ้ใช่ ท่านเคานต์กิโมริ อยากลองไหม?”
ในเวลานี้ เคานต์มอนชิที่อยู่ไม่ไกลก็พูดราวกับว่าเขาต้องการระบายความคับข้องใจ
“อะแฮ่ม ลืมไปเลย ข้าอยากลองช่วยดูบ้าง”
หลายคนล้มเหลว และมาร์ควิสก็ได้รับการวินิจฉัยว่าไม่มีทางรักษาจากหมอโรเบิร์ตแล้ว เคานต์กิโมริพร้อมที่จะยอมแพ้
"ช่วยหน่อยครับ!" ทันใดนั้นอเล็กซ์ก็พูดด้วยสีหน้าโศกเศร้า
สำหรับเขาแล้ว ยังมีความหวังเล็กน้อยหากเขาพยายาม เขาเหมือนคนจมน้ำที่ไม่เต็มใจที่จะละทิ้งความหวังแม้สักเล็กน้อย
เคานต์กิโมริมองไปที่อเล็กซ์ผู้โศกเศร้าและนึกถึงยาที่เอไลมอบให้เขา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตกลง “เอาล่ะ!”
"ข้าจะพยายาม"
ยังไงซ่ะเขาอยู่ที่นี่แล้ว
และเขาไม่ใช่คนเดียวที่ล้มเหลว ยังมีอะไรต้องกังวลอีกล่ะ